เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1163

ตอนที่ 1163

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1163 ชูตู๋ปะทะจักรพรรดิสวรรค์

แปลโดย iPAT

ภาคเหนือ ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ชูตู๋ยืนอยู่กลางอากาศ กลิ่นอายของวิญญาณอมตะปะทุขึ้น

“เปิด!” เขาตะโกน

พื้นดินด้านหน้าเริ่มแยกออกด้วยพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะ

รอยแยกขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากหลายสิบลมหายใจ ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานก็หยุดสั่นสะเทือน รอยแยกหลายหมื่นเมตรปรากฏอยู่บนพื้น

ชูตู๋สร้างรอยแยกใต้พิภพเทียมขึ้นด้วยความแข็งแกร่งของตนเอง

เขาหอบหายใจอย่างหนักหน่วงก่อนจะขมวดคิ้ว

“มันยังไม่สมบูรณ์ แม้มันจะยาวพอแล้วแต่มันยังลึกไม่พอ หลังจากทั้งหมดข้าไม่ใช่ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพี”

ผู้อมตะบนเส้นทางแต่ละสายมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน

ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปฐพีเชี่ยวชาญในการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ

แต่ชูตู๋เป็นผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง

“มีอีกวิธีหนึ่ง ข้าต้องซื้อทาสมนุษย์หินจำนวนมากและให้พวกมันปรับเปลี่ยนภูมิประเทศ แต่…ลืมมันไปเถอะ รอยแยกนี้เพียงพอแล้ว”

หลังจากนั้นชูตู๋จึงนำบางสิ่งออกมาจากมิติช่องว่างของตน

มันดูเหมือนภูเขาขนาดเล็กสีแดง

ชูตู๋โยนมังลงไปในรอยแยก เมื่อมันสัมผัสกับพื้นดิน มันแผ่กระจายออกไปหลายเมตร

ต่อมาสีของมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

เดิมทีมันเป็นแดง แต่หลังจากดูดซับปราณพิภพ มันกลายเป็นสีฟ้าก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเขียว

นี่คือดินหลากสี!

ชูตู๋ดำเนินการต่อโดยการโยนดินหลากสีลงไปในรอยแยกอย่างต่อเนื่อง

หลังจากตรวจสอบอย่างรอบคอบ ชูตู๋จึงกวาดตามองไปรอบๆถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

เมื่อเขาได้รับถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมาจากฟางหยวน มันถูกรื้อค้นและกลายเป็นสถานที่รกร้าง แต่ตอนนี้มันมีภูเขา แม่น้ำ และทรัพยากรกระจายอยู่รอบๆ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทรัพยากรเหล่านี้ถูกย้ายมาจากมิติช่องว่างของชูตู๋ แม้เขาจะเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่รากฐานของเขากลับไม่ธรรมดา

“การพัฒนาขั้นแรกเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในอนาคตผลผลิตของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานจะเหนือกว่ามิติช่องว่างของข้า”

“ดูเวลาแล้ว ภัยพิบัติของหลิวกวนซื่อกำลังจะมาถึง หือ?”

ทันใดนั้นการแสดงออกของชูตู๋พลันเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาเห็นร่างที่บิดเบี้ยวกำลังทะลวงเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

“ผู้ใดกล้าบุกถ้ำสวรรค์ของข้า!” ชูตู๋คำราม

หลังจากชั่วครู่ร่างหนึ่งจึงปรากฏขึ้น เขาเผยรอยยิ้มให้ชูตู๋ “จักรพรรดิอมตะ ในฐานะผู้เยาว์ ความสามารถของเจ้าค่อนข้างดี ในช่วงเวลาสั้นๆ เจ้ากลับสามารถยึดครองสถานที่แห่งนี้”

ผู้บุกรุกกล่าวด้วยถ้อยคำใหญ่โตและยังถือตนเป็นผู้อาวุโส

แต่ชูตู๋ไม่ได้ตำหนิเขา “จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู”

ปรากฏว่าผู้บุกรุกถ้ำสวรรค์ไห่ฟานก็คือหนึ่งในผู้อมตะระดับแปดของภาคเหนือ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู!

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเคยเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่หลังจากฟางหยวนทำลายวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง เขาฉวยโอกาสสร้างกองกำลังของตนขึ้นมา

เขาวางแผนเรื่องนี้มานานแล้ว ในถ้ำสวรรค์ไป่ซูมีบุตรหลานของเขาอาศัยอยู่นับไม่ถ้วน ท่ามกลางพวกเขามีผู้อมตะหลายคน

แรกเริ่มจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูร่วมมือกับเหยากวงต่อต้านปีศาจอมตะเซี่ยหู แม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ได้รับการยอมรับจากเหยากวง

หลังจากนั้นเผ่าไป่ซูนำโดยจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็เข้ายึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กของเผ่าไห่

ตอนนี้เผ่าไป่ซูกลายเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตามภาคเหนือแตกต่างจากอีกสี่ภูมิภาค กองกำลังใหญ่ทั้งหมดเป็นสมาชิกตระกูลฮวงจิน ในฐานะคนนอก สถานะของเผ่าไป่ซูถือว่าค่อนข้างพิเศษ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักถึงปัญหานี้และพยายามผูกมิตรกับกองกำลังอื่นๆ เขากระทั่งยอมแบ่งปันผลประโยชน์ของเผ่าไห่เพื่อสนองความอยากอาหารของพวกเขา

แต่กองกำลังรอบๆยังพยายามสร้างปัญหาเล็กๆน้อยๆให้กับเผ่าไป่ซู

เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเผ่าไป่ซู จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงต้องอยู่ดูแลผลประโยชน์ของเผ่าด้วยตัวเขาเอง นี่ทำให้เขาเสียเวลาไปมาก

กระทั่งกองกำลังของตระกูลฮวงจินตระหนักว่าพวกเขาไม่สามารถฉกฉวยสิ่งใดได้อีก พวกเขาจึงหยุดสร้างปัญหา เมื่อสถานการณ์ของเผ่าไป่ซูดีขึ้น จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงรีบเดินทางมายังถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ของเผ่าไห่ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานแต่พวกเขารู้ว่ามันอยู่บริเวณใด

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูลอบมาที่นี่และใช้ความพยายามอย่างมากในการค้นหาถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

หลังจากพบเบาะแส เขาลงมือบุกถ้ำสวรรค์ไห่ฟานทันที

“ชูตู๋ เจ้าเป็นคนฉลาด หากเจ้าถอยออกไป ข้าจะไม่สร้างความยากลำบากให้เจ้า ข้าเคยเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษเช่นกัน ข้าเข้าใจเจ้าดี” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูกล่าวอย่างสงบ

ริมฝีปากของชูตู๋โค้งขึ้น เขาโจมตีโดยตรง!

“บึม!”

ด้วยการปะทะที่รุนแรง ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นสู่อากาศ

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูถูกบดขยี้ขณะที่พื้นดินกลายเป็นหลุมลึกไปในครั้งเดียว

“ส่งเพียงภาพลวงตาเข้ามา เจ้าต้องการถ้ำสวรรค์ไห่ฟานจริงหรือไม่?” ชูตู๋เย้ยหยัน

ทันใดนั้นห้วงมิติพลันเกิดการบิดเบี้ยวขณะที่ตะขาบตัวหนึ่งเจาะทะลวงเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ในไม่ช้าตะขาบตัวนั้นก็กลายร่างเป็นจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู

“ยอดเยี่ยม” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูมองชูตู๋และชื่นชม “เจ้าโจมตีโดยปราศจากการแจ้งเตือนและไม่มีกลิ่นอายของวิญญาณอมตะรั่วไหลออกมา นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะของเจ้างั้นหรือ?”

ชูตู๋ไม่ตอบแต่ถาม “จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู แม้เจ้าจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่หากต้องการแย่งถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไปจากข้า มันจะไม่ใช่เรื่องง่าย ข้าได้พัฒนาสถานที่แห่งนี้ไปมากแล้ว ข้าย่อมไม่ปล่อยมันไปโดยง่าย”

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยิ้ม “ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่นี่มานานเท่าใดหรือพัฒนามันมากเพียงใด ข้าก็สามารถทำลายพวกมันทั้งหมดด้วยกำลังของข้า”

เขากล่าวอย่างสงบนิ่งแต่กลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

สิ่งที่ทำให้เขามั่นใจก็คือเขาเป็นผู้อมตะระดับแปดขณะที่ชูตู๋เป็นผู้อมตะระดับเจ็ด

ชูตู๋ไม่ได้ตำหนิเขาแต่พยักหน้ายอมรับ “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง ข้าไม่สามารถต่อต้านพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด แต่ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นของข้า แล้วข้ายอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร?”

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูส่ายศีรษะ “ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่มีคุณค่าพอให้ผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ต้องตายอยู่ในกำมือของข้า”

ดวงตาของชูตู๋ส่องประกายเย็นเยียบ “ฮืม! หยุดพล่าม หากต้องการยึดถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน กลยุทธ์เล็กๆเหล่านี้ไร้ประโยชน์ แสดงความสามารถที่แท้จริงของเจ้าออกมา ข้าอยากเห็นความสามารถของผู้อมตะระดับแปด!”

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเงียบไปชั่วขณะก่อนจะเปิดปากกล่าว “สบายมาก”

ห้วงมิติโดยรอบเกิดการบิดเบี้ยวก่อนที่ตะขาบจำนวนมากจะบุกเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและกลายร่างเป็นจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู

ชูตู๋ถูกปิดล้อมเอาไว้ด้วยร่างของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูนับหมื่นร่าง!

ชูตู๋ไม่ประหม่าและยังเย้ยหยัน

“ภาพลวงตา แม้จะมากมายเพียงใดก็ไร้ประโยชน์!” ชูตู๋ยกมือขวาขึ้นและส่งหมัดออกไป

“บึม!”

พลังมหาศาลพุ่งออกไปทุกทิศทางและระเบิดทำลายร่างทั้งหมดของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูในครั้งเดียว

“เจ้าเตรียมตัวมาดีจริงๆ” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูอีกร่างหนึ่งกล่าวมาจากระยะไกล

รูม่านตาของชูตู๋หดเล็กลง จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่ร่างหลักเช่นกัน อย่างไรก็ตามมันแตกต่างจากภาพลวงหน้าก่อนหน้านี้

ชูตู๋สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิญญาณอมตะจากร่างของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูร่างนี้

“ไปสู้กันบนท้องฟ้า” จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูบินขึ้นไป

ชูตู๋ตามไปด้วยความเต็มใจ

มีทรัพยากรมากมายอยู่บนพื้นดิน พวกมันคือความพยายามของชูตู ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้พวกมันถูกทำลาย

นี่เป็นความกังวลของจักรพรรดิสวรค์ไป่ซูเช่นกัน

การยึดครองเผ่าไห่และสร้างเผ่าไป่ซูทำให้เขาพบความสูญเสียครั้งใหญ่ เขาต้องจ่ายด้วยราคามหาศาลเพื่อต่อรองกับผู้อมตะระดับแปดอีกสี่คน แม้เขาจะสามารถยึดครองแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กแต่ทรัพยากรส่วนใหญ่ก็ถูกแจกจ่ายออกไป

ดังนั้นจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงต้องการถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นอย่างมาก

แต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ เขากลับพบว่าถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมีทรัพยากรน้อยกว่าที่เขาคิดไว้มาก

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าทรัพยากรส่วนใหญ่ถูกเพิ่มเข้ามาภายหลัง เขาคิดต่อ ‘ชูตู๋เก็บทรัพยากรเหล่านั้นไว้งั้นหรือ?’

ดังนั้นชูตู๋จึงกลายเป็นเป้าหมายหลักของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู

การต่อสู้ที่รุนแรงปะทุขึ้นบนท้องฟ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ร่างหนึ่งเป็นร่างเทียมของผู้อมตะระดับแปดที่ยิ่งใหญ่ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือ ทั้งสองต่อสู้กันราวกับวันโลกาวินาศ

หลังจากต่อสู้หลายสิบรอบ ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ไม่สามารถรับมือฝ่ายตรงข้ามได้อีก มันหายไปในที่สุด

แต่ในไม่ช้าร่างเทียมร่างที่สองของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งและเข้าสู่การต่อสู้ทันที

พวกเขาต่อสู้กันอีกหลายสิบรอบ ชูตู๋เป็นฝ่ายได้เปรียบแต่ในจังหวะที่เขากำลังจะทำลายร่างเทียมร่างที่สองของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู่ ร่างเทียมร่างที่สามกลับปรากฏตัวขึ้น

การแสดงออกของชูตู๋เปลี่ยนแปลงไป เขาตระหนักถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท