เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1074

ตอนที่ 1074

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1074 สายลับเผยตัว

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนส่ายศีรษะและถอนหายใจ

ราคาของการให้อาหารวิญญาณสติปัญญาแพงเกินไป อาจมีเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเท่านั้นที่สามารถจ่าย

ฟางหยวนไม่ต้องการจ่ายด้วยอายุขัยของตนเอง กระทั่งเขาจะมีวิญญาณอายุยืน เขาก็จะใช้มันในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น

วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ แต่มันมีค่ายิ่งกว่าวิญญาณอมตะอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ

มีอุปสรรคสำคัญสองประการในการบ่มเพาะของผู้อมตะ หนึ่งคือภัยพิบัติ และสองคืออายุขัย

แม้แต่เทพอมตะและเทพปีศาจก็ถูกท้าทายโดยปัญหาสองข้อนี้

ย้อนกลับไปเหตุผลประการหนึ่งที่เทพอมตะตะวันเดือดสร้างวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงขึ้นมาก็เพราะต้องการรวบรวมวิญญาณอายุยืนทั้งหมดของภาคเหนือ

แม้เทพอมตะตะวันเดือดจะมีวิญญาณสติปัญญา แต่เขาก็ไม่สามารถใช้งานมัน เนื่องจากวิญญาณอายุยืนมีอยู่จำกัด อย่างไรก็ตามด้วยความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ เขาสามารถใช้มันอ้างอิงเพื่อเลียนแบบวิธีบนเส้นทางแห่งสายอื่น ดังนั้นวิญญาณสติปัญญาจึงไม่มีความสำคัญมากนัก

หลังจากเทพอมตะตะวันเดือดเสียชีวิต วิญญาณอายุยืนเริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง นั่นเป็นช่วงเวลาของเทพอมตะสวรรค์พิภพ

เขาค้นหาวิญญาณอายุยืนตลอดเวลาหลายปีในชีวิต แต่วิญญาณอายุยืนไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการของผู้คน

หลังจากเทพอมตะสวรรค์พิภพตาย วิญญาณอายุยืนก็ปรากฏขึ้นอีก ทุกๆสิบปีวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงจะดึงดูดวิญญาณอายุยืนเข้าไป นั่นทำให้วิญญาณสติปัญญาได้รับอาหารอย่างช้าๆและค่อยๆฟื้นตัวขึ้น

กระทั่งถึงวันที่ฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เพื่อรักษาชีวิตรอด วิญญาณสติปัญญาจึงติดตามฟางหยวนไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู สุดท้ายจึงมาจบลงที่แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

‘ก่อนหน้านี้ข้าใช้วิญญาณอายุยืนเพื่อหลอมรวมทะเลวิญญาณที่สอง นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นข้าได้รับวิญญาณอายุยืนมาจากนางมารผลาญสวรรค์ แต่ด้วยการกำเนิดใหม่ ข้าสูญเสียวิญญาณอายุยืนไป ตั้งแต่นางมารผลาญสวรรค์สามารถมอบให้ข้า นางย่อมมีวิญญาณอายุยืนมากกว่าหนึ่ง แต่นางตายไปแล้วในค่ายกลวิญญาณสุดยอดกายา ข้าสงสัยว่าวิญญาณอายุยืนจะถูกทำลายไปพร้อมกับนางหรือไม่? หือ…’

ฟางหยวนคิดก่อนที่จะตระหนักถึงบางสิ่ง

‘วิญญาณอายุยืนหาได้ยาก กระทั่งเทพอมตะหรือเทพปีศาจยังต้องการมัน นางมารผลาญสวรรค์ตายเพราะแผนการของเทพปีศาจจิตวิญญาณ ความมั่งคั่งทั้งหมดของนางย่อมถูกโอนถ่ายไปยังเทพปีศาจจิตวิญญาณเรียบร้อยแล้ว แม้แผนการของเขาจะล้มเหลว แต่ความมั่งคั่งที่เหลืออยู่ของนิกายเงาก็ไม่สามารถดูแคลน!’

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีวิญญาณอายุยืนอยู่จำนวนหนึ่ง พวกมันเป็นวิญญาณอายุยืนที่ถือกำเนิดขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่นานกว่าสามแสนปี มันเคยเป็นถ้ำสวรรค์มาก่อน ด้วยการคงอยู่ของคฤหาสน์วิญญาณหม้อหลอมรวม พื้นที่ของมันยิ่งขยายใหญ่ขึ้น

เผ่ามนุษย์ขนจำนวนมหาศาลอาศัยอยู่ที่นี่มานานหลายชั่วอายุคน ขณะที่วิญญาณอายุยืนเกิดจากการคงอยู่ของรูปแบบชีวิต

ที่ใดมีสิ่งมีชีวิต วิญญาณอายุยืนจะถือกำเนิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ประชากรจำนวนนับไม่ถ้วน และประวัติศาสตร์อันยาวนาน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงสามารถรวบรวมวิญญาณอายุยืนได้มากมาย

‘วิญญาณสติปัญญาพึ่งพาอายุขัยเพื่อปลดปล่อยพลังอำนาจ อาหารของมันก็ยังเป็นวิญญาณอายุยืน ดังนั้นตอนนี้ข้าควรปล่อยให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเลี้ยงดูมันไปก่อน’

ฟางหยวนรู้เจตนาของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโดยไม่จำเป็นต้องพิสูจน์

แต่นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะฟางหยวนไม่มีวิญญาณอายุยืน

นอกจากนั้นเขายังกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งต่อไปที่ใกล้เข้ามาและไม่มีเวลาสนใจเรื่องวิญญาณสติปัญญา

แม้วิญญาณสติปัญญาจะถูกนำมาโดยเขา แต่ฟางหยวนก็ไม่เคยให้อาหารมันแม้แต่ครั้งเดียว

ในความเป็นจริง จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถช่วยเหลือฟางหยวนได้มากในเรื่องนี้

‘ในกรณีที่วิญญาณสติปัญญายอมรับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา มันก็ยังเป็นเรื่องดี ด้วยสถานะของข้า ข้าสามารถยืมมือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อใช้งานวิญญาณสติปัญญา ข้าเพียงต้องจ่ายด้วยแต้มผลงานของนิกายเท่านั้น’

วิญญาณเป็นเพียงเครื่องมือ

การทำงานหนักทั้งหมดของเขาเพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่

การทดลองใช้วิญญาณสติปัญญาล้มเหลวแต่ฟางหยวนไม่รู้สึกผิดหวัง ก่อนจากไป เขาขอสิ่งหนึ่งกับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

มันเป็นวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลที่บันทึกภาพเหตุการณ์ระหว่างการหลอมรวมวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์

“การหลอมรวมวิญญาณครั้งนี้แปลกมาก ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทรงพลังเกินไป พวกเราประสบความสำเร็จเพราะโชคช่วย ฟางหยวน หากเจ้าพบสิ่งใด เจ้าต้องรีบบอกข้า” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวกับฟางหยวนก่อนที่เขาจะจากไป

“ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่พบสิ่ง ข้าก็คงเช่นกัน แต่ข้าจะทำอย่างดีที่สุด” ฟางหยวนตอบ ในความเป็นจริงเขาคาดเดาว่ามันเกี่ยวกับร่างใหม่ของเขา แต่เขาไม่บอกการคาดเดานี้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

นอกจากตรวจสอบภัยพิบัติ ฟางหยวนยังมีอีกเป้าหมายหนึ่ง เขาต้องการตรวจสอบนิกายหลางหยาและค้นหาสายลับที่ซ่อนอยู่

ตลอดมาฟางหยวนไม่เคยลืมเรื่องนี้

ก่อนหน้าสายลับสองคนเปิดเผยตัวออกมาโดยไม่คาดคิด นอกจากนั้นพวกเขายังรับหน้าที่สำคัญในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

‘นอกจากพวกเขา ยังมีสายลับคนอื่นอยู่อีกหรือไม่?’

ปัญหานี้เป็นเรื่องสำคัญต่อฟางหยวน หลังจากทั้งหมดเขาเข้าร่วมกับนิกายหลางหยาเรียบร้อยแล้ว ในอนาคตเขายังต้องพึ่งพาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอีกมาก

เขาต้องตรวจสอบแต่เขาไม่มีเวลากระทั่งถึงตอนนี้

หลังจากบินมาได้ระยะหนึ่ง ฟางหยวนเข้าใกล้ที่พักใหม่ของเขา

มันเป็นเมืองสีขาวขนาดใหญ่ที่มีหอคอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า

นี่คือเมืองเมฆา

ทวีปเมฆามีสิบสองเมือง แต่ละเมืองเป็นคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ เมื่อพวกมันทำงานพร้อมกัน พวกมันจะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทวีปเมฆาเอาไว้ทั้งหมด

เมืองเมฆาทั้งสิบถูกสร้างขึ้นจากหอคอยเมฆาทั้งสิบสอง

เมืองเมฆาที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนถูกมอบให้เขาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเพื่อให้เขาใช้อาศัยและปกป้องมัน ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆได้รับมอบหมายให้ปกป้องเมืองเมฆาในแต่ละเมืองเช่นกัน

ตามแผนการของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขาจะคัดเลือกมนุษย์ขนที่โดดเด่นจากสามทวีปด้านล่างขึ้นมาอาศัยอยู่ในเมืองเมฆาและฝึกฝนพวกเขา

ฟางหยวนบินเข้าไปในเมืองก่อนจะลงจอดบนพื้น

ผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนหลายคนเร่งต้อนรับการกลับมาของเขา

พวกเขาเป็นผู้ใช้วิญญาณที่ถูกคัดเลือกมาโดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาและส่งมอบให้ฟางหยวน พวกเขาตั้งใจปรนิบัติฟางหยวนและหวังว่าจะได้รับคำแนะนำในการบ่มเพาะจากเขา

ฟางหยวนไม่สนใจมนุษย์ขนเหล่านี้ แต่ผู้นำกลุ่มมนุษย์ขนบอกฟางหยวนว่าเจ้าเมืองที่หกมารอพบฟางหยวนและรออยู่ในห้องรับรองนานแล้ว

เจ้าเมืองที่หกก็คือผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน ผมที่หก เขาเป็นผู้ดูแลเมืองเมฆาลำดับที่หก

‘เหตุใดเขาจึงมาที่นี่?’

ฟางหยวนรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เขาไปที่ห้องรับรองและพบกับผมที่หก

“ข้า ผมที่หก ทักทายท่านเจ้าเมืองที่สอง ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการต่อสู้จากท่าน” ผมที่หกทักทายฟางหยวนอย่างสุภาพ

การแสดงออกของฟางหยวนไม่เปลี่ยนแต่สายตาของเขากลับเย็นเยียบ

ภายนอกผมที่หกกล่าวเสียงดังแต่เขาลอบส่งข้อมูลไปหาฟางหยวนอย่างลับๆ

“ฟางหยวน ข้าคือตัวแทนของท่านอิงอู๋เซี่ย พวกเราต้องการทำธุรกรรมกับเจ้า!”

อิงอู๋เซี่ย!

นิกายเงา!

ผมที่หกคือสายลับ!

ความคิดมากมายพุ่งเข้าสู่จิตใจของฟางหยวน

“พวกเราเป็นสมาชิกนิกายหลางหยาเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมากพิธี” ฟางหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มและแสดงออกอย่างอบอุ่น

เขาเชิญผมที่หกให้นั่งลงก่อนที่ตนเองจะนั่งบนเก้าอี้ของตนเอง

‘ผมที่หกเป็นสายลับ เขาเป็นสายลับคนเดียวในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาหรือไม่?’

‘เขาเป็นตัวแทนของอิงอู๋เซี่ย พวกเขาต้องการทำธุรกรรมใด?’

‘เกิดสิ่งใดขึ้นกับอิงอู๋เซี่ย เหตุใดเขาจึงติดต่อข้า?’

‘นี่เป็นกับดักหรือไม่? มันเป็นแผนการตรวจสอบของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหรือไม่?’

ฟางหยวนคิดเรื่องเหล่านี้ขณะนั่งลง

ดวงตาของเขาแหลมคมเหมือนใบมีดขณะมองผมที่หกด้วยเจตนาสังหาร เขาส่งข้อความเสียงไปหาผมที่หก “ผมที่หก ช่างกล้านัก! เจ้ากล่าวความจริงหรือไม่? หากมันเป็นเรื่องจริง ข้าจะส่งเจ้าให้ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเพื่อให้เขาตัดสิน!”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท