เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1133

ตอนที่ 1133

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1133 รื้อค้นถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แปลโดย iPAT

ภายในเวลาไม่กี่วันฟางหยวนสามารถสำรวจถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเกือบทั้งหมด

บางครั้งเขารู้สึกว่าไห่ฟานกำลังสั่งสอนเขาเป็นการส่วนตัว

มีคำอธิบายอย่างละเอียดทิ้งไว้ขณะที่ตรงหน้าคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง หากพบความแตกต่าง ฟางหยวนจะค้นวิญญาณเชลยศึกอมตะและทำความเข้าใจสิ่งเหล่านั้น

ความสามารถของไห่ฟานทำให้ฟางหยวนรู้สึกชื่นชมและได้รับประโยชน์อย่างมากเกี่ยวกับการพัฒนามิติช่องว่าง

หลังจากทำความเข้าใจถ้ำสวรรค์ไห่ฟานทั้งหมด ฟางหยวนเริ่มเคลื่อนย้ายทรัพยากร

อันดับแรกคือคริสตัลสวรรค์

เขตต้องข้ามแห่งแรกของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานคือสถานที่เก็บคริสตัลสวรรค์

มันเป็นสระน้ำลอยฟ้าที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ภายใต้ค่ายกลวิญญาณ คริสตัลสวรรค์ถูกเก็บไว้ในพื้นที่เล็กๆตรงกลางเท่านั้น

คริสตัลสวรรค์เหล่านี้มีสีฟ้าอ่อน

คริสตัลสวรรค์จะมีสีที่แตกต่างกันไปตามสถานที่ที่มันถือกำเนิดขึ้น

ฟางหยวนวางสระน้ำลอยฟ้าไว้ในสวรรค์สีฟ้าน้อย

‘น่าเสียดายที่สระน้ำแห่งนี้สามารถผลิตคริสตัลสวรรค์ได้เมื่อมันอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเท่านั้น มันไม่สามารถเกิดขึ้นในมิติช่องว่างของข้า อย่างไรก็ตามคริสตัลสวรรค์ทั้งหมดที่ข้าได้รับควรจะอยู่ได้ประมาณห้าหรือหกปี’ ฟางหยวนประเมิน

ในช่วงเวลานี้เขาจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับอาหารของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

คริสตัลสวรรค์ยังสามารถหาซื้อได้ในสวรรค์สีเหลือง

เขตต้องห้ามที่สองอยู่ใต้ดิน

มันเป็นถ้ำขนาดใหญ่

มีหินงอกหินย้อยเติบโตขึ้นในถ้ำ สิ่งนี้คือหินบุปผา มันเป็นสมบัติที่หาได้ยากในโลกภายนอก

ฟางหยวนใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อนำพวกมันเก็บไว้ที่ภาคใต้น้อย

โชคดีที่เขามีวิญญาณอมตะยกภูเขา มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องยาก

‘แต่หลังจากที่ข้าทำเช่นนี้ หินบุปผาจะหยุดเติบโต พวกมันจะดูดซับปราณพิภพจากมิติช่องว่างของข้า นี่ทำให้ข้าต้องวางมิติช่องว่างลงเป็นครั้งคราว’

นอกจากทรัพยากรเหล่านี้ยังมีสัตว์อสูรบรรพกาลและพืชอสูรบรรพกาล

ในส่วนของพืชอสูรบรรพกาล มีต้นไม้กินเนื้ออยู่หนึ่งต้น

นี่เป็นพืชอสูรบนเส้นทางความแข็งแกร่ง โดยปกติพวกมันจะเติบโตขึ้นในสวรรค์สีดำ

ไห่ฟานสร้างสภาพแวดล้อมพิเศษไว้สำหรับมันโดยเฉพาะ

กิ่งก้านสาขาของมันราวกับหนวดปลาหมึกและสามารถจับสัตว์อสูรที่บินได้

ฟางหยวนเคยเห็นมันมาแล้วครั้งหนึ่งที่ถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาว

ก่อนหน้านี้เขาต้องการต้นไม้กินเนื้อเพราะเขาสามารถใช้วิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่งดูดซับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งจากมัน แต่ตอนนี้วิญญาณอมตะกินความแข็งแกร่งถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นโชคลาภที่มาได้ในเวลาที่ไม่เหมาะสม

ฟางหยวนวางต้นไม้กินเนื้อไว้ในสวรรค์สีดำน้อย

ความได้เปรียบของมิติช่องว่างจักรพรรดิเริ่มปรากฎให้เห็น ไห่ฟานจัดเตรียมทรัพยากรอย่างยากลำบาก แต่ฟาหงยวนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเนื่องจากสภาพแวดล้อมของสวรรค์สีดำน้อยใกล้เคียงกับสวรรค์สีดำที่แท้จริง ต้นไม้กินเนื้อกระทั่งมีความสุขมากขึ้นหลังจากย้ายถิ่นฐาน

ไห่ฟานเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว ฟางหยวนจึงมีช่วงเวลาที่ง่ายดายในการย้ายต้นไม้กินเนื้อ

เช่นเดียวกับสัตว์อสูรบรรพกาลหรือพืชอสูรบรรพกาลอื่นๆที่อยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ฟางหยวนสามารถเคลื่อนย้ายพวกมันได้อย่างไม่มีปัญหา

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงก็คือท่ามกลางสัตว์อสูรบรรพกาลเหล่านี้มีสุนัขสวรรค์อยู่สามตัว

น่าเสียดายที่ฟางหยวนต้องการสุนัขเดียวดายไม่ใช่สุนัขบรรพกาล เขาต้องใช้สุนัขระดับหกเป็นอาหารให้กับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข

แต่สุนัขสวรรค์ทั้งสามไม่ได้ไร้ประโยชน์

ในอนาคต หากฟางหยวนสามารถยกระดับวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขสู่ระดับเจ็ด พวกมันจะกลายเป็นอาหารชั้นยอด

ระหว่างการเคลื่อนย้ายทรัพยากร ระฆังทองเหลืองติดตามอยู่ข้างๆฟางหยวนตลอดเวลา

ฟางหยวนเป็นเจ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ดังนั้นจิตวิญญาณสวรรค์จึงให้ความร่วมมือและไม่มีการต่อต้าน

หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน ฟางหยวนก็เก็บกวาดทรัพยากรทั้งหมดของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แม้ภูเขามรดกอมตะจะกลายเป็นว่างเปล่า แต่ฟางหยวนก็ยังนำมันเก็บไว้ในภาคใต้น้อย

มีผู้ใช้วิญญาณและมนุษย์จำนวนมากอาศัยอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

พวกเขาล้วนเป็นบุตรหลานของอาชญากรเผ่าไห่

ฟางหยวนสังหารพวกเขาทั้งหมดและรวบรวมดวงวิญญาณทุกดวงเอาไว้เพื่อหล่อเลี้ยงภูเขาตงฮัน

สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกเสียใจเล็กน้อยก็คือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์

เมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์พัฒนาไปถึงระดับหนึ่ง ผู้อมตะจะเริ่มเลี้ยงมนุษย์กลายพันธุ์เอาไว้ภายใน แม้ไห่ฟานจะสามารถทำสิ่งนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ทำ

แต่กระทั่งจะไม่มีมนุษย์กลายพันธุ์ เพียงทรัพยากรในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานก็ยังทำให้ฟางหยวนได้รับกำไรมาหาศาล

‘นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่!’

‘หากข้าต้องรวบรวมพวกมันด้วยตนเอง ข้าต้องใช้เวลาหกร้อยปี! และนั่นยังเป็นกรณีที่ดีที่สุด แต่หลังจากได้รับทรัพยากรของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้าสามารถบรรลุถึงระดับนี้โดยตรง’

ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานคงอยู่มาอย่างยาวนานและสะสมทรัพยากรเอาไว้มากมาย ท้ายที่สุดมันก็คือความมั่งคั่งของผู้อมตะระดับแปด

แม้พวกมันจะถูกใช้ไปบางส่วนแต่พวกมันก็ยังอยู่ในระดับที่ดี ฟางหยวนพอใจมาก

ก่อนหน้านี้มิติช่องว่างจักรพรรดิเหมือนคนอนาถา แต่ตอนนี้เขากลายเป็นเศรษฐีอย่างกะทันหัน

‘ตอนนี้ทรัพยากรในมิติช่องว่างจักรพรรดิเหนือกว่าผู้อมตะระดับเจ็ดทั่วไปแล้ว กระทั่งผู้อมตะระดับแปดบางคนก็ยังไม่บรรลุระดับเดียวกับข้า!’

‘แน่นอนว่าทรัพยากรจำนวนมากพึ่งถูกย้ายเข้าไปขณะที่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาลดน้อยลง นี่จะทำให้ผลผลิตของพวกมันลดลงอย่างมาก’

‘สัตว์และพืชจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ มิติช่องว่างของข้าก็ต้องหลอมรวมกับพวกมันอย่างช้าๆ’

‘ทรัพยากรบางอย่างที่ข้าไม่สามารถใช้งาน ข้าควรขายหรือแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่ข้าต้องการ’

การย้ายทรัพยากรเป็นเพียงจุดเริ่มต้น

ต่อไปฟางหยวนต้องพัฒนาและจัดการกับพวกมันอย่างเหมาะสม

ไม่กี่วันต่อมาฟางหยวนนำชูตู๋มายังถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

“หลังจากได้รับข้อความ ข้าก็รีบมาที่นี่ทันที นี่คือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานงั้นหรือ? เหตุใดมันจึงแห้งแล้งนัก?” ชูตู๋มองไปรอบๆด้วยความผิดหวัง

แทบไม่เหลือสิ่งใดเลยในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

กระทั่งทุ่งหญ้าก็ถูกขุดออกไปโดยฟางหยวน แน่นอนว่าไม่มีต้นไม้เช่นกัน

แม่น้ำและสระน้ำต่างๆถูกย้ายไปไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิโดยวิญญาณอมตะดึงแม่น้ำ

ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานกลายเป็นดินแดนรกร้าง มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้นที่เหลืออยู่

ชูตู๋มองฟางหยวนด้วยสายตาสั่นไหว

การแสดงออกของเขาราวกับต้องการกล่าวว่า “น้องชาย ความอยากอาหารของเจ้ามากมายเกินไปหรือไม่? ข้ารีบมาที่นี่เพื่อดูสิ่งนี้งั้นหรือ?”

ฟางหยวนยิ้มและชี้ไปที่ท้องฟ้า “พี่ชู ตามข้อตกลงพันธมิตร ข้าจะมอบส่วนแบ่งสามสิบส่วนให้ท่าน ตอนนี้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นของท่านแล้ว”

สายตาของชูตู๋ที่มองฟางหยวนเปลี่ยนเป็นตกใจ “เจ้าแน่ใจงั้นหรือ?”

“แน่นอน” ฟางหยวนพยักหน้า

ชูตู๋ถูกล่อลวง!

แม้ทรัพยากรทั้งหมดจะถูกฟางหยวนยึดครอง แต่นี่ก็ยังเป็นถ้ำสวรรค์!

ถ้ำสวรรค์และทรัพยากรไม่ต่างจากไก่กับไข่

ฟางหยวนนำไข่ไปและทิ้งไก่ไว้ให้กับชูตู๋

เป็นธรรชาติที่ชูตู๋จะไม่สามารถปฏิเสธ

เหตุผล?

เพราะถ้ำสวรรค์จะเป็นตัวช่วยที่ยิ่งใหญ่ในการบ่มเพาะของชูตู๋

แม้ชูตู๋จะมีมิติช่องว่างเช่นกัน แต่มันก็ยังเป็นเพียงระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาหรือห้วงมิติ มันก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

แดนศักดิ์สิทธิ์ของชูตู๋มีแหล่งเพาะปลูกมากมาย แต่มันก็ไม่ปลอดภัยที่จะวางทรัพยากรทั้งหมดไว้ที่นั่น

เหตุผลสำคัญคือภัยพิบัติ

ภัยพิบัติจะทำลายทรัพยากรในมิติช่องว่างของผู้อมตะ

ชูตู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติใหญ่ เขาตระหนักและเจ็บปวดมามากจากการสูญเสียทรัพยากรเหล่านั้น

เขาไม่มีหนึ่งในสิบสุดยอดกายา พื้นที่แดนศักดิ์สิทธิ์ของเขามีจำกัด มันแตกต่างจากมิติช่องว่างจักรพรรดิของฟางหยวน แม้ฟางหยวนจะไม่ทิ้งทรัพยากรไว้ให้ชูตู๋ แต่ชูตู๋ก็ไม่สามารถตำหนิ

‘ถ้ำสวรรคไห่ฟานไม่มีภัยพิบัติเพราะมันดูดซับเศษชิ้นส่วนของสวรรค์สีฟ้าเข้าไป ข้าสามารถวางทรัพยากรไว้ที่นี่ แน่นอนว่าที่นี่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งไม่มาก แต่ข้าสามารถพัฒนามันในอนาคต’ ชูตู๋ประเมิน

‘หลิวกวนซื่อมอบถ้ำสวรรค์ไห่ฟานให้ข้า นอกเหนือจากทำตามข้อตกลง มันยังเป็นเพราะถ้ำสวรรค์แห่งนี้มีปัญหา’

ชูตู๋ไม่ได้โง่ เขาตระหนักถึงปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ชูตู๋ยึดรังอินทรีย์คริสตัลสวรรค์ ทุกคนรู้ว่ามรดกที่แท้จริงของไห่ฟานอยู่ในมือเขา

ผู้ที่ได้รับมรดกของไห่ฟานคือฟางหยวน แต่ในอนาคตคนที่จะพบปัญหาคือชูตู๋

‘แม้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจะบุกโจมตี แล้วอย่างไร? ข้าก็ยังจะยึดครองถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน จักรพรรดิอมตะจะกลัวเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ได้อย่างไร?’

เมื่อคิดได้ดังนี้ชูตู๋จึงพยักหน้าตกลง

“ดี สมกับเป็นจักรพรรดิอมตะ!” ฟางหยวนปรบมือชื่นชม

แต่หลังจากส่งมอบถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน มีปัญหาเล็กน้อย

จิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองไม่เต็มใจ

นั่นเป็นเพราะชูตู๋ไม่มีสายเลือดของเผ่าไห่

“เรื่องมาก” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มน่ากลัวและทำลายระฆังทองเหลืองด้วยการโจมตีเดียว

ปัญหาถูกแก้ไขทันที!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท