เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1158 เมืองจิ๋ว
แปลโดย iPAT
เมืองจิ๋วถูกกล่าวถึงในตำนานมนุษย์คนแรก
ตำนานกล่าวว่า
วันหนึ่งบุตรสาวคนที่สี่ของมนุษย์คนแรกเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยที่ติดอยู่ในเหวธรรมดาบังเอิญพบมนุษย์จิ๋วผู้หนึ่ง
มนุษย์จิ๋วกำลังร้องไห้ เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยถามมนุษย์จิ๋วว่าเขาร้องไห้เพราะเหตุใด
มนุษย์จิ่วกล่าวขณะร้องไห้ “ข้าสูงที่สุดในเผ่า ข้าภูมิใจกับเรื่องนี้ วันนี้ข้าออกมาปีนเขาแต่ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะพบบางคนอยู่ที่ภูเขาแห่งนี้ มีคนยักษ์เช่นเจ้าอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยพบเห็นมนุษย์เช่นเจ้า ดังนั้นข้าจึงร้องไห้”
หลังจากนั้นเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยกับมนุษย์จิ๋วผู้นี้จึงกลายเป็นสหายที่ดีและไม่เคยแยกจากกัน
“มนุษย์จิ๋ว เจ้าอยู่ที่ใด เจ้าไม่มีพี่น้องงั้นหรือ? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นครอบครัวของเจ้าเลย?” เส้นไห่หลุนฮุ้ยถามมนุษย์จิ๋ว
มนุษย์จิ๋วนำเสิ้นไห่หลุนฮุ่ยไปที่บ่อน้ำและกล่าว “ดูบ่อนี้นี้สิ บ้านเดิมของข้าอยู่ด้านใน”
เส้นไห่หลุนฮุ้ยยื่นศีรษะออกไปเพื่อมองสิ่งที่อยู่ในบ่อน้ำ
จากนั้นนางจึงตะโกนว่า “อา…มีมนุษย์จิ๋วมากมาย”
นางเห็นมนุษย์จิ๋วจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ในบ่อน้ำ
มันเป็นเมืองที่สงบสุข
แต่ในจังหวะนี้มนุษย์จิ๋วในเมืองกลับส่งเสียงกรีดร้อง
“เหตุใดท้องฟ้าถึงมืดเช่นนี้ มันเป็นเวลากลางคืนแล้วงั้นหรือ?”
“มีเสียงฟ้าร้องแต่ไม่มีฝนไม่มีฟ้าผ่า!”
มนุษย์จิ๋วในเมืองตกลงสู่ความสับสนวุ่นวาย
“ครอบครัวของเจ้าอยู่ที่นี่ เหตุใดเจ้าถึงออกมานอกบ่อ? เจ้าไม่อยากอยู่กับพวกเขางั้นหรือ?” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยถาม
มนุษย์จิ๋วส่ายศีรษะ “พวกเขาเนรเทศข้า พวกเขาคิดว่าข้าเป็นสัตว์ประหลาด”
“โอ้ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยอยากรู้อยากเห็น
มนุษย์จิ๋ซตอบด้วยความโศกเศร้า “ข้าบอกพวกเขาว่าโลกที่พวกเราอาศัยอยู่ในบ่อน้ำเล็กๆและมีโลกใบใหญ่อยู่ด้านนอก แต่พวกเขาไม่เชื่อข้า พวกเขาบอกให้ข้าหยุดกล่าวเรื่องไร้สาระ”
“ข้ายังบอกพวกเขาด้วยว่าภูเขาที่อยู่นอกเมืองของพวกเราเป็นเพียงเนินดินเล็กๆ แต่พวกเขาไม่เชื่อข้าและคิดว่ามันเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในโลก พวกเขาบอกให้ข้าหยุดพูดโกหก”
“ภูเขาลูกใด?” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยถาม
“ภูเขาน้อยลูกนั้น” มนุษย์จิ๋วชี้นิ้วออกไป
เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยหัวเราะคิกคัก “มันสามารถเรียกว่าภูเขางั้นหรือ? มันยังเล็กกว่าฝ่ามือข้า!”
เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยปรบมือ “เช่นนั้นให้ข้าบอกความจริงกับพวกเขา”
มนุษย์จิ๋วส่ายศีรษะ “ไร้ประโยชน์”
เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยไม่เชื่อ นางตะโกนออกไปและทำให้มนุษย์จิ๋วในบ่อน้ำตกใจมาก
พวกเขารู้สึกว่าวันนี้แปลกประหลาดเกินไป
ท้องฟ้าไม่เพียงมืดลงแต่ยังมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นและดังขึ้นเรื่อยๆ
“สวรรค์กำลังโกรธเกรี้ยว ข้ากลับใจแล้ว ข้าขอสารภาพผิด!”
“ไม่ มันเป็นสัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดกินสวรรค์ ตอนนี้มันกำลังเรอ!”
“ช่วยด้วย! โลกใบนี้กำลังจะพังทลาย!”
มนุษย์จิ๋วบางคนคุกเข่าลงบนพื้นและอ้อนวอน บางคนสิ้นหวัง ขณะที่บางคนวิ่งไปรอบๆอย่างบ้าคลั่ง
ลมหายใจของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยทำให้เกิดพายุกรรโชกแรงขึ้นในบ่อน้ำ
น้ำลายของนางทำให้เกิดพายุฝนขนาดใหญ่
คำกล่าวของนางเหมือนเสียงฟ้าร้องและทำให้มนุษย์จิ๋วรู้สึกปวดแก้วหู
ในที่สุดเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยก็ยอมแพ้ นางนอนแผ่หราอยู่ข้างบ่อน้ำและกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “เหตุใดมนุษย์จิ๋วเหล่านี้ช่างโง่เขลานัก? เหตุใดพวกเขาไม่ออกมาจากบ่อน้ำและมองดูโลกกว้างเหมือนเจ้า?”
มนุษย์จิ๋วสายศีรษะและถอนหายใจ “พวกเขาคิดว่าตนเองใหญ่โตมาก พวกเขาคิดว่าโลกของพวกเขามีเพียงเท่านั้น”
“แล้วเหตุใดเจ้าถึงปีนออกมา?” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
มนุษย์จิ๋วเผยรอยยิ้มขมขื่น “เพราะข้าตระหนักว่าตนเองเล็กและไร้นัยสำคัญเพียงใด ดังนั้นข้าจึงออกมาและต้องการเห็นว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่เพียงใด”
…..
ฟางหยวนเดินเป็นวงกลมรอบบ่อน้ำ
นี่เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพเช่นเดียวกับภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป
เพื่อจัดการฟางหยวน อิงอู๋เซี่ยวางกับดักโดยใช้เมืองจิ๋ว แต่ฟางหยวนได้รับข้อมูลนี้มาจากหลิวชิงหยูและสามารถใช้ประโยชน์จากมันในการกำจัดผู้อมตะของทะเลตะวันออก
เป็นเช่นที่ตำนานกล่าวไว้ ลมหายใจของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยกลายเป็นพายุกรรโชกแรงขณะที่น้ำลายกลายเป็นพายุฝน
ฟางหยวนอยู่นอกบ่อน้ำและใช้ท่าไม้ตายอมตะทำให้พลังอำนาจของมันเพิ่มขึ้นหลายร้อยหรือหลายพันเท่าเมื่อมันปรากฏขึ้นในบ่อน้ำ
แต่ฟางหยวนยังต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล
เขาต้องใช้พลังงานอมตะมากขึ้นหลายสิบหรือหลายร้อยเท่า!
แม้ฟางหยวนจะใช้กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเพียงสามครั้งแต่ค่าใช้จ่ายของมันใกล้เคียงกับการใช้งานหนึ่งร้อยครั้ง
หากบางคนเข้าไปในเมืองจิ๋วโดยปราศจากความเข้าใจ พวกเขาจะติดอยู่ในกับดัก หากพวกเขาตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองและรู้ว่านี่คือเมืองจิ๋ว พวกเขาจะสามารถหลบหนี
ตำนานกล่าวว่าเมื่อมนุษย์จิ๋วตระหนักถึงความเล็กและไร้นัยสำคัญของตนเอง เขาจึงต้องการเห็นโลกภายนอกและสามารถปีนออกมาได้สำเร็จ
อาจกล่าวได้ว่าการออกจากเมืองจิ๋วทั้งยากและง่าย
แน่นอนว่าอิงอู๋เซี่ยไม่ได้คิดว่าเมืองจิ๋วจะสามารถกำจัดฟางหยวน
ประการแรก เขาไม่ต้องการสังหารฟางหยวน
ประการที่สอง ฟางหยวนจะตระหนักถึงความจริงอย่างรวดเร็วและสามารถใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดหลบหนีออกมา
อิงอู๋เซี่ยใช้เมืองจิ๋วเพื่อขัดขวางฟางหยวนเท่านั้นแต่ไม่ได้ใช้มันเพื่อสังหารฟางหยวน
ด้านฟางหยวน เขาต้องการยึดครองเมืองนี้
แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพจะช่วยพัฒนามิติช่องว่างของเขาได้เป็นอย่างดี
วิญญาณอมตะยกภูเขา!
ฟางหยวนพยายาม
แต่เมืองจิ๋วสั่นสะเทือนขึ้นเพียงเล็กน้อย
วิญญาณอมตะยกภูเขาสามารถยกภูเขาแต่เมืองจิ๋วไม่ใช่ภูเขา แม้มันจะอยู่บนพื้นและต้องการปราณพิภพเช่นเดียวกันก็ตาม
กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตน!
ฟางหยวนพยายามเป็นครั้งที่สอง
อย่างไรก็ตามเมื่อกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนเข้าใกล้เมืองจิ๋ว มันกลับหดตัวลงอย่างรวดเร็วก่อนหายไปในเวลาไม่กี่ลมหายใจ
“ดูเหมือนนิกายเงาจะสามารถควบคุมเมืองจิ๋วแต่พวกเขาก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเช่นกัน”
ฟางหยวนทดลองอีกสองสามครั้งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ความพยายามที่ดีที่สุดคือครั้งแรก วิญญาณอมตะยกภูเขาทำให้เมืองจิ๋วสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“ในกรณีนี้วิญญาณอมตะยกภูเขามีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่วิญญาณอมตะยกภูเขาเพียงดวงเดียวยังไม่เพียงพอ ข้าต้องคิดค้นท่าไม้ตายอมตะหากต้องการย้ายเมืองจิ๋ว”
เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนตัดสินใจทิ้งมันไว้ก่อน
เขาเข้าไปในบ่อน้ำ ร่างกายของเขาหดเล็กลงเมื่อเข้าไปในเมืองจิ๋ว
ปล้นสะดมสนามรบ!
มีเพียงเจาลี่และถังซ่งที่เหลือซากศพที่สมบูรณ์เอาไว้ ฟางหยวนนำพวกมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
สำหรับผู้อมตะคนอื่นๆ พวกเขากลายเป็นเศษเนื้อไปแล้ว
ปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉีระเบิดตัวเองแต่มิติช่องว่างของเขาถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
นอกจากเขา ผู้อมตะคนอื่นๆก็ทิ้งมิติช่องว่างเอาไว้เช่นกัน
ในไม่ช้าปราณสวรรค์พิภพในบ่อน้ำก็เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ก่อนที่แดนศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากจะก่อตัวขึ้น
ฟางหยวนใช้เวลาส่วนใหญ่เข้าไปในแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้และสำรวจพวกมัน
ลืมเรื่องวิญญาณอมตะไปได้เลย
แต่ผู้อมตะของทะเลตะวันออกล้วนมั่งคั่งด้วยทรัพยากรเว้นเพียงปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉี
แม้ทรัพยากรส่วนใหญ่ของติงฉีจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งเลือดของฟางหยวนอนุญาตให้เขากลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของติงฉี
ท่ามกลางแดนศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ บางแห่งมีจิตวิญญาณแผ่นดินแต่บางแห่งไม่มี
แดนศักดิ์สิทธิ์ที่ปราศจากจิตวิญญาณแผ่นดิน ฟางหยวนนำทรัพยากรออกไปทั้งหมด
แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องยากที่จะปล้นสะดมทรัพยากรของแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีจิตวิญญาณแผ่นดิน แต่นั่นเป็นเพียงผลประโยชน์ระยะสั้น ไม่ใช่ผลประโยชน์ระยะยาว
ฟางหยวนคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจไม่ใช้กำลัง
หลังจากอยู่ในบ่อน้ำชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาออกมาและเริ่มดัดแปลงฟองอากาศใบนี้
ฟองอากาศใบนี้มีทะเลและเกาะอยู่ภายใน ด้วยการจัดเตรียมของอิงอู๋เซี่ย คนนอกจะตกลงสู่บ่อน้ำทันทีเมื่อพวกเขาเข้าไป
แต่ฟางหยวนได้รับข้อมูลมาจากหลิวชิงหยู เขาไม่ได้ตกลงสู่กับดักและยังสามารถใช้ประโยชน์จากมัน
หากอิงอู๋เซี่ยรู้ว่าแผนการของเขาไม่เพียงล้มเหลวแต่มันยังช่วยเหลือฟางหยวน เขาอาจกระอักเลือดออกมาด้วยความโกรธ
ฟางหยวนเพิ่มวิธีการบางอย่างเข้าไปเพื่อซ่อนฟองอากาศใบนี้เอาไว้
จากนั้นเขายังย้ายตำแหน่งของฟองอากาศใบนี้
ในความเป็นจริงอิงอู๋เซี่ยเคยทำสิ่งเดียวกันนี้มาก่อนหน้า
ฟองอากาศใบนี้กับเมืองจิ๋วไม่ได้อยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกเริ่ม อิงอู๋เซี่ยต้องการวางกับดับฟางหยวน ดังนั้เขาจึงทุ่มเทความพยายามเพื่อย้ายฟองอากาศใบนี้มาที่นี่
ท่ามกลางกระแสน้ำไหลเชี่ยว ฟางหยวนไม่สามารถควบคุมทิศทางและถูกพัดไปตามกระแส
โชคดีที่เขามีหอยนางรมห้องลับ เขาสามารถพักผ่อนอยู่ภายใน
ฟางหยวนนำฟองอากาศย้ายไปยังกระแสน้ำสายอื่น
กล่าวได้ว่าเขาทุ่มเททั้งเวลาและความพยายามมากกว่าอิงอู๋เซี่ยนับสิบเท่า
หลังจากเสร็จสิ้น ฟางหยวนเดินทางต่อไปยังฐานทัพของอิงอู๋เซี่ย
ที่นั่นเป็นเกาะที่อยู่ในฟองอากาศใบหนึ่ง
ฟางหยวนเข้าไปใต้ดินแต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะของนิกายเงาและค่ายกลวิญญาณต่างๆหายไปแล้ว
สาขาของสายธารแห่งกาลเวลาที่เคยอยู่ที่นี่ก็หายไปเช่นกัน
นี่เป็นลักษณะพิเศษของทะเลไหลเชี่ยว กระแสน้ำทุกสายจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
“แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะตีสนิทเมี่ยวหมิงเฉิน” หลังกล่าวจบคำฟางหยวนส่งวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งข้อมูลไปยังสวรรค์สีเหลืองทันที