เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1099

ตอนที่ 1099

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1099 ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

แปลโดย iPAT

ทะเลตะวันออกน้อยในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ที่นี่เป็นเต็มไปด้วยน้ำ

แต่มันไม่ได้กว้างใหญ่เหมือนทะเลตะวันออกของโลกภายนอก ระดับน้ำลึกที่สุดเพียงยี่สิบเมตรเท่านั้น

สถานที่ส่วนใหญ่เหมือนบ่อโคลนสำหรับสัตว์อสูร

นี่เป็นเพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งวารีไม่มากพอ

ตอนนี้ทะเลตะวันออกน้อยกำลังเกิดการต่อสู้ระหว่างสัตว์อสูรสองตัว

หนึ่งคือหมาป่าครีบฉลามเดียวดาย อีกหนึ่งคือหมีบินเดียวดาย

ดวงตาของหมีบินส่องประกายขึ้นขณะที่มันเริ่มล่าถอย

หมาป่าครีบฉลามพุ่งเข้าโจมตีหมีบินด้วยพละกำลังมหาศาลแต่หมีบินยังสามารถหลบได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นหมีบินก็ยกอุ้งเท้าขึ้นและฟาดลงบนศีรษะของหมาป่าครีบฉลาม

การโจมตีนี้ส่งหมาป่าครีบฉลามพุ่งลงกระแทกพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นได้อีก

อย่างไรก็ตามฟางหยวนในร่างหมีบินไม่พอใจกับผลลัพธ์นี้

‘เมื่อข้าใช้วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้น แต่การเปลี่ยนเป็นหมีบินด้วยวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ยังมีปัญหา ร่างผีดิบอมตะมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมาก แม้ข้าจะใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ายังต่อต้านกัน’

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงอยู่บนร่างกาย

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงสามารถเปลี่ยนเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางสายอื่นภายใต้พลังอำนาจของวิญญาณ

วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์คือแก่นแท้ของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ด้วยการคงอยู่ของมัน ผู้อมตะสามารถเปลี่ยนเป็นทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ นก ปลา หนอน หญ้า ต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาว

แต่วิญญาณดวงนี้สามารถเปลี่ยนเพียงรูปลักษณ์ หากต้องการเปลี่ยนความแข็งแกร่ง ความเร็ว หรืออื่นๆ ผู้อมตะต้องใช้วิญญาณดวงอื่นเพิ่มเติม

‘ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิอยู่ในร่างของข้า ข้าต้องใช้ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเพื่อฝึกทักษะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง แต่ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะใช้วิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่วิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของหมีบินเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง มันส่งผลกระทบที่ดีกว่า’

ฟางหยวนประเมินโดยคิดถึงร่างในปัจจุบันของเขาเป็นหลัก

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ไม่ขัดแย้งกันเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่!

ทุกเส้นทางมีขอบเขตและวิถีของตนเองที่แยกพวกมันออกจากกันอย่างชัดเจน กระทั่งคนผู้หนึ่งจะบ่มเพาะบนเส้นทางสองสาย มันยังมีความแตกต่างระหว่างเส้นทางหลักกับเส้นทางรอง แต่สำหรับฟางหยวน เขาสามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง

‘ดูเหมือนการใช้ร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งฝึกฝนทักษะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมีประโยชน์ไม่มาก มันไม่สามารถเป็นตัวแทนของข้า’ ฟางหยวนถอนหายใจและควบคุมหมีบินหลบเลี่ยงการโจมตีอันบ้าคลั่งของหมาป่าครีบฉลามหลังจากมันฟื้นขึ้นมา

แต่ฟางหยวนมีความฉลาดของมนุษย์ เขาใช้กลยุทธ์ในการต่อสู้และสามารถจัดการหมาป่าครีบฉลามได้โดยที่มันไม่สามารถทำสิ่งใด

แม้ฟางหยวนจะมีวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูรและสามารถควบคุมสัตว์อสูรเดียวดายตัวนี้ แต่หลังจากภัยพิบัติเขายังต้องคืนวิญญาณอมตะที่ยืมมา

ดังนั้นก่อนหน้านี้เขาจึงปลดปล่อยหมาป่าครีบฉลามและปลามังกรเดียวดาย

แต่เรื่องนี้ก็มีประโยชน์เช่นกัน

ปราศจากการควบคุมโดยวิญญาณอมตะทาสสัตว์อสูร หมาป่าครีบฉลามจะสามารถปลดปล่อยธรรมชาติที่ดุร้ายของมันออกมาและเป็นคู่ฝึกซ้อมที่ดี

“บึม!”

หมาป่าครีบฉลามถูกอุ้งเท้าหมีบินโจมตีและพุ่งลงกระแทกบ่อโคลนอีกครั้ง

คราวนี้หมาป่าครีบฉลามตระหนักถึงอันตรายจากหมีบินและเริ่มวิ่งหนี

ฟางหยวนรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ‘เป็นเพราะข้ารุนแรงเกินไปหรือความดุร้ายของมันลดลง?’

เห็นหมาป่าครีบฉลามหลบหนี ฟางหยวนจึงหมดความสนใจที่จะต่อสู้กับมัน

‘แต่การฝึกฝนไม่ถือว่าไร้ประโยชน์ มันพิสูจน์ให้เห็นว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของข้าถึงระดับปรมาจารย์แล้วจริงๆ’

ปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!

ตอนนี้ฟางหยวนเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือด เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งดวงดาว และเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง!

ห้าร้อยปีในชีวิตก่อนหน้าไม่ได้ช่วยฟางหยวน ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงบรรลุระดับนี้ได้เพราะความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง

เจตจำนงสวรรค์ต้องการกำจัดฟางหยวน มันวางแผนเพิ่มพลังอำนาจของภัยพิบัติพิภพจนถึงขีดสุด

ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองของฟางหยวนอยู่ในระดับเดียวกับภัยพิบัติสวรรค์ ดังนั้นความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งที่ถูกดึงออกมาจึงมากขึ้นเช่นกัน

โชคร้ายและโชคดีมักมาพร้อมกันเสมอ

ยิ่งภัยพิบัติรุนแรงเท่าใด มันก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น แต่หลังจากก้าวผ่าน พวกเขาจะได้รับประโยชน์มหาศาล

ฟางหยวนได้รับความหมายที่แท้จริงจากเทพปีศาจคลั่งมาแล้วสามครั้ง ครั้งแรกเมื่อไห่ลั่วหลันก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ อีกสองครั้งเกิดจากภัยพิบัติพิภพทั้งสองของฟางหยวน นั่นทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาเพียงพอที่จะทำให้เขาบรรลุระดับปรมาจารย์

‘กลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเป็นข่าวดี แต่สถานการณ์ของข้ายังค่อนข้างแย่!’ ฟางหยวนรู้สึกกังวล

ภัยพิบัติทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกครั้ง

ฟางหยวนสามารถคาดเดาได้ว่าภัยพิบัติพิภพครั้งต่อไปจะรุนแรงมากเพียงใด

ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สองเต็มไปด้วยอันตราย

เมื่อจันทราหิมะปรากฏขึ้น หากฟางหยวนไม่ตัดสินใจโจมตีทันที ผลลัพธ์อาจเป็นหายนะ ในตอนท้ายภูเขาตงฮันกลายเป็นเนินเขาเล็กๆขณะที่พลังงานอมตะของเขาหมดสิ้น เขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะได้อีก สุดท้ายเขาผ่านภัยพิบัติมาได้เพราะสัตว์อสูรเดียวดายที่เขาเตรียมไว้

อาจกล่าวได้ว่าฟางหยวนใช้ไพ่ตายทั้งหมดที่มีเพื่อก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งนี้

‘ในภัยพิบัติพิภพครั้งแรก ความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งกลืนกินภัยพิบัติไปถึงครึ่ง อสูรหิมะที่เกิดจากเจตจำนงสวรรค์กลายเป็นไร้คุณค่า’

‘แต่ในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สอง เจตจำนงสวรรค์วางแผนมาเป็นอย่างดีโดยใช้ประโยชน์จากความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งส่งผลให้เกิดจันทราหิมะจำนวนมาก’

‘เจตจำนงสวรรค์สามารถคิด ดังนั้นภัยพิบัติครั้งที่สาม มันต้องพิจารณาถึงการคงอยู่ของภูเขาตงฮันรวมถึงท่าไม้ตายอมตะ สัตว์อสูร และผู้ใต้บังคับบัญชาของข้าผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง’

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้

ฟางหยวนผ่านภัยพิบัติมาแล้วสองครั้ง นี่ทำให้เขาเข้าใจเจตจำนงสวรรค์มากขึ้น

ในทำนองเดียวกันเจตจำนงสวรรค์ก็ได้รับข้อมูลของฟางหยวนมากขึ้นเช่นกัน

ปัจจุบันฟางหยวนมีเจ็ดวิธีในการต่อต้านภัยพิบัติ

หนึ่ง เผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งของภาคเหนือและดึงความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งออกมาเพื่อลดพลังอำนาจของภัยพิบัติ

สอง วิญญาณโชคอึสุนัขช่วยเพิ่มโชค

สาม วิญญาณทัศนคติ วิญญาณขีดจำกัดความมืด และท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยช่วยสร้างความสับสนให้แก่เจตจำนงสวรรค์

สี่ วิญญาณอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งดาบ เส้นทางแห่งเลือด รวมถึงท่าไม้ตายอมตะที่สามารถต่อต้านศัตรู

ห้า ภูเขาตงฮันทำให้เขามีความได้เปรียบด้านภูมิประเทศ

หก สถานะปีศาจต่างโลกที่สมบูรณ์แบบทำให้เจตจำนงสวรรค์ไม่สามารถส่งอิทธิพลต่อความคิดของเขา

เจ็ด กำลังเสริมจากภายนอกเช่น ปลามังกรเดียวดาย หมาป่าครีมฉลาม ผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง และผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนจากนิกายหลางหยา

‘เจตจำนงสวรรค์รู้ข้อมูลของข้า แต่ไพ่ทั้งเจ็ดใบยังมีความแปรปรวน’

‘กำลังเสริมจากภายนอกไม่สามารถเชื่อถือได้’

‘ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งทาสของข้าไม่สูงนัก ข้าไม่มีทักษะระดับสูงบนเส้นทางแห่งทาส แม้ข้าจะสามารถสะกดข่มหมาป่าครีบฉลามและปลามังกรเดียวดาย เจตจำนงสวรรค์ก็ยังสมารถปลดปล่อยพวกมันให้เป็นอิสระ ดังนั้นระหว่างภัยพิบัติ ข้าไม่สามารถเปิดเผยพวกมันออกมาล่วงหน้า’

‘สำหรับผู้อมตะเผ่ามนุษย์วิหคจ้าวจง เขาเป็นผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ เขามีสติปัญญาสูง หากเขาถูกปลดปล่อย เขาจะกลายเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่กว่าสัตว์อสูรเดียวดาย จนกว่าข้าจะไม่มีทางเลือก ข้าจะไม่เปิดเผยมิติช่องว่างจักรพรรดิกับเขา สิ่งสำคัญที่สุด เขาเคยเป็นภัยพิบัติของไท่เป่ยหยุนเฉิง หากเขาถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์เช่นอสูรหิมะและทรยศข้า มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่’

‘ภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามข้าอาจเข้าใกล้ความตายและในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สี่ข้าอาจตายจริงๆ’

ฟางหยวนตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี

สวรรค์สีเหลืองยังไม่เปิด เขาไม่สามารถซื้อขายทรัพยากรเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง

นี่คือปัญหาของผู้อมตะที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ

ภัยพิบัติจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้แน่ใจว่าตนเองจะสามารถก้าวข้ามมัน

ผู้อมตะที่มีศักยภาพต่ำกว่าจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่อ่อนแอกว่า พวกเขาจะมีเวลาเตรียมตัวและฝึกฝน แต่ศักยภาพของฟางหยวนเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เขามีมิติช่องว่างที่สามารถบ่มเพาะได้ทุกเส้นทาง

ดังนั้นภัยพิบัติของเขาจึงน่ากลัวมากโดยเฉพาะเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทุกสองเดือน!

ผู้อมตะคนอื่นอาจตายไปแล้วแต่ฟางหยวนมีรากฐานและทรัพยากรมากพอที่ทำให้เขาสามารถรักษาชีวิตมาจนถึงเวลานี้

อย่างไรก็ตามอนาคตของเขายังอันตรายมาก

‘สวรรค์สีเหลืองปิด เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้าโดยตรง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปข้าจะไม่สามารถรักษาชีวิต’

ปัญหาคือสวรรค์สีเหลือง

หากมันเปิดอีกครั้ง เส้นทางของเขาจะราบรื่น

แต่สวรรค์สีเหลืองจะเปิดเมื่อใด?

ภายในหนึ่งเดือน สองเดือน หรืออีกกี่เดือนหลังจากนี้

หากมันไม่เปิดภายในเร็ววันนี้ ฟางหยวนอาจตายก่อน เว้นเพียงเขาจะได้รับโชคลาภโดยบังเอิญ

วันเวลาผ่านไปแต่ยังไม่มีสัญญาณการเปิดตัวของสวรรค์สีเหลือง

อาการบาดเจ็บของฟางหยวนหายดีแล้วแต่มิติช่องว่างของเขายังไม่มีความก้าวหน้า

ภารกิจพัฒนาไท่ชิวของนิกายหลางหยาหยุดลงเช่นกัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาขอให้ฟางหยวนช่วยจัดการหมาป่าดาวตกเพลิงหลายครั้งแต่ฟางหยวนยังปฏิเสธ นี่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเริ่มแย่ลง

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาลดรางวัลที่ฟางหยวนช่วยฝึกสอนผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนลงจนถึงจุดต่ำสุด เขาแทบไม่ได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้

ภายใต้การกระตุ้นของผมที่หก ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ขนคนอื่นๆเปลี่ยนเย็นชาต่อฟางหยวน

แม้ฟางหยวนจะสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติครั้งที่สองแต่สถานการณ์ของเขากลับเลวร้ายลง

เขาควรรอการเปิดตัวของสวรรค์สีเหลืองหรือพยายามหาเส้นทางสายใหม่เพื่อความก้าวหน้า?

ตอนนี้ฟางหยวนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาที่ยากลำบาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท