เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1096

ตอนที่ 1096

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1096 จันทราหิมะบุปผาวายุ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนในชุดคลุมขาวค่อยๆบินลงไปยังภาคเหนือน้อยในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

เขาวางแผนที่จะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพที่นี่อีกครั้ง

พื้นที่อื่นมีทรัพยากรวางอยู่ ส่วนภาคเหนือน้อยมีเพียงแดนน้ำแข็งที่ไม่สำคัญ อสูรหิมะที่เต็มไปด้วยเจตจำนงสวรรค์ถูกกำจัดไปแล้ว

มิติช่องว่างจักรพรรดิมีขนาดใหญ่มากแต่เป้าหมายของภัยพิบัติมีเพียงฟางหยวนเท่านั้น

ดังนั้นภัยพิบัติจะเกิดขึ้นในสถานที่ที่เขาอยู่

ขั้นแรกเขาตรวจสอบความพร้อมของตนเอง

มีวิญญาณจำนวนมากอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณที่เกี่ยวข้องกับท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ

นอกจากนั้นยังมีภูเขาตงฮันที่อยู่เคียงข้างฟางหยวน

ตอนนี้ภูเขาตงฮันดูต่างไปจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ฟางหยวนทำเช่นนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกใช้วิญญาณท่องแดนอมตะเข้ามาที่นี่ระหว่างภัยพิบัติ

หากฟางหยวนไม่มีวิญญาณยกภูเขาและวิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า เขาจะไม่นำภูเขาตงฮันติดตัวมาด้วย

แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป

ด้วยวิญญาณยกภูเขา ฟางหยวนสามารถนำภูเขาตงฮันเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิด้วยตนเอง หากเขาต้องขอความช่วยเหลือจากผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆ ไม่เพียงเขาจะสูญเสียแต้มผลงาน เขายังต้องนำผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิและเปิดเผยความลับอันยิ่งใหญ่ของเขา

ด้วยวิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า เขาไม่จำเป็นต้องกลัวว่าภูเขาตงฮันจะถูกทำลายในภัยพิบัติ

หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนยืนยันว่าการเตรียมการของเขาไม่มีปัญหา

ทันใดนั้นปราณสวรรค์พิภพปริมาณมหาศาลก็พุ่งเข้ามาในมิติช่องว่างจักรพรรดิและสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ขึ้น

‘ครั้งนี้มีภูเขาตงฮันอยู่ที่นี่ ปราณสวรรค์พิภพที่เข้ามาจึงมากกว่าครั้งก่อน’

ปราณสวรรค์พิภพพุ่งเข้ามาอย่างดุเดือด ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณจำนวนมากที่อยู่นอกมิติช่องว่างจักรพรรดิ

เขาเคยทำสิ่งนี้มาแล้วเพราะมันก็คือท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ

ประการแรก ท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติจะช่วยลดความรุนแรงของภัยพิบัติลดลง

ประการที่สอง มันสามารถดึงดูดความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

ครั้งนี้เขายังปรับเปลี่ยนท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติเล็กน้อย

การปรับเปลี่ยนนี้เป็นหนึ่งในการเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติของฟางหยวน

แม้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมของเขาจะไม่สูงนัก แต่เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา การดัดแปลงเล็กๆน้อยๆไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตราบเท่าที่เขายังค้นคว้าต่อไป ฟางหยวนมั่นใจว่าเขาจะสามารถดัดแปลงท่าไม้ตายนี้ให้เหมาะกับตนเองมากที่สุด

ท้ายที่สุดฟางหยวนไม่สามารถพึ่งพาจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้ทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ การยืมวิญญาณอมตะมีค่าใช้จาย ฟางหยวนต้องปรับเปลี่ยนท่าไม้ตายอมตะเพื่อที่จะหลุดพ้นจากการควบคุมของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาในแง่มุมนี้

ฟางหยวนเตรียมการทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

แสงสีเขียวพุ่งออกจากมิติช่องว่างจักรพรรดิและครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของแดนน้ำแข็ง

องุ่นเขียวอมตะนับหมื่นผลถูกใช้ไปในกระบวนการนี้

ทันใดนั้นสายลมอันแผ่วเบาเริ่มพัดมาก่อนจะค่อยๆทวีความรุนแรงมากขึ้น

ในพริบตามันกลายเป็นพายุกรรโชกแรง

‘นี่คือภัยพิบัติใด?’ ฟางหยวนยืนอยู่บนยอดเขาตงฮันและรอคอยอย่างระมัดระวัง

แม้เขาจะไม่รู้ว่ามันคือภัยพิบัติใด แต่เขาสามารถบอกได้ว่ามันเหมือนภัยพิบัติครั้งก่อนหน้า เว้นเพียงพลังอำนาจของมันที่รุนแรงขึ้น

พายุพัดหิมะและน้ำแข็งขึ้นจากพื้นและปิดบังทัศนวิสัยของฟางหยวนเอาไว้

“เค้ง…เค้ง…”

‘เสียงนั่น?’ ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณสายตรวจสอบและได้ยินเสียงระฆังดังขึ้นท่ามกลางพายุหิมะ

ฉากที่แปลกประหลาดนี้ทำให้ฟางหยวนขมวดคิ้วเล็กน้อย

‘อย่าบอกข้าว่า…’ ความคิดหนึ่งผลุดขึ้นในใจของเขา

ขณะที่เสียงระฆังดังขึ้น ดอกไม้สีเขียวขนาดใหญ่ดอกหนึ่งลอยเข้ามาชนกับภูเขาตงฮัน

มันทิ้งหลุมขนาดใหญ่ไว้บนภูเขาตงฮันก่อนจะหายไปกับสายลม

“เค้ง…เค้ง…”

เสียงระฆังดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ดอกไม้สีเขียวสิบแปดดอกจะพุ่งเข้าชนภูเขาตงฮันและฝากรอยตำหนิไว้สิบแปดจุด

‘นี่คือบุปผาวายุ!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขายืนยันเรื่องนี้อยู่ในใจ

บุปผาวายุอยู่บนเส้นทางแห่งวายุ พวกมันเหมือนรถม้าสีเขียวที่พุ่งเข้าโจมตีศัตรูด้วยพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัว

“เค้ง…เค้ง…”

ฟางหยวนพึ่งตระหนักถึงภัยพิบัตินี้ขณะที่บุปผาวายุพัดมาอีกครั้ง

ตอนนี้มันเพิ่มจำนวนขึ้นถึงห้าสิบดอกและโจมตีเข้ามาจากทุกทิศทาง

ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นบนภูเขาตงฮันและกระจายหายไปในสายลม

ฟางหยวนรีบล่าถอยออกจากยอดเขา

เขากัดฟันแน่นและรู้สึกหนักใจเล็กน้อย

‘คราวก่อนเจตจำนงสวรรค์สร้างอสูรหิมะจำนวนมาก แต่ข้าบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงพวกมัน’

‘ครั้งนี้เจตจำนงสวรรค์สามารถเรียนรู้จากอดีตและเปลี่ยนกลยุทธ์โดยใช้บุปผาวายุโจมตีข้า’

นี่คือจุดอ่อนของฟางหยวน

ความเร็วของเขาต่ำกว่าบุปผาวายุขณะที่วิธีการป้องกันของเขาอยู่ในระดับมนุษย์เท่านั้น

‘โชคดีที่ข้านำภูเขาตงฮันมาด้วย มิฉะนั้นข้าจะไม่มีสถานที่ป้องกันตัว!’ ฟางหยวนรู้สึกยินดีกับเรื่องนี้

วิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้า!

เขาใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อกู้คืนภูเขาตงฮัน

แต่หลังจากนั้นบุปผาวายุจำนวนมากก็พุ่งเข้าทำลายพื้นผิวของภูเขาตงฮันอีกครั้ง

‘ข้าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป!’

‘ข้าสูญเสียพลังงานอมตะมากกว่าครึ่งไปแล้วกับท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ’

‘แม้ตอนนี้ข้าจะปลอดภัย แต่การใช้พลังงานอมตะฟื้นฟูภูเขาตงฮันก็เป็นเพียงการยื้อเวลาเท่านั้น’

ความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจของฟางหยวน

ด้วยประสบการณ์ เขาสามารถคิดวิธีรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง หมื่นตัวตน!

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ใบหน้าที่คุ้นเคย!

วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืด!

ฟางหยวนจำนวนนับไม่ถ้วนยึดครองพื้นที่ของภูเขาตงฮันเอาไว้ทั้งหมด

หนึ่งในนั้นคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่ภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากพุ่งเข้าสู่พายุหิมะ

ในเวลาเดียวกันร่างจริงของฟางหยวนก็ใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเปลี่ยนตนเองให้เป็นหินก้อนหนึ่งบนภูเขาตงฮันเพื่อปกปิดตัวตน

ด้วยวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ พลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยจึงใกล้เคียงกับรุ่นดั่งเดิมของมันเป็นอย่างมาก

หลังจากกลายเป็นก้อนหิน ฟางหยวนไม่ขยับเขยื้อนและยังใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดผนึกกลิ่นอายของตนเองเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง

“เค้ง…เค้ง…”

ครั้งนี้บุปผาวายุนับหมื่นดอกปรากฏขึ้นต่อหน้าภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งของฟางหยวน

หลังจากช่วงเวลาหนึ่งภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งที่เผชิญหน้ากับบุปผาวายุก็ถูกทำลายลง

ฟางหยวนส่งภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากออกไปอีกครั้ง

บุปผาวายุที่เต้นรำอยู่กลางอากาศถูกทำลายทันที

หลังจากเหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นซ้ำๆ เจตจำนงสวรรค์เริ่มตระหนักถึงกลยุทธ์ของฟางหยวน นั่นทำให้บุปผาวายุหยุดให้ความสนใจภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งและเปลี่ยนเป้าหมายเป็นภูเขาตงฮัน

ฟางหยวนรู้สึกถึงเจตนาร้ายของเจตจำนงสวรรค์

‘ภูเขาตงฮันเป็นแหล่งรายได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้า เจตจำนงสวรรค์ต้องการทำลายอนาคตของข้า!’

โชคดีที่ฟางหยวนมีวิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า

เขาเก็บชิ้นส่วนของภูเขาตงฮันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาสามารถกู้คืนภูเขาตงฮันได้ในภายหลัง ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สนใจการโจมตีของบุปผาวายุ

ท่าไม้ตายอมตะ คลื่นดาบสามชั้น!

ท่าไม้ตายอมตะ กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

ฟางหยวนพยายามตอบโต้การโจมตีของศัตรูแต่บุปผาวายุรวดเร็วเกินไป ท่าไม้ตายอมตะทั้งสองของเขากลายเป็นไร้ประโยชน์โดยเฉพาะท่าไม้ตายอมตะกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน แม้มันจะทรงพลัง แต่มันช้าเกินไป มันไม่สามารถสัมผัสบุปผาวายุได้แม้แต่ดอกเดียว

ท่าไม้ตายอมตะ ลมหายใจพิษ!

ฟางหยวนส่งควันพิษสีม่วงกระจายไปกับสายลม

บุปผาวายุเริ่มร่วงโรยเมื่อสัมผัสกับพิษร้ายแรง

ฟางหยวนรู้สึกมีความสุขเมื่อเห็นสิ่งนี้

ท่าไม้ตายอมตะลมหายใจพิษถูกพัฒนามาจากท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งปัญญาแต่มันใช้วิญญาณอมตะหัวใจหญิงงามเป็นแกนกลาง มันมีข้อบกพร่องมากมายและมีค่าไม่มาก

แต่ฟางหยวนสามารถพึ่งพามัน

ผู้ใดจะคิดว่ามันจะมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในสถานการณ์นี้!

ภายใต้ควันพิษ พลังโจมตีของบุปผาวายุลดลงอย่างมาก

พายุเริ่มอ่อนกำลังลง

แสงอันเย็นเยียบสาดส่องลงมายังภูเขาตงฮัน

ฟางหยวนเงยศีรษะขึ้นและเห็นจันทร์เสี้ยวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

เขาพึมพำอยู่ภายใน ‘จันทราหิมะ!’

มันเป็นจันทร์เสี้ยวสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะ แสงของมันทำให้อุณหภูมิบนภูเขาตงฮันลดลงอย่างรวดเร็ว

ในไม่ช้าชั้นน้ำค้างแข็งก็เริ่มปกคลุมพื้นผิวของภูเขาตงฮัน

ฟางหยวนรู้สึกหนักใจ เขาคิด ‘นี่ไม่ใช่ภัยพิบัติบุปผาวายุแต่เป็นภัยพิบัติจันทราหิมะบุปผาวายุ! มันเป็นภัยพิบัติพิภพ แต่กลับทรงพลังยิ่งกว่าภัยพิบัติสวรรค์ ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองนี้รุนแรงเกินไปจริงๆ!’

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท