เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1128

ตอนที่ 1128

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1128 สมบัติทั้งสี่ (1)

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนเก็บศพของเฟิงจุนไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

เมื่อรวมกับศพของผู้อมตะก่อนหน้า มีศพของผู้อมตะจำนวนเก้าศพรวมถึงดวงวิญญาณของพวกเขา

‘กำไรขนาดนี้หายากมากในโลกภายนอก แม้พวกเขาจะตาย พวกเขาก็จะระเบิดทำลายตัวเอง ในถ้ำสวรรค์แห่งนี้มีเพียงเฟิงจุนเท่านั้นที่พอมีสมองอยู่บ้าง เขาสามารถยอมแพ้ในเวลาที่เหมาะสม โชคร้ายที่ศัตรูของเขาคือข้า’

ฟางหยวนถอนหายใจและปัดเป่าความคิดเหล่านี้ออกไป

เขาชนะแล้ว

มันเป็นเวลารับรางวัล!

เขาหันหลังกลับและมองไปยังระฆังทองเหลือง “ตอนนี้ข้าเป็นผู้อมตะเพียงผู้เดียวในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้าลงคะแนนเสียงให้กับตัวเองเพื่อรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน”

ระฆังทองเหลืองนิ่งเงียบอยู่ชั่วขณะก่อนที่เสียงระฆังจะดังขึ้น

กำแพงแสงสีขาวปรากฏขึ้นพร้อมกับเงาลึกลับหลายเงาอยู่ที่ภายในและข้อความบางอย่าง

ฟางหยวนอ่านข้อความและตระหนักว่าเงาเหล่านี้คือมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ผู้สืบทอดเพียงต้องยื่นมือเข้าไปและรับมรดก

ข้อความบรรทัดสุดท้ายคือคำสั่งเสียของไห่ฟาน มันกล่าวว่า บุตรหลานเผ่าไห่ เจ้าได้รับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ อย่าทำให้เผ่าไห่สูญเสียชื่อเสียง

ฟางหยวนถอนหายใจ

ไห่ฟานทุ่มเทความพยายามอย่างมากและคิดถึงทุกแง่มุมในการสร้างมรดกนี้

แต่คนตายไปแล้วไม่สามารถคาดเดาทุกสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เผ่าไห่ที่เคยรุ่งโรจน์ถูกลบออกไปขณะที่มรดกของไห่ฟานถูกยึดครองโดยคนนอกเช่นฟางหยวน

โลกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กองกำลังใหม่ปรากฏขึ้นขณะที่กองกำลังเก่าสูญหายไปตามยุคสมัย

ฟางหยวนปรับอารมณ์ของตนเองและเริ่มทำตามคำอธิบายที่อยู่บนกำแพงแสง

เขายื่นมือซ้ายไปที่กำแพงแสง

ทันทีที่มือซ้ายของฟางหยวนสัมผัสกับกำแพงแสง มือของเขากลายเป็นโปร่งใสและสามารถมองเห็นเลือดเนื้อที่อยู่ภายในได้อย่างชัดเจน

เขารู้สึกเย็นราวกับกำลังสัมผัสกำแพงน้ำแข็ง

แต่หลังจากนั้นมือซ้ายของเขาก็สามารถทะลุเข้าไปในกำแพงแสงได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามหัวใจของฟางหยวนยังรู้สึกสั่นสะท้าน เขาคิด ‘เกือบไปแล้ว กำแพงแสงคือการทดสอบสายเลือดของข้า โชคดีที่ข้าเตรียมพร้อมมาแล้ว ด้วยการผสานวิญญาณอมตะสมบัติเลือดเข้ากับท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคย มันสามารถอำพรางสายเลือดของข้า หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ความพยายามทั้งหมดของข้าจะกลายเป็นไร้ประโยชน์! ไห่ฟานผู้นี้ช่างรับมือได้ยากนัก!’

ฟางหยวนเริ่มประเมินกำแพงแสงที่อยู่ด้านหน้า

จากภายนอก เขามองเห็นเงาสี่เงาอยู่ภายใน

เงาที่ใหญ่ที่สุดเหมือนลูกบอลที่มีขนาดเท่าอ่างล้างหน้า เงานี้อยู่ตรงกลางของกำแพงแสง

ที่มุมด้านขวามีเงาคล้ายกับก้อนหิน

ทางซ้ายมีเงาเหมือนเส้นไหมที่เกี่ยวพันกัน

นอกจากนี้ยังมีจุดหนึ่งที่อยู่ด้านล่างเป็นเงาขนาดเล็กเท่ากับปลายนิ้ว

ฟางหยวนทำงานอย่างหนักเพื่อให้ได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟานแต่ดูเหมือนเนื้อแท้ของมันจะมีค่อนข้างน้อย

มือซ้ายของฟางหยวนอยู่ใกล้กับเงาทางด้านซ้าย ดังนั้นเขาจึงคว้าเงานี้เอาไว้

มันเป็นเงาที่คล้ายเส้นไหม

ฟางหยวนรู้สึกราวกับสัมผัสกิ่งไม้เก่าๆ

เขาดึงเงาลึกลับอออกมา

เมื่อมันออกจากกำแพงแสง ตัวตนที่แท้จริงของมันก็ถูกเปิดเผย

เห็นได้ชัดว่ามันคือกลุ่มก้อนของวิญญาณ

วิญญาณเหล่านี้คล้ายรากโสมหรือรากไม้บางชนิด

แต่มันไม่ใช่วิญญาณอมตะ

มันเป็นเพียงวิญญาณระดับมนุษย์

แต่ถึงกระนั้นดวงตาของฟางหยวนก็ยังส่องประกายขึ้นด้วยความตื่นเต้น

วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

วิญญาณอมตะมีเพียงหนึ่งเดียวขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์สามารถทำซ้ำได้นับไม่ถ้วน แต่มีข้อยกเว้นในบางกรณี

นั่นคือวิญญาณอายุยืน!

ถูกต้อง ฟางหยวนดึงกลุ่มก้อนของวิญญาณอายุยืนออกมา

สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คาดหวังแต่ไม่ใช่สิ่งที่คาดคิด

ก่อนหน้านี้เฉินไคกล่าวถึงวิญญาณอายุยืน ดังนั้นฟางหยวนจึงคาดหวังที่จะพบมันแต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะมีมากมายถึงเพียงนี้

“วิญญาณอายุยืนจำนวนมาก!”

ฟางหยวนเริ่มปรับแต่งวิญญาณอายุยืนทั้งหมดทันที

วิญญาณระดับมนุษย์สามารถปรับแต่งได้โดยใช้พลังวิญญาณ แต่ฟางหยวนมีพลังงานอมตะจำนวนมาก มันยังเหนือกว่าพลังวิญญาณอย่างไม่สามารถเปรียบเทียบ

แม้วิญญาณอายุยืนเหล่านี้จะไม่ใช่ของเขาแต่หลังจากผ่านการทดสอบ ฟางหยวนกลายเป็นผู้สืบทอดที่ได้รับการยอมรับ นี่ทำให้เขาสามารถปรับแต่งวิญญาณอมตะหรือวิญญาณระดับมนุษย์ของไห่ฟานได้อย่างง่ายดาย

หลังจากปรับแต่งวิญญาณอายุยืนทั้งหมดเขาพบว่าวิญญาณอายุยืนเหล่านี้มีอายุขัยรวมกันถึงเจ็ดร้อยยี่สิบปี!

กำไรมหาศาล!

เฉินไคเคยคิดว่าอาจมีวิญญาณอายุยืนสามร้อยปี แต่ฟางหยวนสามารถบอกได้ว่าเฉินไคยังประเมินมันต่ำเกินไป

หลังจากทั้งหมดถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีอายุมากกว่าสองเท่าของวิญญาณอายุยืนเหล่านี้!

“วิญญาณอายุยืนมีค่ามาก”

“ข้าสามารถใช้พวกมันกับตนเอง ผู้ใดบนโลกใบนี้จะกล้าวิจารณ์เกี่ยวกับชีวิตที่ยืนยาวของข้า?”

“แต่ข้ายังมีอายุขัยอีกประมาณแปดสิบปี มันเพียงพอแล้วสำหรับเวลานี้ แม้ข้าจะไม่ใช่พวกมัน ข้าก็ยังสามารถใช้พวกมันในการทำธุรกรรมต่างๆ”

ในการทำธุรกรรมระหว่างผู้อมตะ หินวิญญาณอมตะเป็นเพียงสกุลเงินพื้นฐาน วิญญาณอายุยืนมีค่ามากกว่าหินวิญญาณอมตะ ไม่มีผู้อมตะคนใดไม่ต้องการวิญญาณอายุยืน ในการทำธุรกรรมระดับสูง หินวิญญาณอมตะไม่สามารถใช้งาน ผู้อมตะเหล่านั้นต้องการเพียงวิญญาณอายุยืนเท่านั้น

วิญญาณอายุยืนคือสกุลเงินที่หายากที่สุด!

หลังจากปรับแต่งวิญญาณอายุยืนทั้งหมด ฟางหยวนเก็บพวกมันไว้ในสถานที่ปลอดภัยที่สุดของมิติช่องว่างจักรพรรดิ

เขาไม่ได้วางแผนที่จะใช้วิญญาณอายุยืนในเร็ววันนี้

“ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานดำรงอยู่มาอย่างยาวนาน ไม่แปลกใจเลยที่มีวิญญาณอายุยืนเกิดขึ้นมากมาย”

“เมื่อใดกันที่มิติช่องว่างของข้าจะสามารถผลิตวิญญาณอายุยืนได้ด้วยตัวมันเอง”

ฟางหยวนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

แต่เขารู้ดีว่ายังห่างไกลจากเป้าหมายนี้อีกมาก

แม้เขาจะได้รับกำไรจำนวนมากในแต่ละเดือน แต่สิ่งนี้เกิดจากการทำงานหนักก่อนหน้านี้ในฐานะผีดิบอมตะ ตอนนี้มิติช่องว่างจักรพรรดิของเขายังอยู่ในขั้นพื้นฐาน มันสามารถผลิตอาหารให้กับวิญญาณอมตะทั้งหมดของเขาเท่านั้น

ทันใดนั้นฟางหยวนพลันนึกไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

‘เปรียบเทียบกับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานถือว่าอายุน้อยกว่ามาก บรรพชนผมยาวเป็นตัวตนเมื่อสามแสนปีก่อน เขาคือบุคคลในตำนานของยุคกลาง’

‘ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีวิญญาณอายุยืนประมาณเจ็ดร้อยปี แล้วแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาจะมีมากเท่าใด?’

คิดถึงเรื่องนี้ช่วยไม่ได้ที่ดวงคาของฟางหยวนจะส่องประกายขึ้น

‘แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาดำรงอยู่มานานมาก ไม่แปลกใจเลยที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถเลี้ยงดูวิญญาณสติปัญญาด้วยวิญญาณอายุยืน!’

จากเรื่องนี้ฟางหยวนเข้าใจความคิดของวังสวรรค์ได้ทันที

ในชีวิตก่อนหน้าวังสวรรค์โจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แม้พวกเขาจะสูญเสียฟงจิวเก้อ แต่พวกเขาก็ยังเดินหน้าโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาต่อโดยไม่หยุดพัก

วิญญาณอายุยืนเป็นหนึ่งในสาเหตุหลัก

กล่าวถึงเรื่องนี้ผู้อมตะของวังสวรรค์สามารถจำศีลเพื่อยืดชีวิตเท่านั้น แต่มันจะง่ายกว่าหากพวกเขามีวิญญาณอายุยืนจำนวนมาก!

ฟางหยวนมองไปที่กำแพงแสงอีกครั้ง

ตรงกลางของกำแพงแสงมีเงาที่ใหญ่ที่สุด

“มันอยู่ตรงกลาง นี่เป็นการบอกใบ้ว่ามันคือสมบัติล้ำค่าที่สุดของไห่ฟาน” ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้น

เขายื่นมือซ้ายเข้าไปในกำแพงแสงและสัมผัสกับเงานั้น

ฟางหยวนพยายามเคลื่อนย้ายมัน

หนักมาก!

ความแข็งแกร่งของมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถแบกรับสิ่งนี้

ฟางหยวนต้องกระตุ้นใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่ง หลังจากนั้นเขาจึงสามารถนำมันออกมาด้วยมือเพียงข้างเดียว

หลังจากเห็นสิ่งนี้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

มันไม่ใช่สิ่งของเพียงชิ้นหนึ่ง แต่เป็นการรวมตัวของบางสิ่ง

พวกมันคือมด!

มดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอย่างหนาแน่นจนกลายก้อนทรงกลม

มดเหล่านี้ไม่ใช่มดธรรมดาแต่เป็นวิญญาณระดับมนุษย์

วิญญาณอายุยืนเป็นวิญญาณระดับมนุษย์เช่นกันแต่มันเป็นสมบัติล้ำค่าในสายตาของผู้อมตะทั้งหมด

แต่วิญญาณระดับมนุษย์เหล่านี้หมายความว่าอย่างไร?

ฟางหยวนรู้สึกสับสนเล็กน้อย

จากความรู้ของเขา เขาไม่สามารถบอกได้ว่าพวกมันคือสิ่งใด

แต่เนื่องจากมันเป็นมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน ฟางหยวนแน่ใจว่ามันย่อมไม่ใช่วิญญาณระดับมนุษย์ทั่วไป

ดังนั้นเขาจึงเริ่มปรับแต่งพวกมัน

ฝูงมดดำกลายเป็นทรัพย์สินของเขาอย่างรวดเร็ว

ภายใต้การจัดการของฟางหยวน ฝูงมดแยกตัวออกมาและเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน

“โอ้” การแสดงออกของฟางหยวนเปลี่ยนไป เขามองสิ่งนี้และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิญญาณอมตะ

แท้จริงแล้วมีของดีซ่อนอยู่ในฝูงมดดำ มันคือวิญญาณอมตะ!

วิญญาณระดับมนุษย์ทั้งหมดเดินลงไปบนพื้นและเหลือวิญญาณอมตะเพียงดวงเดียวที่อยู่ในมือของฟางหยวน

หากเปรียบเทียบกับวิญญาณระดับมนุษย์มดดำ มันมีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่า มันอยู่ในรูปลักษณ์ของมดตัวหนึ่งแต่มันดูเหมือนมีกล้ามขาและมีหน้าท้องขนาดใหญ่

“มันคือราชินีมดงั้นหรือ?” ฟางหยวนคาดเดา

จากกลิ่นอายของวิญญาณอมตะดวงนี้ มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด!

เขาไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด

แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องปรับแต่งมันเป็นอันดับแรก!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท