เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1164

ตอนที่ 1164

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1164 ภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้า

แปลโดย iPAT

‘จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูมีวิธีบุกถ้ำสวรรค์แต่ร่างหลักของเขาไม่สามารถเข้ามา เขาทำได้เพียงส่งร่างเทียมเข้ามาเท่านั้น’

‘ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ จิตวิญญาณสวรรค์ระฆังทองเหลืองถูกทำลายไปแล้วโดยหลิวกวนซื่อ ข้าไม่สามารถมองเห็นสถานที่ทั้งหมด ข้าไม่รู้ว่ามีร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูอยู่มากเพียงใด!’

‘ทุกครั้งที่ข้ากำลังจะทำลายร่างเทียมของเขา ร่างเทียมใหม่จะปรากฏตัวขึ้น สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเขามีร่างเทียมมากกว่าสามร่างอย่างแน่นอน ดูเหมือนมันจะเป็นการถ่วงเวลา!’

ชูตู๋รู้สึกสังหรณ์ร้าย

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังถ่วงเวลา เขาต้องมีแรงจูงใจบางอย่าง

แม้ชูตู๋จะไม่รู้แรงจูงใจของฝ่ายตรงข้ามแต่ก็มีจุดหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัย นั่นคือเขาไม่สามารถตามจังหวะการต่อสู้ของศัตรู!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชูตู๋ระเบิดพลังออกมาทำให้ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นนับสิบเท่า

ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนความแข็งแกร่ง!

จากนั้นเขายกมือทั้งสองข้างขึ้น มือขวาหงาย ฝ่ามือซ้ายหันไปด้านหน้า และสวดมนต์ “ลองรับท่านี้ ความแข็งแกร่งของสวรรค์พิภพ!”

ร่างเทียมทั้งสามของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่สามารถเคลื่อนไหว พวกเขารู้สึกราวกับถูกพลังงานลึกลับบดขยี้จากทุกทิศทาง

ชูตู๋รู้สึกไม่สบายตัวเช่นกัน

มัดกล้ามเนื้อของเขารัดตัวแน่นและมีไอน้ำสีแดงลอยขึ้นมาจากร่างกายของเขา

พลังงานอมตะของชูตู๋ถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว

ร่างเทียมทั้งสามของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังจะระเบิดแต่ในช่วงเวลาสำคัญร่างเทียมที่สี่และห้าก็เข้ามาช่วย

“บึม บึม!”

ด้วยเสียงระเบิดสองครั้ง ร่างเทียมที่หนึ่งและสองของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูถูกทำลาย

“ช่างเป็นท่าไม้ตายที่ทรงพลังนัก มันสามารถโจมตีและตรึงเป้าหมาย อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นท่าไม้ตายอมตะเขตแดนที่ไม่สมบูรณ์!” ร่างเทียมที่สามของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกล่าวหลังจากได้รับการช่วยเหลือ

“ไม่ว่าจะมีร่างเทียมมากเท่าใดก็ไร้ประโยชน์! หากร่างจริงของเจ้าไม่ปรากฏตัว เจ้าจะไม่สามารถช่วยร่างเทียมเหล่านี้!” ชูตู๋ตะโกนและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะความแข็งแกร่งของสวรรค์พิภพอย่างต่อเนื่อง

ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูล่าถอยออกไปและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน

“บึม บึม บึม!”

เพียงไม่นานร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ถูกระเบิดทำลายทั้งหมด

“นี่คือท่าไม้ตายชนิดใด?” นอกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูขมวดคิ้วลึก

แม้ร่างเทียมของเขาจะถูกทำลายแต่เขายังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการโจมตีลึกลับของชูตู๋

“ท่าไม้ตายนี้ไร้รูปลักษณ์และครอบคลุมพื้นที่ระยะหนึ่ง พลังงานลึกลับก่อตัวขึ้นในร่างของเป้าหมายและทำให้ร่างกายระเบิดจากภายใน หือ? พื้นที่ที่มันครอบคลุมใหญ่มาก!”

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูขมวดคิ้วลึก

ภายในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน พลังงานลึกลับของชูตู๋ขยายออกไปปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

มันทำให้ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูที่ซ่อนตัวอยู่ระเบิดตัวเองทั้งหมด

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยิ้ม “น่าสนใจ ดูเหมือนข้าจะไม่สามารถจัดการชูตู๋หากข้าไม่เข้าสู่การต่อสู้ด้วยตนเอง”

หลังกล่าวจบคำเขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทันที

ตะขาบสีขาวบินออกจากปากของเขาและเจาะทะลวงห้วงมิติของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

จากนั้นจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ก้าวเข้าไปในห้วงมิติที่บิดเบี้ยว

“ต้องการเข้ามางั้นหรือ?” ชูตู๋หัวเราะ

เขายกเท้าขึ้นและเตะห้วงมิติที่บิดเบี้ยวส่งจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูบินถอยหลังกลับออกไป

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตะลึงก่อนที่ใบหน้าของเขาจะกลายเป็นโกรธเกรี้ยว เขาคิด ‘ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบุกโจมตี ข้าต้องใช้เวลายี่สิบลมหายใจเพื่อเข้าไป ระหว่างกระบวนการนี้ชูตู๋สามารถหยุดข้า! หากข้าส่งร่างเทียมเข้าไป พวกมันจะระเบิดตัวเองทันที…’

ชูตู๋ได้รับการปกป้องจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูรู้สึกถึงความยากลำบากเมื่อคิดถึงปราการป้องกันที่แข็งแกร่งนี้

…..

‘จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกำลังโจมตีถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน?’ ฟางหยวนถือจดหมายขอกำลังเสริมจากชูตู๋

ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานทำให้ชูตู๋มีความได้เปรียบและสามารถรับมือจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู นี่เป็นเรื่องดีสำหรับฟางหยวน

หากฟางหยวนประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือชูตู๋และทำให้ชูตู๋เข้าร่วมนิกายหลางหยา มันจะส่งผลกระทบต่อสถานะของฟางหยวน ในทางตรงข้ามหากล้มเหลว ความสัมพันธ์ระหว่างฟางหยวนกับกองกำลังเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์จะถูกเปิดเผย ในกรณีนี้สถานการณ์จะยิ่งเลวร้าย

ข้อตกลงพันธมิตรทำให้ฟางหยวนไม่สามารถโกหกชูตู๋โดยเฉพาะในแง่ของภัยพิบัติ ฟางหยวนไม่สามารถเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งได้อีกต่อไป ด้วยวิธีนี้ชูตู๋อาจตัดสินใจโจมตีเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ใต้แดนน้ำแข็งและทำให้ฟางหยวนติดอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจและอันตราย

แผนเดิมของฟางหยวนคือใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างของเขาและแจ้งให้ชูตู๋ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้

นี่ไม่ใช่เรื่องโกหกแต่เป็นความจริง

จากนั้นฟางหยวนจะเร่งเวลาอีกครั้งและแจ้งให้ชูตู๋ทราบว่าสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ด้วยวิธีนี้ชูตู๋จะไม่มีเวลาเคลื่อนไหว แม้มันจะทำลายความสัมพันธ์และความไว้วางใจของชูตู๋ แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้

ชูตู๋เป็นคนฉลาดและไม่เปิดช่องโหว่ใดในข้อตกลงพันธมิตร

แผนการของฟางหยวนถือว่ายากลำบากและต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะ แต่ฟางหยวนไม่สามารถทำสิ่งใด

อย่างไรก็ตามตอนนี้ชูตู๋ถูกบังคับให้ปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและเข้าสู่การต่อสู้กับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู เขาไม่สามารถออกมา

ฟางหยวนคิด ‘จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูมาได้ถูกเวลาจริงๆ เขาช่วยแก้ปัญาใหญ่ให้ข้า!’

‘โชคของข้ายังค่อนข้างดี’

ฟางหยวนตอบกลับชูตู๋โดยใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูล

ในจดหมายฟางหยวนแสดงความกังวลและความเห็นใจต่อการเผชิญหน้าของชูตู๋ เขายังแสดงความโกรธเกรี้ยวและเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อการรุกรานของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู เขาบอกว่าเขาจะช่วยชูตู๋อย่างแน่นอนและจะไม่ทำลายข้อตกลง แต่!

ภัยพิบัติของเขากำลังจะมาถึง เขาต้องก้าวข้ามเรื่องนี้ก่อนที่จะไปช่วยชูตู๋

เขาหวังว่าชูตู๋จะเข้าใจ

ชูตู๋รีบตอบกลับ เขาแสดงความเข้าใจและบอกฟางหยวนว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการผู้บุกรุก เขาได้ขอกำลังเสริมจากหลายทางไปแล้ว เขาหวังว่าฟางหยวนจะสามารถจัดการปัญหาของตนเองและไปช่วยเขาได้อย่างรวดเร็ว

ฟางหยวนตอบกลับว่าเขาจะทำให้ดีที่สุด เขาหวังว่าชูตู๋จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้

ไม่กี่วันต่อมา

ฟางหยวนออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาโดยใช้ค่ายกลวิญญาณขนส่ง

จากนั้นเขารีบไปที่โลกใต้บาดาลของภาคเหนือ

โลกใต้บาดาลเคยอยู่ภายใต้การปกครองของกองกำลังพันธมิตรผีดิบ แต่หลังจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน กองกำลังพันธมิตรผีดิบทั้งหมดหายไปในชั่วข้ามคืน

อย่างไรก็ตามนิกายเงาได้เตรียมการบางอย่างเอาไว้เช่นกัน

เมืองคลื่นทมิฬของกองกำลังพันธมิตรผีดิบแห่งภาคเหนือจมลงสู่โลกใต้บาดาล นอกจากสมาชิกของนิกายเงา กองกำลังอื่นจะไม่พบมัน

โลกใต้บาดาลถูกยึดครองโดยหลากหลายกองกำลัง แต่พื้นที่ส่วนที่ฟางหยวนเลือกถูกรื้อค้นอย่างสมบูรณ์ มันกลายเป็นเศษซากของสนามรบและไม่มีผู้ใดต้องการมันอีกต่อไป

ฟางหยวนเลือกสถานที่แห่งนี้เพราะมันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งปฐพีและความมืด

มิติช่องว่างจักรพรรดิถูกวางลง

ฟางหยวนประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

ปราณสวรรค์พิภพถูกดึงเข้าสู่มิติช่องว่างของเขา

ในไม่ช้าภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้าก็ก่อตัวขึ้น

ท้องฟ้ามืดลง โครงกระดูกขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและคายกระแสน้ำสีดำออกมาจากปากราวกับอสรพิษร้าย

กระแสน้ำสีดำบินไปอย่างรวดเร็วทำให้พื้นดินถูกกัดกร่อนและหลอมละลายกลายเป็นแอ่งน้ำเน่าเสีย

ภัยพิบัติพิภพ กระแสน้ำทมิฬ!

ฟางหยวนเร่งจัดการมัน

กระแสน้ำทมิฬมีฤทธิ์ในการกัดกร่อน นี่เป็นเรื่องยากในการรับมือ ฟางหยวนไม่มีวิธีใดที่สามารถต่อต้านมันและทำได้เพียงใช้ความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้น

โครงกระดูกยังคายกระแสน้ำทมิฬออกมาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้มันพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนโดยตรง

เห็นได้ชัดว่าเจตจำนงสวรรค์ยกระดับพลังอำนาจของภัยพิบัติครั้งนี้และทำให้ฟางหยวนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ภัยพิบัติพิภพครั้งนี้ไม่มีความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง มันถูกควบคุมโดยเจตจำนงสวรรค์อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงทรงพลังมากขึ้นอีกหลายเท่า

อย่างไรก็ตามฟางหยวนเติบโตขึ้นมาก นอกจากมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลของทะเลตะวันออก เขายังได้รับมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน เขามีท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลามากมาย แม้เขาจะวิ่งไปรอบๆอย่างน่าสมเพช แต่เขาก็ยังสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ทั้งหมด

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท