เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1051

ตอนที่ 1051

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1051 สามสุดยอดมรดก

แปลโดย iPAT

ไม่ว่าจะเป็นภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป หรือวิญญาณสติปัญญา พวกมันล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

ฟางหยวนกล่าวว่าพวกเขาสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยน แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะใช้สิ่งใดซื้อพวกมัน?

ฟางหยวนไม่ได้ปฏิเสธและกำลังรอคำตอบด้วยความคาดหวัง

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีรากฐานที่ไม่ธรรมดา มันดำรงอยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ หลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลาย แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจึงกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งของทั้งห้าภูมิภาค

เมื่อบรรพชนผมยาวยังมีชีวิต เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดปรมาจารย์อันดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมตลอดกาล เขายังเหนือกว่าเฒ่าสายฟ้าเทียนหนานและผู้อมตะเฒ่ากงเจีย

ตัวละครเช่นนี้จะไม่มีสมบัติล้ำค่าในการครอบครองได้อย่างไร?

วิญญาณแต่ละดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สมบัติที่มีเอกลักษณ์สามารถแลกเปลี่ยนกับสมบัติที่มีเอกลักษณ์และหายากในระดับเดียวกัน

สำหรับการประเมินสินค้า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละบุคคล

ภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา สมบัติทั้งสามไม่ใช่สิ่งที่ฟางหยวนไม่สามารถแลกเปลี่ยนตราบเท่าที่ผลตอบแทนคุ้มค่า

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเริ่มเดินไปรอบๆและขมวดคิ้วลึก

หากเป็นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้า เขาไม่จำเป็นต้องคิดมากและจะแลกเปลี่ยนกับฟางหยวนอย่างรวดเร็ว แต่บุคลิกใหม่ของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีความสนใจที่แตกต่างออกไป ดังนั้นเขาจึงต้องไตร่ตรองอย่างรอบคอบ

‘จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมขาวคนก่อนหน้าต้องการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ ดังนั้นเขาจึงให้ความสนใจกับการหลอมรวมเท่านั้น แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาผมดำผู้นี้ต้องการนำเผ่ามนุษย์ขนยึดครองโลก ข้าสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้’ ฟางหยวนคิดขณะรอการตัดสินใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

ฟางหยวนมีความมั่นใจและเชื่อว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจะไม่ทำให้เขาผิดหวัง

ดังคาด หลังจากไตร่ตรอง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตัดสินใจแลกเปลี่ยนกับฟางหยวน!

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ข้าไม่เคยสงสัยความสามารถในการแลกเปลี่ยนของท่าน แต่มันต้องเป็นสิ่งที่เท่าเทียม หากสิ่งที่ท่านเสนอไม่ตรงกับความคาดหวังของข้า ข้าเกรงว่า…” ฟางหยวนจงใจกล่าว

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตอบกลับด้วยความไม่พอใจ “อย่ากังวล สมบัติของนิกายหลางหยาไม่ด้อยไปกว่าสมบัติของเจ้า!”

หลังกล่าวจบคำเขาส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน

ฟางหยวนรับวิญญาณดวงนี้เอาไว้

“นี่คือวิญญาณหนอนหนังสือ?” ฟางหยวนตกใจเล็กน้อย

เขาเคยเห็นวิญญาณหนอนหนังสือมาก่อน พวกมันเป็นวิญญาณระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนตกใจก็คือวิญญาณหนอนหนังสือดวงนี้เป็นวิญญาณระดับสาม!

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาส่งเสียงกร้าว “นี่เป็นสิ่งที่ร่างหลักของข้าสร้างขึ้น เขาทำลายขีดจำกัดของวิญญาณหนอนหนังสือระดับหนึ่งและสอง แต่แล้วอย่างไร หากศัตรูโจมตี พวกมันสามารถปกป้องพวกเรางั้นหรือ?”

ฟางหยวนลอบส่ายศีรษะโดยไม่โต้ตอบและเริ่มสำรวจข้อมูลที่อยู่ภายใน

เขาไม่ได้เป็นเจ้าของวิญญาณหนอนหนังสือแต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาให้เขายืม ดังนั้นเขาจึงสามารถอ่านมันได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

ข้อมูลที่อยู่ภายในทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้

‘ดังคาด’ ฟางหยวนยกย่องอยู่ในใจ

หลังจากกลับมายังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่กับการฟื้นฟูร่างกาย ตอนนี้ภัยพิบัติใกล้เข้ามาแล้ว

อิงอู๋เซี่ย ไห่ลั่วหลัน จิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหู วิญญาณท่องแดนอมตะ และสิ่งอื่นๆไม่สำคัญ สิ่งที่เขาต้องคิดมีเพียงวิธีก้าวข้ามภัยพิบัติเท่านั้น

ยิ่งรากฐานของมิติช่องว่างแข็งแกร่งเท่าใด ภัยพิบัติที่พวกเขาต้องเผชิญก็จะยิ่งทรงพลังเท่านั้น

มิติช่องว่างของฟางหยวนในปัจจุบันยังว่างเปล่าและไร้ทรัพยากร แต่มันมีพื้นที่ขนาดใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้พื้นฐานบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของมันก็ไม่ธรรมดา กล่าวได้ว่ามิติช่องว่างของฟางหยวนกระทั่งเหนือกว่ามิติช่องว่างของสุดยอดกายาทั้งสิบรวมกัน ดังนั้นภัยพิบัติที่เขาต้องเผชิญย่อมทรงพลังและอันตรายอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

หลังจากพักฟื้น ฟางหยวนฝึกฝนฟางเจิ้งและพิจารณาสถาการณ์ของตน

มีเวลาไม่กี่วันก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง เกี่ยวกับเรื่องนี้ฟางหยวนไม่มีความมั่นใจมากนัก

วิญญาณอมตะส่วนใหญ่ถูกทิ้งไว้ในร่างเดิมของเขา นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของฟางหยวนลดลงอย่างมาก

ไท่เป่ยหยุนเฉิงและไห่ลั่วหลันหายตัวไปขณะที่เทพธิดาหลี่ซานและนางมารผลาญสวรรค์เสียชีวิตไปแล้ว ความช่วยเหลือจากภายนอกเดียวที่เขาเหลืออยู่คือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาก้าวข้ามภัยพิบัติมากมายหลังจากผ่านวันเวลามาอย่างยาวนาน มันเป็นตัวอย่างของความสำเร็จในการรับมือกับภัยพิบัติ ฟางหยวนต้องเรียนรู้จากมัน

“เป็นอย่างไรบ้าง?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยรอยยิ้ม

เขาชูสามนิ้ว “นิกายหลางหยาของข้ามีรากฐานสำคัญสามอย่าง หนึ่ง มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ถูกทิ้งไว้โดยร่างหลักของข้า สอง มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคที่ถูกทิ้งไว้โดยเทพอมตะตะวันเดือด สาม มรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการโจรกรรมที่ถูกทิ้งไว้โดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เมื่อร่างหลักของข้ายังมีชีวิต เขาหลอมรวมวิญญาณให้กับผู้อมตระดับเก้าทั้งสอง พวกมันก็คือค่าตอบแทน”

ฟางหยวนพยักหน้า

วิญญาณหนอนหนังสือบันทึกรายละเอียดของมรดกที่แท้จริงทั้งสามเอาไว้

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด พวกมันล้วนล้ำค่า เพียงเห็นข้อมูลผิวเผิน พวกมันก็สามารถดึงดูดความปรารถนาของฟางหยวนได้อย่างง่ายดาย

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวต่อ “ในบรรดามรดกที่แท้จริงทั้งสาม มรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์มีค่าน้อยที่สุด นี่เป็นเพราะร่างหลักของข้ายังไม่ประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่สมบูรณ์แบบให้เขา ดังนั้นร่างหลักจึงต้องส่งคืนค่าตอบแทนบางส่วน อย่างไรก็ตามมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์มักจะมาเป็นคู่ หากเจ้าโชคดี เจ้าอาจได้รับเบาะแสของมรดกที่แท้จริงส่วนที่สอง”

“เทพปีศาจปล้นสวรรค์ทิ้งมรดกที่แท้จริงไว้สิบมรดก แต่มีเพียงปีศาจต่างโลกเท่านั้นที่สามารถครอบครองพวกมัน มีเพียงมรดกที่อยู่กับข้าที่เป็นข้อยกเว้น ฟางหยวน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลก เจ้าสามารถรับสืบทอดมรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดายหากพวกมันยังอยู่”

ฟางหยวนพยักหน้าอีกครั้ง

เขาเคยเห็นพลังอำนาจของมือปีศาจปล้นวิญญาณมาแล้ว

ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยก็มาจากเทพปีศาจปล้นสวรรค์เช่นกัน

กล่าวได้ว่ามรดกของเทพปีศาจปล้นวิญญาณจะไม่ทำให้ฟางหยวนผิดหวังอย่างแน่นอน

หลังจากชั่วครู่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงกล่าวต่อ “เทพปีศาจปล้นสวรรค์มีมรดกที่แท้จริงสิบมรดก แต่เทพอมตะตะวันเดือดมีมรดกที่แท้จริงเพียงสาม ร่างหลักของข้าหลอมรวมคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงให้เขา ดังนั้นมรดกนี้ของเขาจึงเหนือกว่ามรดกของเทพปีศาจปล้นสวรรค์”

“มรดกที่แท้จริงของเทพอมตะตะวันเดือดล้วนเป็นมรดกบนเส้นทางแห่งโชค พวกมันประกอบด้วยโชคของตนเอง โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และโชคของสวรรค์พิภพ ท่ามกลางโชคเหล่านี้ มรดกที่แท้จริงโชคของตนเองอยู่กับข้า มรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ สำหรับมรดกที่แท้จริงโชคของสวรรค์พิภพ มันถูกเก็บไว้ในถ้ำสวรรค์นิรันดร”

โชคของตนเอง โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด โชคของสวรรค์พิภพ

วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชค วิญญาณอมตะตัดโชค วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติ พวกมันเป็นส่วนหนึ่งในมรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด หลังจากแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลายโดยฟางหยวน วิญญาณอมตะบางส่วนหลบหนีออกมายังโลกภายนอก แต่หลายสิ่งสูญหายและถูกทำลายไปแล้ว

ฟางหยวนกับหม่าหงหยุนต่างเคยสัมผัสกับพลังอำนาจของเส้นทางแห่งโชคมาแล้ว

‘โดยยังไม่ต้องกล่าวถึงสิ่งอื่น หากข้ามีวิญญาณเบี่ยงเบนภัยพิบัติ ข้าสามารถเลียนแบบแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือและส่งภัยพิบัติออกไปยังโลกภายนอก!’ ฟางหยวนรู้ว่าเส้นทางแห่งโชคมีประโยชน์มากกับการต่อต้านภัยพิบัติของเขา

แม้มรดกที่แท้จริงโชคของตนเองจะไม่มีวิญญาณอมตะเช่นวิญญาณเบี่ยงเบนภัยพิบัติ แต่เมื่อโชคของฟางหยวนดีขึ้น ภัยพิบัติก็จะอ่อนแอลง เขาจะสามารถรับมือกับมันได้ง่ายขึ้น

“ฟางหยวน ข้าแนะนำให้เจ้ารับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคเพราะดูเหมือนโชคของเจ้าจะเลวร้ายมากจริงๆ” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าว

“ก่อนหน้านี้เจ้าพบอุปสรรคมากมายระหว่างเดินทางมาที่นี่ สุดท้ายเจ้ายังทำให้ข้าสูญเสียผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนไปถึงสองคน เจ้ายังไม่รู้สาเหตุอีกงั้นหรือ!?”

“เพื่อหลอมรวมวิญญาณโชคชะตาท้าทายสวรรค์ ปีศาจอมตะเซี่ยหูมอบภารกิจรวบรวมทรัพยากรให้กับปีศาจอมตะของแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ การกระทำนี้ทำให้ความภักดีของพวกเขาลดลงกระทั่งมีผู้ทรยศปรากฏตัวขึ้นและขโมยหนึ่งในทรัพยากรอมตะที่ล้ำค่าไป”

“ปีศาจอมตะเซี่ยหูโกรธมาก เขาส่งปีศาจอมตะออกมาไล่ล่าหัวขโมยแต่พวกเขาบังเอิญพบผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนที่ข้าส่งออกไปรับเจ้า”

“สำหรับการหายตัวไปอย่างลึกลับของผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนที่สอง ข้ายังไม่พบเงื่อนงำ”

“วันหนึ่งเมื่อความจริงปรากฏ พวกเขาจะไม่เสียชีวิตอย่างไร้ประโยชน์!” ฟางหยวนกล่าวอย่างจริงจัง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากัดฟันแน่น เขาไม่ต้องการกล่าวถึงหัวข้อนี้อีกและย้อนกลับไปยังหัวข้อก่อนหน้า “แต่ดูเหมือนมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจะเหมาะสมกับเจ้ามากที่สุด เส้นทางแห่งการหลอมรวมมีอยู่สอบแนวทาง เจ้ารู้หรือไม่?”

“ข้าเคยได้ยินมาบ้าง” ฟางหยวนตอบ

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวต่อ “ทั้งสองคือแนวทางของมนุษย์ขนและแนวทางของมนุษย์ การหลอมรวมวิญญาณของพวกเราเผ่ามนุษย์ขนแตกต่างจากมนุษย์ พวกเราใช้พลังงานแห่งสวรรค์พิภพเพื่อหลอมรวมวิญญาณ ดังนั้นมันจึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น”

ฟางหยวนฟังอย่างตั้งใจ

“ย้อนกลับไปเหตุผลที่เทพอมตะตะวันเดือดและเทพปีศาจปล้นสวรรค์ร้องขอให้ร่างหลักของข้าหลอมรวมวิญญาณให้กับพวกเขาก็เป็นเพราะรูปแบบการหลอมรวมของมนุษย์ขนมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าวิธีการของมนุษย์”

“แต่ร่างหลักของข้าไม่เพียงเชี่ยวชาญวิธีการของมนุษย์ขนแต่ยังเข้าใจวิธีการของมนุษย์หลังจากได้รับมรดกที่แท้จริงของผู้อมตะเฒ่ากงเจีย ต่อมาเขาจึงคิดค้นสร้างท่าไม้ตายอมตะที่เรียกว่า มิติภัยพิบัติ”

“มิติภัยพิบัติ?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเผยรอยยิ้มและอธิบายต่อด้วยความภาคภูมิใจ

ท่าไม้ตายนี้มีแนวคิดที่แยบยลโดยใช้แดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์เชื่อมต่อกับโลกภายนอกและดึงดูดภัยพิบัติเข้ามาเพื่อหลอมรวมวิญญาณ

“มิติภัยพิบัติรองรับภัยพิบัติทุกชนิด ผู้ใช้งานสามารถควบคุมภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เจ้ารู้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้เพราะเหตุใดแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจึงตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบวงเดือน? นั่นเป็นเพราะทะเลสาบวงเดือนเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีและพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวม”

“ในอดีตร่างหลักของข้าใช้ท่าไม้ตายนี้รับมือภัยพิบัติและทำให้ภัยพิบัติส่วนใหญ่เป็นภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งวารีและการหลอมรวม เมื่อเวลาผ่านไปมิติช่องว่างแห่งนี้จึงได้รับพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีและพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมจำนวนมาก”

“หนึ่งร้อยแปดสิบปีก่อนหน้า แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่มีทะเล แต่ตอนนี้ทวีปทั้งสามกลับถูกโอบล้อมไปด้วยมหาสมุทร นี่คือผลกระทบจากพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารี”

ได้ยินเรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะคิดถึงวิธีการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

‘ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัตคล้ายคลึงกับแนวคิดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ไม่ นิกายเงามีสายลับอยู่ที่นี่ บางทีเทพปีศาจจิตวิญญาณอาจเลียนแบบท่าไม้ตายนี้!?’

ฟางหยวนคาดเดาได้ถูกต้อง

วิธีการของเทพปีศาจจิตวิญญาณมาจากท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติแต่มันถูกพัมนาขึ้นอีกหลายขั้น

“เอาล่ะ เจ้ามีภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และวิญญาณสติปัญญา ส่วนข้ามีมรดกที่แท้จริงทั้งสาม พวกเราสามารถแลกเปลี่ยนหนึ่งต่อหนึ่ง สิ่งใดที่เจ้าต้องการแลกเปลี่ยน?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม

นี่เป็นเวลาที่ฟางหยวนต้องตัดสินใจ

แต่เขาจะเลือกสิ่งใด?

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท