เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1107 การต่อสู้ของเผ่าไห่ (3)
แปลโดย iPAT
‘ตัวที่สี่!’ เทพธิดานกยูงเหินอี้เหราสามารถกำหราบอินทรีย์มงกุฎเหล็กเป็นตัวที่สี่ นี่ทำให้นางรู้สึกมีความสุขมาก
สัตว์อสูรเดียวดายไม่ใช่เรื่องง่าย
ในเขตต้องห้ามของภาคเหนือ เนื่องจากการคงอยู่ของฝูงสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนอยู่นับไม่ถ้วน มันทำให้กองกำลังของผู้อมตะไม่กล้าเข้าไป
อย่างไรก็ตามพลังการต่อสู้ของอินทรีย์มงกุฎเหล็กที่เผ่าไห่เลี้ยงดูยังไม่สามารถแข่งขันกับอินทรีย์มงกุฎเหล็กป่า
ขณะเดียวกันเทพธิดานกยูงเหินอี้เหราก็มีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา นี่ทำให้นางสามารถจับอินทรีย์มงกุฎเหล็กได้ถึงสี่ตัว
‘เผ่าไห่มีชื่อเสียงในการเลี้ยงดูอินทรีย์มงกุฎเหล็ก ข้าสงสัยนักว่าพวกเขามีอินทรีย์มงกุฎเหล็กอยู่มากเท่าใด?’ อี้เหรามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและถอนหายใจ
ยังมีอินทรีย์มงกุฎเหล็กอีกมากมายบินอยู่กลางอากาศ อินทรีย์มงกุฎเหล็กสี่ตัวที่ถูกจับโดยอี้เหราไม่ถือเป็นสิ่งใด
‘แปลก…เหตุใดผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่ปรากฏตัว? แม้ข้าจะจับอินทรีย์มงกุฎเหล็กสี่ตัว พวกเขาก็ไม่สนใจงั้นหรือ?’
อี้เหราระวังตัวมากและไม่หลงระเริงไปกับผลประโยชน์ที่ได้รับ
ทันใดนั้นเสียงระเบิดพลันดังขึ้นอย่างกะทันหัน
ร่างหนึ่งพุ่งเข้าปะทะอินทรีย์มงกุฎเหล็กกลางอากาศ
รูม่านตาของอี้เหราหดเล็กลง นางสามารถจดจำคนผู้นี้ ‘เหนียงเอ๋อกู๋! ฮืม…ไม่ดีแล้ว’
เหนียงเอ๋อกู๋มาจากเผ่าเหนียงเอ๋อ หนึ่งในสมาชิกตระกูลฮวงจิน
คนผู้นี้มีร่างกายอ้วนกลมแต่แขนขากลับลีบเล็ก
อย่างไรก็ตามรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดไม่ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขา
เหนียงเอ๋อกู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่อยู่ในระดับเดียวกับบัณฑิตสันโดษและไป่ซุ้ยฮันของฝ่ายปีศาจ
การเคลื่อนไหวของเหนียงเอ๋อกู๋ทำให้ฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็กโกรธ
ในครั้งเดียวอินทรีย์มงกุฎเหล็กมากกว่าห้าสิบตัวพุ่งเข้าโจมตีเขา
เหนียงเอ๋อกู๋ตกใจมาก เขาไม่คิดว่าตนเองจะดึงดูดความสนใจของอินทรีย์มงกุฎเหล็กได้ถึงระดับนี้
ในช่วงเวลาวิกฤต เหนียงเอ๋อกู๋ต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะของตน
หน้าท้องของเขาขยายขึ้นหกเท่าราวกับหญิงตั้งครรภ์
เหนียงเอ๋อกู๋ตีหน้าท้องของตนเอง
“บึม!”
คลื่นเสียงระเบิดออกทำให้การเคลื่อนไหวของฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็กหยุดลง
“บึม!”
คลื่นเสียงดังขึ้นสามครั้งทำให้กองทัพอินทรีย์มงกุฎเหล็กรู้สึกวิงเวียนและตกสู่ความสับสนวุ่นวาย
เหนียงเอ๋อกู๋ฉวยโอกาสนี้หลบหนีจากการปิดล้อมของฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็ก
ฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็กไล่ล่าเขาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะบินกลับไปยังตำแหน่งเดิม
เหนียงเอ๋อกู๋งบินลงบนพื้นด้วยเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก ตอนนี้หน้าท้องของเขาหดเล็กลงแล้วแต่เขายังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
เสียงดังมาจากด้านหนึ่ง “เหนียงเอ๋อกู๋ เหตุใดเจ้าดูน่าสงสารนัก?’
เหนียงเอ๋อกู๋มองไปทางต้นกำเนิดเสียงและพบกับชายร่างสูงดวงตาสีแดงผิวสีน้ำเงินเส้นผมสีม่วงและมีเขี้ยวยื่นออกมาจากปาก
เหนียงเอ๋อกู๋ก่นเสียงเย็น “ฮืม…กวงฉู! หากมีความกล้าก็ลองเข้าสู่สถานการณ์เดียวกันกับข้า!”
กวงฉูเย้ยหยัน “สองหมัดไม่สามารถต่อต้ากับสี่หมัด ข้าไม่โง่เช่นเจ้า”
“เจ้า!” เหนียงเอ๋อกู๋โกรธมาก ดวงตาของเขาแทบสามารถพ่นไฟออกมา
กวงฉูหัวเราะเสียงเย็นอย่างไม่เกรงกลัว
เหนียงเอ๋อกู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งเสียงที่มีชื่อเสียงของฝ่ายธรรมะ แต่กวงฉูก็ไม่อ่อนแอ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจากเผ่ากวง
‘ดังคาด แม้ผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงดูเหมือนจะเป็นตัวปัญหาแต่พวกเขาก็ไม่ใช่ภัยคุกคาม’ อี้เหราเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด
‘เป้าหมายของเหนียงเอ๋อกู๋และกวงฉูคืออินทรีย์มงกุฎเหล็ก ดูเหมือนทรัพยากรส่วนใหญ่ที่อยู่บนพื้นจะถูกยึดครองไปแล้ว’ อี้เหราค่อยๆล่าถอยออกไปอย่างเงียบๆ
นางเป็นเพียงปีศาจอมตะระดับหก นางไม่กล้าเข้าใกล้ผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงทั้งสองของฝ่ายธรรมะ
การต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กยังร้อนแรง การต่อสู้ทุกประเภทปะทุขึ้น
บางการต่อสู้จบลงด้วยผลแพ้ชนะขณะที่บางการต่อสู้มีผู้เสียชีวิต
บางคนได้กำไรขณะที่บางคนหลบหนีด้วยอาการบาดเจ็บ
ทรัพยากรที่อยู่บนพื้นลดน้อยลงเรื่อยๆ ผู้อมตะระดับล่างบางส่วนถูกกำจัดออกไป บางคนตาย บางคนล่าถอย บางคนซ่อนตัวและสังเกตการณ์อยู่อย่างเงียบๆ
ตอนนี้กลุ่มผู้อมตะเริ่มให้ความสนใจกับทรัพยากรที่อยู่บนท้องฟ้ามากขึ้น
สายตาแห่งความโลภกวาดผ่านฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็กเช่นเดียวกับรังอินทรีย์ที่ซ่อนอยู่
อินทรีย์มงกุฎเหล็กคือสมบัติที่เผ่าไห่สะสมมานานหลายปีผ่านความพยายามและโชคลาภมากมาย นี่คือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก
อย่างไรก็ตามกระทั่งเหนียงเอ๋อกู๋ก็ยังไม่สามารถต่อต้านฝูงอินทรีย์จำนวนมาก
หลังจากทั้งหมดมันมีมากเกินไป
แน่นอนว่ามันเป็นเพราะเหนียงเอ๋อกู๋ไม่เต็มใจที่จะจ่ายด้วยพลังงานอมตะของเขา
ดวงตาของเหนียงเอ๋อกู๋ส่องประกายขึ้นก่อนตะโกน “มีอินทรีย์มงกุฎเหล็กมากเกินไป ผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่ปรากฏตัว พวกเราทุกคนควรช่วยกันแยกกลุ่มอินทรีย์เหล่านี้และจับพวกมัน!”
“ข้าเห็นด้วย!” บัณฑิตสันโดษเป็นคนแรกที่ตอบสนอง
ทั้งสอง หนึ่งเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ อีกหนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษของฝ่ายปีศาจ แต่ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็สามารถสร้างความร่วมมือ
การแยกกลุ่มอินทรีย์จะทำให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์
มีผู้อมตะจำนวนไม่น้อย หากพวกเขาทำงานร่วมกัน อินทรีย์มงกุฎเหล็กเหล่านี้จะไม่ต่างจากเนื้อที่วางอยู่บนเขียง
เมื่อคนแรกเริ่มโจมตี การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับนกอินทรีย์ก็ปะทุขึ้น
เสียงกรีดร้องของนกอินทรีย์และมนุษย์ดังขึ้นพร้อมกันและเกิดเป็นสถานการณ์ที่สับสนวุ่นวาย
กงเอ๋อนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ด้านนอกแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก
ฉากการต่อสู้ของฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปีศาจ และผู้บ่มเพาะสันโดษถูกบันทึกไว้ในวิญญาณที่ซ่อนอยู่อย่างลับๆ
นี่คือข้อมูลที่ล้ำค่า!
ตั้งแต่วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงล่มสลาย วิญญาณอมตะจำนวนมากถูกยึดครองโดยผู้อมตะ นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของพวกเขาเพิ่มสูงขึ้น
ผู้อมตะที่ทำเช่นเดียวกับกงเอ๋อมีไม่กี่คน แต่ทุกคนต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน
ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก
ไม่ว่ากองกำลังขนาดใหญ่หรือผู้บ่มเพาะสันโดษ หากพวกเขาเข้าใจฝ่ายตรงข้าม พวกเขาจะสามารถตอบโต้ แม้จะไม่สามารถเอาชนะ แต่พวกเขายังสามารถป้องกันตัว
ผู้อมตะจำนวนมากกำลังต่อสู้กับฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็ก นี่เป็นเวลาที่ดีในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ภายใต้การต่อสู้อันเดุเดือดมีแผนการมากมายซ่อนอยู่
ผู้อมตะเหล่านี้กำลังประเมินตนเองและศัตรู หลังจากเก็บตัวฝึกตน พวกเขาจะจะแข็งแกร่งหรืออ่อนแอกว่าคนอื่นๆ พวกเขากำลังยืนยันสถานะของตนเองในโลกของผู้อมตะ
อินทรีย์มงกุฎเหล็กเหล่านี้เป็นผลประโยชน์ในปัจจุบันแต่ข้อมูลเป็นผลประโยชน์ระยะยาว
กงเอ๋อเฝ้ามองและรู้สึกร้อนใจมากขึ้นเรื่อยๆขณะที่ผู้อมตะเผ่าไป่ซูทั้งสามที่อยู่ด้านข้างยังไม่เคลื่อนไหว
เผ่ากงนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังตะวันตกออกมาเพื่อหวังฉกฉวยผลประโยชน์ขนาดใหญ่ นั่นเป็นวิธีที่จะทำให้การเดินทางครั้งนี้คุ้มค่า
ด้วยเหตุนี้กงเอ๋อจึงไม่สามารถอดทนอีกต่อไป “แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กกำลังพังทลาย ผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่ปรากฏตัว นี่เป็นเรื่องแปลก ลงไปช่วยสหายของเราและทำลายแผนการของเผ่าไห่ พวกเราเผ่ากงจะเป็นผู้นำฝ่ายธรรมะปกป้องพันธมิตรของเรา!”
“ถูกต้อง!” ผู้อมตะเผ่ากงอีกสองคนเร่งตอบรับ
ผู้อมตะเผ่าไป่ซูที่นั่งอยู่ในห้องโถงลอบหัวเราะอยู่ในใจ
ผลลัพธ์ของการต่อสู้ครั้งนี้ถูกตัดสินตั้งแต่ต้น แม้จะมีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ผู้อมตะเผ่ากงทำเช่นนี้เพียงเพราะผลประโยชน์และความเห็นแก่ตัวของตน แต่พวกเขายังต้องการแสดงตัวเป็นผู้ยิ่งใหญ่และไม่เห็นแก่ตัวในเวลาเดียวกัน
ณ จุดสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก
ผู้อมตะเผ่าไห่รวมตัวกันอยู่ที่นี่ พวกเขามองไปยังสนามรบด้วยความรู้สึกหนักใจ
“เหตุใดเขายังไม่เคลื่อนไหว?”
“ถึงตอนนี้เขายังไม่ได้ทำสิ่งใด อย่าบอกว่าข้อตกลงของพวกเราถูกยกเลิกไปแล้ว”
ผู้อมตะเผ่าไห่บางคนถามด้วยความกังวล
“เขาตกลงแล้ว ด้วยสถานะของเขา เขาย่อมไม่กลับคำพูด”
“รอดูไปก่อน เราจัดแนวป้องกันไว้สามชั้น ฝูงอินทรีย์มงกุฎเหล็กเป็นการป้องกันชั้นแรกเท่านั้น”
คำกล่าวของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่สองของเผ่าไห่ทำให้จิตใจของผู้อมตะเผ่าไห่สงบลงเล็กน้อย
อี้เหราในร่างนกยูงกางปีกต่อสู้กับอินทรีย์มงกุฎเหล็กสามตัว
นี่เป็นส่วนเล็กๆท่ามกลางสนามรบขนาดใหญ่ นางเป็นเพียงผู้อมตะที่ไร้นัยสำคัญหากเปรียบเทียบกับผู้อมตะจำนวนนับไม่ถ้วน
ในกรณีที่ปราศจากผู้อมตระดับแปดและผู้อมตะระดับเจ็ด ผู้อมตะระดับหกที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด
ทันใดนั้นกลิ่นหอมแปลกๆพลันลอยเข้ามา หัวใจของอี้เหราะแทบกระโดดออกจากหน้าอก นางเร่งกลั้นหายใจ
‘ข้าถูกวางยา!’ เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ อี้เหรารีบใช้วิญญาณรักษาตนเอง
อินทรีย์มงกุฎเหล็กสามตัวกรีดร้องก่อนจะร่วงลงจากท้องฟ้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
ร่างหนึ่งพุ่งเข้าจับอินทรีย์มงกุฎเหล็กทั้งสามตัวและเก็บไว้ในมิติช่องว่างของเขาทันที
นี่คือปีศาจอมตะซากศพพิษ
เขาหัวเราะอย่างน่าสยดสยองอยู่ท่ามกลางกลุ่มควันสีม่วง หลังจากเก็บอินทรีย์มงกุฎเหล็ก เขาหันหน้าไปทางอี้เหราและเผยรอยยิ้มชั่วร้าย
“ฮิฮิ คนสวย มากันข้า” ปีศาจเฒ่าซากศพพิษบินเข้าไปหาอี้เหรา
อี้เหราที่ถูกพิษสูญเสียการควบคุมร่างกาย นางรู้สึกอ่อนแรงและเริ่มร่วงลงจากท้องฟ้า
‘ข้าโลภมากเกินไป ข้าต้องการจับอินทรีย์มงกุฎเหล็กให้มากขึ้นและละเลยอันตรายรอบข้าง สุดท้ายข้าจึงถูกลอบโจมตีโดยปีศาจเฒ่าตนนี้!’ อี้เหรารู้สึกสิ้นหวัง
เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงดาบพุ่งมาจากระยะไกล
แสงดาบที่รวดเร็วราวกับสายฟ้าแทงทะลุร่างของปีศาจเฒ่าซากศพพิษ หลังจากนั้นเหนียงเอ๋อปิงซื่อจึงปรากฏตัวขึ้นห่างออกไปหนึ่งร้อยก้าว
ปีศาจเฒ่าซากศพพิษเต็มไปด้วยความโกรธ “อันตพาลน้อย เจ้ายังตามข้ามาอีกงั้นหรือ!?”