เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1114 หนึ่งในสองมรดกที่แท้จริง (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เมืองเมฆา
ฟางหยวนนั่งอยู่ในห้องลับ
เขากำลังติดต่อผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งในสวรรค์สีเหลือง
“เม็ดยาธูปสีฟ้าของท่านมีคุณภาพต่ำกว่าของผู้อมตะซื่อจื่อ ราคาของมันควรจะถูกกว่า” ฟางหยวนต่อรอง
แต่ผู้อมตะหญิงผู้นั้นทิ้งเพียงเจตจำนงไว้ในสวรรค์สีเหลืองเท่านั้น เป็นธรรมดาที่เจตจำนงจะแน่วแน่และดื้อรั้น
ดังคาด เจตจำนงของผู้อมตะหญิงปฏิเสธ “จะไม่มีการลดราคา จะซื้อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน!”
ฟางหยวนยังไม่ยอมแพ้ “ท่านควรพิจารณาใหม่อีกรอบเพราะข้าต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก”
เจตจำนงของผู้อมตะหญิงยังดื้อรั้นและไม่เห็นด้วย
ฟางหยวนรู้สึกรำคาญเล็กน้อย
ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาพยายามขายทรัพยากรของตนและซื้อทรัพยากรที่ต้องการทุกชนิด
แต่หลังจากภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม เขารู้สึกว่าการทำธุรกรรมต่างๆไม่ราบรื่นนัก
เจตจำนงของผู้อมตะหญิงผู้นี้เป็นหนึ่งในนั้น
แต่นี่ยังถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างดี
ธุรกรรมก่อนหน้านี้ผู้อมตะบางคนขึ้นราคาสินค้าโดยไร้เหตุผล สินค้าหลายชนิดที่เขาต้องการเกิดการขาดตลาดอย่างกะทันหัน ยังมีผู้อมตะระดับแปดบางคนกว้านซื้อสินค้าทุกประเภท
‘แม้ข้าจะได้รับการคุ้มครองโดยวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขแต่ราชันพฤกษาเพลิงในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามของข้าทำลายโชคดีของข้าไปมาก’
เมื่อนึกถึงภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะถอนหายใจออกมา
‘หากข้าไม่สร้างความร่วมมือกับชูตู๋เอาไว้ล่วงหน้า แม้ข้าจะสามารถผ่านภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามมาได้แต่ข้ายังจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่และติดอยู่กับโชคร้าย ตอนนี้มันเป็นเพียงอุปสรรคเล็กๆน้อยๆเท่านั้น พวกมันไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบ่มเพาะของข้า’
ฟางหยวนรวบรวมความคิดก่อนจะเจรจากับเจตจำนงของผู้อมตะหญิงต่อไป
เนื่องจากนางไม่ยินดีลดราคา ฟางหยวนจึงต้องยอมรับความพ่ายแพ้
‘ข้าจะซื้อเม็ดยาธูปสีฟ้าทั้งหมดของท่าน”
เจตจำนงของผู้อมตะหญิงตกตะลึง
ฟางหยวนซื้อสินค้าจำนวนมาก เขาต้องจ่ายด้วยหินวิญญาณอมตะเกือบหมื่นก้อน!
แต่เรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อฟางหยวน
เขารวยมาก!
แม้เขาจะใช้องุ่นเขียวอมตะจำนวนมากในภัยพิบัติพิภพที่ผ่านมาแต่เขายังสามารถจ่ายหินวิญญาณอมตะนับหมื่นก้อนได้ในครั้งเดียว
หลังจากซื้อเม็ดยาธูปสีฟ้า ฟางหยวนดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาจากสวรรค์สีเหลือง
เขาตรวจสอบเม็ดยาธูปสีฟ้าทั้งหมดก่อนจะนำพวกมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
มิติช่องว่างจักรพรรดิแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาคและเก้าสวรรค์ ฟางหยวนวางร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งไว้ทุกพื้นที่
ในไม่ช้าผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งตนหนึ่งก็ลุกขึ้นและจัดการกับเม็ดยาธูปสีฟ้าเหล่านั้น
เนื่องจากมิติช่องว่างของเขาใหญ่โตเกินไป เขาจึงต้องพึ่งพาผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเหล่านี้เพื่อจัดการกับทรัพยากรต่างๆ
ทุกครั้งที่ฟางหยวนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะคิดถึงจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหู หากมีจิตวิญญาณแผ่นดิน พวกเขาสามารถจัดการสิ่งต่างๆในมิติช่องว่างได้อย่างง่ายดาย
โดยธรรมชาติแล้วจิตวิญญาณแผ่นดินก็คือผู้ดูแลแดนศักดิ์สิทธิ์
มันจะสะดวกมากหากมีจิตวิญญาณแผ่นดิน
แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่เคยได้ยินว่ามีจิตวิญญาณแผ่นดินอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะที่มีชีวิต
เม็ดยาธูปสีฟ้าปล่อยควันสีฟ้าลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
ฟางหยวนวางเม็ดยาธูปสีฟ้าไว้ในสวรรค์สีฟ้าน้อย นี่ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชั้นเมฆหมอกสีฟ้าและกลิ่นหอมของพฤกษาพรรณ
หลังจากวางเม็ดยาธูปสีฟ้า ฟางหยวนสร้างค่ายกลวิญญาณขึ้นมา
มันเป็นค่ายกลวิญญาณระดับมนุษย์ที่ป้องกันไม่ให้หมอกควันสีฟ้ากระจายตัวออกไปนอกอาณาเขตที่กำหนด
“ตอนนี้มันเพียงพอแล้วที่จะเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณจำนวนสามครั้ง” ฟางหยวนรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์
เม็ดยาธูปสีฟ้าเป็นทรัพยากรที่ใช้ได้ครั้งเดียว แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะผลิตเม็ดยาธูปสีฟ้าขึ้นด้วยตัวเอง
เม็ดยาธูปสีฟ้าจะเติบโตขึ้นในสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงและต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตมัน
ตอนนี้ฟางหยวนทำได้เพียงเก็บสะสมเม็ดยาธูปสีฟ้าเอาไว้เท่านั้น
เม็ดยาธูปสีฟ้าเป็นอาหารของวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณ โชคดีที่สิ่งนี้มีวางขายทั่วไปในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนสามารถสะสมมันได้ไม่ยากนัก
ฟางหยวนให้ความสำคัญกับการพัฒนามิติช่องว่างอมตะเป็นอย่างมากแต่โดยรวมแล้วมันยังคงแห้งแล้ง
ประเด็นหลักก็คือมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป!
ด้วยทรัพยากรที่ฟางหยวนวางไว้ หากเป็นมิติช่องว่างของผู้อมตะทั่วไป มันคงเต็มไปแล้ว
กล่าวถึงเรื่องมิติช่องว่าง ฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าค่อนข้างมากแต่เปรียบเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ผลกระทบจากพลังงานแห่งเต๋าที่เขามียังถือว่าเล็กน้อยมาก
“ตอนนี้วิญญาณอมตะระดับแปดและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดของข้ามีอาหารเตรียมพร้อมไว้แล้ว มิติช่องว่างของข้าได้รับการพัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่ง ต่อไปเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับอาหารของวิญญาณอมตะระดับหก” ฟางหยวนประเมิน
หลักการข้อแรกของการพัฒนามิติช่องว่างของผู้อมตะก็คือการสร้างแหล่งอาหารรองรับวิญญาณอมตะของตนเอง
ฟางหยวนเคยบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่ร่างผีดิบอมตะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎข้อนี้
หลังจากฟื้นคืนสู่ชีวิต เขาจึงต้องเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการให้อาหารวิญญาณอมตะอย่างเคร่งครัด
ปัญหาถัดมาของฟางหยวนคือวิญญาณอมตะระดับหก
มีความจำเป็นที่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากเกินไป
มันเป็นปริมาณที่น่าตกใจ
แต่ฟางหยวนก็ต้องเลี้ยงพวกมันเอาไว้เพราะเขาต้องต่อสู้กับเจตจำนงสวรรค์และผู้อมตะคนอื่นๆตลอดเวลา
สถานการณ์ของเขาไม่ดีนัก
ในอดีตนิกายเงาช่วยปกป้องฟางหยวนจากการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่หลังจากเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียน การป้องกันทั้งหมดยุติลง วังสวรรค์มุ่งมั่นที่จะสังหารฟางหยวนขณะที่ผู้อมตะภาคเหนือยิ่งเกลียดชังเขามากกว่าเพราะฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
ผู้อมตะของทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคใต้ต่างต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งโชค แม้ฟางหยวนจะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง แต่ผู้ใดจะเชื่อเขา
ดังนั้นมันอาจกล่าวได้ว่าผู้อมตะทั้งหมดต่างต้องการตัวเขา
ก่อนหน้านี้ระหว่างการต่อสู้ของเผ่าไห่ ผู้อมตะเผ่าไห่ยังร่วมมือกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูลอบวางกับดักฟางหยวน แต่เนื่องจากฟางหยวนไม่ได้ไปที่นั้น เขาจึงรอดพ้นจากการซุ่มโจมตีครั้งนี้
ตอนนี้ฟางหยวนใช้ชื่อปลอมว่าหลิวกวงซื่อ
หากเขาบอกชื่อจริงของตนเอง ทัศนคติของชูตู๋จะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
หนึ่งเดือนก่อนเมื่อสวรรค์สีเหลืองเปิด ฟางหยวนได้รับจดหมายจากชูตู๋
ในจดหมายชูตู๋บอกฟางหยวนว่ามีเบาะแสของมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่ล้ำค่าสลักอยู่ในวิญญาณอมตะดาบบิน
ฟางหยวนถูกล่อลวงอย่างง่ายดาย
ก่อนหน้านี้เขาตระหนักถึงประโยชน์ของทักษะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาแล้วหลายครั้ง
ด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล เขาจะสามารถสร้างข้อตกลงกับผู้อื่นและไม่ต้องกลัวว่ามันจะถูกทำลาย นอกจากนี้เขายังสามารถลบข้อตกลงพันธมิตรอย่างลับๆและทรยศฝ่ายตรงข้ามได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ
เขายังสามารถรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดหลังจากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม
เส้นทางแห่งข้อมูลและเส้นทางแห่งปัญญาเป็นเส้นทางที่สนับสนุนกัน
เส้นทางแห่งข้อมูลช่วยค้นหาข้อมูลขณะที่เส้นทางแห่งปัญญาใช้วิเคราะห์และอนุมาน
เงื่อนงำของมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สลักอยู่ในวิญญาณอมตะดาบบินกระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเทียนเซี่ยซินยังต้องการ
ชูตู๋บอกรายละเอียดเหล่านี้แก่ฟางหยวนเพราะเขาต้องการให้ฟางหยวนเห็นคุณค่าของมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลและตกลงทำธุรกรรมกับเขา
สุดท้ายฟางหยวนจึงตัดสินใจสร้างความร่วมมือกับชูตู๋
เขาตกลงที่จะมอบความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งให้กับชูตู๋แต่ชูตู๋ต้องตอบแทนเขาอย่างเหมาะสม
ในการต่อสู้ที่เผ่าไห่ ชูตู๋ปล้นชิงรังอินทรีย์ที่สิบสามมาเพราะได้รับคำแนะนำจากฟางหยวน
หลายวันหลังจากนั้นชูตู๋กับฟางหยวนได้พบกันอย่างลับๆเพื่อทำธุรกรรม
ฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะดาบบินและรังอินทรีย์ที่สิบสามขณะที่เขามอบวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติให้ชูตู๋ แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ส่งมอบท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติให้กับชูตู๋โดยตรง
ด้วยความช่วยเหลือจากชูตู๋ ฟางหยวนจึงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม
ในภัยพิบัติพิภพสองครั้งแรกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบตาย แต่ในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม เขาพบความสูญเสียเพียงเล็กน้อย ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาได้รับการแก้ไขโดยจักรพรรดิอมตะชูตู๋
วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติทรงพลังสมชื่อของมัน
ฟางหยวนไม่แปลกใจที่โม่เหยาต้องการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ช่วยเหลือโป้ชิงแม้สุดท้ายนางจะล้มเหลวก็ตาม
หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดเท่านั้นแต่โป้ชิงต้องการก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติเพื่อบรรลุสู่ระดับเก้า
อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่พร้อมที่จะออกเดินทางไปแสวงหามรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลตามเงื่อนงำที่อยู่ในวิญญาณอมตะดาบบิน
ทะเลไหลเชี่ยวในทะเลตะวันออกไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปสำรวจ
ตอนนี้ฟางหยวนให้ความสนใจกับรังอินทรีย์มากที่สุด
รังอินทรีย์ที่สิบสามมีเบาะแสเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานซ่อนอยู่ภายใน
ฟางหยวนตรวจสอบมันมาระยะหนึ่งแล้วและได้รับผลตอบแทนบางอย่าง
หากเปรียบเทียบกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูล มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานสามารถชะลอเวลาในมิติช่องว่างของผู้อมตะ สิ่งนี้มีประโยชน์และสำคัญมากกว่า
ฟางหยวนตัดสินใจที่จะคว้ามรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน!