เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1063

ตอนที่ 1063

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1063 เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

แปลโดย iPAT

ร่างของฟางหยวนบินหายไปที่เส้นขอบฟ้า

“ปล่อยเขาไปเช่นนี้เป็นเรื่องถูกต้องหรือไม่?” ชูตู๋หรี่ตามอง

แต่ในไม่ช้าเขาก็เผยรอยยิ้มขมขื่นกับตนเอง “แม้ข้าจะไม่ต้องการปล่อยเขา แต่ข้าจะทำสิ่งใดได้?”

“ทักษะของข้าไม่สามารถจับตัวเขา”

“กระทั่งข้าจะสามารถจับเขาและใช้กำลังบีบบังคับ เขาก็ยังสามารถทำลายวิญญาณทั้งหมดของตน”

“แต่จากท่าทีของเขา ดูเหมือนเขาจะต้องการทำธุรกรรมกับข้าเช่นกัน มิฉะนั้นเขาคงจากไปนานแล้ว เหตุใดเขาต้องหยุดพูดคุยกับข้า?”

หลังจากไตร่ตรอง ชูตู๋รู้สึกถึงความจริงใจของฟางหยวน แม้ฟางหยวนจะไม่กล่าวถึงจุดสำคัญใดๆ แต่ชูตู๋กลับรู้สึกถึงความจริงใจโดยที่ฟางหยวนไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำสัญญา

แน่นอนว่าความมั่นใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชูตู๋ไม่ได้อยู่ที่ทัศนคติของฟางหยวนแต่เป็นวิญญาณอมตะดาบบินที่อยู่ในมือเขา

“นี่คือวิญญาณอมตะระดับเจ็ด!”

กระทั่งชูตู๋ก็ยังมีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดในการครอบครองไม่มาก แล้วฟางหยวนจะจากไปโดยไม่สนใจมันได้อย่างไร

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเตรียมผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนรอรับฟางหยวนอยู่แล้ว

ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถกลับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้อย่างไม่มีปัญหา

“เจ้ามีวิญญาณโชคอึสุนัขแต่เจ้ายังพบชูตู๋ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ บางคนกำลังต่อต้านเจ้าอยู่หรือไม่?” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถามฟางหยวนอย่างตรงไปตรงมา

ฟางหยวนขมวดคิ้ว เขาพิจารณาคำถามนี้มานานแล้วเช่นกัน

‘ด้วยวิญญาณโชคอึสุนัข โชคของข้าย่อมไม่เลวร้าย แต่ภัยพิบัติพิภพรุนแรงเกินไป โชคของข้าจึงถูกใช้เพื่อรับมือภัยพิบัติงั้นหรือ?’ ฟางหยวนคาดเดาแต่เขาไม่สามารถกล่าวออกมา

เขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขณะที่นิกายหลางหยาเป็นองค์กรของเผ่าพันธุ์อื่น

เช่นเดียวกับก่อนหน้า เมื่อฟางหยวนรีบร้อนเดินทางออกจากชายแดนภาคใต้ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาฉวยโอกาสแสวงหาประโยชน์จากสถานการณ์ของเขา

‘หากภัยพิบัติพิภพที่ข้าผ่านมาอ่อนแอลงเพราะโชคของข้า เช่นนั้นภัยพิบัติพิภพที่แท้จริงที่ข้าต้องเผชิญจะแข็งแกร่งถึงระดับใด?’

ฟางหยวนคิดและรู้สึกสยดสยอง

กล่าวได้ว่าฟางหยวนสามารถหลบหนีจากความตายมาได้อย่างฉิวเฉียด

ในความเป็นจริงพลังอำนาจของภัยพิบัติครั้งนี้เหนือกว่าระดับของภัยพิบัติพิภพไปแล้ว กระทั่งภัยพิบัติใหญ่สิบครั้งก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับภัยพิบัติครั้งนี้ของฟางหยวน

‘แต่ข้าเชื่อมโยงโชคกับคนอื่นๆ บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่โชคของข้ากระจัดกระจายออกไป’ ฟางหยวนคิด แต่เขากล่าวอีกอย่าง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง ท่านกล่าวได้ถูกต้อง นี่ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับโชคแต่มีบางคนวางแผนร้ายต่อข้า”

ตัวตนของฟางหยวนถูกเปิดเผยในการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน

ไม่ว่าจะเป็นความลับเกี่ยวกับปีศาจต่างโลก วิญญาณกาลเวลา รวมถึงความจริงที่เขาเป็นผู้ทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง

นิกายเงา วังสวรรค์ และตระกูลฮวงจินของภาคเหนือมีแนวโน้มที่จะวางแผนร้ายกับเขา

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถอนหายใจก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาจไม่มีผู้ใดวางแผนต่อต้านเจ้า อย่าลืมว่าเจ้าเป็นสมาชิกของนิกายหลางหยา แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาถูกโจมตีมามากกว่าหนึ่งครั้งและสูญเสียผู้อมตะสองคน คุณค่าของสถานที่แห่งนี้เพียงพอที่จะดึงดูดความโลภของทุกกองกำลัง”

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวถึงเรื่องนี้เป็นเพราะเขายังต้องการวิญญาณสติปัญญาที่ฟางหยวนไม่ได้ขายให้เขาในธุรกรรมครั้งก่อนหน้า

“ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณวิญญาณของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งที่ทำให้ข้าสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติ ข้าจะคืนพวกมันให้ท่านเดี๋ยวนี้ วิญญาณเหล่านี้เป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง” ฟางหยวนนำวิญญาณจำนวนมากออกมาจากมิติช่องว่างของเขา

“แน่นอน ด้วยความช่วยเหลือจากพวกมัน ภัยพิบัติพิภพก็ไม่ต่างจากขนมหวานชิ้นหนึ่ง” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ฟางหยวนไม่ได้กล่าวความจริงทั้งหมดแต่เขาก็ไม่ได้โกหก เขารีบเปลี่ยนประเด็น “โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ มันมีประสิทธิภาพมาก แต่ชูตู๋กลับปรากฏตัวในตอนท้าย มันค่อนข้างน่ากลัว โชคดีที่ท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหวของข้าเหนือกว่าเขาเล็กน้อย”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาตรวจสอบวิญญาณและเก็บพวกมันกลับไปขณะเดียวกันก็ถามฟางหยวนอีกครั้ง “เจ้าจะไม่ขายภูเขาตงฮันกับวิญญาณสติปัญญาให้ข้าจริงๆงั้นหรือ?”

ในการทำธุรกรรมครั้งก่อน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเสนอสุดยอดมรดกที่แท้จริงทั้งสามเป็นของแลกเปลี่ยน

แต่หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนรู้สึกว่ามรดกทั้งสามยังไม่เหมาะสมกับแผนการในอนาคตของเขามากนัก

อย่างไรก็ตามท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติและวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขสามารถช่วยเหลือเขาได้มาก

ดังนั้นฟางหยวนจึงเลือกกล่าวบางคำเพื่อหลอกล่อจิตวิญญาณแผ่นดิน “ท่านต้องการแลกเปลี่ยนมรดกทั้งสามกับข้าจริงๆงั้นหรือ? มีวิญญาณอมตะมากมายอยู่ในมรดกเหล่านี้ หากมอบพวกมันให้ข้า แล้วนิกายหลางหยาจะไม่ต้องใช้พวกมันในอนาคตเช่นนั้นหรือ?”

แท้จริงแล้วจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เต็มใจที่จะปล่อยพวกมันไปเช่นกัน

ตัวอย่างเช่นวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขที่บรรพชนผมยาวรีบหลอมรวมทันทีเมื่อเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต

หลังจากนั้นเป็นต้นมาวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขช่วยปกป้องแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจากภัยพิบัติและให้ความช่วยเหลือมากมายแก่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนก่อนหน้าในการหลอมรวมวิญญาณ

อย่างไรก็ตามหากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เสนอมรดกที่แท้จริงเหล่านี้ มูลค่าของมันจะต่ำเกินกว่าที่จะแลกเปลี่ยนกับสมบัติของฟางหยวน

ดังนั้นฟางหยวนจึงกระตุ้นอีกครั้ง “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง เนื่องจากเราทั้งคู่ไม่เต็มใจ เหตุใดเราไม่จัดการเพียงบางจุด?”

“อธิบายให้ชัดเจน” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม

ฟางหยวนกล่าวความตั้งใจของเขาแต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปฏิเสธ “ไม่มีทาง เจ้าต้องการส่วนสำคัญที่สุดของมรดกทั้งสามแต่เสนอเพียงภูเขาเหล่าโปให้ข้า นี่เป็นความสูญเสีย มันจะไม่เกิดขึ้น!”

ฟางหยวนยิ้มและเจรจาต่อไป

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่เก่งเรื่องเจรจา เขาจึงถูกล่อลวงโดยฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนขายหุบเขาเหล่าโปให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขณะที่เขาได้รับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข วิญญาณอมตะสมบัติเลือด และวิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด ทั้งสามเป็นวิญญาณอมตะระดับหก หนี้ของเขาถูกชำระล้าง เขายังสามารถยืมวิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากเพื่อแก้ไขจุดอ่อน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาสามารถเรียนรู้ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติและท่าไม้ตายอมตะคลื่นดาบสามชั้น

ท่าไม้ตายอมตะทั้งสองมีประโยชน์อย่างมากในการก้าวข้ามภัยพิบัติของฟางหยวน

อย่างไรก็ตามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังต้องการภูเขาตงฮันและวิญญาณสติปัญญา

ครั้งนี้เขาแสดงเจตจำนงที่จะซื้อพวกมันอีกครั้ง

แต่ฟางหยวนจะตกลงได้อย่างไร?

เขาไม่สามารถปฏิเสธจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างรุนแรงและเลือกถ้อยคำอย่างระมัดระวัง “ข้ายังไม่มีความตั้งใจที่จะขายพวกมัน แต่หากข้ามีปัญหาในอนาคต ข้าจะแลกเปลี่ยนกับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากำลังจะกล่าวแต่ฟางหยวนชิงโบกมือ “ข้าจะทิ้งสมบัติทั้งสองไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ข้าจะไม่นำพวกมันติดตัวไปด้วย ข้าจะให้นิกายยืมพวกมันตามข้อตกลงก่อนหน้านี้”

การฝากวิญญาณสติปัญญาไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหมายความว่าจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาต้องเลี้ยงดูมัน นี่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับฟางหยวน

สำหรับภูเขาตงฮันที่ดูดซับปราณพิภพตลอดเวลา มันจะดีกว่าหากไม่วางมันไว้ในมิติช่องว่างของเขา

สิ่งสำคัญก็คือนิกายเงารู้จักภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปเป็นอย่างดี หากพวกเขาใช้วิญญาณท่องแดนอมตะ พวกเขาจะสามารถเข้าไปในมิติช่องว่างของฟางหยวนได้โดยตรง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายังไม่ยอมแพ้ แต่ฟางหยวนคือผู้ใด เขาเป็นคนที่มีทักษะการเจรจาต่อรองเป็นเลิศ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาที่มีความคิดเรียบง่ายจะสามารถแข่งขันกับเขาได้อย่างไร

หลังจากสนทนาเป็นเวลานาน ฟางหยวนนำทรัพยากรจำนวนมากที่ฝากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไว้กลับคืน

ตัวอย่างเช่นอสรพิษเพลิง แมงมุมหน้าคน ปลามังกร และอื่นๆ

ตั้งแต่ต้นจนจบฟางหยวนไม่ได้ถามจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเกี่ยวกับการขายท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติแม้แต่คำเดียว

แล้วชูตู๋?

เขาเป็นเพียงแผนสำรองของฟางหยวน

แม้พวกเขาจะแลกเปลี่ยนวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลและสามารถติดต่อสื่อสาร แต่ธุรกรรมใดก็ตาม ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับอารมณ์ของฟางหยวน

สำหรับวิญญาณอมตะดาบบินระดับเจ็ด?

ฮ่าฮ่า มันเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับเจ็ดแต่ฟางหยวนกระทั่งเป็นเจ้าของวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า ดังนั้นมุมมองของเขาจึงแตกต่างออกไปโดยธรรมชาติ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเขาเสียวิญญาณอมตะเกือบทั้งมหดให้กับอิงอู๋เซี่ยเมื่อไม่นานมานี้

วิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบเพียงดวงเดียวจะสามารถเปรียบเทียบกับวิญญาณอมตะเหล่านั้นได้อย่างไร

ชูตู๋ไม่รู้ภูมิหลังของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงประเมินฟางหยวนต่ำเกินไป

โดยรวมมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่ฟางหยวนจะทำธุรกรรมกับชูตู๋

หลังจากทั้งหมดความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งสำคัญกับฟางหยวนมากกว่าวิญญาณอมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งดาบ

‘เพราะเส้นทางที่ข้ากำลังจะเดินไปหลังจากนี้คือเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง’

ฟางหยวนไตร่ตรองเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอย่างถี่ถ้วนแล้ว

เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!

นี่เป็นเส้นทางที่เหมาะสมกับเขามากที่สุดในเวลานี้

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท