เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1028

ตอนที่ 1028

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1028 เก้าชั้นฟ้า ห้าภูมิภาค

แปลโดย iPAT

ในการเพิ่มพื้นที่มิติช่องว่าง วิญญาณขยายอาณาเขตเป็นเพียงน้ำตาลบนหน้าเค้ก กล่าวไปแล้วไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการใด มิติช่องว่างของพวกเขาก็ยังไม่สามารถขยายตัวขึ้นเกินกว่าขีดจำกัดในระดับต่างๆ

กลับไปที่มิติช่องว่างของฟางหยวน

มันมีพื้นที่มากกว่าสามหมื่นสามพันห้าร้อยตารางกิโลเมตร!

มันเหนือกว่ามิติช่องว่างระดับสูงสุดของสุดยอดกายาไปไกลมาก

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือนี่ยังเป็นเพียงชั้นเดียว

ฟางหยวนพบว่ามิติช่องว่างของเขามีสิบชั้น!

แต่ละชั้นมีพื้นที่สามหมื่นสามพันห้าร้อยตารางกิโลเมตร!

นี่หมายความว่าอย่างไร?

ฟางหยวนไม่สามารถแม้แต่จะจินตนาการถึง

เพราะเขาไม่เคยได้ยินว่ามีมิติช่องว่างที่น่าขันเช่นนี้อยู่บนโลกใบนี้

แต่ขนาดของมิติช่องว่างยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

มิติช่องว่างแต่ละชั้นของเขามีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาก

มิติช่องว่างของผู้อมตะทั่วไปมีพื้นที่ชั้นเดียว ตัวอย่างเช่นแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูและแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว

แล้วเมื่อใดที่มิติช่องว่างสามารถแยกออกเป็นชั้น

คำตอบก็คือเมื่อมันยกระดับเป็นถ้ำสวรรค์ ในกรณีนี้ถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวเป็นตัวอย่างที่ดี

‘แดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีลักษณะเหมือนถ้ำสวรรค์งั้นหรือ? กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้เช่นแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก็ยังมีพื้นที่เพียงชั้นเดียว แต่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกลดระดับลงมาจากถ้ำสวรรค์ขณะที่แดนศักดิ์สิทธิ์ของข้าพึ่งก้าวเข้าสู่ระดับหก! และกระทั่งชั้นแรก มันยังแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาค!’

มิติช่องว่างของฟางหยวนมีสิบชั้น ชั้นแรกเป็นแผ่นดินที่กว้างใหญ่และถูกแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาค

ชั้นที่สองถึงสิบเป็นมิติที่ว่างเปล่า

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกสนใจก็คือแผ่นดินที่กว้างใหญ่แบ่งออกเป็นห้าภูมิภาคที่มีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกัน

ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์

ภาคใต้เต็มไปด้วยภูเขาและเมฆหมอก

ภาคเหนือเป็นที่ราบทุ่งหญ้าและมีลมกรรโชกแรง

ภาคตะวันออกเป็นมหาสมุทรที่เต็มไปด้วยหมู่เกาะราวกับกระดานหมากรุกขนาดใหญ่

ภาคตะวันตกเป็นทะเลทรายที่รกร้าง

‘สิ่งนี้เหมือนกับห้าภูมิภาคของโลกภายนอก…’ ฟางหยวนพึมพำอยู่ในใจ

แต่สิ่งที่ทำให้เขายิ่งตกใจมากกว่าก็คือชั้นที่สองถึงสิบ

ทั้งเก้าชั้นไม่มีพื้นดินแต่มันเป็นมิติที่มีสีสันแตกต่างกันตั้งแต่แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน ม่วง ขาว และดำ

‘นี่คือสวรรค์ทั้งเก้างั้นหรือ? ในอดีตมนุษย์คนแรกและบุตรธิดาของเขาทำให้สวรรค์เจ็ดชั้นพังทลายและร่วงหล่นลงมาบนพื้นพิภพ ตอนนี้จึงเหลือเพียงสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ’

‘เก้าชั้นฟ้า ห้าภูมิภาค เพราะเหตุนี้มันจึงถูกเรียกว่าวิญญาณทารกอมตะเช่นนั้นหรือ?’

ในความเป็นจริงฟางหยวนคาดเดาเอาไว้แล้วว่ามิติช่องว่างของเขาต้องไม่ธรรมดา แต่เขาไม่คิดว่ามันจะน่าประทับใจถึงระดับนี้ มันถึงระดับที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

หวาดกลัว?

มันเป็นอารมณ์ที่ยากจะทำความเข้าใจแต่สามารถอธิบายได้ด้วยคำนี้

ไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม ไห่ลั่วหลันเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มคนระดับสูง

แล้วฟางหยวน?

เขาเหนือกว่าอัจฉริยะทั้งหมด มีเพียงคำเดียวที่สามารถอธิบาย นั่นคือสัตว์ประหลาด!

ผู้คนมักจะอิจฉาอัจฉริยะ แต่สำหรับสัตว์ประหลาด มันคือสิ่งที่เกินกว่าจินตนาการ มันจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวและต้องการกำจัดทิ้ง!

ในช่วงห้าร้อยปีแรก มิติช่องว่างของฟางหยวนอยู่ในระดับสูง หลังจากเกิดใหม่มิติช่องว่างของเขากลายเป็นระดับกลาง

เขาทำงานหนักเพื่อให้ได้รับมิติช่องว่างระดับสูงสุด

แต่โดยไม่คาดคิด เขากลับได้รับมิติช่องว่างที่อัศจรรย์นี้

เขาเปลี่ยนจากผู้อมตะทั่วไปเป็นสัตว์ประหลาดอย่างกะทันหัน มันจึงช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกหวาดกลัว

‘ข้าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไป มิฉะนั้นมันจะดึงดูดศัตรูมากมายเข้ามาหา’

‘แต่กระทั่งข้าจะบอกผู้อื่นเกี่ยวกับมิติช่องว่างนี้ก็จะไม่มีผู้ใดเชื่อข้า อาจมีเพียงเทพปีศาจจิตวิญญาณเท่านั้นที่เชื่อเรื่องนี้’

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม

ยิ่งมิติช่องว่างของเขาอัศจรรย์เท่าใด ความเป็นศัตรูระหว่างเขากับนิกายเงาก็ยิ่งรุนแรงมากเท่านั้น

แม้ฟางหยวนจะยังไม่ได้ตรวจสอบมิติช่องว่างนี้อย่างละเอียด แต่เพียงสิ่งที่ค้นพบเบื้องต้น มันก็ทำให้รอยร้าวระหว่างเขากับเทพปีศาจจิตวิญญาณยากที่จะประสานได้อีก

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะไม่มีสมาชิกที่เป็นผู้อมตะระดับเก้า แต่พลังอำนาจของพวกเขาก็ไม่แตกต่าง เผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ แน่นอนว่าฟางหยวนย่อมรู้สึกกดดัน

‘ตอนนี้ร่างหลักของเทพปีศาจจิตวิญญาณยังติดอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน’

‘แต่เขาวางแผนมานานหลายหมื่นปี เขาต้องมีแผนสำรอง’

‘อิงอู๋เซี่ยเป็นร่างแยกของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ตอนนี้เขาอยู่ในร่างของข้าโดยที่ข้าไม่รู้ที่อยู่ของเขา’

‘กองกำลังพันธมิตรผีดิบล่มสลายไปแล้ว ตอนนี้นิกายเงาจะเหลือความแข็งแกร่งที่ซ่อนไว้มากน้อยเพียงใด?’

‘ในชีวิตแรกของข้า เทพปีศาจจิตวิญญาณกับนิกายเงาประสบความสำเร็จใช่หรือไม่?’

ร่างใหม่ของฟางหยวนมีประโยชน์มาก

ในเสี้ยวพริบตาฟางหยวนสามารถคิดสิ่งต่างๆมากมาย

‘ตอนนี้ข้าควรเชื่อมต่อสวรรค์สีเหลืองเป็นอันดับแรก!’ ฟางหยวนปัดเป่าความคิดในใจออกไป

เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการตรวจสอบมิติช่องว่างและพบว่ามันไม่มีปัญหา

ด้วยการใช้วิญญาณเชื่อมโยงสวรรค์และวิญญาณสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ ฟางหยวนสามารถติดต่อสวรรค์สีเหลืองได้อย่างง่ายดาย

สวรรค์สีเหลืองเป็นตลาดการค้าอันดับหนึ่งของโลกผู้อมตะ มันถูกสร้างขึ้นจากเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีเหลือง

หากมนุษย์มองขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาจะเห็นเพียงสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำเท่านั้น เพียงเมื่อผู้อมตะใช้วิญญาณเชื่อมโยงสวรรค์ พวกเขาจึงจะสัมผัสได้ถึงสวรรค์สีเหลืองที่เหมือนคบเพลิงท่ามกลางความมืด

ในช่วงเวลาสั้นๆ ฟางหยวนพบเจตจำนงของจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูที่อยู่ในสวรรค์สีเหลืองอย่างรวดเร็ว

ก่อนที่เขาจะจากมา เขาสั่งให้จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูเชื่อมต่อกับสวรรค์สีเหลืองตลอดเวลา

ฟางหยวนไม่รู้ว่าสถานการณ์บนภูเขาอี้เทียนจะเป็นอย่างไร แต่เขารู้ว่าหากตัวตนของเขาถูกเปิดเผย แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูจะถูกปิดล้อมโดยผู้อมตะภาคกลาง

ฝูงปลามังกรและอสรพิษเพลิงถูกย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาวเรียบร้อยแล้ว

แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูมีภูเขาตงฮัน หอคอยหินกับทาสมนุษย์ขน

ในถ้ำใต้ดินมีวิญญาณสติปัญญาและวิญญาณบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิงที่ถูกผนึกไว้

ภูเขาตงฮันถูกเก็บไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูเพื่อความสะดวกในการขายวิญญาณความเด็ดเดี่ยว หลังจากทั้งหมดแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูมีช่องทางเชื่อมต่อกับนิกายคฤหาสน์วิญญาณและนิกายกระเรียนอมตะ หากภูเขาตงฮันถูกนำไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ศัตรูจะสามารถอนุมานได้โดยง่าย

นอกจากนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูยังมีร่องรอยแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งทาสจำนวนมาก มันทำให้ฟางหยวนสามารถจัดการทาสมนุษย์ขนได้ดีขึ้น หากทาสเหล่านี้ถูกย้ายไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว พวกมันอาจไม่ฟังคำสั่งของฟางหยวน

แม้มนุษย์ขนจะเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ แต่พวกมันก็มีอารมณ์และทัศนคติในการทำงาน

แน่นอนว่าฟางหยวนคำนึงถึงไห่ลั่วหลันกับนางมารผลาญสวรรค์เช่นกัน

สำหรับวิญญาณสติปัญญา ฟางหยวนต้องการย้ายที่ตั้งของมันมากที่สุดแต่เขาไม่มีความสามารถนี้ ก่อนหน้ามันเป็นเพียงสถานการณ์คับขันที่บีบบังคับให้มันทำข้อตกลงกับฟางหยวน

ฟางหยวนติดต่อเจตจำนงของจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูอย่างรวดเร็ว

“นายท่าน?” เสี่ยวหูถาม

“ถูกต้อง ข้าเอง” ฟางหยวนตอบ

“หากเป็นนายท่านจริงๆ ท่านต้องบอกรหัสลับแก่ข้าก่อน” จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูกล่าวต่อ

หลังจากยืนยันรหัสลับ จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูกล่าวด้วยความสุข “นายท่านสบายดีหรือไม่? ข้าคิดถึงท่านมาก!”

ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะบอกให้นางใช้แผนสองส่วนที่สาม

ตลอดมาฟางหยวนเผชิญหน้ากับแรงกดดันอย่างมาก เขากังวลว่าผู้อมตะภาคกลางจะโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

เพื่อลดความสูญเสีย ฟางหยวนใช้แสงแห่งปัญญาวางแผนการมากมายเพื่อจัดการกับสถานการณ์ต่างๆที่อาจเกิดขึ้น

นอกจากนี้เขายังบอกแผนการเหล่านี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหู

เป็นเรื่องที่ดีหากจะเตรียมการไว้ล่วงหน้า

แต่หลังจากได้ยินคำกล่าวของฟางหยวน จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูกลับตกตะลึงและเริ่มร้องไห้ “นายท่าน นายท่าน นายท่านไม่ต้องการข้าแล้วงั้นหรือ? ข้าเชื่อฟังท่านมากและจะเชื่อฟังท่านมากขึ้นหลังจากนี้”

“ฮ่าฮ่า” ฟางหยวนหัวเราะ “อย่าได้กังวล แผนสองส่วนที่สามได้รับการแก้ไขเมื่อเร็วๆนี้ ดำเนินการตามนั้น อีกฝ่ายจะไม่ใช่เจ้านายของเจ้าอย่างแท้จริง”

จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูยิ้มทั้งน้ำตา นางเชื่อฟางหยวนอย่างหมดหัวใจและไม่สงสัยในการตัดสินใจของเขา

นางทำตามแผนการของฟางหยวนและติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาทันที

ฟางหยวนบอกจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูไว้นานแล้วว่าเขาเป็นผู้อาวุโสนอกของนิกายหลางหยา

หลังจากนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงส่งกลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนมายังแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หูโดยผ่านประตูแห่งดวงดาว

พวกเขาใช้ค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณยักษ์สวรรค์เพื่อยกภูเขาตงฮันเก็บไว้ในมิติช่องว่างของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนหนึ่งและเดินทางกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหูนำพวกเขาไปพบวิญญาณสติปัญญา กลุ่มผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนตกใจมาก พวกเขาส่งข้อมูลกลับไปยังจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา หลังจากตกตะลึง เขาจึงบอกวิธีโน้มน้าววิญญาณสติปัญญาให้เดินทางไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หยางหลา

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ฟางหยวนจึงสามารถผ่อนคลาย

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเปิดเผยการคงอยู่ของวิญญาณสติปัญญาต่อจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

แต่ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ได้ทำให้ฟางหยวนผิดหวัง เขาเป็นเจตจำนงของผู้อมตะระดับแปดบรรพชนผมยาว รากฐานของเขาไม่มีผู้ใดสามารถหยั่งถึง

หากบรรพชนผมขาวเป็นมนุษย์ บางทีเขาอาจบรรลุถึงระดับเก้าในที่สุด

แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์อันดับหนึ่งของโลกใบนี้ตลอดกาล

หลังจากนั้นฟางหยวนยังติดต่อจิตวิญญาณแผ่นดินแห่งดวงดาวเพื่อส่งหุบเขาเหล่าโปไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ด้วยวิธีนี้ภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญาจึงถูกย้ายไปเก็บไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

กระทั่งวิญญาณท่องแดนอมตะจะไม่ระเบิดตัวเองและอิงอู๋เซี่ยพยายามเดินทางไปยังภูเขาตงฮันหรือหุบเขาเหล่าโปโดยตรง เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับนิกายหลางหยา ไม่เพียงเขาจะไม่ได้รับสิ่งใด เขายังจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายอีกด้วย

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท