เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1007

ตอนที่ 1007

เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1007
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1007 ภัยพิบัติใหญ่

แปลโดย iPAT

“เทพธิดาหลี่ซาน ท่านสามารถติดต่อพี่สาวของท่านหรือไม่?” ฟางหยวนถาม

สถานการณ์ปัจจุบันยิ่งมีกำลังเสริมมากเท่าใดก็ยิ่งดีเท่านั้น

นางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงพันธมิตร อย่างไรก็ตามในสถานการณ์อันตราย ไห่ลั่วหลันกับเทพธิดาหลี่ซานจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากนางมารผลาญสวรรค์เช่นนั้นหรือ?

เทพธิดาหลี่ซานรู้ว่านี่เป็นแผนการของฟางหยวน แต่นางก็ไม่สามารถทำสิ่งใดนอกจากกรอกตาและพยายามติดต่อนางมารผลาญสวรรค์

ทันใดนั้นใบหน้าของนางกลับกลายเป็นซีดเผือด นางส่ายศีรษะ “เห้อ…ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอัศจรรย์เกินไป มันปิดผนึกวิธีการสื่อสารของข้าเช่นกัน”

ฟางหยวนพยักหน้าแต่ไม่กล่าวสิ่งใด เขาคิด ‘ดูเหมือนมีเพียงต้องทะลวงค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาออกไป พวกเราจึงจะสามารถติดต่อพันธมิตร’

ในความเป็นจริงกระทั่งนางมารผลาญสวรรค์จะสามารถเดินทางมา ฟางหยวนก็ยังไม่ไว้ใจให้นางอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล

แต่หากนางอยู่ข้างนอก มันจะอันตรายเกินไปและเป็นเรื่องไม่เหมาะสมหากเขาจะกีดกันไม่ให้นางเข้ามา

ตัดเรื่องของนางมารผลาญสวรรค์ออกไปก่อนสำหรับเวลานี้

ด้วยความช่วยเหลือจากไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และเทพธิดาหลี่ซาน นั่นทำให้นิกายเงาไม่สามารถโค่นล้มฟางหยวน

อีกด้านหนึ่งในการต่อต้านวังสวรรค์ อิงอู๋เซี่ยที่มีการบ่มเพาะระดับเจ็ดยังไม่สามารถทำสิ่งใด

ในขณะที่สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน ภัยพิบัติก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

ภัยพิบัติร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่องและไม่ซ้ำรูปแบบ

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสีทองพลันส่องสว่างลงมาจากท้องฟ้า

หนามสีทองนับหมื่นตกลงมาอย่างไม่รู้สิ้นสุด

“ภัยพิบัติใหญ่!” สมาชิกนิกายเงาตกตะลึง

“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คือภัยพิบัติวัชระทองคำ” ภายในหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังลูบเคราและหัวเราะอย่างมีความสุข

ภัยพิบัตินี้เป็นภัยพิบัติที่พบได้ยาก มันกระทั่งเหนือกว่าภัยพิบัติของสุดยอดกายาทั้งสิบ!

ภัยพิบัติเป็นสิ่งที่ผู้อมตะต้องเผชิญ มันอาจเป็นหายนะหรือโชคลาภ หากพวกเขาไม่สามารถก้าวข้าม พวกเขาจะตาย ในทางตรงข้ามหากพวกเขาสามารถก้าวผ่าน รากฐานของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นพร้อมกับระดับการบ่มเพาะที่เพิ่มสูงขึ้น

ผู้อมตะระดับหกจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปีและเผชิญหน้ากับภัยพิบัติสวรรค์ทุกร้อยปี หลังจากสามร้อยปี พวกเขาจะบรรลุระดับเจ็ด

ผู้อมตะระดับเจ็ดจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสิบปี ภัยพิบัติสวรรค์ทุกห้าสิบปี และภัยพิบัติใหญ่ทุกหนึ่งร้อยปี หลังจากสามร้อยปีพวกเขาจะบรรลุระดับแปด

ผู้อมตะระดับแปดจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติสวรรค์ทุกสิบปี ภัยพิบัติใหญ่ทุกห้าสิบปี และหมื่นภัยพิบัติทุกหนึ่งร้อยปี หากสามารถผ่านหมื่นภัยพิบัติสามครั้ง พวกเขาจะบรรลุระดับเก้า

ภัยพิบัติพิภพ ภัยพิบัติสวรรค์ ภัยพิบัติใหญ่ และหมื่นภัยพิบัติ คือระดับความรุนแรงของภัยพิบัติที่เพิ่มสูงขึ้น

ภัยพิบัติพิภพและภัยพิบัติสวรรค์อันตรายมาก แต่ภัยพิบัติใหญ่ยิ่งอันตรายกว่า ผู้อมตะส่วนใหญ่ตกตายเพราะภัยพิบัติเหล่านี้ ดังนั้นผู้อมตะทุกคนจึงต้องฝึกฝนและระวังตัวตลอดเวลา

สำหรับหมื่นภัยพิบัติ มันเป็นเรื่องยากมากที่ผู้อมตะจะรอดชีวิตไปจากมัน แต่ผู้ที่สามารถก้าวข้ามก็จะมีอนาคตที่สดใส ผู้คนจะยกย่องและให้ความเคารพแก่พวกเขา

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานมีเพียงสิบคนที่สามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติสามครั้งและกลายเป็นเทพอมตะ

โป้ชิงสามารถก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติสองครั้ง ผู้คนคิดว่าเขาจะกลายเป็นเทพอมตะคนต่อไป อย่างไรก็ตามเขากลับล้มเหลวในครั้งที่สาม

ในยุคปัจจุบัน ที่ภาคเหนือ ปีศาจอมตะเซี่ยหูกำลังเตรียมตัวเผชิญหน้ากับหมื่นภัยพิบัติครั้งแรก เขาต้องการหลอมรวมวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์เพราะเรื่องนี้ สำหรับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู และเหยากวง พวกเขายังห่างไกลจากหมื่นภัยพิบัติ

แม้พวกเขาจะแก่มากแล้ว แต่พวกเขาใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างของตน ผู้อมตะบางคนกระทั่งใช้วิธีหยุดเวลาในมิติช่องว่างของพวกเขาอย่างสมบูรณ์

แต่ในกรณีนั้นมิติช่องว่างของพวกเขาก็จะไม่สามารถผลิตพลังงานอมตะเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นหากปราศจากภัยพิบัติ พวกเขาก็จะไม่ได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าและไม่สามารถยกระดับการบ่มเพาะ

ข้อบกพร่องอีกประการของวิธีหยุดเวลาก็คือพวกเขาไม่สามารถหยุดเวลาได้นานนักและต้องเสียค่าสใช้จ่ายมหาศาลเพื่อรักษาสภาวะหยุดเวลาของพวกเขาเอาไว้

ในปัจจุบันผู้อมตะส่วนใหญ่มักเลือกใช้วิธีชะลอเวลา

ยิ่งการบ่มเพาะสูงเท่าใด ภัยพิบัติก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้อมตะวังสวรรค์จะเข้าสู่การจำศีลในเวลาปกติ

การจำศีลถือเป็นวิธีการชะลอเวลาที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง

ในสถานการณ์ปัจจุบัน บนท้องฟ้าคือภัยพิบัติใหญ่

ภับพิบัติวัชระทองคำ!

แม้พวกมันจะไม่ได้พุ่งเข้าโจมตีพวกเขา แต่ผู้อมตะวังสวรรค์ยังต้องระวังตัว

วัชระทองคำพุ่งผ่านก้อนเมฆสีดำพร้อมเสียงแตกหัก

กลุ่มก้อนเมฆสีดำเริ่มเบาบางลงภายใต้การปะทะ

เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ สมาชิกนิกายเงาถึงกับขมวดคิ้วลึก

“เยี่ยมมาก” ผู้อมตะวังสวรรค์เผยรอยยิ้มมีความสุข ในที่สุดกลยุทธ์ของพวกเขาก็เริ่มเห็นผลลัพธ์

“แม้พวกเราจะไม่ทำสิ่งใด พวกเขาก็อาจแพ้ภัยตนเอง ฮ่าฮ่าฮ่า” ไป่เฉิงเทียนหัวเราะ

เจ้าวังกล่าวอย่างลึกซึ้ง “ฝ่ายตรงข้ามอาจแข็งแกร่งแต่พวกเขาจะเหนือกว่าสวรรค์ได้อย่างไร? มนุษย์ควรเคารพสวรรค์พิภพ หากเปรียบเทียบ ผู้อมตะก็ไม่ถือเป็นสิ่งใด กระทั่งผู้อมตะระดับเก้าก็ไม่สามารถอยู่ยงคงกระพัน เคารพสวรรค์พิภพ ทำตามเจตจำนงสวรรค์ นี่คือเส้นทางที่ถูกต้อง!”

เผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่ ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาค่อยๆสูญเสียพลังอำนาจของมันไปอย่างช้าๆ

“เราไม่สามารถต่อต้านมัน!”

ค่ายกลวิญญาณที่ถูกควบคุมโดยมนุษย์มีความยืดหยุ่นมากกว่าเขตแดนที่ไร้การควบคุมในแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่

ดังนั้นกลุ่มเมฆสีดำจึงเปิดช่องให้วัชระทองคำพุ่งผ่านลงมา

วัชระทองคำจำนวนมากร่วงหล่นลงมายังคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลัง

เจ้าวังสวรรค์หัวเราะเย้ยหยัน เขารู้ว่านิกายเงาต้องการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อกดดันวังสวรรค์

เจ้าวังบังคับหอคอยดวงตาสวรรค์และพยายามหลบเลี่ยง

“วิญญาณชะตากรรมอยู่ในหอคอยดวงตาสวรรค์ หนึ่งในวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณชะตากรรมคือเจตจำนงสวรรค์ ภัยพิบัตินี้กำเนิดจากเจตจำนงสวรรค์เช่นกัน ดังนั้นเราจะได้รับความเสียหายน้อยกว่าฝ่ายตรงข้าม” เจ้าวังกล่าว

ความหมายของเขาชัดเจนมาก เมื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเกิดรูช่วงโหว่ เขาจะใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะโจมตีมันอย่างรุนแรง

สมาชิกวังสวรรค์คนอื่นๆไม่คัดค้าน

“โอ้ ไม่ ตอนนี้พวกเราต้องอดทนมากขึ้น มิฉะนั้นค่ายกลวิญญาณจะไม่สามารถคงอยู่จนถึงตอนจบ!”

“ภัยพิบัติใหญ่แล้วอย่างไร? พวกเราได้เห็นจุดจบของตงฟางชางฟานมาแล้ว ภัยพิบัติใหญ่อยู่ในการคาดหมายของพวกเราตั้งแต่แรก!”

“สละคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังอื่นๆและปกป้องเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์!”

สมาชิกนิกายเงาแสดงออกด้วยความเด็ดเดี่ยว หลังจากทั้งหมดพวกเขาเตรียมตัวมานานแล้ว

เหนือเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ แสงสีชมพูส่องประกายขึ้น

สิ่งนี้ทำให้หัวใจของผู้คนรู้สึกอบอุ่น

อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงมันไม่ใช่แสง

มันคือกลุ่มก้อนของความปรารถนา

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทุกหลังล้วนมีความเชี่ยวชาญและความพิเศษที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นคุกทมิฬ มันสามารถกักขังสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลเอาไว้ภายใน หากคุกทมิฬยกระดับขึ้น มันจะสามารถกักขังกระทั่งสัตว์อสูรแรกกำเนิด

ความพิเศษของหอคอยดวงตาสวรรค์ระดับเก้าคือการโจมตีด้วยพลังอำนาจแห่งโชคชะตาที่ไม่มีสิ่งใดสามารถป้องกันหรือต่อต้าน น่าเสียดายที่ตอนนี้มันไม่สามารถใช้การโจมตีชนิดนี้ได้อีก

สำหรับเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ที่นิกายเงาพยายามยึดครองมันก็มีความพิเศษเช่นกัน

นั่นก็คือการดูดซับพลังงานแห่งความปรารถนาจากอดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อใช้ประโยชน์

เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายใต้การครอบครองของเผ่ามนุษย์วิหคมาหลายชั่วอายุคนในสวรรค์สีเขียว ดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยพลังแห่งความปรารถนา

แม้ท่าไม้ตายพรจากสวรรค์จะดูดกลืนพลังแห่งความปรารถนาไปเป็นจำนวนมาก แต่มันยังเหลืออยู่มากกว่าครึ่ง สิ่งสำคัญก็คือเผ่ามนุษย์วิหคไม่รู้วิธีใช้งานสิ่งนี้

นิกายเงามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะรู้ต้นกำเนิดของมัน

พลังแห่งความปรารถนามีอนุภาพสูงมาก มันสามารถปิดกั้นฝนวัชระทองคำและช่วยปกป้องค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

“ช่างเป็นภัยพิบัติที่น่าอัศจรรย์นัก ในระยะเวลาสั้นๆ สนามรบแห่งความโกลาหลกลับได้รับความเสียหายอย่างหนัก” ไห่ลั่วหลันอุทาน

ใบหน้าของเทพธิดาหลี่ซานกลายเป็นซีดขาว

ภัยพิบัติครั้งนี้น่ากลัวเกินไป หากนางเผชิญหน้ากับมันเพียงลำพัง นางจะไม่สามารถทนได้ถึงสามครั้ง

แต่ความจริงก็คือมีวัชระทองคำนับหมื่นที่ร่วงหล่นลงมาและยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง

ฟางหยวนหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้ากำลังรอสิ่งนี้อยู่ ตอนนี้ข้าจะแสดงพลังอำนาจที่แท้จริงของสนามรบแห่งความโกลาหลให้ทุกคนได้ประจักษ์!”

ความคิดดาราระเบิดขึ้นในใจของฟางหยวน

เขาเพ่งสมาธิและความสนใจทั้งหมดกับสนามรบแห่งความโกลาหล

คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้สามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อปิดผนึกการโจมตีของศัตรูและส่งพวกมันกลับไป

แต่การใช้วิธีนี้จำเป็นต้องทุ่มเทสมาธิกับมัน ก่อนหน้านี้ฟางหยวนไม่ได้ใช้งานมันเพราะเขาต้องบังคับคฤหาสน์วิญญาณอมตะและจัดการศัตรูในเวลาเดียวกัน

แต่ตอนนี้เขามีไท่เป่ยหยุนเฉิงและคนอื่นๆ ขณะที่เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กำลังยุ่งอยู่กับการต่อต้านภัยพิบัติ ดังนั้นฟางหยวนจึงมีเวลาใช้ทักษะพิเศษของสนามรบแห่งความโกลาหลในที่สุด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท