เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1129

ตอนที่ 1129

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1129 สมบัติทั้งสี่ (2)

แปลโดย iPAT

การปรับแต่งวิญญาณอมตะไม่สามารถทำได้ด้วยการใช้พลังวิญญาณแต่ต้องใช้พลังงานอมตะ

ฟางหยวนมองระฆังทองเหลืองและคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนจะตัดสินใจใช้พลังงานอมตะปรับแต่งวิญญาณอมตะดวงนี้โดยตรง

ระฆังทองเหลืองไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ฟางหยวนไม่สามารถบอกได้ว่ามันกำลังคิดสิ่งใดอยู่

ขั้นตอนการปรับแต่งราบรื่นมาก วิญญาณอมตะระดับเจ็ดราชินีมดไม่ได้ต่อต้าน มันกระทั่งให้ความร่วมมือกับฟางหยวน

แต่มันยังเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด ฟางหยวนต้องใช้องุ่นเขียวอมตะจำนวนมากเพื่อปรับแต่งมัน

‘ตอนนี้องุ่นเขียวอมตะของข้าเริ่มลดลงแล้ว’ ฟางหยวนเตือนตัวเอง

ในการเดินทางครั้งนี้ เขาต้องใช้องุ่นเขียวอมตะจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เกิดจากการกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติและวิญญาณอมตะดาบบิน

แม้การต่อสู้จะไม่รุนแรง แต่เขายังต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะจำนวนมาก

‘หลังจากกลับไปข้าต้องเก็บสะสมพลังงานอมตะอีกครั้งเพื่อความปลอดภัย’

ฟางหยวนเก็บวิญญาณอมตะระดับเจ็ดที่ปรับแต่งเรียบร้อยแล้วไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ตอนนี้เหลืออีกสองเงาที่อยู่ในกำแพงแสง

เงาด้านล่างมีขนาดเล็กที่สุด ฟางหยวนตัดสินใจทิ้งมันไว้ก่อน

เขายื่นมือเข้าไปจับเงาที่อยู่มุมบนด้านขวา

เงานี้เหมือนหินแต่มันกลับตอบสนองต่อการสัมผัสของฟางหยวนทันที

มันเย็นมาก

ฟางหยวนนำมันออกมาและพบว่ามันเป็นก้อนน้ำแข็ง

น้ำแข็งก้อนนี้ผนึกวิญญาณอมตะเอาไว้ภายใน

ไม่มีกลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมาแต่ดวงตาของฟางหยวนกลับส่องประกายขึ้น

วิญญาณปีอมตะ!

“โอ้ วิญญาณปี…” ฟางหยวนถอนหายใจ

นี่คือวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีชื่อเสียง

ฟางหยวนมีความประทับใจอย่างมากต่อมัน

มันเป็นวิญญาณอมตะที่พิเศษมาก

เมื่อผู้อมตะจ่ายด้วยทรัพยากรอมตะ พวกเขาจะสามารถยกระดับวิญญาณปีขึ้นไปได้อย่างต่อเนื่อง

วิญญาณปีระดับมนุษย์มีวิญญาณหนึ่งปีถึงสิบปี

เมื่อวิญญาณปีระดับมนุษย์พัฒนาเป็นวิญญาณอมตะระดับหก มันจะมีอายุมากกว่าสิบปี

ด้วยการใช้ทรัพยากรอมตะ ผู้อมตะสามารถยกระดับมันให้กลายเป็นวิญญาณอมตะยี่สิบปี สามสิบปี หรือเก้าสิบเก้าปี

เมื่อมันบรรลุถึงหนึ่งร้อยปี มันจะกลายเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดและสามารถพัฒนาไปถึงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าปี

เมื่อมันบรรลุถึงหนึ่งพันปี มันจะกลายเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดและสามารถพัฒนาไปถึงเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าปี

ในทำนองเดียวกันเมื่อมันอายุถึงหนึ่งหมื่นปี มันจะกลายเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า แต่ในประวัติศาสตร์ยังไม่เคยมีวิญญาณอมตะหนึ่งหมื่นปีเกิดขึ้น

แต่วิญญาณปีอมตะระดับแปดเคยปรากฏมาก่อน

วิธีการใช้งานวิญญาณปีก็เป็นสิ่งที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก

เมื่อผู้อมตะใช้งานมัน ปีจะลดลงอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น วิญญาณห้าสิบปีอาจกลายเป็นวิญญาณยี่สิบปีในครั้งเดียว

ในกรณีที่วิญญาณหนึ่งพันปีกลายเป็นวิญญาณเก้าร้อยปี มันจะตกจากระดับแปดเป็นระดับเจ็ด การยกระดับมันมีความยุ่งยากและมีความเสี่ยง

กล่าวอีกอย่างวิญญาณปีเป็นวิญญาณที่สิ้นเปลือง

แต่มันไม่ใช่วิญญาณที่ใช้งานได้ครั้งเดียวเช่นวิญญาณทารกอมตะ

มันสามารถเติมและใช้งานได้อีกครั้ง

นี่เป็นเอกลักษณ์พิเศษของวิญญาณชนิดนี้

‘สิ่งที่ดีประการหนึ่งของวิญญาณปีคือไม่มีปัญหาเกี่ยวกับอาหาร เช่นเดียวกับวิญญาณกาลเวลา อาหารของมันก็คือเวลา แต่ข้าจะปรับแต่งมันได้อย่างไร?’ ฟางหยวนไม่แน่ใจ

วิญญาณอมตะดวงนี้ถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็งอย่างสมบูรณ์

ฟางหยวนมองก้อนน้ำแข็งและรู้สึกว่ามันค่อนข้างพิเศษ

มันทำให้วิญญาณจำศีลอยู่ภายในและไม่ปล่อยให้กลิ่นอายใดๆรั่วไหลออกมา

‘เหตุใดไห่ฟานจึงผนึกวิญญาณปี? เดี๋ยว! นี่คือ?’ ฟางหยวนค้นพบบางสิ่ง

เขาตระหนักถึงของเหลวที่ถูกผนึกไว้ด้านล่างของก้อนน้ำแข็ง

“น้ำไหล?”

ฟางหยวนตกใจ เห็นได้ชัดว่ามีน้ำไหลอยู่ภายในก้อนน้ำแข็ง

น้ำไหลที่ถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็ง นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลก

เปรียบเทียบกับวิญญาณปี น้ำดูไม่สะดุดตา

ฟางหยวนตรวจสอบอีกครั้งและพบว่าก้อนน้ำแข็งมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของวิญญาณปีค่อนข้างมาก เขารู้สึกว่าก้อนน้ำแข็งไม่ได้ผนึกวิญญาณปีแต่เป็นการผนึกมวลน้ำเหล่านี้

‘ดูเหมือนมันจะเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดหรืออาจจะระดับเก้า?’ ฟางหยวนคาดเดา

ทรัพยากรอมตะระดับเก้าสามารถใช้หลอมรวมวิญญาณอมตะระดับเก้า!

ในโลกใบนี้พวกมันทั้งหายากและมีคุณค่าอย่างที่สุด

หากทรัพยากรอมตะระดับเก้าถูกผนึกเอาไว้ มันจะกลายเป็นเรื่องที่สามารถทำความเข้าใจ

ฟางหยวนไม่รู้วิธีปลดผนึกน้ำแข็งก้อนนี้ เขาทำได้เพียงถือมันเอาไว้ในมือข้างขวาและยื่นมือข้างซ้ายเข้าไปในกำแพงแสงอีกครั้ง

คราวนี้เป็นเงาสุดท้าย

เมื่อนำมันออกมา เขาพบว่ามันเป็นวิญญาณระดับห้าบนเส้นทางแห่งข้อมูล

รายละเอียดที่บันทึกไว้เกี่ยวกับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน นี่คือสมบัติล้ำค่า!

อันดับแรกมันเป็นการแนะนำให้รู้จักกับวิญญาณเหล่านี้

ฟางหยวนเห็นข้อมูลเกี่ยวกับฝูงมดอย่างรวดเร็ว

‘วิญญาณอมตะระดับเจ็ดที่อยู่ตรงกลางก็คือวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาราชินีมด!’

ข้อมูลที่บันทึกไว้ระบุคุณสมบัติและการให้อาหารวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงนี้อย่างละเอียด

อาหารของราชินีมดค่อนข้างพิเศษ

เพราะมันกินได้ทุกสิ่ง!

รูปแบบการกินอาหารของมันก็ไม่ธรรมดา

มันจะให้กำเนิดมดดำและส่งพวกมันออกไปกินอาหารทุกประเภทก่อนที่จะนำสารอาหารเหล่านี้กลับมาใช้กับตัวมันเอง

‘มันสามารถกินทรัพยากรอมตะทุกชนิด ไม่เพียงเท่านั้นแต่มันยังสามารถเก็บสะสมอาหารไว้ในวิญญาณระดับมนุษย์มดดำเหล่านั้น’

มดดำสามารถกินทรัพยากรอมตะ ย่อยสลาย และกักเก็บสารอาหาร

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือพวกมันเป็นเพึยงวิญญาณระดับมนุษย์

หากฝูงมดถูกทำลายมากเกินไป วิญญาณอมตะราชินีมดอาจอดอาหารตาย แม้มันจะสามารถให้กำเนิดมดตัวใหม่ แต่มันก็สามารถผลิตลูกมดได้เดือนละหนึ่งตัวเท่านั้น

กล่าวโดยสรุปราชินีมดไม่สามารถเลี้ยงดูตัวมันเอง

ฟางหยวนยังได้รับข้อมูลเกี่ยวกับก้อนน้ำแข็ง

น้ำแข็งก้อนนี้เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะปิงเหริน

วิญญาณปีเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก

น้ำที่ถูกผนึกไว้ในก้อนน้ำแข็งแท้จริงแล้วคือวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง

นี่เป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของไห่ฟาน

มันเป็นวิญญาณอมตะระดับแปดที่มีชื่อว่า ปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ!

ผู้อมตะระดับแปดหาได้ยาก วิญญาณอมตะระดับแปดยิ่งหายากว่าและล้ำค่าอย่างที่สุด ผู้อมตะระดับแปดส่วนใหญ่ไม่เคยครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดแม้แต่ดวงเดียว พวกเขาไม่เคยพบหรือประสบความสำเร็จในการหลอมรวมมัน

ไห่ฟานเป็นตัวตนในตำนานที่นำเผ่าไห่สู่ความรุ่งโรจน์ แต่ตลอดชีวิตของเขา เขาสามารถครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดเพียงดวงเดียว นั่นก็คือปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

สถานการณ์ของฟางหยวนค่อนข้างพิเศษ

ตอนนี้เขาเป็นผู้อมตะระดับหกแต่เขากลับครอบครองวิญญาณอมตะระดับแปดถึงสามดวง

หนึ่งคือวิญญาณทัศนคติ สองคือวิญญาณดาบแห่งปัญญา และสามคือวิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

ผู้อมตะส่วนใหญ่ไม่มีวิญญาณอมตะในการครอบครอง แต่ฟางหยวนกลับมีวิญญาณอมตะในการครอบครองมากเกินไปและยังไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่นวิญญาณดาบแห่งปัญญา เขายังไม่เคยใช้งานมันแม้แต่ครั้งเดียว

วิญญาณอมตะระดับแปดปีไหลผ่านราวกับสายน้ำสามารถผลิตวิญญาณปี

ยิ่งใช้พลังงานอมตะมากเท่าใด ผู้อมตะก็สามารถผลิตวิญญาณปีได้มากเท่านั้นและกระทั่งสามารถสร้างวิญญาณปีระดับอมตะได้อีกด้วย

แน่นอนว่ามันยังอยู่ในกฎเกณฑ์ของวิญญาณอมตะที่มีเพียงหนึ่งเดียวและไม่ซ้ำกัน

ตอนนี้วิญญาณปีระดับหกอยู่กับฟางหยวน เขาไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเพื่อสร้างวิญญาณปีระดับหกอีกดวงหนึ่ง

ฟางหยวนอ่านข้อมูลต่อไป

วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำมีข้อดีสองประการ

หนึ่ง มันมีข้อกำหนดในการใช้งานต่ำ ผู้อมตะระดับหกสามารถใช้งานมันได้ ตราบเท่าที่พวกเขาจ่ายด้วยองุ่นเขียวอมตะ พวกเขาจะได้รับวิญญาณปี แม้ปีของมันจะน้อยกว่าการใช้พลังงานอมตะระดับเจ็ดหรือระดับแปดก็ตาม

สอง วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเลี้ยงง่าย อาหารของมันคือกาลเวลาเช่นเดียวกับวิญญาณกาลเวลาและวิญญาณปี

สิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาในการให้อาหารไปได้มาก

การให้อาหารวิญญาณอมตะระดับแปดถือเป็นภาระใหญ่หลวง

อย่างไรก็ตามวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำยังมีจุดอ่อน

เรื่องนี้ระบุไว้ในวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลอย่างชัดเจน

เมื่อวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำถูกนำออกมาจากผนึก กลิ่นอายของมันจะดึงดูดอสูรปีเข้ามา

อสูรปีคือสัตว์อสูรชนิดพิเศษที่ดุร้ายและหายได้ยากในห้าภูมิภาครวมถึงสวรรค์ทั้งเก้า โดยทั่วไปพวกมันจะอาศัยอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา ในแง่ของพลังการต่อสู้ อสูรปีมีทั้งระดับสัตว์อสูรเดียวดาย สัตว์อสูรบรรพกาล และสัตว์อสูรแรกกำเนิด

อาหารของอสูรปีคือวิญญาณปี

สายธารแห่งกาลเวลาคือสวรรค์ของวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลา มีวิญญาณป่าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาอยู่ที่นั่นมากมาย

อสูรปีจะกินวิญญาณปีที่เกิดขึ้นที่นั่น

ยิ่งอสูรปีระดับสูงเท่าใด พวกมันก็ยิ่งต้องการวิญญาณปีมากเท่านั้น

ในความเป็นจริงวิญญาณปีระดับอมตะดึงดูดอสูรปีเช่นกัน กระทั่งวิญญาณปีอมตะจะอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะ อสูรปีก็ยังสามารถเข้าไป

เหตุผลเป็นเพราะมิติช่องว่างของผู้อมตะมีเวลา มันเชื่อมต่อกับสายธารแห่งกาลเวลาเช่นกัน เมื่ออสูรปีได้กลิ่นของวิญญาณปี พวกมันจะเดินทางเข้าสู่กิ่งก้านสาขาของสายธารแห่งกาลเวลาและปรากฏตัวขึ้นในมิติช่องว่างของผู้อมตะโดยตรง

วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำสามารถผลิตวิญญาณปี แน่นอนว่ามันยิ่งดึงดูดอสูรปีมากกว่าวิญญาณปีอมตะหรือวิญญาณปีระดับมนุษย์

เพราะเหตุนี้ไห่ฟานจึงต้องผนึกมันไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นอายของมันรั่วไหลออกมา

ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้ในที่สุด

ต่อไปเป็นรายละเอียดที่สำคัญเช่นกัน

กล่าวให้ชัดเจนกว่านั้นก็คือท่าไม้ตายอมตะ!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท