เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1156

ตอนที่ 1156

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1156 สัมผัสแห่งเต๋า

แปลโดย iPAT

หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนกลายเป็นเจ้าของคนใหม่ของหอยนางรมห้องลับ

“เพียะ! เพียะ! เพียะ!”

เขาตบหน้าผู้อมตะหนุ่ม “เลือกได้ดี เด็กเลว”

ผู้อมตะหนุ่มไม่กล้าขยับเขยื้อนแต่ดวงตาลุกไหม้ไปด้วยความโกรธและความอับอาย

ฟางหยวนไม่สนใจ

เขากระโดดเข้าไปในหอยนางรมห้องลับ ก่อนจากไปเขายังกล่าวว่า “ข้าชื่อชูอิง ข้านำหอยนางรมห้องลับของเจ้าไป อย่าลืมบอกปู่ของเจ้าด้วย”

เปลือกหอยนางรมปิดตัวลงก่อนที่มันจะเคลื่อนที่เข้าไปในกระแสน้ำ

ผู้อมตะหนุ่มตะโกนเสียงดัง “ดี ชูอิง อย่าห่วง ข้าจะบอกท่านปู่ของข้าอย่างแน่นอน!”

“นายน้อย เราจะทำอย่างไรต่อไป?” สองหญิงงามร้องไห้และดึงแขนเสื้อของผู้อมตะหนุ่ม

ใบหน้าของผู้อมตะหนุ่มกลายเป็นแข็งค้าง ช่องว่างแห่งนี้ค่อยๆหดตัวเล็กลง นี่ทำให้หัวใจของผู้อมตะหนุ่มจมดิ่งลง

ด้วยพละกำลังของเขา เขาไม่สามารถเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ เขามาที่นี่ได้เพราะหอยนางรมห้องลับ

“อย่ากังวล แม้หอยนางรมห้องลับจะถูกชิงไป แต่ข้ามีวิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชาย ข้าสามารถกลับไปหาวิญญาณอมตะอ้อมกอดของมารดาและพบท่านปู่ของข้าโดยตรง!” ผู้อมตะหนุ่มกัดฟันแน่น

“นั่นยอดเยี่ยมาก พวกเราปลอดภัยแล้ว” หญิงทั้งสองมีความสุขมาก

“ปุ ปุ”

ด้วยเสียงระเบิดเบาๆ หญิงทั้งสองก้มหน้ามองหน้าอกที่กลายเป็นรูของพวกนางด้วยความตกใจ “นายน้อย…”

ผู้อมตะหนุ่มแสดงออกด้วยความเคร่งขรึม “พวกเจ้าเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ฮืม!”

เขายื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของหญิงทั้งสอง “น่าเสียดาย พวกเจ้างดงามมาก ทั้งหมดเป็นความผิดของชูอิง!”

หลังกล่าวจบคำเขาผลักศพของหญิงทั้งสองเข้าไปในกระแสน้ำ

โดยปราศจากวิธีป้องกันของผู้อมตะ ศพมนุษย์ถูกฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในพริบตา

เมื่อเห็นช่องว่างแห่งนี้กำลังจะพังทลายลง ผู้อมตะหนุ่มเร่งกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชายทันที

ทะเลไหลเชี่ยวเต็มไปด้วยพลังงานแห่งเต๋าที่วุ่นวาย วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติเป็นเรื่องยากที่จะใช้งาน วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือการเดินทางตามปกติ

แต่วิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชายไม่ใช่วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ มันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งอารมณ์ความรู้สึก

เส้นทางแห่งอารมณ์ความรู้สึกเป็นสาขาย่อยของเส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งปัญญาประกอบด้วยสามเส้นทางคือความคิด เจตจำนง และอารมณ์ความรู้สึก

วิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชายและวิญญาณอมตะอ้อมกอดของมารดาเป็นวิญญาณอมตะคู่บนเส้นทางแห่งอารมณ์ความรู้สึก

ในทะเลไหลเชี่ยวแทบไม่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งอารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นวิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชายและวิญญาณอมตะอ้อมกอดของมารดาจึงสามารถใช้งานโดยปราศจากอันตราย

วิญญาณอมตะการท่องเที่ยวของบุตรชายนำผู้อมตะหนุ่มจากไป

เขารู้สึกมึนงงและกระอักกระอ่วน แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ได้สติและพบว่าตนเองกลับมายังมิติช่องว่างของเหรินซิ่วปิงเรียบร้อยแล้ว

“ท่านปู่…” ผู้อมตะหนุ่มตะโกนเรียก

“ฮืม ขณะที่ข้าวางมิติช่องว่างลงเพื่อดูดซับปราณสวรรค์พิภพ เจ้ากลับลอบออกไปเล่นสนุกข้างนอก หากข้ารู้เช่นนี้ ข้าจะไม่มอบหอยนางรมห้องลับให้เจ้า!” เหรินซิ่วปิงตำหนิ

“ท่านปู่ หอยนางรมห้องลับถูกชิงไปแล้ว!” ผู้อมตะหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ “ข้าพบปีศาจอมตะ เขาขโมยหอยนางรมห้องลับของข้าไปและสังหารคนรับใช้สองคนของข้า!”

“โอ้” เหรินซิ่วปิงยกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง “บอกรายละเอียดมา”

ผู้อมตะหนุ่มอธิบายและไม่ลืมที่จะกล่าวเกินจริงไปมาก

“ชูอิง…” เหรินซิ่วปิงพึมพำ

เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน สาวใช้ทั้งสองไม่สำคัญ แต่การนำหอยนางรมห้องลับและวิญญาณอมตะระดับเจ็ดไป นี่เป็นการกระทำที่ชั่วร้าย แต่เหตุใดเขาถึงต้องบอกชื่อของตนเอง?

บางทีเขาอาจไม่ใช่ชูอิงแต่พยายามป้ายความผิดให้ผู้อื่น?

แรงจูงใจของเขาคือสิ่งใด?

แต่ไม่ว่าอย่างไรเหรินซิ่วปิงก็ต้องจดจำชื่อของชูอิงเอาไว้

เขาอบรมหลานชายด้วยใบหน้าเย็นชา “ตอนนี้เจ้ารู้จักความโหดร้ายของโลกผู้อมตะแล้วหรือยัง? จนถึงตอนนี้เพราะเจ้าอยู่ข้างกายข้า เจ้าจึงได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นหรือกระทั่งได้รับการยกย่อง ตอนนี้เจ้าต้องเรียนรู้ ข้าจะลงโทษเจ้า จงฝึกตนอย่างเงียบสงบเป็นเวลาสิบปี ภายในเวลาสิบปีนี้ห้ามเจ้าออกจากมิติช่องว่างของข้า!”

“กระไรนะ!?” ผู้อมตะหนุ่มตกใจ

เหรินซิ่วปิงสะบัดแขนเสื้อส่งผู้อมตะหนุ่มเข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่งทันที

“หยกไม่สามารถส่องประกายหากปราศจากการเจียรไน ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าซุกซนอีกต่อไป มิฉะนั้นแม้เจ้าจะได้รับการปกป้องจากข้า แต่ผู้คนก็จะไม่ยอมรับเจ้าอย่างแท้จริง สำหรับชูอิง วันหนึ่งข้าจะจัดการเขาอย่างแน่นอน!” ดวงตาของเหรินซิ่วปิงส่องประกายด้วยความเหี้ยมโหด

…..

‘เมื่อข้าสามารถเป็นสหายของเมี่ยวหมิงเฉิน ข้าก็สามารถเป็นศัตรูกับเหรินซิ่วปิง’

‘กล่าวไปแล้วหอยนางรมห้องลับมีประโยชน์มากในการเดินทาง ตราบเท่าที่กระแสน้ำไม่แรงเกินไป ข้าสามารถพักผ่อนอยู่ภายในและฟื้นฟูพละกำลัง’

ฟางหยวนนั่งอยู่ในหอยนางรมห้องลับขณะที่มันนำเขาเดินทางไปตามกระแสน้ำ

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงมีช่วงเวลาที่สะดวกสบายมากขึ้น

หลังจากเก็บหอยนางรมห้องลับ ฟางหยวนตกลงสู่กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากหลายครั้งและเริ่มสูญเสียทิศทาง เขาต้องเดินทางอ้อมหลายรอบ

หลังจากการเดินทางที่ยาวไกล วันต่อมาเขาก็บรรลุถึงจุดศูนย์กลางของทะเลไหลเชี่ยว

ที่นี่เต็มไปด้วยฟองอากาศที่เกิดจากการต่อสู้ครั้งใหญ่

ในฟองอากาศมีซากศพและมรดกซ่อนอยู่ ฟองอากาศบางส่วนยังมีกระทั่งเกาะขนาดเล็กและน้ำทะเลอยู่ภายใน

‘พบแล้ว!’ ฟางหยวนเคลื่อนที่เข้าหาเป้าหมายอย่างยากลำบาก

พื้นผิวของฟองอากาศถูกฉีกออก แต่ในไม่ช้ามันก็ฟื้นตัวขึ้น น้ำทะเลทะลักเข้าไปบางส่วนแต่นั่นไม่ใช่ปัญหา

วิสัยทัศน์ของฟางหยวนเปลี่ยนไป

มีทะเลสีเขียวที่สงบเงียบอยู่ที่นี่

มันราวกับเป็นโลกอีกใบ

กลางทะเลมีเกาะแห่งหนึ่ง บนเกาะมีป่าไม้และเสาหินจำนวนมาก

บางคนกล่าวว่าโลกที่อยู่ในฟองอากาศเคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลไหลเชี่ยว แต่หลังจากการต่อสู้ มันถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ข่าวลือยังกล่าวว่าสิ่งเหล่านี้คือเศษชิ้นส่วนมิติช่องว่างของผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ ด้วยท่าไม้ตายอมตะที่แปลกประหลาด มันทำให้ฟองอากาศเหล่านี้ก่อตัวขึ้น

แต่ฟางหยวนไม่สนใจเหตุผล

เขาไปที่เสาหินและนำวิญญาณอมตะดาบบินออกมา

ดูเหมือนมันจะรับรู้ได้ถึงเบาะแสที่สลักไว้ในวิญญาณอมตะดาบบิน เสาหินเริ่มส่องแสงสีแดงและเคลื่อนที่อย่างช้าๆ

ช่องว่างขนาดเล็กปรากฏขึ้นขณะที่โครงกระดูกหนึ่งหลุดออกมา

ฟางหยวนตรวจสอบอย่างระมัดระวัง

โครงกระดูกนี้เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกระดูก มันถือเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด

มือขวาของโครงกระดูกถือก้อนสีเขียวเข้มเอาไว้

ฟางหยวนหยิบก้อนสีเขียวเข้มนี้ออกมา เขาทำลายมันและพบวิญญาณจำศีลอยู่หลายดวง

ท่ามกลางวิญญาณเหล่านี้ มีวิญญาณอมตะสองดวงและวิญญาณระดับมนุษย์อีกห้าดวง

น่าเสียดายที่ส่วนใหญ่ตายไปแล้ว เมื่อลมพัดมาพวกมันก็กลายเป็นเถ้าถ่านปลิวหายไปในอากาศ

หากวิธีเก็บรักษาวิญญาณไม่ดีพอ เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันจะตายในที่สุด นี่เป็นเรื่องปกติ

สุดท้ายมันเหลือวิญญาณอมตะระดับหกเพียงดวงเดียว

ฟางหยวนเร่งช่วยชีวิตมัน

“นี่คือวิญญาณชนิดใด?” ฟางหยวนไม่รู้จักมัน

มองไปที่โครงกระดูก ไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่

“นี่คือสิ่งที่เรียกว่ามรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลงั้นหรือ?” ฟางหยวนถอนหายใจ

ผู้อมตะทั่วไปอาจมีความสุขแต่ฟางหยวนที่พึ่งได้รับมรดกของไห่ฟานรู้สึกไม่พอใจ

หลังจากตรวจสอบซากศพอย่างละเอียด ฟางหยวนพบกลุ่มก้อนความคิดจำนวนมากถูกผนึกไว้ในกะโหลกศีรษะของโครงกระดูกนี้

มันเป็นความคิดที่แตกกระจาย แม้ฟางหยวนจะเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา แต่เขาแทบไม่สามารถขุดหารายละเอียดที่สำคัญใดๆ

ไม่มีชื่อของผู้อมตะที่ทิ้งมรดกนี้เอาไว้ ฟางหยวนรู้เพียงว่าเขาแทบเอาชีวิตไม่รอดจากการต่อสู้ครั้งใหญ่ ด้วยลมหายใจสุดท้าย เขาสามารถเข้ามาในฟองอากาศและทิ้งมรดกเอาไว้

มันเป็นมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลแต่ข้อมูลส่วนใหญ่สูญหายไป

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า

เขารู้ชื่อของวิญญาณอมตะดวงนี้ในที่สุด มันคือวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า

วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าเป็นวิญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลสายตรวจสอบ มันช่วยให้ผู้อมตะมองเห็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นพลังงานแห่งเต๋าชนิดใดและมีจำนวนเท่าใด

โครงกระดูกนี้ไม่ใช่ผู้สร้างมรดกแต่เป็นศัตรูที่ถูกสังหารโดยผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูล

สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

โดยปกติหลังจากผู้อมตะตาย พลังงานแห่งเต๋าของพวกเขาจะกลับไปยังมิติช่องว่างอมตะ เว้นเพียงพวกเขาจะเป็นผีดิบอมตะ โดยปราศจากมิติช่องว่างที่มีชีวิต พลังงานแห่งเต๋าจะยังอยู่บนร่างกายของพวกเขา

“ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลผู้นี้มีวิธีการที่น่าทึ่ง เขาสามารถเก็บพลังงานแห่งเต๋าไว้ในโครงกระดูก แต่น่าเสียดายที่ข้อมูลมีน้อยเกินไปและไม่สามารถกอบกู้”

ฟางหยวนรู้สึกเสียดายมาก

เขาหวังว่ามรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลนี้จะทำให้เขาสามารถกำจัดข้อตกลงพันธมิตร

น่าเสียดายที่สิ่งต่างๆบนโลกใบนี้มักไม่เป็นไปตามความคาดหมาย

สิ่งที่เขาได้รับมีเพียงวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าเท่านั้น

หลังจากเก็บวิญญาณอมตะไว้ในมิติช่องว่าง ฟางหยวนเตรียมตัวที่จะจากไป

“ฆาตกร เจ้าจะไปที่ใด!?” แต่ในจังหวะนี้ร่างสีเลือดกลับพุ่งเข้ามาในฟองอากาศใบนี้อย่างกะทันหัน

ดวงตาสีแดงก่ำมองมาที่ฟางหยวนด้วยเจตนาสังหาร

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท