เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1141

ตอนที่ 1141

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1141 ไม่ได้ฟังหรือไม่เชื่อ

แปลโดย iPAT

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาถูกกระตุ้นการทำงานอย่างลับๆภายในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

ร่างกายของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

มันกรีดร้องออกมาด้วยความรู้สึกไม่สะดวกสบาย

ในแง่หนึ่งเป็นเพราะร่างกายที่เติบโตเร็วเกินไปของมัน แต่สิ่งสำคัญคือมันหิว!

มันต้องกินผลึกสวรรค์จำนวนมากเป็นอาหารทุกวัน ตอนนี้เพียงหนึ่งลมหายใจก็เหมือนหนึ่งวันได้ผ่านไป เมื่อร่างกายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วมันจะไม่หิวได้อย่างไร?

โดยธรรมชาติไห่ฟานได้พิจารณาถึงสถานการณ์นี้เช่นกัน ดังนั้นท่าไม้ตายนี้จึงมีผลกระทบหนึ่งที่ช่วยชดเชยข้อบกพร่องนี้

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเริ่มกินคริสตัลสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง

ความแข็งแกร่งของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันขณะที่มันใช้ชีวิตอยู่กับฟางหยวนเป็นเวลาสั้นๆเท่านั้น ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องยากที่ฟางหยวนจะควบคุมมันและอาจใช้ความแข็งแกร่งของมันได้ไม่ถึงสามสิบส่วน

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่มีทางเลือก

เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง นี่เป็นความหวังเดียวที่จะทำให้เขาหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้

เขาเหมือนคนจมน้ำที่พยายามจับฟางเส้นหนึ่งเอาไว้

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนถูกกระตุ้นใช้งานอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มันกลายเป็นที่พึ่งเดียวสำหรับฟางหยวนในการซื้อเวลา

เขาใช้ท่าไม้ตายใบหน้าที่คุ้นเคยอำพรางตัวอยู่ในกองทัพภูตมนุษย์ ดังนั้นผู้อมตะลึกลับจึงไม่พบตัวจริงของเขา

พายุหมุนแห่งการทำลายล้างยังปกคลุมไปทั่วทั้งสนามรบ

ภูตมนุษย์ของฟางหยวนอยู่ได้เพียงหนึ่งหรือสองลมหายใจก่อนจะถูกทำลาย

ฟางหยวนไม่เคยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายหมื่นตัวตนมากมายเท่านี้มาก่อน

โชคดีที่เขาเก็บภูตมนุษย์บนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากไว้ในมิติช่องว่างอยู่แล้ว นอกจากนั้นด้วยความชำนาญ เขาจึงไม่เคยล้มเหลวในการกระตุ้นใช้งานมัน

อย่างไรก็ตามพลังงานอมตะของเขายังลดลงเรื่อยๆ

เกี่ยวกับพลังงานอมตะ ฟางหยวนเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยธรรมชาติ เขาไม่มีทางแข่งขันกับผู้อมตะถึงเก้าคน

“ทักษะในการซ่อนตัวของคนผู้นี้น่าทึ่งมาก” ผู้อมตะลึกลับบางคนยกย่อง

“อย่ากังวล ตราบเท่าที่ท่าไม้ตายเขตแดนอมตะสนามรบสีเทายังอยู่ พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเขาจะสามารถหลบหนี” ผู้อมตะอีกคนตอบกลับ

“ฮืม เจ้าหนูตัวน้อย ออกมาเถอะ ยิ่งเจ้าตายเร็วเท่าใด เจ้าก็ยิ่งหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานเร็วเท่านั้น”

ผู้อมตะระดับเจ็ดทั้งสี่ไม่กล่าวสิ่งใดแต่ผู้อมตะระดับหกพยายามกดดันฟางหยวน

แต่ฟางหยวนจะง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร

เจตจำนงของเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็กกล้า แม้เขาจะตกอยู่ในอันตราย เขาก็ไม่เคยละทิ้งความพยายามจนถึงวินาทีสุดท้าย

ตั้งแต่เขาใช้กลยุทธ์ยื้อเวลา เขาจะไม่มีวันเปิดเผยตัว

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้นด้วยความเร็วสูง รังนกคริสตัลสวรรค์ถูกกินไปแล้วมากกว่าครึ่ง

แต่มันยังห่างไกลจากความพอเพียง

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเป็นกุญแจสำคัญของการต่อสู้ครั้งนี้

‘ศัตรูมีความได้เปรียบด้านจำนวน เมื่อข้าลงมือ ข้าต้องประสบความสำเร็จในครั้งเดียว ไม่มีโอกาสที่สอง!’

ขณะที่คิดถึงเรื่องนี้ เสียงหัวเราะเบาๆพลันดังขึ้นข้างหูของฟางหยวน

มันเป็นเสียงของผู้อมตะหญิง

เส้นผมของฟางหยวนชูชันขึ้น โดยไม่สนใจการเปิดเผยตัวตนของฝ่ายตรงข้าม ฟางหยวนกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติทันที

เขาบินขึ้นสู่ท้องฟ้า

แทบจะในเวลาเดียวกันที่ก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่าศาลาก่อตัวขึ้นในตำแหน่งเดิมของเขา

“เขาค่อนข้างเร็ว” ผู้อมตะระดับหกกล่าวด้วยความประหลาดใจ เสียงของนางเป็นเสียงเดียวกับเสียงที่ดังขึ้นข้างหูของฟางหยวน

“เสวี่ยเอ๋อ เจ้าประสบความสำเร็จแล้ว ไม่เลว” ผู้อมตะระดับเจ็ดยกย่อง

“ขอบคุณท่านย่า” ผู้อมตะหญิงดูเหมือนจะมีความสุข “แม้ข้าจะไม่สามารถค้นหาตัวจริงของเขาได้ทุกครั้ง แต่การกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อสร้างภูตมนุษย์ของเขายังทำให้กลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา ยิ่งเขากระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะบ่อยเท่าใด มันก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ข้าค้นพบเขามากเท่านั้น”

“ดี ข้าจะดูว่าเขาจะหนีไปได้นานเท่าใด!” ผู้อมตะระดับเจ็ดอีกคนตะโกนและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

เขาเร็วมาก

เพียงไม่นานเขาก็เข้าประชิดตัวฟางหยวน

ฟางหยวนจำผู้อมตะผู้นี้ได้ เขาคือคนที่ยิงศรน้ำแข็งออกมา

“ตาย!” ผู้อมตะระดับเจ็ดสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นในมือทั้งสองข้าง

“ผู้อมตะสายต่อสู้ระยะประชิด!?” ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น เขาเร่งล่าถอยออกไป

อย่างไรก็ตามวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติกลับไม่สามารถสร้างระยะห่าง

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลงเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าชั้นเมฆหมอกสีเทาทำให้ความเร็วของเขาลดลง

ขณะเดียวกันมันก็ช่วยเพิ่มความเร็วให้กับผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นั้น

“หากข้าปล่อยให้เจ้าหลบหนีได้อย่างอิสระ ข้าคงดูไร้ความสามารถจริงๆ” ผู้อมตะผู้ควบคุมท่าไม้ตายเขตแดนที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่ในระยะไกลกล่าว

ฟางหยวนถูกบังคับให้เข้าสู่การต่อสู้ระยะประชิด

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้ทั้งทรงพลังและมีทักษะการต่อสู้ที่โดดเด่น

ภายในไม่กี่กระบวนท่า แขนซ้ายและหน้าท้องของฟางหยวนถูกเจาะทะลวง

วิญญาณอมตะสมบัติเลือดได้รับบาดเจ็บสาหัส

ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางน้ำแข็งถูกฝังไว้บนบาดแผลของฟางหยวนทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะรักษา อุณหภูมิร่างกายของเขาลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว

ข้อบกพร่องของร่างทารกอมตะปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรก!

โดยปราศจากความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันทำให้ฟางหยวนบาดเจ็บได้ง่าย

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนระวังตัวตลอดเวลาจึงไม่พบปัญหาใด แต่ตอนนี้เขาถูกบังคับให้เผชิญหน้ากับจุดอ่อนนี้

“ตาย!” ศัตรูส่งหอกน้ำแข็งในมือข้างขวาพุ่งเข้ากลางหน้าผากของฟางหยวนขณะที่หอกน้ำแข็งในมือข้างซ้ายพุ่งไปที่หัวใจของฟางหยวนอย่างเงียบๆ

“ฟิ้ว…”

ฟางหยวนเปลี่ยนท่าไม้ตายอย่างกะทันหัน เขาทะยานร่างเป็นเส้นโค้งและสามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างฉิวเฉียด

“เส้นทางแห่งเลือด!?” ผู้อมตะระดับหกอุทานด้วยความตกใจ

“เขาเป็นคนบาปที่ไม่สามารถให้อภัย! เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเลือด!”

“นี่ถือได้ว่าพวกเราช่วยกำจัดความชั่วร้ายให้กับโลกใบนี้!”

“ข้าค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับท่าไม้ตายสายป้องกันก่อนหน้านี้ของเขา ดังนั้นมันจึงเป็นเช่นนี้”

ผู้อมตะถือหอกคู่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

ฟางหยวนส่งกำปั้นยักษ์บินออกไป

ในระยะทางสั้นๆ ผู้อมตะหอกน้ำแข็งไม่สามารถหลบเลี่ยง

แต่เขาก็ไม่มีความคิดที่จะหลบ

เขาแทงกำปั้นยักษ์ด้วยหอกน้ำแข็งทั้งสองก่อนจะออกไล่ล่าฟางหยวน

เนื่องจากเขาชำนาญด้านการต่อสู้ระยะประชิด เขาจึงมีวิธีป้องกันที่โดดเด่น หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เขาจะกล้าเสี่ยงเข้าเผชิญหน้ากับศัตรูในระยะประชิดได้อย่างไร

ผู้อมตะสายต่อสู้ระยะประชิดมีอยู่ไม่มาก มันเคยรุ่งเรืองในอดีต แต่ตอนนี้มันแทบสูญหายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามหากผู้อมตะสายนี้สามารถเข้าประชิดตัวคู่ต่อสู้ พวกเขาจะกลายเป็นภัยคุกคามร้ายแรง

ฟางหยวนอยู่ในสถานการณ์แห่งชีวิตและความตายตลอดเวลา เขาต้องใส่ใจทุกการเคลื่อนไหวของศัตรู หากประมาทเพียงเล็กน้อย มันอาจส่งผลร้ายถึงชีวิต

ฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะมากมาย แต่ในการต่อสู้ระยะประชิด เขากลับทำได้เพียงหลบเลี่ยงเนื่องจากไม่มีเวลาใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนและหากตอบสนองล่าช้า มันอาจส่งผลกระทบถึงชีวิต

จังหวะของฟางหยวนถูกทำลายลงในที่สุด เขาแทบไม่ได้หยุดพักก่อนที่ศัตรูจะพบช่องว่างและส่งหอกน้ำแข็งทะลุหัวใจของเขา

“มันจบแล้ว” การแสดงออกของผู้อมตะลึกลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย

บุรุษคนก่อนหน้า!

เมื่อฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า อาการบาดเจ็บร้ายแรงของเขาก็ถูกกู้คืนในพริบตา

จากนั้นท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืดก็ถูกยิงไปที่ศีรษะของฝ่ายตรงข้าม

ฟางหยวนได้รับชัยชนะทันที

เขาเก็บวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าเอาไว้เพื่อรอโอกาสนี้

เสียงตกใจดังขึ้นแต่กลุ่มผู้อมตะลึกลับกลับไม่โกรธ

ในช่วงเวลาต่อมาฟางหยวนก็เห็นสิ่งที่แปลกประหลาด ศีรษะที่ถูกทำลายของศัตรูไม่มีเลือดและเนื้อ มันถูกสร้างขึ้นจากกลุ่มเมฆหมอกสีเทา!

เมฆหมอกสีเทาที่กระจายตัวออกไปควบรวมกันเป็นศีรษะของผู้อมตะหอกน้ำแข็งอีกครั้ง เขาหัวเราะ “ไม่เลว เจ้าทำลายศีรษะของข้าได้จริงๆ ฮืม ผู้อมตะมนุษย์ช่างเจ้าเล่ห์นัก หากเป็นเวลาปกติ ข้าอาจตายไปแล้วจริงๆ แต่น่าเสียดายที่นี่คือเขตแดนอมตะสนามรบสีเทา”

รูม่านตาของฟางหยวนหดเล็กลง

ความไม่รู้ทำให้เกิดข้อผิดพลาด

‘แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินเกี่ยวกับเขตแดนอมตะสนามรบสีเทาแต่มันก็เป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะที่ทรงพลัง’ ฟางหยวนถอนหายใจ

เขาตั้งใจปกปิดการคงอยู่ของวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าเอาไว้และใช้มันในช่วงเวลาสำคัญ แต่แผนการที่ยากลำบากของเขากลับถูกขัดขวางโดยเขตแดนสนามรบสีเทา

“นี่คือสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยพระมารดา แล้วมันจะง่ายดายได้อย่างไร!” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

ฟางหยวนมองเข้าในมิติช่องว่างจักรพรรดิเพื่อตรวจสอบการเติบโตของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

แต่…

มันกำลังจะตาย!

คริสตัลสวรรค์หมดสิ้นแล้ว ตอนนี้มันกำลังจะอดอาหารตาย

ฟางหยวนพยายามป้อนสิ่งอื่นให้มันอิต่นทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดยังปิดปาก

‘บัดซบ! ก่อนหน้านี้ข้ายุ่งอยู่กับการต่อสู้ ข้าไม่มีเวลากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด’ หัวใจของฟางหยวนจมลงสู่ก้นบึ้ง

ร่องรอยแห่งความหวังสุดท้ายของเขากำลังจะหายไป

ในเขตแดนสนามรบสีเทา ศัตรูจะไม่ตาย ฟางหยวนไม่มีกลยุทธ์ที่สามารถรับประกันชัยชนะ การจัดการผู้อมตะระดับเจ็ดเป็นเรื่องยากโดยยังไม่ต้องกล่าวถึงสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวตั้งแต่เริ่มต้น

ความตายใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

“เด็กน้อย ฝากชื่อของเจ้าไว้ เจ้าเป็นศัตรูที่ควรค่าแก่การจดจำ” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งกล่าว

ผู้อมตะคนอื่นๆไม่ได้กล่าวสิ่งใด พวกเขาเพียงเฝ้ามองอยู่ด้านข้างเท่านั้น

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับเผยรอยยิ้มมั่นใจ “ชื่อของข้าไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือสถานะของข้า ข้าคือผู้อาวุโสสูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา กองกำลังของมนุษย์กลายพันธุ์ ในสถานการณ์ปัจจุบัน มนุษย์กลายพันธุ์เช่นพวกเราไม่ควรต่อสู้กัน มนุษย์หินและมนุษย์ขนควรให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การต่อสู้กันเองจะทำให้ศัตรูที่แท้จริงรู้สึกพึงพอใจ”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่า…” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งประหลาดใจมาก

“เขารู้ตัวตนของพวกเราจริงๆ!”

“เร็ว ฆ่าเขา!”

“ผู้อมตะเผ่ามนุษย์ล้วนเจ้าเล่ห์ อย่าฟังคำพูดของเขา!”

ผู้อมตะคนอื่นๆกรีดร้อง

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา! นอกจากนี้เจ้ายังเป็นมนุษย์ขน? เจ้าคิดว่าข้าตาบอดงั้นหรือ?” ผู้อมตะหอกน้ำแข็งแทงหอกออกไปข้างหน้า

ฟางหยวนเปิดเผยตัวตนของพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้ฟังหรือไม่เชื่อคำกล่าวของฟางหยวน

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท