เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1116

ตอนที่ 1116

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1116 ไข่ที่ตายแล้ว

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนควบคุมไห่เจิ้งปลอมเข้าไปในรังอินทรีย์อย่างช้าๆ

แสงเก้าสีส่องสะท้อนใบหน้าของไห่เจิ้ง

รังอินทรีย์ไม่ได้ใหญ่โต มันเป็นห้องโถงเล็กๆเท่านั้น

กลางห้องมีไข่ขนาดใหญ่วางอยู่

ไห่เจิ้งปลอมชำเลืองมองมัน

ไข่ใบนี้มีความสูงประมาณมนุษย์เพศชายที่โตเต็มวัย เปลือกของมันเหมือนคริสตัลที่ส่องประกายแสงเก้าสีออกมา

แต่ฟางหยวนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเต็มไปด้วยพลังงานแห่งความตาย

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ เขาจึงหันไปให้ความสนใจกับสภาพแวดล้อม

เขาตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นเวลาหลายชั่วโมงแต่กลับไม่พบสิ่งใด

“นี่เป็นไปได้อย่างไร? ไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มรดกที่แท้จริงของเขาจะมีเพียงรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ที่ว่างเปล่างั้นหรือ? แล้ววิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่ที่ใด ท่าไม้ตายอมตะอยู่ที่ใด?”

ฟางหยวนคิดและกลับไปหาไข่ที่ตายแล้วอีกครั้ง

“บางทีไข่ที่ตายแล้วใบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญ!”

ฟางหยวนคาดเดา

เมื่อมาถึงจุดนี้ความทรงจำของไห่เจิ้งไม่มีประโยชน์อีกต่อไป ฟางหยวนได้ก้าวข้ามความรู้ทั้งหมดของเผ่าไห่มาแล้ว

เพื่อให้ได้รับมรดกที่แท้จริงของเผ่าไห่ ฟางหยวนต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น

ไห่เจิ้งปลอมเดินไปรอบๆไข่ที่ตายแล้วและกระตุ้นใช้วิญญาณสายตรวจสอบ

ครู่ต่อมาฟางหยวนยืนยันอีกครั้งว่าไข่ใบนี้ตายไปแล้วจริงๆ

ไข่ที่ตายแล้ว

ไม่มีการปลอมแปลง

ฟางหยวนคาดเดาต่อไป

“อย่าบอกว่ามรดกที่แท้จริงของไห่ฟานถูกบางคนขโมยไปแล้ว ข้าไม่ใช่คนแรกที่มาถึงที่นี่งั้นหรือ?” มันช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะคิดเช่นนี้

นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

โลกใบนี้มีความลับมากเกินไป

หลังการทำธุรกรรมกับผมที่หก ฟางหยวนไม่กล้าดูแคลนผู้ใดอีกต่อไป

แม้เขาจะเป็นผู้กลับชาติมาเกิด แต่ไม่ใช่เขาเพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ที่โชคดี ยังมีหลายคนที่โชคดีกว่าเขาและสามารถก้าวเข้าสู่ระดับเก้า

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะ ฝ่ายปีศาจ หรือผู้บ่มเพาะสันโดษ มีอัจฉริยะจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

ฟางหยวนเป็นเพียงดาวดวงหนึ่งท่ามกลางท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เท่านั้น

การคาดเดาของฟางหยวนไม่ใช่การเดาสุ่มแต่เขาอนุมานจากความน่าจะเป็น

ตามข้อมูลที่ได้รับจากไห่เจิ้ง ผู้อมตะเผ่าไห่ตระหนักถึงความสำคัญของวิญญาณทัศนคติ นอกจากพวกเขาจะค้นหาวิญญาณทัศนคติ พวกเขายังทำวิจัยและพยายามใช้สิ่งอื่นทดแทนอีกด้วย

จากข้อมูลในความทรงจำของไห่เจิ้ง เผ่าไห่ยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ใดประสบความสำเร็จ

ผู้อมตะบางคนอาจลอบเข้ามาในรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์เพื่อขโมยมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานไปโดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้

และคนผู้นี้อาจไม่ใช่สมาชิกของเผ่าไห่ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยมากตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ฟางหยวนตรวจสอบหลายครั้งแต่ยังไม่พบเงื่อนงำอื่น

นี่ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง

เขาทำธุรกรรมและแลกเปลี่ยนมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

แน่นอนว่าความช่วยเหลือของชูตู๋เป็นเพียงเรื่องชั่วคราว

การร่วมมือกับชูตู๋เป็นเรื่องอันตราย เขากำลังขอความช่วยเหลือจากเสือที่เจตจำนงสวรรค์อาจยุแยงให้เกิดความเข้าใจได้ตลอดเวลา

แม้ฟางหยวนจะไม่ต้องใช้มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานในตอนนี้แต่มันอาจเป็นความช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต

‘แม้จะไม่มีมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานแต่รังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ยังเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่ล้ำค่า’

ความจริงก็คือทรัพยากรทั้งหมดที่อยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวนยังมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งหนึ่งของรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์!

แน่นอนว่านี่ไม่นับรวมภูเขาตงฮันหรือหุบเขาเหล่าโป

‘อย่างไรก็ตามไข่ที่ตายแล้วใบนี้แท้จริงแล้วคือสิ่งใด? หากมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานยังอยู่ มันอาจเป็นเบาะแสที่ไห่ฟานตั้งใจทิ้งเอาไว้เบื้องหลัง’

แม้จะมีความหวังเพียงเล็กน้อยแต่ฟางหยวนยังต้องการตรวจสอบ

เขาไปที่สวรรค์สีเหลืองและซื้อสารานุกรมเกี่ยวกับสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาล

แต่หลังจากตรวจสอบ ฟางหยวนกลับไม่พบสิ่งใดที่คล้ายกับไข่ที่ตายแล้วใบนี้

เขาไม่ผิดหวัง ตรงข้ามเขารู้สึกมีความสุข

ยิ่งไข่ใบนี้ลึกลับมากเท่าใด มันก็ยิ่งล้ำค่ามากเท่านั้น

‘ไข่ที่ตายแล้วใบนี้ดูเหมือนจะเป็นไข่ของสัตว์อสูรแรกกำเนิด!’ ฟางหยวนคาดเดา

แต่หากเป็นกรณีนี้ข้อมูลที่วางขายในสวรรค์สีเหลืองจะกลายเป็นไร้ประโยชน์

เนื่องจากผู้อมตะส่วนใหญ่เป็นเพียงผู้อมตะระดับหกและเจ็ดเท่านั้น

สัตว์อสูรแรกกำเนิดเป็นสัตว์อสูรที่มีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด แต่ผู้อมตะระดับแปดจะไม่ขายข้อมูลเหล่านี้ในสวรรค์สีเหลือง ตัวตนเหล่านี้ไม่ขาดแคลนความมั่งคั่ง นอกจากนั้นผู้อมตะส่วนใหญ่ก็จะไม่ซื้อเพราะมันเหนือกว่าระดับของพวกเขามากเกินไป

ในยุคปัจจุบันสัตว์อสูรแรกกำเนิดมักอาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวและสวรรค์สีดำ เว้นเพียงเขตต้องห้ามต่างๆของทั้งห้าภูมิภาค

‘ข้าควรนำไข่ที่ตายแล้วใบนี้ไปประมูลในสวรรค์สีเหลืองโดยตรงหรือไม่?’ ฟางหยวนคิดและปฏิเสธความคิดนี้ทันที

มันสะดุดตาเกินไป

ผู้อมตะเผ่าไห่ยังไม่ตายทั้งหมด

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมานสิ่งต่างๆได้จากข้อมูลเล็กๆ

สิ่งนี้ไม่เป็นผลดีต่อฟางหยวน

หากมันดึงดูดความสนใจของผู้อมตะระดับแปด นั่นยิ่งจะสร้างปัญหามากขึ้นไปอีก

ฟางหยวนไม่สามารถเผชิญหน้ากับพวกเขาได้ในเวลานี้

แต่เขาไม่รู้สึกหดหู่ใจเพราะเขารู้ว่ามีบางคนสามารถช่วยแก้ปัญหานี้

นั่นคือจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา!

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามีต้นกำเนิดมาจากบรรพชนผมยาวผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่มีชื่อเสียงอย่างมากในประวัติศาสตร์

ผู้อมตะบนเส้นทางสายใดที่มีความรู้รอบตัวมากที่สุด?

แน่นอนว่ามันคือผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งข้อมูล และเส้นทางแห่งการหลอมรวม

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาสามารถอนุมานความลับได้จากเบาะแสบางอย่าง ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลมีทักษะในการรวบรวมข้อมูล ขณะที่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมต้องมีความรู้เกี่ยวกับวัสดุในการหลอมรวมทุกประเภท

กล่าวถึงผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาตร์จะมีผู้ใดเหนือกว่าบรรพชนผมยาว

ฟางหยวนตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

แต่นี่ไม่ใช่กระบวนการที่ราบรื่น ฟางหยวนค่อนข้างหนักใจกับทัศนคติของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา

เมื่อเร็วๆนี้นิกายหลางหยาไม่พอใจฟางหยวนเพราะเขาเก็บตัวฝึกตนโดยไม่สนใจนิกาย ตอนนี้นิกายหลางหยากำลังเผชิญหน้ากับสุนัขดาวตกเพลิงทำให้ความคืบหน้าในการพัฒนาไท่ชิวแทบไม่สามารถเดินหน้าต่อ

“ฟางหยวน หากเจ้าสังหารสุนัขดาวตกเพลิงให้นิกาย ข้าจะนำตำราที่เจ้าต้องการออกมาจากคลังสมบัติของเรา มิฉะนั้นเจ้าต้องแลกเปลี่ยนมันด้วยแต้มผลงานหนึ่งร้อยแต้ม” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวเสียงเย็น

ฟางหยวนยิ้ม “ข้าจะแลกมัน”

ฟางหยวนมีแต้มผลงานเพียงพอ

ตอนนี้เขายังไม่มีแผนการที่จะไปยังไท่ชิว

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก่นเสียงเย็น เขากำลังจะกล่าวอีกครั้ง แต่ฟางหยวนชิงกล่าวก่อน “ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเป็นคนเที่ยงธรรมอย่างแท้จริง การเพิ่มกฎระเบียบเป็นสิ่งจำเป็นที่นิกายหลางหยาไม่สามารถหลีกเลี่ยง”

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาโกรธมาก “ข้าได้ยินว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผมที่สิบสอง ข้าจำได้ว่าเด็กคนนี้เคยยกย่องเจ้ามาก่อน ไม่นานมานี้เขาออกไปต่อสู้กับสุนัขดาวตกเพลิงและได้รับบาดเจ็บร้ายแรงกลับมา สัตว์อสูรเดียวดายของเขาตาย ตอนนี้เขาหดหู่ใจมาก เหตุใดเจ้าไม่ไปเยี่ยมเขาสักหน่อย?”

“ขอบคุณผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งที่เตือนข้า” ฟางหยวนพยักหน้าด้วยการแสดงออกที่โศกเศร้าราวกับรู้สึกเจ็บปวดแทนผมที่สิบสอง

“หลังจากแลกเปลี่ยนตำราแล้วข้าจะไปเยี่ยมผมที่สิบสอง” ฟางหยวนกล่าวอย่างหนักแน่น

จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้มากกว่านี้

หลังจากได้รับสิ่งที่ต้องการ ฟางหยวนเดินทางไปยังเมืองเมฆาที่สิบสอง แต่เขาไม่ได้เข้าพบผมที่สิบสองเนื่องจากผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนบอกกับเขาว่า “นายท่านของข้าไม่ต้องการรับแขก โปรดกลับไป”

ฟางหยวนไม่ได้รับการต้อนรับแต่เขาไม่ได้จากไปและยังเอ่ยปากถามอาการของผมที่สิบสองด้วยความห่วงใย

อย่างไรก็ตามทัศนคติของผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนเย็นชามาก ฟางหยวนแสดงออกราวกับไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร

หากไม่ใช่เพราะจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถรับรู้ทุกสิ่งในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ฟางหยวนจะไม่ทำเรื่องนี้

การกระทำของผู้ใช้วิญญาณเผ่ามนุษย์ขนแสดงให้เห็นว่าผมที่สิบสองไม่พอใจฟางหยวน

‘ความสัมพันธ์ของข้ากับนิกายหลางหยามาถึงขั้นนี้แล้ว…แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือผมที่หก ข้าจำเป็นต้องฟื้นฟูและรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ในอนาคต แต่นั่นไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน’

ฟางหยวนกลับไปยังเมืองเมฆาของตนเอง หลังจากตรวจสอบข้อมูล ธุรกรรมครั้งนี้ไม่ทำให้เขาผิดหวัง

‘มันคือไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด!’

ฟางหยวนตะลึง

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดคือสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันมีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด!

หลังจากประหลาดใจ ฟางหยวนเต็มไปด้วยความสุข

เขาตระหนักถึงผลลัพธ์ของการทำงานหนัก หากนี่เป็นไข่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดจริง แม้จะไม่ได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน มันก็ยังคุ้มค่า!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท