เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1114

ตอนที่ 1114

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1114 หนึ่งในสองมรดกที่แท้จริง (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

หลายวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เมืองเมฆา

ฟางหยวนนั่งอยู่ในห้องลับ

เขากำลังติดต่อผู้อมตะหญิงผู้หนึ่งในสวรรค์สีเหลือง

“เม็ดยาธูปสีฟ้าของท่านมีคุณภาพต่ำกว่าของผู้อมตะซื่อจื่อ ราคาของมันควรจะถูกกว่า” ฟางหยวนต่อรอง

แต่ผู้อมตะหญิงผู้นั้นทิ้งเพียงเจตจำนงไว้ในสวรรค์สีเหลืองเท่านั้น เป็นธรรมดาที่เจตจำนงจะแน่วแน่และดื้อรั้น

ดังคาด เจตจำนงของผู้อมตะหญิงปฏิเสธ “จะไม่มีการลดราคา จะซื้อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน!”

ฟางหยวนยังไม่ยอมแพ้ “ท่านควรพิจารณาใหม่อีกรอบเพราะข้าต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก”

เจตจำนงของผู้อมตะหญิงยังดื้อรั้นและไม่เห็นด้วย

ฟางหยวนรู้สึกรำคาญเล็กน้อย

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาพยายามขายทรัพยากรของตนและซื้อทรัพยากรที่ต้องการทุกชนิด

แต่หลังจากภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม เขารู้สึกว่าการทำธุรกรรมต่างๆไม่ราบรื่นนัก

เจตจำนงของผู้อมตะหญิงผู้นี้เป็นหนึ่งในนั้น

แต่นี่ยังถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างดี

ธุรกรรมก่อนหน้านี้ผู้อมตะบางคนขึ้นราคาสินค้าโดยไร้เหตุผล สินค้าหลายชนิดที่เขาต้องการเกิดการขาดตลาดอย่างกะทันหัน ยังมีผู้อมตะระดับแปดบางคนกว้านซื้อสินค้าทุกประเภท

‘แม้ข้าจะได้รับการคุ้มครองโดยวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขแต่ราชันพฤกษาเพลิงในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามของข้าทำลายโชคดีของข้าไปมาก’

เมื่อนึกถึงภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะถอนหายใจออกมา

‘หากข้าไม่สร้างความร่วมมือกับชูตู๋เอาไว้ล่วงหน้า แม้ข้าจะสามารถผ่านภัยพิบัติพิภพครั้งที่สามมาได้แต่ข้ายังจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่และติดอยู่กับโชคร้าย ตอนนี้มันเป็นเพียงอุปสรรคเล็กๆน้อยๆเท่านั้น พวกมันไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการบ่มเพาะของข้า’

ฟางหยวนรวบรวมความคิดก่อนจะเจรจากับเจตจำนงของผู้อมตะหญิงต่อไป

เนื่องจากนางไม่ยินดีลดราคา ฟางหยวนจึงต้องยอมรับความพ่ายแพ้

‘ข้าจะซื้อเม็ดยาธูปสีฟ้าทั้งหมดของท่าน”

เจตจำนงของผู้อมตะหญิงตกตะลึง

ฟางหยวนซื้อสินค้าจำนวนมาก เขาต้องจ่ายด้วยหินวิญญาณอมตะเกือบหมื่นก้อน!

แต่เรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อฟางหยวน

เขารวยมาก!

แม้เขาจะใช้องุ่นเขียวอมตะจำนวนมากในภัยพิบัติพิภพที่ผ่านมาแต่เขายังสามารถจ่ายหินวิญญาณอมตะนับหมื่นก้อนได้ในครั้งเดียว

หลังจากซื้อเม็ดยาธูปสีฟ้า ฟางหยวนดึงสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาจากสวรรค์สีเหลือง

เขาตรวจสอบเม็ดยาธูปสีฟ้าทั้งหมดก่อนจะนำพวกมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

มิติช่องว่างจักรพรรดิแบ่งออกเป็นห้าภูมิภาคและเก้าสวรรค์ ฟางหยวนวางร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งไว้ทุกพื้นที่

ในไม่ช้าผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งตนหนึ่งก็ลุกขึ้นและจัดการกับเม็ดยาธูปสีฟ้าเหล่านั้น

เนื่องจากมิติช่องว่างของเขาใหญ่โตเกินไป เขาจึงต้องพึ่งพาผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งเหล่านี้เพื่อจัดการกับทรัพยากรต่างๆ

ทุกครั้งที่ฟางหยวนตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจะคิดถึงจิตวิญญาณแผ่นดินเสี่ยวหู หากมีจิตวิญญาณแผ่นดิน พวกเขาสามารถจัดการสิ่งต่างๆในมิติช่องว่างได้อย่างง่ายดาย

โดยธรรมชาติแล้วจิตวิญญาณแผ่นดินก็คือผู้ดูแลแดนศักดิ์สิทธิ์

มันจะสะดวกมากหากมีจิตวิญญาณแผ่นดิน

แต่น่าเสียดายที่ฟางหยวนไม่เคยได้ยินว่ามีจิตวิญญาณแผ่นดินอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะที่มีชีวิต

เม็ดยาธูปสีฟ้าปล่อยควันสีฟ้าลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง

ฟางหยวนวางเม็ดยาธูปสีฟ้าไว้ในสวรรค์สีฟ้าน้อย นี่ทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยชั้นเมฆหมอกสีฟ้าและกลิ่นหอมของพฤกษาพรรณ

หลังจากวางเม็ดยาธูปสีฟ้า ฟางหยวนสร้างค่ายกลวิญญาณขึ้นมา

มันเป็นค่ายกลวิญญาณระดับมนุษย์ที่ป้องกันไม่ให้หมอกควันสีฟ้ากระจายตัวออกไปนอกอาณาเขตที่กำหนด

“ตอนนี้มันเพียงพอแล้วที่จะเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณจำนวนสามครั้ง” ฟางหยวนรู้สึกพอใจกับผลลัพธ์

เม็ดยาธูปสีฟ้าเป็นทรัพยากรที่ใช้ได้ครั้งเดียว แต่มันเป็นเรื่องยากที่จะผลิตเม็ดยาธูปสีฟ้าขึ้นด้วยตัวเอง

เม็ดยาธูปสีฟ้าจะเติบโตขึ้นในสถานที่ที่เฉพาะเจาะจงและต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตมัน

ตอนนี้ฟางหยวนทำได้เพียงเก็บสะสมเม็ดยาธูปสีฟ้าเอาไว้เท่านั้น

เม็ดยาธูปสีฟ้าเป็นอาหารของวิญญาณอมตะเปลี่ยนวิญญาณ โชคดีที่สิ่งนี้มีวางขายทั่วไปในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนสามารถสะสมมันได้ไม่ยากนัก

ฟางหยวนให้ความสำคัญกับการพัฒนามิติช่องว่างอมตะเป็นอย่างมากแต่โดยรวมแล้วมันยังคงแห้งแล้ง

ประเด็นหลักก็คือมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป!

ด้วยทรัพยากรที่ฟางหยวนวางไว้ หากเป็นมิติช่องว่างของผู้อมตะทั่วไป มันคงเต็มไปแล้ว

กล่าวถึงเรื่องมิติช่องว่าง ฟางหยวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าค่อนข้างมากแต่เปรียบเทียบกับพื้นที่ขนาดใหญ่ ผลกระทบจากพลังงานแห่งเต๋าที่เขามียังถือว่าเล็กน้อยมาก

“ตอนนี้วิญญาณอมตะระดับแปดและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดของข้ามีอาหารเตรียมพร้อมไว้แล้ว มิติช่องว่างของข้าได้รับการพัฒนาขึ้นถึงระดับหนึ่ง ต่อไปเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับอาหารของวิญญาณอมตะระดับหก” ฟางหยวนประเมิน

หลักการข้อแรกของการพัฒนามิติช่องว่างของผู้อมตะก็คือการสร้างแหล่งอาหารรองรับวิญญาณอมตะของตนเอง

ฟางหยวนเคยบ่มเพาะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่ร่างผีดิบอมตะไม่สามารถปฏิบัติตามกฎข้อนี้

หลังจากฟื้นคืนสู่ชีวิต เขาจึงต้องเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงโดยปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องการให้อาหารวิญญาณอมตะอย่างเคร่งครัด

ปัญหาถัดมาของฟางหยวนคือวิญญาณอมตะระดับหก

มีความจำเป็นที่ต้องกล่าวถึงเรื่องนี้เพราะฟางหยวนมีวิญญาณอมตะมากเกินไป

มันเป็นปริมาณที่น่าตกใจ

แต่ฟางหยวนก็ต้องเลี้ยงพวกมันเอาไว้เพราะเขาต้องต่อสู้กับเจตจำนงสวรรค์และผู้อมตะคนอื่นๆตลอดเวลา

สถานการณ์ของเขาไม่ดีนัก

ในอดีตนิกายเงาช่วยปกป้องฟางหยวนจากการอนุมานของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่หลังจากเหตุการณ์บนภูเขาอี้เทียน การป้องกันทั้งหมดยุติลง วังสวรรค์มุ่งมั่นที่จะสังหารฟางหยวนขณะที่ผู้อมตะภาคเหนือยิ่งเกลียดชังเขามากกว่าเพราะฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง

ผู้อมตะของทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคใต้ต่างต้องการมรดกบนเส้นทางแห่งโชค แม้ฟางหยวนจะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง แต่ผู้ใดจะเชื่อเขา

ดังนั้นมันอาจกล่าวได้ว่าผู้อมตะทั้งหมดต่างต้องการตัวเขา

ก่อนหน้านี้ระหว่างการต่อสู้ของเผ่าไห่ ผู้อมตะเผ่าไห่ยังร่วมมือกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูลอบวางกับดักฟางหยวน แต่เนื่องจากฟางหยวนไม่ได้ไปที่นั้น เขาจึงรอดพ้นจากการซุ่มโจมตีครั้งนี้

ตอนนี้ฟางหยวนใช้ชื่อปลอมว่าหลิวกวงซื่อ

หากเขาบอกชื่อจริงของตนเอง ทัศนคติของชูตู๋จะแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง

หนึ่งเดือนก่อนเมื่อสวรรค์สีเหลืองเปิด ฟางหยวนได้รับจดหมายจากชูตู๋

ในจดหมายชูตู๋บอกฟางหยวนว่ามีเบาะแสของมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่ล้ำค่าสลักอยู่ในวิญญาณอมตะดาบบิน

ฟางหยวนถูกล่อลวงอย่างง่ายดาย

ก่อนหน้านี้เขาตระหนักถึงประโยชน์ของทักษะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมาแล้วหลายครั้ง

ด้วยวิธีบนเส้นทางแห่งข้อมูล เขาจะสามารถสร้างข้อตกลงกับผู้อื่นและไม่ต้องกลัวว่ามันจะถูกทำลาย นอกจากนี้เขายังสามารถลบข้อตกลงพันธมิตรอย่างลับๆและทรยศฝ่ายตรงข้ามได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ

เขายังสามารถรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดหลังจากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม

เส้นทางแห่งข้อมูลและเส้นทางแห่งปัญญาเป็นเส้นทางที่สนับสนุนกัน

เส้นทางแห่งข้อมูลช่วยค้นหาข้อมูลขณะที่เส้นทางแห่งปัญญาใช้วิเคราะห์และอนุมาน

เงื่อนงำของมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สลักอยู่ในวิญญาณอมตะดาบบินกระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาเทียนเซี่ยซินยังต้องการ

ชูตู๋บอกรายละเอียดเหล่านี้แก่ฟางหยวนเพราะเขาต้องการให้ฟางหยวนเห็นคุณค่าของมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลและตกลงทำธุรกรรมกับเขา

สุดท้ายฟางหยวนจึงตัดสินใจสร้างความร่วมมือกับชูตู๋

เขาตกลงที่จะมอบความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่งให้กับชูตู๋แต่ชูตู๋ต้องตอบแทนเขาอย่างเหมาะสม

ในการต่อสู้ที่เผ่าไห่ ชูตู๋ปล้นชิงรังอินทรีย์ที่สิบสามมาเพราะได้รับคำแนะนำจากฟางหยวน

หลายวันหลังจากนั้นชูตู๋กับฟางหยวนได้พบกันอย่างลับๆเพื่อทำธุรกรรม

ฟางหยวนได้รับวิญญาณอมตะดาบบินและรังอินทรีย์ที่สิบสามขณะที่เขามอบวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติให้ชูตู๋ แน่นอนว่าฟางหยวนจะไม่ส่งมอบท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติให้กับชูตู๋โดยตรง

ด้วยความช่วยเหลือจากชูตู๋ ฟางหยวนจึงสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม

ในภัยพิบัติพิภพสองครั้งแรกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและเกือบตาย แต่ในภัยพิบัติพิภพครั้งที่สาม เขาพบความสูญเสียเพียงเล็กน้อย ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาได้รับการแก้ไขโดยจักรพรรดิอมตะชูตู๋

วิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติทรงพลังสมชื่อของมัน

ฟางหยวนไม่แปลกใจที่โม่เหยาต้องการใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ช่วยเหลือโป้ชิงแม้สุดท้ายนางจะล้มเหลวก็ตาม

หลังจากทั้งหมดวิญญาณอมตะเรียกภัยพิบัติเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดเท่านั้นแต่โป้ชิงต้องการก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติเพื่อบรรลุสู่ระดับเก้า

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังไม่พร้อมที่จะออกเดินทางไปแสวงหามรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูลตามเงื่อนงำที่อยู่ในวิญญาณอมตะดาบบิน

ทะเลไหลเชี่ยวในทะเลตะวันออกไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปสำรวจ

ตอนนี้ฟางหยวนให้ความสนใจกับรังอินทรีย์มากที่สุด

รังอินทรีย์ที่สิบสามมีเบาะแสเกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานซ่อนอยู่ภายใน

ฟางหยวนตรวจสอบมันมาระยะหนึ่งแล้วและได้รับผลตอบแทนบางอย่าง

หากเปรียบเทียบกับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งข้อมูล มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานสามารถชะลอเวลาในมิติช่องว่างของผู้อมตะ สิ่งนี้มีประโยชน์และสำคัญมากกว่า

ฟางหยวนตัดสินใจที่จะคว้ามรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท