เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1083

ตอนที่ 1083

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1083 ให้อาหารวิญญาณอมตะ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

ความสนใจส่วนใหญ่ของฟางหยวนอยู่ที่มิติช่องว่างของเขา

วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากบินไปรอบๆและนำผลไม้ธารแสงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

หลังจากไตร่ตรอง ฟางหยวนเลือกเก็บผลไม้ธารแสงไว้บนสวรรค์ชั้นสูงสุด

“แม้จะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งห้วงมิติอยู่บ้าง ข้าก็ยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตา นี่คือความแตกต่างระหว่างผู้อมตะกับจิตวิญญาณแผ่นดิน”

“มิติช่องว่างจักรพรรดิกว้างใหญ่เกินไป ดูเหมือนข้าต้องสร้างค่ายกลวิญญาณประเภทขนส่งเพื่อความสะดวกในการขนย้ายทรัพยากรและปรับโครงสร้างต่างๆ”

ผลไม้ธารแสงระเบิดขึ้นบนสวรรค์น้อยและกลายเป็นแสงออโรร่าหลากหลายสีสัน

เหตุผลที่ฟางหยวนรวบรวมผลไม้ธารแสงเพราะเขาต้องการให้อาหารวิญญาณทัศนคติ แต่เหตุใดเขาจึงระเบิดผลไม้ธารแสงเหล่านี้?

แม้ฟางหยวนจะมีผลไม้ธารแสงจำนวนไม่น้อย แต่มันยังห่างไกลจากความต้องการของวิญญาณทัศนคติ

วิญญาณทัศนคติเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด มันต้องการผลไม้ธารแสงจำนวนมหาศาล แต่หลังจากได้รับอาหาร มันจะอยู่ได้อีกนาน

นี่เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการให้อาหารวิญญาณอมตะ

ยิ่งวิญญาณระดับสูงเท่าใด ความต้องการอาหารของพวกมันก็ยิ่งมากเท่านั้น ยิ่งพวกมันกินมากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งอยู่ได้นานเท่านั้น

ผลไม้ธารแสงเป็นอาหารของวิญญาณทัศนคติ ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องการสร้างผลไม้ธารแสงขึ้นมาด้วยตนเอง

เขาใช้ผลไม้ธารแสงแปดสิบส่วนเลี้ยงวิญญาณทัศนคติและใช้อีกยี่สิบส่วนสร้างแสงออโรร่าที่เป็นต้นกำเนิดของผลไม้ธารแสงตามธรรมชาติ

“เดิมทีแต้มผลงานของข้ามีไม่มาก แต่หลังจากให้คำชี้แนะแก่ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงมอบแต้มผลงานให้กับข้า นี่ทำให้ข้าสามารถรวบรวมผลไม้ธารแสงจำนวนมาก”

“ต่อไปข้าต้องนำวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งแสงมาวางไว้ที่นี่เพื่อทำให้แสงออโรร่าเหล่านี้เติบโตขึ้น”

วิญญาณประกายแสงจะช่วยรักษาและสนับสนุนแสงออโรร่าเหล่านี้ ฟางหยวนยังต้องหาอาหารให้กับพวกมัน

อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ไม่มีในคลังสมบัติของนิกายหลางหยา ฟางหยวนต้องรอจนกว่าสวรรค์สีเหลืองจะเปิด

“วิญญาณประกายแสงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการผลิตแสงออโรร่าแต่ประสิทธิภาพของมันยังไม่สูงมากนัก”

“มีผู้อมตะบางคนขายผลไม้ธารแสงในสวรรค์สีเหลือง ข้าจำได้ว่าผู้อมตะกังเซี่ย ผู้อมตะชิงฮุ้ยซื่อ และเทพธิดาไคเซี่ยมีข้อมูลเกี่ยวกับมัน บางทีข้าอาจขอซื้อข้อมูลจากพวกเขา แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการอารมณ์ของพวกเขา”

ยังมีเวลาอีกค่อนข้างนานก่อนที่วิญญาณทัศนคติจะต้องการอาหารอีกครั้ง

ฟางหยวนกำลังวางแผนสำหรับอนาคต

ตอนนี้สถานการณ์ของเขาค่อนข้างดี แม้เขาจะได้รับวิญญาณอมตะจำนวนมากมาอย่างกะทันหัน แต่มันยังไม่ถึงเวลาให้อาหารวิญญาณอมตะส่วนใหญ่

สำหรับภัยพิบัติครั้งที่สอง ยังมีเวลาอีกระยะหนึ่ง

ในช่วงเวลานี้ฟางหยวนตั้งใจจัดการมิติช่องว่างของเขา

“ข้าเตรียมพร้อมสำหรับการให้อาหารวิญญาณทัศนคติเรียบร้อยแล้ว แต่วิญญาณทัศนคติไม่ใช่ของข้า ยังมีเจตจำนงของไห่ลั่วหลันอยู่ภายใน ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าไห่ลั่วหลันทรยศข้อตกลงพันธมิตรและเข้าร่วมกับอิงอู๋เซี่ย ด้วยเหตุนี้ข้อผูกมัดบนเส้นทางแห่งข้อมูลของข้าก็ถูกทำลายเช่นกัน”

“นั่นหมายความว่าตอนนี้ข้าสามารถปรับแต่งวิญญาณทัศนคติและทำให้มันเป็นของข้าอย่างสมบูรณ์!”

วิญญาณทัศนคติเป็นผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฟางหยวน

กระทั่งตัวเขาเองยังไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้

แต่การปรับแต่งวิญญาณทัศนคติไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะวิญญาณทัศนคติไม่ใช่วิญญาณป่า นอกจากนั้นมันยังเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดขณะที่ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับหก

การปรับแต่งวิญญาณอมตะระดับแปดของผู้อื่นไม่เพียงเป็นเรื่องยากแต่เจ้าของเดิมอาจระเบิดทำลายวิญญาณอมตะของพวกเขาได้เสมอหากผู้ปรับแต่งไม่จัดการอย่างถูกต้อง

“แต่ข้ามีวิธีปรับแต่งวิญญาณอมตะของผู้อื่น ค่ายกลวิญญาณที่ข้าสร้างขึ้นก่อนหน้านี้ ข้าจะตั้งชื่อมันว่าค่ายกลปรับแต่งวิญญาณแห่งปัญญา”

ฟางหยวนตั้งชื่ออย่างง่ายๆ

ก่อนหน้านี้ในการปรับแต่งวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งดาบของโป้ชิง เขาใช้แสงแห่งปัญญาและวิญญาณอมตะบางดวงเพื่อสร้างค่ายกลปรับแต่งวิญญาณแห่งปัญญา

อย่างไรก็ตามตอนนี้วิญญาณสติปัญญาไม่ตอบสนองต่อฟางหยวน นั่นหมายความว่าเขาไม่สามารถใช้แสงแห่งปัญญา แล้วเขาจะใช้ค่ายกลปรับแต่งวิญญาณแห่งปัญญาได้อย่างไร?

เพื่อกระตุ้นแสงแห่งปัญญา ดวงวิญญาณของฟางหยวนต้องอยู่ในร่างเดิม

ดังนั้นแผนการปรับแต่งวิญญาณทัศนคติจึงต้องเลื่อนออกไป

แผนต่อไปของเขาคือให้อาหารวิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญา

วิญญาณอมตะดวงนี้คล้ายวิญญาณทัศนคติ มันเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดที่อยู่บนเส้นทางแห่งดาบและเส้นทางแห่งปัญญา

ดาบแห่งปัญญาสามารถตัดความรัก!

ในอดีตโป้ชิงเคยใช้มันตัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปัญญาที่เกิดจากวิญญาณความรักบนร่างกายของตนและหักหลังเทพธิดาโม่เหยา

วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โป้ชิงสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ของตน

ตอนนี้มันถูกปรับแต่งโดยฟางหยวนเรียบร้อยแล้ว แต่ยังเป็นเรื่องยากที่จะใช้งานมันในปัจจุบัน

มันยากที่ฟางหยวนจะกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะระดับเจ็ด แต่การพึ่งพาพลังงานอมตะระดับหกกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะระดับแปด มันยิ่งยากกว่าอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ

วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญาต้องใช้พลังงานอมตะระดับแปด

จากจุดนี้สามารถมองเห็นความโดดเด่นของวิญญาณทัศนคติได้อย่างชัดเจน

วิญญาณทัศนคติเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดแต่มันต้องการเพียงพลังจิตและอนุญาตให้ผู้อมตะระดับหกใช้งานได้อย่างอิสระ นี่ทำให้มันควรค่าแก่การเป็นตำนาน

“วิญญาณอมตะดาบแห่งปัญญากินจักรพรรดิบุปผาหลากสีเป็นอาหาร”

“ดอกไม้ชนิดนี้มีขนาดใหญ่โตมาก มันจะเติบโตขึ้นในสภาพแวดล้อมพิเศษ เงื่อนไขแรกคือต้องมีแสงสว่างเข้มข้น ต่อมาคือกลิ่นหอมหวาน และสุดท้ายดินมุก”

มันเป็นสมบัติที่หายากกว่าผลไม้ธารแสงมาก

ผลไม้ธารแสงเป็นทรัพยากรอมตะระดับหกขณะที่จักรพรรดิบุปผาหลากสีเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด

หากฟางหยวนต้องการปลูกมัน เขาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขสามข้อคือแสงสว่าง กลิ่นหอมหวาน และดินมุก

เรื่องแสงสว่างค่อนข้างยาก

มิติช่องว่างของฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงเพียงหนึ่งร้อยร่องรอย มันมีแสงอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่ค่อนข้างมืดสลัวราวกับมิติช่องว่างที่ตายไปแล้วของร่างผีดิบอมตะ

แสงเพียงเท่านี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของจักรพรรดิบุปผาหลากสี

แม้เขาจะมีผลไม้ธารแสงที่กลายเป็นแสงออโรร่า แต่หากเขาใช้งานมัน แผนการบ่มเพาะผลไม้ธารแสงจะถูกทำลายเนื่องจากแสงออโรร่าจะถูกดูดกลืนโดยจักรพรรดิบุปผาหลากสี

ทางออกที่ดีที่สุดคือการเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงในมิติช่องจักรพรรดิ

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจะเพิ่มปริมาณแสงสว่างในมิติช่องว่างของผู้อมตะ โดยปกติแล้วพวกเขาจะค่อยๆสะสมมันอย่างช้าๆ

แต่สำหรับฟางหยวน เขาสามารถสะสมร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงได้ในระยะเวลาสั้นๆ วิธีการก็คือการก้าวข้ามภัยพิบัติบนเส้นทางแห่งแสงหรือสังหารผู้อมตะบนเส้นทางแห่งแสงเพื่อดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงจากพวกเขา

ย้อนกลับไปฟางหยวนสามารถสังหารผู้อมตะฉีช่ายและดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งพลังปราณจากเขา

เงื่อนไขเกี่ยวกับแสงถือเป็นเรื่องยากที่สุด สำหรับกลิ่นหอมหวานและดินมุก เขาสามารถหาซื้อจากสวรรค์สีเหลือง

แน่นอนว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่มีพวกมัน

แผนการดังกล่าวเป็นเพียงแผนการใช้อาหารวิญญาณทัศนคติและวิญญาณดาบแห่งปัญญา แต่มันยังต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก

โชคดีที่อาหารของวิญญาณสติปัญญาอยู่ในความรับผิดชอบของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

อาหารของวิญญาณสติปัญญาคือวิญญาณอายุยืน

เกี่ยวกับสิ่งนี้ ฟางหยวนไม่กล้าแม้แต่จะคิด

เพราะกระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่สามารถกินสิ่งนี้

“แผนการให้อาหารวิญญาณทัศนคติและวิญญาณดาบแห่งปัญญาได้รับการจัดการแล้ว ต่อไปเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด วิญญาณเปลี่ยนวิญญาณ วิญญาณคิ้วดาบ วิญญาณคลื่นดาบ วิญญาณดาบทะลวงมิติ และวิญญาณเรียกภัยพิบัติ”

ฟางหยวนเลี้ยงวิญญาณเรียกภัยพิบัติด้วยเลือดอสรพิษหกเศียรเรียบร้อยแล้ว

อสรพิษหกเศียรเป็นสัตว์อสูรเดียวดายที่มีหกหัว ฟางหยวนเคยซื้อซากศพของมันมาจากสวรรค์สีเหลือง แต่ตอนนี้เขาต้องวางแผนระยะยาว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเพาะเลี้ยงอสรพิษหกเศียรไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

สำหรับวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงอื่น ฟางหยวนต้องวางแผนดูแลพวกมันอย่างระมัดระวังเช่นกัน

ฟางหยวนยังไม่ลืมวิญญาณอมตะดาบบินระดับเจ็ดที่อยู่กับจักรพรรดิอมตะชูตู๋

แต่ด้วยเหตุนี้ปัญหาการให้อาหารวิญญาณอมตะดาบบินจึงตกเป็นของชูตู๋

จักรพรรดิอมตะชูตู๋ต้องการวิธีกระตุ้นความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งจากฟางหยวน แล้วเขาจะปล่อยให้วิญญาณอมตะดาบบินอดอาหารตายเช่นนั้นหรือ?

เกี่ยวกับเรื่องนี้ สามารถพิจารณาได้ว่าชูตู๋ช่วยลดภาระให้กับฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท