เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1155

ตอนที่ 1155

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1155 หอยนางรมยักษ์

แปลโดย iPAT

การสนทนากับฮวาตี้เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงสั้นๆ

ในที่สุดฟางหยวนก็เข้าไปในทะเลไหลเชี่ยว

กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!

เมื่อไม่เห็นผู้ใดอยู่รอบๆ ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทันที

กำปั้นยักษ์ทุบกระแสน้ำมากกว่าสิบจุดทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

ฟางหยวนทะยานร่างไปยังทิศทางหนึ่ง

สถานที่แห่งนี้ยังเป็นเพียงขอบนอกของทะเลไหลเชี่ยว ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถเดินทางได้อย่างง่ายดาย

แต่หลังจากชั่วครู่เขาก็พบกระแสน้ำสีเหลืองอ่อนปิดกั้นเส้นทางของเขาเอาไว้

‘นี่คือกระแสน้ำแร่เหลือง’

กระแสน้ำแร่เหลืองมาจากทะเลเหลือง

ที่นั่นเคยเป็นอาณาเขตของกองกำลังพันธมิตรผีดิบสำนักงานใหญ่

ทะเลเหลืองเต็มไปด้วยซากศพผีดิบ

น้ำทะเลสีเหลืองเกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า มันเป็นวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณชนิดหนึ่ง

ฟางหยวนรีบป้องกันตัว

กระแสน้ำแร่เหลืองพุ่งไปยังทิศทางหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ทิศทางที่ฟางหยวนต้องการไป ดังนั้นเขาจึงกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะและพุ่งผ่านกระแสน้ำสายนี้

หลังจากไม่นานเขาสามารถออกจากกระแสน้ำแร่เหลืองและพบกับกระแสน้ำอีกสายหนึ่ง

มันเป็นน้ำทะเลสีขาวที่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกราวกับกำลังเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางก้อนเมฆ

เกิดภาพลวงตาขึ้นด้านหน้าเขา

มันคือกระแสน้ำลวงตาที่มาจากทะเลลวงตา

ฟางหยวนใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อปิดกั้นภาพลวงตาเหล่านี้

หลังจากใช้ความพยายาม เขาก็ไปถึงกระแสน้ำสายที่สาม

มันเป็นลาวา

กระแสน้ำสายนี้ไม่ได้มาจากทะเลตะวันออกแต่มาจากหลุมลึกของทะเลทรายตะวันตก

ถ้ำใต้พิภพเชื่อมต่อมาถึงที่นี่

กระแสลาวาทั้งหนืดและร้อนจัด

เมื่อฟางหยวนเข้ามา เขาต้องกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน เพราะเพียงวิญญาณอมตะระดับหกทั่วไปไม่สามารถต่อต้านสิ่งนี้

เขาสูญเสียพลังงานอมตะมากกว่าสองกระแสน้ำแรกรวมกันหลายเท่า

โชคดีที่กระแสลาวาไม่ใหญ่นัก ฟางหยวนสามารถเคลื่อนที่ผ่านได้ในภายไม่กี่สิบลมหายใจ

ครั้งนี้เขาไม่พบกระแสน้ำอีกแต่เขาเข้าไปในพื้นที่ว่างเปล่า

กระแสลาวายังไหลอยู่ด้านหลัง

ด้านซ้ายเป็นกระแสน้ำภูตผีสีดำที่พยายามผลักดันเข้ามาราวกับภูตพยาบาท มันเป็นทะเลสีดำที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งภูตผีและความมืด

ด้านขวาเป็นกระแสน้ำสีทองที่ส่องประกายงดงาม

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ‘หากข้าเดาไม่ผิด นี่คือกระแสน้ำทองคำ ตามข่ามลือ หลังจากสวรรค์สีเหลืองแตกสลาย ละอองทองคำร่วงหล่นลงมา ดูเหมือนกระแสน้ำทองคำจะเกิดจากเศษทองคำเหล่านั้น’

กระแสลาวา กระแสน้ำภูตผี และกระแสน้ำทองคำ

กระแสน้ำทั้งสามต่อต้านกันจนถึงจุดที่เกิดความสมดุล นั่นทำให้เกิดช่องว่างขึ้นในสถานที่แห่งนี้

มันไม่ต่างจากการเข้ามาในตาพายุ ฟางหยวนไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานนักแต่มันก็ทำให้เขามีเวลาพักผ่อนเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่จำเป็นต้องพักผ่อน ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มสูงขึ้นมาก ขณะเดียวกันเขาก็มีพลังงานอมตะสำรองไว้มากมาย

หลังจากตรวจสอบทิศทาง ฟางหยวนพุ่งเข้าสู่กระแสน้ำทองคำด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

เขาพบสิ่งกีดขวางมากกว่ากระแสลาวาแต่ค่าใช้จ่ายกลับน้อยกว่า

ระหว่างทางฟางหยวนพบชิ้นส่วนทองคำมากถึงห้าร้อยกิโลกรัม

นอกจากทองคำยังมีวิญญาณมากมาย ส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งโลหะไม่ว่าจะเป็นวิญญาณมังกรทอง วิญญาณแสงทอง และวิญญาณอื่นๆ

แต่สำหรับฟางหยวน พวกมันมีประโยชน์เพียงเล็กน้อย

เขาเก็บบางส่วนเอาไว้โดยไม่คิดมาก

เขานำกระแสน้ำทองคำบางส่วนเข้าไปในมิตช่องว่างจักรพรรดิและวางมันไว้ที่สวรรค์สีเหลืองน้อย

หากเป็นผู้ใช้วิญญาณ พวกเขาอาจมองมันเป็นสมบัติล้ำค่า แต่กับฟางหยวนและผู้อมตะคนอื่นๆ มันแทบไร้ประโยชน์

ฟางหยวนเดินทางผ่านกระแสน้ำมากมายและค่อยๆเข้าสู่ใจกลางของทะเลไหลเชี่ยว

ครู่ต่อมาฟางหยวนก็พบกระแสน้ำขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ด้านหน้า

มันเป็นกระแสน้ำสีน้ำเงิน ทุกการสั่นไหวของกระแสน้ำมีกระแสไฟฟ้าแลบลั่นขึ้นทุกครั้ง

ฟางหยวนรู้ว่านี่คือกระแสน้ำสายฟ้า

มันเป็นกระแสน้ำที่มีพลังทำลายล้างสูงมาก

หากเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งสายฟ้า พวกเขาจะเก็บกระแสน้ำสายฟ้าเหล่านี้เอาไว้

กระแสน้ำสายฟ้าสามารถให้กำเนิดวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งสายฟ้า

หากเปรียบเทียบ มันไม่ต่างจากภูเขาแสงห้าสีจากแดนศักดิ์สิทธิ์ของหลิวชิงหยู

ฟางหยวนมาถึงใจกลางของทะเลไหลเชี่ยวในที่สุด

ด้วยความแข็งแกร่งของฟางหยวนในปัจจุบัน เขาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้อีก หากเขาเข้าไป เขาจะถูกพัดพาไป สำหรับจุดหมายปลายทาง มันขึ้นอยู่กับโชคของเขาเท่านั้น

หากโชคดี ฟางหยวนจะสามารถเดินทางได้อย่างราบรื่น หากโชคร้าย เขาจะวนเวียนอยู่ที่เดิม

นี่เป็นลักษณะพิเศษของทะเลไหลเชี่ยว

ฟางหยวนตัดสินใจก้าวเข้าสู่กระแสน้ำสายฟ้า

โชคดีที่วันนี้กระแสน้ำสายฟ้าค่อนข้างสงบ ฟางหยวนลอยไปตามกระแสน้ำสายฟ้าอย่างราบรื่นโดยไม่พบอุปสรรคใด

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็ไปถึงจุดสิ้นสุดของกระน้ำสายฟ้า

เขาพบกระแสน้ำใหม่ที่มีขนาดเท่ากับกระแสน้ำสายฟ้า

ฟางหยวนเข้าไปและปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาไป

เขาค่อนข้างโชคดี

แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างแต่สุดท้ายเขาก็สามารถไปถึงจุดหมาย

หนึ่งวันหนึ่งคืนต่อมาฟางหยวนไปถึงพื้นที่ว่างเปล่าอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งที่สิบสองที่เขาพบกับพื้นที่ลักษณะนี้

‘สถานที่แห่งนี้เกิดจากกระแสน้ำรอบข้าง มันจะไม่เปลี่ยนแปลงไปโดยง่าย ตอนนี้ข้าควรพักผ่อนสักเล็กน้อย’ ฟางหยวนหยุดพักที่นี่

อย่างไรก็ตามขณะที่เขากำลังพักผ่อน กระแสน้ำเหนือศีรษะของเขากลับเกิดความปั่นป่วนขึ้นอย่างกะทันหัน

จากนั้นหอยนางรมยักษ์ก็หลุดลงมาจากกระแสน้ำด้านบน

มันมีขนาดเท่ากับช้างสี่ตัว เปลือกของมันเป็นสีทองคำขาว สิ่งสำคัญก็คือมันปลดปล่อยกลิ่นอายของสัตว์อสูรบรรพกาลออกมา

ฟางหยวนตะลึงเมื่อเห็นหอยนางรมตัวนี้

หลังจากนั้นมีเสียงดังออกมาจากหอยนางรมยักษ์ “หือ…ผู้ใดอยู่ที่นี่? เจ้าเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เหตุใดเจ้าจึงสามารถมาถึงที่นี่?”

ฟางหยวนไม่ตอบ

เปลือกหอยนางรมเปิดออกและเผยให้เห็นเนื้อสีชมพูที่อยู่ภายใน

เนื้อสีชมพูเหมือนเตียงที่อ่อนนุ่ม มีมนุษย์สามคนนอนอยู่

มนุษย์เพศหญิงที่งดงามสองคนนอนเปลือยกายอยู่กับผู้อมตะชายผู้หนึ่ง

ผู้อมตะชายมองฟางหยวนด้วยสายตาที่เอาแต่ใจ เขาวิเคราะห์และกล่าวด้วยความอยากรู้อยากเห็น “แปลก เจ้าเป็นผู้อมตะระดับหกจริงๆ เร็ว บอกชื่อเจ้ามา”

ฟางหยวนนิ่งเงียบ สายตาของเขากวาดมองไปที่หอยนางรมยักษ์

ผู้อมตะชายโกรธ “เจ้า! ข้ากำลังพูดกับเจ้า หูหนวกหรือเป็นใบ้!?”

ฟางหยวนถาม “นี่คือสัตวอสูรในข่าวลือ หอยนางรมห้องลับงั้นหรือ?”

ผู้อมตะชายรู้สึกราวกับได้รับการยกย่อง เขาหัวเราะ “ดูเหมือนเจ้าจะพอมีความรู้อยู่บ้าง ข้าขอสิ่งนี้มาจากท่านปู่ของข้า ท่านปู่ของข้าคือผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งทาสที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เหรินซิ่วปิง!”

ฟางหยวนพยักหน้า“ข้ารู้จักเหรินซิ่วปิง เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุด ไม่นานมานี้เขาพบหลานชายที่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด เขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อทำให้หลานชายของเขากลายเป็นผู้อมตะ นั่นคือเจ้างั้นหรือ?”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” ผู้อมตะชายหัวเราะ “ถูกต้อง ถูกต้อง สายตาของเจ้าไม่เลวจริงๆ”

“อืม ส่งหอยนางรมห้องลับมา แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” ฟางหยวนกล่าวเสียงเรียบ

“อันใด!?” ผู้อมตะชายไม่แน่ใจว่าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่

เขาหัวเราะเสียงเย็นก่อนจะชี้นิ้วไปที่ฟางหยวนด้วยความโกรธ “ดี ดี ข้ายกย่องคนผิด เจ้ามีตาแต่หามีแววไม่! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย เช่นนั้นข้าจะ…อา…”

ผู้อมตะชายอ้าปากค้าง

ฟางหยวนโจมตีอย่างกะทันหัน

กำปั้นยักษ์บนเส้นทางความแข็งแกร่งพุ่งเข้าจับกุมหอยนางรมห้องลับ

ผู้อมตะชายหวาดกลัวมากเพราะเขาตระหนักว่าหอยนางรมห้องลับกำลังถูกมือยักษ์บีบขณะที่เปลือกของมันเริ่มส่งเสียงแตกร้าว

“เข้าใจผิด มันเป็นความเข้าใจผิด!” เขากรีดร้อง “ข้าคือหลานชายของเหรินซิ่วปิง ท่านคือผู้ใด? เราอาจเป็นสหายกัน!”

“ผู้ใดเป็นสหายกับเจ้า ข้าสามารถปล่อยเจ้า เพียงมอบวิญญาณที่ใช้ควบคุมหอยนางรมห้องลับให้ข้า” ฟางหยวนเย้ยหยัย “มิเช่นนั้น เจ้าต้องตายอยู่ที่นี่!”

“เจ้าเป็นปีศาจอมตะ! หากเจ้าทำร้ายข้า ท่านปู่ของข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป คิดให้ดี!”

“เขาก็แค่เหรินซิ่วปิง” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มและปลดปล่อยกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดบนจุดสูงสุดออกมา

ใบหน้าของผู้อมตะชายกลายเป็นซีดเผือด หญิงสองคนตกใจมากและขดตัวอยู่ที่มุมหนึ่ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท