เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1008

ตอนที่ 1008

เทพปีศาจหวนคืน – ตอนที่ 1008
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1008 บูชายัญ

แปลโดย iPAT

ภายใต้การควบคุมของฟางหยวน คฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลระเบิดแสงสีแดงออกมา

แสงสีแดงปกคลุมพื้นที่ในบริเวณกว้างราวกับไฟนรกที่แผดเผา

พลังงานลึกลับดูดกลืนวัชระทองคำเข้าไปภายใน

พลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดอนุญาตให้สนามรบแห่งความโกลาหลระเบิดพลังอำนาจของมันออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

“ครืน…”

อย่างไรก็ตามสนามรบแห่งความโกลาหลยังได้รับผลกระทบจากวัชระทองคำบางส่วน

หลังจากทั้งหมดนี่คือภัยพิบัติใหญ่

แต่ฟางหยวนยังประสบความสำเร็จ

‘เราต่อสู้กันมานานแต่พลังงานอมตะของเทพอมตะตะวันเดือดกลับถูกใช้ไปไม่ถึงสามสิบส่วน อย่างไรก็ตามหลังจากดูดกลืนวัชระทองคำหนึ่งร้อยชิ้นเข้ามา พลังงานอมตะทั้งหมดของเทพอมตะตะวันเดือดกลับถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว!’

ค่าใช้จ่ายนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกตกตะลึง

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะคำนึงถึงความสูญเสียและทำได้เพียงนำพลังงานอมตะระดับเก้าออกมาเพิ่มเท่านั้น

สนามรบแห่งความโกลาหลไม่เพียงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและปลอดภัยจากภัยพิบัติ มันยังสามารถดูดกลืนวัชระทองคำเข้าไปเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวมันเองได้อีกด้วย

หอคอยดวงตาสวรรค์เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าที่มีวิญญาณชะตากรรมเป็นแกนกลาง ดังนั้นมันจึงสามารถป้องกันตัวมันเองจากภัยพิบัติ

เมื่อเวลาผ่านไป เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นฝ่ายที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด แม้พวกเขาจะใช้พลังแห่งความปรารถนา แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับสนามรบแห่งความโกลาหลและหอคอยดวงตาสวรรค์

ภัยพิบัติวัชระทองคำดำเนินต่อไปเป็นเวลาแปดนาทีก่อนจะหยุดลงอย่างกะทันหัน

โดยไม่ปล่อยให้ทั้งสามฝ่ายมีเวลาหยุดพักหายใจ ภัยพิบัติครั้งใหม่ก็มาถึง

แสงสว่างส่องประกายขึ้นบนท้องฟ้าขณะที่กวางยักษ์หลายตัวทะยานร่างออกมา

กวางเหล่านี้มีขนาดเท่าช้างแต่มีร่างกายโปร่งแสง

พวกมันคือสัตว์อสูรแรกกำเนิด กวางแสง!

นี่คือภัยพิบัติสัตว์อสูรแรกกำเนิด สัตว์อสูรแรกกำเนิดแต่ละตัวมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปดและตอนนี้พวกมันมีอยู่ถึงยี่สิบสองตัว

สัตว์อสูรระดับแปดยี่สิบสองตัว!

กระทั่งกวางเหล่านี้จะไม่มีวิญญาณอมตะป่าที่ดุร้ายในการครอบครอง พลังอำนาจของพวกมันก็เหนือกว่าภัยพิบัติก่อนหน้าไปไกลแล้ว

ฝูงกวางแสงพุ่งเข้ามาหาค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอย่างรวดเร็วและทำให้ใบหน้าของสมาชิกนิกายเงากลายเป็นซีดเผือด

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกเจาะทะลวงขณะที่พวกมันสามารถเข้ามาได้อย่างสะดวกสบาย

“กวางแสงมีเก้าสีที่สอดคล้องกับสวรรค์ที่พวกมันอยู่อาศัย กวางแสงขาวเหล่านี้ดูเหมือนจะมาจากสวรรค์สีขาว”

“กวางแสงมีนิสัยอ่อนโยน ตามตำนาน พวกมันจะนำดวงวิญญาณของมนุษย์ไปสู่สวรรค์ แต่ผู้ใดจะคิดว่าด้วยเจตจำนงแห่งสวรรค์ กวางแสงที่อ่อนโยนจะกลายเป็นดุร้ายและเต็มไปด้วยจิตสังหารเช่นนี้”

กระทั่งผู้อมตะของวังสวรรค์ยังไม่ต้องการเข้าร่วมในสถานการณ์นี้

ฟางหยวนนำสนามรบแห่งความโกลาหลหลบไปอยู่ที่ขอบรอบนอกของการต่อสู้

กวางแสงเป็นสิ่งมีชีวิต เขาไม่สามารถใช้สนามรบแห่งความโกลาหลดูดกลืนพวกมัน

การโจมตีที่สนามรบแห่งความโกลาหลสามารถใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งกาลเวลาปิดผนึกคือสสารประเภทดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ไม่ใช่สัตว์อสูร

โชคดีที่ฟางหยวนดูดกลืนวัชระทองคำมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงใช้มันโจมตีกวางแสงที่เข้ามาใกล้และบังคับให้พวกมันจากไป

เผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งนี้ สถานการณ์ของวังสวรรค์ดีที่สุด รองลงมาคือฟางหยวน ขณะที่นิกายเงาถูกกดดันมากที่สุดและตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤต

ในช่วงเวลาสำคัญผีดิบอมตะโป้ชิงก้าวออกมา

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่มีชื่อเสียง ดาบห้าดัชนี

กวางแสงส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใต้พลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้ กระทั่งพวกมันจะครอบครองวิญญาณอมตะป่าบางดวง แต่มันยังไร้ประโยชน์

โป้ชิงตายไปแล้วแต่ร่างกายของเขายังเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบ พลังอำนาจของมันแตกต่างจากดาบห้าดัชนีของฉินไป่เฉิงอย่างสิ้นเชิง

ด้วยการคงอยู่ของโป้ชิง นิกายเงาจึงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้

อย่างไรก็ตามกลุ่มเมฆสีดำส่วนใหญ่สูญสลายไปแล้วและเผยให้เห็นร่างผีดิบอมตะสุดยอดกายาทั้งสิบอีกครั้ง

“ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาอ่อนแอลงแล้ว!” ฟางหยวนอุทาน

ด้วยความตั้งใจของเขา สนามรบแห่งความโกลาหลยิงวัชระทองคำออกไปเพื่อทำลายค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาทันที

ในเวลาเดียวกันเจ้าวังสวรรค์ก็ฉวยโอกาสนี้บังคับหอคอยดวงตาสวรรค์พุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาจากอีกด้านหนึ่ง

“เราจะทำอย่างไร?” ในเมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์ อิงอู๋เซี่ยยกมือขึ้นกุมศีรษะและกรีดร้อง

สมาชิกคนอื่นๆของนิกายเงาแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด

มันเป็นช่วงเวลาสำคัญในการตัดสินแพ้ชนะ

หากค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาถูกทำลายในเวลานี้ ทุกอย่างจะจบสิ้นลง นิกายเงาจะพบกับความพ่ายแพ้

“ไม่มีสิ่งใดที่พวกเราทำได้นอกจากบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบ!” ผีดิบอมตะเทพเจ็ดดาราถอนหายใจยาวก่อนตัดสินใจ

ความจริงก็คือกองกำลังพันธมิตรผีดิบที่กระจายอยู่ทั้งห้าภูมิภาคเป็นกองกำลังย่อยภายใต้การปกครองของนิกายเงาเช่นเดียวกับนิกายโบราณทั้งสิบที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของวังสวรรค์

มันเป็นเพียงแค่นิกายเงาปกปิดตัวตนเอาไว้ลึกมาก กระทั่งตัวตนระดับสูงหลายคนของกองกำลังพันธมิตรก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นแผนการใหญ่ของนิกายเงา พวกเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยทุกสิ่ง

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเสียสละกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อกอบกู้สถานการณ์

แผนสำรองถูกใช้งาน ผีดิบอมตะเริ่มปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

พวกเขาก็คือผีดิบอมตะของกองกำลังพันธมิตรผีดิบจากทุกสาขา ผีดิบอมตะระดับหก ระดับเจ็ด และระดับแปดจำนวนมากปรากฏขึ้น

“นี่คือ?” ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหล ไห่ลั่วหลัน ไท่เป่ยหยุนเฉิง และคนอื่นๆเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง

“ฮืม นิกายเงาอยู่เบื้องหลังกองกำลังพันธมิตรผีดิบจริงๆ!” เจ้าวังสวรรค์ขมวดคิ้วลึก สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “ดี เช่นนั้นเราก็จะกวาดล้างผู้ก่อการร้ายทั้งหมดในครั้งเดียว ทุกคนที่ต่อต้านเจตจำนงแห่งสวรรค์จะต้องถูกลงโทษ!”

อย่างไรก็ตามผีดิบอมตะเหล่านี้แสดงออกราวกับหุ่นเชิดที่ไม่รู้สึกตัว

ก่อนที่เจ้าวังจะสามารถทำสิ่งใด ผีดิบอมตะเหล่านี้ก็เสียสละตนเองและหลอมรวมเข้ากับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาเรียบร้อยแล้ว

“พี่ใหญ่!” เทพธิดาหลี่ซานกรีดร้องด้วยความโศกเศร้า

ท่ามกลางผีดิบอมตะเหล่านั้นมีนางมารผลาญสวรรค์รวมอยู่ด้วย

กระทั่งผีดิบอมตะระดับแปดผู้นำกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว

ภายใต้การเฝ้ามองของเทพธิดาหลี่ซานกับไห่ลั่วหลัน นางมารผลาญสวรรค์เปลี่ยนตนเองกลายเป็นวัสดุในการหลอมรวมและผสานเข้ากับค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา

เมื่อได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจากร่างของผีดิบอมตะรวมถึงมิติช่องว่างอมตะจำนวนมาก ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาจึงยกระดับขึ้นถึงจุดที่ไม่เคยเป็นมาก่อนขณะที่เมฆสีดำปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้ทั้งหมด

เทพธิดาหลี่ซานยังกรีดร้องด้วยความเสียใจ

ไห่ลั่วหลันจมลงสู่ความเงียบ

ฟางหยวนขมวดคิ้ว กำลังเสริมระดับแปดที่เขาคาดหวังกลับตกตายไปต่อหน้า ผู้ใดจะคิดว่านิกายเงาจะมีความสัมพันธ์กับกองกำลังพันธมิตรผีดิบอย่างลึกซึ้งถึงเพียงนี้ กระทั่งได้เห็นกับตาก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ

‘ก่อนหน้านี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบได้รับภารกิจให้สร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ ดูเหมือนมันจะเป็นหนึ่งในแผนการของนิกายเงา’ หัวใจของไท่เป่ยหยุนเฉิงราวกับถูกแช่แข็งเมื่อคิดถึงแรงจูงใจที่น่ากลัวของนิกายเงา

การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นไม่น่ามอง

‘ข้าคาดเดาความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเงาและกองกำลังพันธมิตรผีดิบไว้แล้ว แต่ข้าไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของข้าทำให้ข้าเข้าใจผิด หลังจากทั้งหมดในสงครามห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบยังคงอยู่…’

‘บูชายัญผีดิบอมตะเกือบทั้งหมดของห้าภูมิภาคเพื่อค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา พวกเขาต้องการหลอมรวมสิ่งใด? เป็นไปได้หรือไม่ว่าพวกเขาต้องการหลอมรวมวิญญาณในตำนานเพื่อชีวิตอันเป็นนิรันดร์!?’

ใบหน้าของเจ้าวังสวรรค์ก็กลายเป็นน่าเกลียดเช่นกัน

สมาชิกวังสวรรค์ต่างแสดงออกด้วยความกังวล

แม้พวกเขาจะเป็นตัวตนระดับสูงและเต็มไปด้วยประสบการณ์ แต่พวกเขาก็ยังตกใจกับการเคลื่อนไหวที่คาดไม่ถึงของนิกายเงาในครั้งนี้

นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบถูกทำลายและสลายหายไปในสายลมเรียบร้อยแล้ว

“ฟิ้ว…ฟิ้ว…ฟิ้ว…”

เสียงดังเข้าหูของทุกคน

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามร่วงหล่นลงมาอีกครั้ง

เจตจำนงแห่งสวรรค์ดุร้ายมาก ไม่ว่านิกายเงาจะพยายามหลอมรวมสิ่งใด ชัดเจนว่ามันเป็นการท้าทายสวรรค์และทำให้สวรรค์โกรธมาก

สวรรค์พิภพไม่อนุญาตให้พวกเขาสร้างสิ่งนี้!

ภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามรุนแรงกว่าสองภัยพิบัติก่อนหน้านี้รวมกัน

สายฝนเริ่มร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ฝนทุกสายมีขนาดเพียงครึ่งนิ้วแต่มันกลับแหลมคมราวกับสามารถเจาะทะลวงทุกสิ่งบนโลกใบนี้

ภัยพิบัติใหญ่ ฝนเจาะทะลวง!

ค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาพึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่เมฆสีดำที่หนาแน่นกลับได้รับผลกระทบที่รุนแรงภายใต้ฝนเจาะทะลวง

ฟางหยวนทำซ้ำสิ่งเดิมโดยการใช้พลังงานอมตะระดับเก้าของเทพอมตะตะวันเดือดกระตุ้นการทำงานของคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลเพื่อดูดซับฝนเจาะทะลวง

อย่างไรก็ตามสนามรบแห่งความโกลาหลยังได้รับผลกระทบ วิญญาณจำนวนมากตกตายลงอย่างต่อเนื่อง

“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป คฤหาสน์วิญญาณอมตะจะอยู่ได้ไม่เกินสิบห้านาที” ไห่ลั่วหลันกระตุ้นฟางหยวน

แต่ฟางหยวนไม่มีวิธีอื่น

แม้เขาจะพยายามดูดซับฝนเจาะทะลวงแต่เขายังไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมด

แน่นอนว่านิกายเงาได้รับความทุกข์ทรมานจากฝนเจาะทะลวงมากที่สุด

นี่คือความน่าสะพรึงกลังของภัยพิบัติใหญ่ที่กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังพบกับความยากลำบาก

เมื่อภัยพิบัติใหญ่ครั้งที่สามผ่านพ้นไป เมืองขนนกศักดิ์สิทธิ์และสนามรบแห่งความโกลาหลแตกออกเป็นชิ้นๆ ขณะที่วิญญาณอมตะถูกพวกเขาเก็บเอาไว้

หอคอยดวงตาสวรรค์ก็เต็มไปด้วยรอยแตกหัก เหลี่ยมมุมต่างๆของหอคอยดวงตาสวรรค์พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง

“ทุกอย่างจบลงแล้ว ผู้ชนะก็คือวังสวรรค์!” เจ้าวังหัวเราะเสียงดังก่อนจะกระตุ้นใช้การโจมตีของหอคอยดวงตาสวรรค์

มันเป็นการโจมตีโดยพลังอำนาจแห่งโชคชะตาที่ไม่สามารถหลบเลี่ยง!

ในเวลาต่อมา เจ้าวังจึงมองเห็นค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายาที่ถูกแยกออก ผู้อมตะนิกายเงาจำนวนมากได้รับบาดเจ็บล้มตาย ฟางหยวนและคนอื่นๆตายไปพร้อมกัน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท