เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1077

ตอนที่ 1077

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1077 ธุรกรรมกับนิกายเงา (2)

แปลโดย iPAT

“แล้วเราจะทำธุรกรรมอย่างไร? พวกเจ้าต้องการสิ่งใด?” ฟางหยวนถามด้วยการแสดงออกที่เป็นมิตร

“ฟางหยวน เรารู้ว่าเจ้ามีทรัพยากรอมตะมากมาย ทรัพยากรอมตะที่มาจากโลกใต้บาดาลมีปัญหา พวกมันเต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ พวกเราไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น แต่ทรัพยากรอมตะที่มาจากน้ำตกสวรรค์สามารถใช้ได้ นี่คือรายการสินค้าที่พวกเราต้องการ ลองดู” ผมที่หกส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับฟางหยวน

ฟางหยวนตรวจสอบก่อนพยักหน้า

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนจึงเปิดปากกล่าว “ข้ามีทรัพยากรอมตะเกือบทั้งหมด แต่ในฐานะสมาชิกหลักของนิกายหลางหยา ไม่ใช่ว่าเจ้าสามารถขอสิ่งเหล่านี้จากนิกายงั้นหรือ?”

ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “ตอนนี้แตกต่างออกไป จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาคนใหม่ไม่เหมือนก่อนหน้า ในนิกายหลางหยา ทุกอย่างต้องใช้แต้มผลงาน หากข้าต้องการสมบัติบางอย่าง ข้าต้องใช้แต้มผลงานในการแลกเปลี่ยน แต่แต้มผลงานของข้ามีไม่พอกับความต้องการของท่านอิงอู๋เซี่ย”

“เจ้าพูดถูก” ฟางหยวนพยักหน้าก่อนถาม “ข้าสามารถมอบทรัพยากรเหล่านี้ แต่เจ้าจะส่งให้อิงอู๋เซี่ยอย่างไร? สวรรค์สีเหลืองปิดในเวลานี้”

อิงอู๋เซี่ยขายวิญญาณอมตะและทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น แน่นอนว่าฟางหยวนรู้เรื่องนี้

ผมที่หกกล่าวต่อ “สวรรค์สีเหลืองไม่สามารถใช้งาน แต่เรามีวิธีส่งทรัพยากรเหล่านี้ไปให้ท่านอิงอู๋เซี่ย กองกำลังพันธมิตรผีดิบเป็นกองกำลังย่อยของนิกายเงา ก่อนการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ปีศาจอมตะเซี่ยหูจับตัวผีดิบอมตะสุดยอดกายาสายฟ้าแห่งความรุ่งโรจน์ ดังนั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบจึงสร้างสุดยอดค่ายกลวิญญาณเพื่อเชื่อมต่อทั้งห้าภูมิภาค”

“เดิมทีข้าคิดว่ามันเป็นเพียงข้องอ้างเพื่อปิดบังแผนการของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแต่มันกลับเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?” ฟางหยวนประหลาดใจเล็กน้อย

ผมที่หกเผยรอยยิ้มขมขื่น “นี่เป็นเรื่องจริง การบูชายัญกองกำลังพันธมิตรผีดิบเพื่อหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะไม่ได้อยู่ในแผนการเดิมของนิกายเงา แต่ในเวลานั้นเราไม่มีทางเลือก กองกำลังพันธมิตรผีดิบมีประโยชน์มาก หากเป็นไปได้เราจะเก็บพวกเขาเอาไว้”

ฟางหยวนพยักหน้า

เขาคิดถึงช่วงเวลาห้าร้อยปีในชีวิตแรก ระหว่างช่วงเวลาเหล่านั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบยังอยู่ แต่การกำเนิดใหม่ของฟางหยวนทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้กองกำลังพันธมิตรผีดิบเหลือเพียงความว่างเปล่า ผีดิบอมตะส่วนใหญ่ถูกใช้เป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ

กระทั่งถึงเวลานี้ทั้งห้าภูมิภาคยังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายเพราะมัน

หลังจากทั้งหมดกองกำลังพันธมิตรผีดิบครอบครองทรัพยากรจำนวนมหาศาล

ทรัพยากรเหล่านี้กลายเป็นไร้เจ้าของ ผู้อมตะและกองกำลังใหญ่ต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงพวกมัน

‘ดูเหมือนในช่วงชีวิตแรกของข้า นิกายเงาจะประสบความสำเร็จจริงๆ การดำรงอยู่ของกองกำลังพันธมิตรผีดิบสามารถพิสูจน์เรื่องนี้ วังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาส่งผลให้ฟงจิวเก้อเสียชีวิต แต่มันยังน่าสงสัย นิกายเงามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แต่พวกเขากลับปล่อยให้มันตกอยู่ในกำมือของวังสวรรค์แทนที่จะเก็บไว้เอง’

ฟางหยวนคิดและรู้สึกว่ามีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่เบื้องหลัง

‘ความลับของโลกใบนี้ถูกซ่อนไว้ลึกเกินไป ตัวตนในตำนานปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่องและวางแผนต่อต้านกันเอง พวกเขาเหมือนดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่อยู่บนท้องฟ้า หากเปรียบเทียบ ข้ายังไม่ถือว่าโดดเด่น ฮ่าฮ่า แต่ก็เพราะเหตุนี้ มันจึงยิ่งน่าสนใจมิใช่หรือ? ฮ่าฮ่าฮ่า’

ฟางหยวนคิดและรู้สึกมีความสุข

มุมปากของเขายกตัวขึ้นเล็กน้อย

ผมที่หกไม่เข้าใจ เขาคิด ‘เขายิ้มเพราะเหตุใด? แล้วเหตุใดข้าถึงรู้สึกไม่ดี…’

ฟางหยวนมองผมที่หกด้วยสายตาแหลมคมก่อนกล่าว “เช่นนั้นข้าจะได้รับสิ่งใดเป็นการแลกเปลี่ยน?”

“วิญญาณอมตะ” ผมที่หกตอบ

“น่าสนใจ น่าสนใจ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง

วิญญาณอมตะดวงใดที่อิงอู๋เซี่ยจะนำออกมาแลกเปลี่ยน? แน่นอนว่ามันต้องเป็นวิญญาณอมตะของฟางหยวน!

ขายวิญญาณอมตะคืนให้กับเจ้าของ นี่เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง

กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกว่าความคิดของอิงอู๋เซี่ยดีมาก

ในโลกใบนี้ ผู้ใดจะต้องการวิญญาณอมตะเหล่านั้นมากไปกว่าฟางหยวน? หากมี มันก็มีไม่มาก

สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขายังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับตนเอง ดังนั้นวิญญาณอมตะเหล่านี้จึงมีค่ากับฟางหยวนมากกว่าผู้ใด

เพราะความแตกต่างของแต่ละเส้นทางและพลังงานแห่งเต๋าที่อาจขัดแย้งกัน มันจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้อมตะจะใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางสายอื่น เว้นเพียงพวกเขาจะใช้มันเป็นส่วนประกอบของท่าไม้ตายอมตะ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่หาได้ยากเช่นกัน

สามารถกล่าวได้ว่าฟางหยวนเป็นลูกค้าที่ดีที่สุด ไม่เพียงเขาจะเคยใช้วิญญาณอมตะเหล่านั้นมาก่อน แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขามีกำลังซื้อ!

เกี่ยวกับวิธีขนส่งวิญญาณอมตะ พวกเขาจะใช้ค่ายกลวิญญาณของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ

ฟางหยวนยิ้ม “วิญญาณอมตะของข้าเหลือกี่ดวง? ไม่เพียงข้าจะต้องการซื้อพวกมัน ข้ายังต้องการซื้อวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า และวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า”

ผมที่หกพิจารณาก่อนจะพยักหน้า “ข้าสามารถตัดสินใจเรื่องนี้และตกลง”

อิงอู๋เซี่ยเซี่ยควบคุมไท่เป่ยหยุนเฉิงกับไห่ลั่วหลัน เขาสามารถบังคับให้คนทั้งสองส่งมอบวิญญาณอมตะเหล่านี้ สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือการหลบหนี ส่วนเรื่องอื่นเป็นเพียงเรื่องรอง

ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง “พวกเราจะแลกเปลี่ยนกันหนึ่งต่อหนึ่ง นำวิญญาณอมตะของพวกเจ้ามา แล้วข้าจะจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะ”

ผมที่หกแสดงออกด้วยความหนักใจ “กล่าวตามตรง มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยก่อนที่เจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะ เจ้าย่อมเข้าใจสถานการณ์ของทั้งห้าภูมิภาค กองกำลังพันธมิตรผีดิบตกเป็นเป้าหมายของทุกฝ่าย หากเมืองคลื่นทมิฬไม่จมลงสู่โลกใต้บาดาล มันคงถูกยึดครองไปนานแล้ว ค่ายกลวิญญาณถูกจัดตั้งอยู่ในเมืองคลื่นทมิฬ มันต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อให้ข้านำวิญญาณอมตะมาที่นี่ แต่ก่อนหน้านั้นข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถจัดเตรียมทรัพยากรอมตะให้เราก่อนเพราะพวกเราต้องการใช้พวกมันหลอมรวมวิญญาณ ยิ่งเร็วยิ่งดี ท่านอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายและไม่รู้ว่าจะอดทนได้นานเท่าใด”

ฟางหยวนลอบเย้ยหยันอยู่ภายใน ‘ผมที่หกกำลังกล่าวความจริงและเท็จในเวลาเดียวกัน มันง่ายมาก เขากล่าวว่าอิงอู๋เซี่ยกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เขายังบอกอีกว่าอิงอู๋เซี่ยสามารถอดทนได้อีกสักพัก”

ฟางหยวนปฏิเสธเสียงแข็ง “นั่นเป็นไปไม่ได้ หากข้าจ่ายทรัพยากรอมตะและเจ้าไม่ส่งมอบวิญญาณอมตะให้ข้า ข้าจะไม่กลายเป็นคนโง่งั้นหรือ?”

“ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าเตรียมท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อผูกมัดทั้งสองฝ่ายเอาไว้แล้ว พวกเราไม่สามารถทำลายข้อตกลง” ผมที่หกแสดงออกอย่างจริงใจ

ฟางหยวนหัวเราะและโบกมือ “อย่าพูดกับข้าเรื่องวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล ข้าไม่เชื่อ! ตั้งแต่พวกเจ้าสามารถกำหราบไห่ลั่วหลัน พวกเจ้าก็ต้องมีวิธีลบข้อตกลงพันธมิตรที่สร้างขึ้นจากวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลถูกต้องหรือไม่? ข้าไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งข้อมูล แล้วข้าจะโง่พอที่จะทำข้อตกลงด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูลกับพวกเจ้าได้อย่างไร?”

“นี่…” ผมที่หกลังเล

เขาเข้าใจความคิดของฟางหยวน หากเป็นเขา เขาก็จะไม่ทำข้อตกลงใดๆกับนิกายเงาเช่นกัน

“เช่นนี้เป็นอย่างไร?” ผมที่หกเสนอความคิดใหม่ “ข้าจะใช้ข้อมูลเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเพื่อให้เจ้าส่งมอบทรัพยากรอมตะออกมาก่อน ข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากสำหรับเจ้า ฟางหยวน เจ้าไม่ต้องการรู้ขอบเขตของเจตจำนงสวรรค์เช่นนั้นหรือ? นิกายเงาของเรามีประสบการณ์ในการตอบโต้เจตจำนงสวรรค์ มันยังเกี่ยวกับปีศาจต่างโลกรวมถึงข้อมูลของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เจ้าไม่ต้องการพวกมันงั้นหรือ?”

ฟางหยวนถูกล่อลวง

เจตจำนงสวรรค์!

หลังจากตระหนักว่าเจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดเขา แล้วฟางหยวนจะสามารถเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ได้อย่างไร? ในโลกใบนี้ผู้ใดจะรู้จักเจตจำนงสวรรค์ดีไปกว่านิกายเงา?

หากนิกายเงาไม่ให้ข้อมูลแก่เขา ฟางหยวนก็จะถูกทิ้งไว้ในความมืดไปอีกนาน

สำหรับข้อมูลของปีศาจต่างโลก ฟางหยวนอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน เขาอยากรู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงมาอยู่ที่นี่? แล้วยังมีปีศาจต่างโลกคนอื่นๆอยู่ที่นี่อีกหรือไม่? หากมี พวกเขามาจากโลกใบใด? เหตุใดปีศาจต่างโลกจึงสามารถเปลี่ยนอดีต?

และข้อมูลเกี่ยวกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่มาถึงสามแสนปี มีความลับใดบ้างที่ซ่อนอยู่? นี่เป็นเรื่องสำคัญมากที่จะช่วยให้ฟางหยวนยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้ในอนาคต

ข้อมูลเหล่านี้ล้ำค่ามากและล้วนเป็นประโยชน์ต่อฟางหยวน

ในจังหวะนี้สภาพแวดล้อมกลายเป็นเงียบงัน ไม่มีฝ่ายใดเปิดปากกล่าว

ฟางหยวนตกอยู่ในห้วงแห่งความคิด

ผมที่หกรอคอยอย่างสงบแต่เขามั่นใจมากว่าฟางหยวนจะตอบตกลง หลังจากทั้งหมดข้อมูลเหล่านี้มีค่ามากเกินไป

แน่นอนว่าหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์นี้ ผมที่หกจะไม่บอกสิ่งใดกับฟางหยวนทั้งสิ้น

ฟางหยวนถาม “ข้าไม่เข้าใจบางสิ่ง เมื่อมันเป็นสุดยอดค่ายกลวิญญาณขนาดใหญ่ เหตุใดอิงอู๋เซี่ยไม่ใช้มันหลบหนีโดยตรง?”

ผมที่หกอธิบาย “ค่ายกลวิญญาณสามารถขนส่งทรัพยกรอมตะเท่านั้น ร่างผีดิบอมตะถูกพิจารณาว่าเป็นทรัพยากรอมตะแต่มันไม่สามารถขนส่งมิติช่องว่าง อาจมีวิธีการบางอย่างบนโลกใบนี้ แต่มันหาได้ยาก ตัวอย่างเช่นวิญญาณท่องแดนอมตะ แต่มันมีเพียงหนึ่งเดียว สำหรับประตูแห่งดวงดาว มันมีข้อจำกัดมากเกินไปและไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเข้าไปในมิติช่องว่างของผู้อื่น”

นิกายเงารู้จักประตูแห่งดวงดาวเพราะฟางหยวนใช้มันหลายครั้งเพื่อเดินทางเข้าออกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

เป็นเรื่องยากในการขนส่งผู้อมตะเพราะพวกเขามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอยู่บนร่างกาย

ย้อนกลับไปฟางหยวนใช้มิติช่องว่างที่ตายไปแล้วเก็บวิญญาณสติปัญญาระดับเก้าขณะที่ร่างกายของเขาเป็นผีดิบอมตะในจุดต่ำสุดของระดับหก ด้วยวิธีนี้เขาจึงสามารถใช้ประตูแห่งดวงดาวหรือวิญญาณท่องแดนอมตะในการเดินทาง

แต่เขาไม่สามารถเก็บวิญญาณสติปัญญาไว้ในมิติช่องว่างของตนได้เป็นเวลานานและต้องปล่อยมันไว้ในแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

สำหรับผู้อมตะระดับแปด พวกเขามีวิธีการเดินทางข้ามภูมิภาคของพวกเขาเอง

มันคือการเดินทางผ่านสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเช่นหอคอยดวงตาสวรรค์ที่นำกลุ่มผู้อมตะจากวังสวรรค์เดินทางไปยังภาคใต้ผ่านสวรรค์สีขาว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท