เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1070

ตอนที่ 1070

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1070 สังเวยตัวหมากเบี้ย

แปลโดย iPAT

ในภาคกลาง ผู้ใดกำลังอนุมานเกี่ยวกับอิงอู๋เซี่ย?

ความคิดแรกของอิงอู๋เซี่ยคือวังสวรรค์

กองกำลังอันดับหนึ่งของโลกผู้อมตะมาตั้งแต่ยุคบรรพกาล

มันเป็นกองกำลังที่เทพปีศาจสามคนยังไม่สามารถพลิกคว่ำ

กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ไม่พยายามโจมตีวังสวรรค์

ค่ายกลวิญญาณกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันการอนุมานจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาและเริ่มแสดงร่องรอยของการพังทลาย

‘ในเวลาอันสั้น ผู้ใดที่ทำให้ค่ายกลวิญญาณทำงานหนักถึงเพียงนี้? มีเพียงผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของวังสวรรค์เท่านั้นที่สามารถทำได้!’ การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยเปลี่ยนแปลงไป

อิงอู๋เซี่ยเป็นความหวังสุดท้ายของเทพปีศาจจิตวิญญาณ เขาตระหนักถึงภาระอันหนักหน่วงนี้

โดยปราศจากวิญญาณท่องแดนอมตะ เขาจะถูกไล่ล่าโดยผู้อมตะจำนวนมากของวังสวรรค์และอาจตกตายได้อย่างง่ายดาย

‘มันไม่เป็นไรหากข้าตาย แต่ร่างหลักของข้าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง สุดท้ายพวกเราจะตายไปจริงๆ!’

อิงอู๋เซี่ยพยายามปลุกขวัญกำลังใจของตนเองก่อนจะใช้พลังงานอมตะสนับสนุนค่ายกลวิญญาณ

ค่ายกลวิญญาณเริ่มเกิดเสถียรภาพมากขึ้น เสียงแตกร้าวเริ่มบางเบาลง

ด้วยการควบคุมจากผู้อมตะ พลังอำนาจของค่ายกลวิญญาณจะก้าวเข้าสู่อีกระดับหนึ่ง

ก่อนหน้านี้ค่ายกลวิญญาณไม่ได้ถูกควบคุมโดยอิงอู๋เซี่ยแต่มันยังสามารถต่อต้านการอนุมานของเทพธิดาจื่อเว่ย

ตอนนี้ด้วยการสนับสนุนของอิงอู๋เซี่ย มันจึงทรงพลังขึ้นมากกว่าสิบเท่า แต่สถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ยยังเลวร้ายลงเรื่อยๆ

เขาพึ่งฟื้นและอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก

เนื่องจากความล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณอมตะรวมถึงการใช้ท่าไม้ตายอมตะช่วยเพิ่มโชค จิตวิญญาณของเขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส

หลังจากตื่นขึ้น เขายังต้องควบคุมค่ายกลวิญญาณโดยไม่สามารถหยุดพัก เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะรักษาอาการบาดเจ็บของตน

อิงอู๋เซี่ยเริ่มรู้สึกมึนงงขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านและแทบจะสลบไปอีกครั้ง

“ไม่! ค่ายกลวิญญาณยากที่จะควบคุม พวกเราต้องต่อต้านการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา พลังจิตของข้าอยู่ในจุดต่ำสุด ข้าไม่สามารถต่อต้านได้อีกต่อไป!’

หัวใจของอิงอู๋เซี่ยจมดิ่งลง

“ซื่อหนิว! ไห่ลั่วหลัน!” อิงอู๋เซี่ยเรียกและบอกวิธีควบคุมค่ายกลวิญญาณให้กับคนทั้งสอง

หลังจากชั่วครู่เขาก็ไม่สามารถอดทนและสลบไปในที่สุด

“นายท่าน!” ซื่อหนิวภักดีมาก หลังจากเข้าควบคุมค่ายกลวิญญาณ เขาพบว่าสถานการณ์ของอิงอู๋เซี่ยไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงใช้ค่ายกลวิญญาณรักษาอิงอู๋เซี่ย

ไห่ลั่วหลันรับผิดชอบเรื่องการป้องกันการอนุมานของเทพธิดาจื่อเว่ย

สถานการณ์เริ่มดีขึ้นอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยตื่นขึ้นและถาม “ข้าสลบไปนานเท่าใด?”

ซื่อหนิวตอบ “สองวันสามคืน”

“การอนุมานหยุดลงหรือยัง?” อิงอู๋เซี่ยถามต่อ

“ไม่แม้แต่ครั้งเดียว” ไห่ลั่วหลันถ่ายทอดเสียง

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นมืดมน “อนุมานสองวันสามคืนโดยไม่หยุดพัก ฝ่ายตรงข้ามต้องเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของวังสวรรค์อย่างแน่นอน ความสามารถของคนผู้นี้ไม่ด้อยกว่าเจ้าวังคนก่อน ฮืม…วังสวรรค์…”

รากฐานของวังสวรรค์แข็งแกร่งเกินไป

มันถูกปกครองโดยเทพอมตะสามคนและมีผู้อมตะระดับแปดอีกนับไม่ถ้วน นิกายเงาอาจก่อตั้งมากนับแสนปี แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับวังสวรรค์

ด้วยการทำงานอย่างหนัก นิกายเงาสามารถส่งเหลียนจิวเฉิงเข้าไปเป็นสายลับในวังสวรรค์

แต่เหลียนจิวเฉิงยังไม่ได้รับข้อมูลของวังสวรรค์มากนัก

หลังจากทั้งหมดผู้อมตะของวังสวรรค์ส่วนใหญ่จะจำศีลและไม่ค่อยปรากฏตัว

อย่างไรก็ตามนิกายเงายังล่วงรู้หลายสิ่ง

ประการแรก วิญญาณชะตากรรมได้รับความเสียหายอย่างหนัก

ด้วยการใช้วิญญาณชะตากรรมระดับเก้าเป็นแกนกลาง วังสวรรค์สามารถใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับเก้าหอคอยดวงตาสวรรค์จับกุมผู้หลบหนีจากโชคชะตาของทั้งห้าภูมิภาครวมถึงสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ

ประการที่สอง ถ้ำสวรรค์ของวังสวรรค์ไร้ภัยพิบัติเพราะมันกลืนกินเศษชิ้นส่วนของสวรรค์เจ็ดชั้นเข้าไปเป็นจำนวนมาก

ประการสุดท้าย ผู้อมตะของวังสวรรค์ประสบความสำเร็จในการทำวิจัยมิติช่องว่างอมตะและได้รับข้อมูลในเชิงลึก กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณยังรู้สึกอัศจรรย์ใจ

ผู้อมตะของวังสวรรค์จะผสานมิติช่องว่างของพวกเขาเข้ากับถ้ำสวรรค์ของวังสวรรค์ เมื่อพวกเขาออกจากถ้ำสวรรค์ พวกเขาจะได้รับมิติช่องว่างภูตผีสำหรับจัดเก็บพลังงานอมตะและวิญญาณ

นี่เป็นหนึ่งในความลับสุดยอดของวังสวรรค์และเป็นผลงานของเทพอมตะแรกกำเนิด

หลังจากผู้อมตะระดับแปดผสานมิติช่องว่างของตนเข้ากับถ้ำสวรรค์ของวังสวรรค์ พวกเขาจะเป็นอิสระจากภัยพิบัติ พวกเขายังสามารถเข้าสู่การจำศีลเพื่อรักษาอายุขัยของตนเอง

วังสวรรค์ดำรงอยู่มาถึงสามล้านปี ถ้ำสวรรค์ของพวกเขาคือการหลอมรวมมิติช่องว่างของเทพอมตะสามคนตลอดจนผู้อมตะระดับแปดอีกนับไม่ถ้วน

ดังนั้นขนาดและทรัพยากรของถ้ำสวรรค์แห่งนี้จึงไม่สามารถคาดคำนวณ นี่ทำให้พวกเขาไม่ต้องพึ่งพาทรัพยากรของโลกภายนอก

ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามีผู้อมตะระดับแปดจำศีลอยู่ที่นั่นมากเท่าใด

แต่ทุกคนก็เข้าใจตรงกันว่ามันเป็นจำนวนที่น่าสะพรึงกลัวมาก

วิญญาณอายุยืนเป็นวิธียืดอายุที่ดีที่สุดมาตั้งแต่ยุคแรกกำเนิด แน่นอนว่าวิธีจำศีลของวังสวรรค์มีจุดอ่อนเช่นกัน แต่เหลียนจิวเฉิงยังไม่รู้จุดอ่อนดังกล่าว นี่เป็นหนึ่งในความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

หากเปรียบเทียบกับวังสวรรค์ นิกายเงายังอ่อนแอเกินไป พวกเขาไม่ต่างจากยอดภูเขาน้ำแข็งขณะที่กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นเพียงก้อนน้ำแข็งที่กระจายอยู่รอบๆ ในทางตรงข้ามวังสวรรค์ไม่ต่างจากมหาสมุทรที่โอบล้อมภูเขาน้ำแข็งเอาไว้ มันทั้งลึกและกว้างใหญ่

“นายท่าน พวกเราจะทำอย่างไรต่อไป?” ซื่อหนิวถาม

อิงอู๋เซี่ยจมลงสู่ความเงียบ

เขาต้องเค้นสมองคิด!

การอนุมานของเทพธิดาจื่อเว่ยเหมือนหอกที่คอยทิ่มแทงค่ายกลวิญญาณของอิงอู๋เซี่ย

แม้มันจะสามารถต่อต้านการอนุมาน แต่ด้วยสิ่งนี้ค่ายกลวิญญาณจึงไม่สามารถทำงานอื่น เพราะเพียงแค่ป้องกัน มันก็แทบจะถึงขีดจำกัดแล้ว

‘วังสวรรค์เล็งเป้ามาที่ข้า พวกเขาไม่เพียงต้องการกำจัดนิกายเงาแต่ยังไล่ล่าฟางหยวน ร่างกายของข้าเป็นร่างเดิมของฟางหยวน นี่เหมือนการปกป้องเขาจากภัยพิบัติ’

‘มันแปลกมากที่ข้าไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะ โชคของข้าดีมากแต่ข้ากลับล้มเหลว แม้โชคของข้าจะถูกแบ่งให้กับฟางหยวน สถานการณ์ของข้าก็ยังดีกว่าเขา แต่ข้าก็ยังล้มเหลว บางทีวิญญาณท่องแดนอมตะอาจถูกบางคนชิงหลอมรวมไปแล้ว หากเป็นเช่นนั้น มันก็น่าจะเป็นวังสวรรค์!’

ผมที่หกได้ส่งจดหมายขอโทษมายังอิงอู๋เซี่ย ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงเข้าใจสถานการณ์ของฟางหยวนอย่างชัดเจน

‘ดูเหมือนมีเพียงต้องสังเวยตัวหมากเบี้ยเพื่อช่วยราชาเท่านั้น!’

อิงอู๋เซี่ยตัดสินใจเสียสละเพื่อโอกาสในการหลบหนี

เทพธิดาจื่อเว่ยกำลังต่อสู้กับค่ายกลวิญญาณ ด้วยวิธีนี้อิงอู๋เซี่ยจะมีโอกาสหลบหนีออกจากภาคกลาง

กองกำลังที่เหลืออยู่ในภาคกลางของนิกายเงามีน้อยเกินไป การเดินทางไปยังภูมิภาคอื่นจะช่วยเขาได้มากกว่า

‘ข้าล้มเหลวในการหลอมรวมวิญญาณท่องแดนอมตะแต่ข้าเป็นผีดิบอมตะระดับหกในจุดต่ำสุด มันง่ายกว่าสำหรับข้าที่จะเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคหากเปรียบเทียบกับผู้อมตะระดับเจ็ดหรือแปด ตอนนี้ข้าต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเดินทางไปทั้งสี่ภูมิภาคและรวบรวมกองกำลังที่เหลืออยู่ของข้า แม้วังสวรรค์จะมีวิญญาณท่องแดนอมตะระดับหก แต่ผู้อมตะระดับแปดก็ไม่สามารถใช้มัน หอคอยดวงตาสวรรค์ถูกทำลายไปแล้ว พวกเขาไม่สามารถตามจับข้าได้อย่างง่ายดาย’

‘ข้าทำได้เพียงละทิ้งสถานที่แห่งนี้! เพื่อควบคุมค่ายกลวิญญาณ อย่างน้อยต้องใช้ผู้อมตะระดับหกสองคนหรือผู้อมตระดับเจ็ดหนึ่งคน…’

อิงอู๋เซี่ยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจละทิ้งซื่อหนิว เขาจะนำไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลันไปด้วย

ความภักดีไม่ใช่สาระสำคัญ แต่เหตุผลหลักคือเขาต้องเดินทางผ่านกำแพงภูมิภาคหลายครั้ง การบ่มเพาะระดับเจ็ดของซื่อหนิวจะกลายเป็นภาระ

ดังนั้นอิงอู๋เซี่ยจึงตัดสินใจสังเวยซื่อหนิว

ซื่อหนิวไม่คัดค้านเรื่องนี้ เขาภักดีมาก เขากระทั่งมอบวิญญาณและเผ่ามนุษย์หินของเขาให้กับอิงอู๋เซี่ย

มิติช่องว่างของอิงอู๋เซี่ยตายไปแล้ว เขาต้องเก็บเผ่ามนุษย์หินไว้ในมิติช่องว่างของไห่ลั่วหลันและปล่อยให้พวกมันใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น

ซื่อหนิวถูกทิ้งไว้เพื่อดึงดูดความสนใจของฝ่ายตรงข้ามขณะที่อิงอู๋เซี่ยนำไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงจากไปโดยมีเป้าหมายอยู่ที่กำแพงภูมิภาคที่ใกล้ที่สุด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท