เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1099 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง
แปลโดย iPAT
ทะเลตะวันออกน้อยในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ที่นี่เป็นเต็มไปด้วยน้ำ
แต่มันไม่ได้กว้างใหญ่เหมือนทะเลตะวันออกของโลกภายนอก ระดับน้ำลึกที่สุดเพียงยี่สิบเมตรเท่านั้น
สถานที่ส่วนใหญ่เหมือนบ่อโคลนสำหรับสัตว์อสูร
นี่เป็นเพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีไม่มากพอ
ตอนนี้ทะเลตะวันออกน้อยกำลังเกิดการต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรสองตัว
หนึ่งคือหมาป่าครีบฉลามเดียวดาย อีกหนึ่งคือหมีบินเดียวดาย
ดวงตาของหมีบินส่องประกายขึ้นขณะที่มันเริ่มล่าถอย
หมาป่าครีบฉลามพุ่งเข้าโจมตีหมีบินด้วยพละกำลังมหาศาลแต่หมีบินยังสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นหมีบินก็ยกอุ้งเท้าขึ้นและฟาดลงบนศีรษะของหมาป่าครีบฉลาม
การโจมตีนี้ส่งหมาป่าครีบฉลามพุ่งลงกระแทกพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก
อย่างไรก็ตามฟางหยวนในร่างหมีบินไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้
‘เมื่อข้าใช้วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนเป็นหมีบินด้วยวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ยังมีปัญหา ร่างผีดิบอมตะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมาก แม้ข้าจะใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ายังต่อต้านกัน’
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอยู่บนร่างกาย
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงสามารถเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสายอื่นภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณ
วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์คือแก่นแท้ของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยการคงอยู่ของมัน ผู้อมตะสามารถเปลี่ยนเป็นทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ นก ปลา หนอน หญ้า ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว
แต่วิญญาณดวงนี้สามารถเปลี่ยนเพียงรูปลักษณ์ หากต้องการเปลี่ยนความแข็งแกร่ง ความเร็ว หรืออื่นๆ ผู้อมตะต้องใช้วิญญาณดวงอื่นเพิ่มเติม
‘ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ในร่างของข้า ข้าต้องใช้ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเพื่อฝึกทักษะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง แต่ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง มันส่งผลกระทบที่ดีกว่า’
ฟางหยวนประเมินโดยคิดถึงร่างในปัจจุบันของเขาเป็นหลัก
ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกันเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่!
ทุกเส้นทางมีขอบเขตและวิถีของตนเองที่แยกพวกมันออกจากกันอย่างชัดเจน กระทั่งคนผู้หนึ่งจะบ่มเพาะบนเส้นทางสองสาย มันยังมีความแตกต่างระหว่างเส้นทางหลักกับเส้นทางรอง แต่สำหรับฟางหยวน เขาสามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง
‘ดูเหมือนการใช้ร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งฝึกฝนทักษะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมีประโยชน์ไม่มาก มันไม่สามารถเป็นตัวแทนของข้า’ ฟางหยวนถอนหายใจและควบคุมหมีบินหลบเลี่ยงการโจมตีอันบ้าคลั่งของหมาป่าครีบฉลามหลังจากมันฟื้นขึ้นมา
แต่ฟางหยวนมีความฉลาดของมนุษย์ เขาใช้กลยุทธ์ในการต่อสู้และสามารถจัดการหมาป่าครีบฉลามได้โดยที่มันไม่สามารถทำสิ่งใด
แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรและสามารถควบคุมสัตว์อสูรเดียวดายตัวนี้ แต่หลังจากภัยพิบัติเขายังต้องคืนวิญญาณอมตะที่ยืมมา
ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงปลดปล่อยหมาป่าครีบฉลามและปลามังกรเดียวดาย
แต่เรื่องนี้ก็มีประโยชน์เช่นกัน
ปราศจากการควบคุมโดยวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร หมาป่าครีบฉลามจะสามารถปลดปล่อยธรรมชาติที่ดุร้ายของมันออกมาและเป็นคู่ฝึกซ้อมที่ดี
“บึม!”
หมาป่าครีบฉลามถูกอุ้งเท้าหมีบินโจมตีและพุ่งลงกระแทกบ่อโคลนอีกครั้ง
คราวนี้หมาป่าครีบฉลามตระหนักถึงอันตรายจากหมีบินและเริ่มวิ่งหนี
ฟางหยวนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ‘เป็นเพราะข้ารุนแรงเกินไปหรือความดุร้ายของมันลดลง?’
เห็นหมาป่าครีบฉลามหลบหนี ฟางหยวนจึงหมดความสนใจที่จะต่อสู้กับมัน
‘แต่การฝึกฝนไม่ถือว่าไร้ประโยชน์ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของข้าถึงระดับปรมาจารย์แล้วจริงๆ’
ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!
ตอนนี้ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งดวงดาว และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!
ห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้าไม่ได้ช่วยฟางหยวน ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงบรรลุระดับนี้ได้เพราะความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง
เจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดฟางหยวน มันวางแผนเพิ่มพลังอำนาจของภัยพิบัติพิภพจนถึงขีดสุด
ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองของฟางหยวนอยู่ในระดับเดียวกับภัยพิบัติสวรรค์ ดังนั้นความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งที่ถูกดึงออกมาจึงมากขึ้นเช่นกัน
โชคร้ายและโชคดีมักมาพร้อมกันเสมอ
ยิ่งภัยพิบัติรุนแรงเท่าใด มันก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น แต่หลังจากก้าวผ่าน พวกเขาจะได้รับประโยชน์มหาศาล
ฟางหยวนได้รับความหมายที่แท้จริงจากเทพปีศาจคลั่งมาแล้วสามครั้ง ครั้งแรกเมื่อไห่ลั่วหลันก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ อีกสองครั้งเกิดจากภัยพิบัติพิภพทั้งสองของฟางหยวน นั่นทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาเพียงพอที่จะทำให้เขาบรรลุระดับปรมาจารย์
‘กลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นข่าวดี แต่สถานการณ์ของข้ายังค่อนข้างแย่!’ ฟางหยวนรู้สึกกังวล
ภัยพิบัติทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกครั้ง
ฟางหยวนสามารถคาดเดาได้ว่าภัยพิบัติพิภพครั้งต่อไปจะรุนแรงมากเพียงใด
ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองเต็มไปด้วยอันตราย
เมื่อจันทราหิมะปรากฏขึ้น หากฟางหยวนไม่ตัดสินใจโจมตีทันที ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะ ในตอนท้ายภูเขาตงฮันกลายเป็นเนินเขาเล็กๆขณะที่พลังงานอมตะของเขาหมดสิ้น เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะได้อีก สุดท้ายเขาผ่านภัยพิบัติมาได้เพราะสัตว์อสูรเดียวดายที่เขาเตรียมไว้
อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนใช้ไพ่ตายทั้งหมดที่มีเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้
‘ในภัยพิบัติพิภพครั้งแรก ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งกลืนกินภัยพิบัติไปถึงครึ่ง อสูรหิมะที่เกิดจากเจตจำนงสวรรค์กลายเป็นไร้คุณค่า’
‘แต่ในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สอง เจตจำนงสวรรค์วางแผนมาเป็นอย่างดีโดยใช้ประโยชน์จากความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งส่งผลให้เกิดจันทราหิมะจำนวนมาก’
‘เจตจำนงสวรรค์สามารถคิด ดังนั้นภัยพิบัติครั้งที่สาม มันต้องพิจารณาถึงการคงอยู่ของภูเขาตงฮันรวมถึงท่าไม้ตายอมตะ สัตว์อสูร และผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง’
รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้
ฟางหยวนผ่านภัยพิบัติมาแล้วสองครั้ง นี่ทำให้เขาเข้าใจเจตจำนงสวรรค์มากขึ้น
ในทำนองเดียวกันเจตจำนงสวรรค์ก็ได้รับข้อมูลของฟางหยวนมากขึ้นเช่นกัน
ปัจจุบันฟางหยวนมีเจ็ดวิธีในการต่อต้านภัยพิบัติ
หนึ่ง เผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งของภาคเหนือและดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมาเพื่อลดพลังอำนาจของภัยพิบัติ
สอง วิญญาณโชคอึสุนัขช่วยเพิ่มโชค
สาม วิญญาณทัศนคติ วิญญาณขีดจำกัดความมืด และท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยช่วยสร้างความสับสนให้แก่เจตจำนงสวรรค์
สี่ วิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งดาบ เส้นทางแห่งเลือด รวมถึงท่าไม้ตายอมตะที่สามารถต่อต้านศัตรู
ห้า ภูเขาตงฮันทำให้เขามีความได้เปรียบด้านภูมิประเทศ
หก สถานะปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์แบบทำให้เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถส่งอิทธิพลต่อความคิดของเขา
เจ็ด กำลังเสริมจากภายนอกเช่น ปลามังกรเดียวดาย หมาป่าครีมฉลาม ผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง และผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจากนิกายหลางหยา
‘เจตจำนงสวรรค์รู้ข้อมูลของข้า แต่ไพ่ทั้งเจ็ดใบยังมีความแปรปรวน’
‘กำลังเสริมจากภายนอกไม่สามารถเชื่อถือได้’
‘ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของข้าไม่สูงนัก ข้าไม่มีทักษะระดับสูงบนเส้นทางแห่งทาส แม้ข้าจะสามารถสะกดข่มหมาป่าครีบฉลามและปลามังกรเดียวดาย เจตจำนงสวรรค์ก็ยังสมารถปลดปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ ดังนั้นระหว่างภัยพิบัติ ข้าไม่สามารถเปิดเผยพวกมันออกมาล่วงหน้า’
‘สำหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง เขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เขามีสติปัญญาสูง หากเขาถูกปลดปล่อย เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าสัตว์อสูรเดียวดาย จนกว่าข้าจะไม่มีทางเลือก ข้าจะไม่เปิดเผยมิติช่องว่างจักรพรรดิกับเขา สิ่งสำคัญที่สุด เขาเคยเป็นภัยพิบัติของไท่เป่ยหยุนเฉิง หากเขาถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์เช่นอสูรหิมะและทรยศข้า มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่’
‘ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามข้าอาจเข้าใกล้ความตายและในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สี่ข้าอาจตายจริงๆ’
ฟางหยวนตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี
สวรรค์สีเหลืองยังไม่เปิด เขาไม่สามารถซื้อขายทรัพยากรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง
นี่คือปัญหาของผู้อมตะที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ
ภัยพิบัติจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้แน่ใจว่าตนเองจะสามารถก้าวข้ามมัน
ผู้อมตะที่มีศักยภาพต่ำกว่าจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่อ่อนแอกว่า พวกเขาจะมีเวลาเตรียมตัวและฝึกฝน แต่ศักยภาพของฟางหยวนเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เขามีมิติช่องว่างที่สามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง
ดังนั้นภัยพิบัติของเขาจึงน่ากลัวมากโดยเฉพาะเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทุกสองเดือน!
ผู้อมตะคนอื่นอาจตายไปแล้วแต่ฟางหยวนมีรากฐานและทรัพยากรมากพอที่ทำให้เขาสามารถรักษาชีวิตมาจนถึงเวลานี้
อย่างไรก็ตามอนาคตของเขายังอันตรายมาก
‘สวรรค์สีเหลืองปิด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้าโดยตรง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าจะไม่สามารถรักษาชีวิต’
ปัญหาคือสวรรค์สีเหลือง
หากมันเปิดอีกครั้ง เส้นทางของเขาจะราบรื่น
แต่สวรรค์สีเหลืองจะเปิดเมื่อใด?
ภายในหนึ่งเดือน สองเดือน หรืออีกกี่เดือนหลังจากนี้
หากมันไม่เปิดภายในเร็ววันนี้ ฟางหยวนอาจตายก่อน เว้นเพียงเขาจะได้รับโชคลาภโดยบังเอิญ
วันเวลาผ่านไปแต่ยังไม่มีสัญญาณการเปิดตัวของสวรรค์สีเหลือง
อาการบาดเจ็บของฟางหยวนหายดีแล้วแต่มิติช่องว่างของเขายังไม่มีความก้าวหน้า
ภารกิจพัฒนาไท่ชิวของนิกายหลางหยาหยุดลงเช่นกัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอให้ฟางหยวนช่วยจัดการหมาป่าดาวตกเพลิงหลายครั้งแต่ฟางหยวนยังปฏิเสธ นี่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเริ่มแย่ลง
จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลดรางวัลที่ฟางหยวนช่วยฝึกสอนผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนลงจนถึงจุดต่ำสุด เขาแทบไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้
ภายใต้การกระตุ้นของผมที่หก ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆเปลี่ยนเย็นชาต่อฟางหยวน
แม้ฟางหยวนจะสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งที่สองแต่สถานการณ์ของเขากลับเลวร้ายลง
เขาควรรอการเปิดตัวของสวรรค์สีเหลืองหรือพยายามหาเส้นทางสายใหม่เพื่อความก้าวหน้า?
ตอนนี้ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยากลำบาก