เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1162 กับดักจิตวิญญาณ (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
หลังจากทดสอบวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า ฟางหยวนกลับไปบ่มเพาะจิตวิญญาณอีกครั้ง
เขาบินออกจากเมืองเมฆาและมุ่งหน้าไปยังหุบเขาเหล่าโป
อย่างไรก็ตามเขายังกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าอยู่ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ที่ภาคใต้น้อย ฟางหยวนควบคุมผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งบินไปยังยอดเขาเล็กๆลูกหนึ่ง
ฟางหยวนตั้งชื่อภูเขาลูกนี้ว่าภูเขาผนึกสวรรค์
แม้ชื่อจะฟังดูยิ่งใหญ่แต่ภูเขาลูกนี้กลับดูธรรมดามาก อย่างไรก็ตามมันเป็นสถานที่ผนึกร่างเดิมของเขาเอาไว้
ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งมาถึงจุดศูนย์กลางของค่ายกลวิญญาณปิดผนึก
ร่างเดิมของฟางหยวนเป็นผีดิบอมตะสูงหกเมตร มีปีกค้างคาวขนาดเล็กอยู่บนแผ่นหลัง ใบหน้าของมันเป็นสีเขียว มีเขี้ยวยื่นออกมาจากปาก และมีแขนที่แตกต่างกันแปดข้าง กล่าวได้ว่าภาพลักษณ์ของมันดูน่าสยดสยองมาก
ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋ากับร่างเดิมของฟางหยวน
ครู่ต่อมาฟางหยวนจึงได้รับข้อมูลที่เขาต้องการ ‘มีบางสิ่งเกิดขึ้นกับมัน!’
อิงอูเซี่ยทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณเอาไว้ในร่างเดิมของฟางหยวนประมาณหนึ่งหมื่นร่องรอย มันกระทั่งเหนือกว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่ร่างเดิมของฟางหยวนมีอยู่
ฟางหยวนนำบางสิ่งออกมาจากร่างของผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง
มันคือดวงวิญญาณของผู้อมตะ
“โปรดไว้ชีวิตข้า!’
‘ข้าจะยอมรับท่านเป็นเจ้านาย โปรดไว้ชีวิตข้า!’ ดวงวิญญาณดวงนี้กรีดร้องอย่างหนักราวกับมันรู้สึกถึงวันโลกาวินาศของตนเอง
ฟางหยวนไม่สนใจและใช้กรงเล็บของผีดิบอมตะบังคับไม่ให้ดวงวิญญาณดวงนี้เคลื่อนไหว
แต่ดวงวิญญาณดวงนี้ยังสามารถกรีดร้องด้วยน้ำเสียงที่น่าขนลุก
ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งค่อยๆส่งดวงวิญญาณดวงนี้เข้าไปในร่างเดิมของฟางหยวน
มันไม่เต็มใจแต่ฟางหยวนยังบังคับให้มันเข้าไป
หลังจากดวงวิญญาณเข้าสู่ร่างเดิมของฟางหยวน มันเริ่มสั่นสะเทือนก่อนจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในไม่ช้าร่างเดิมของฟางหยวนก็เปิดเปลือกตาขึ้น
“โฮก…”
เขาอ้าปากคำรามราวกับเสียงฟ้าร้อง
แต่ด้วยค่ายกลวิญญาณปิดผนึก ร่างเดิมของเขาจึงไม่สามารถขยับเขยื้อน
“เจ้าพยายามทำสิ่งใด!?” ดวงวิญญาณในร่างเดิมของฟางหยวนกรีดร้อง
เขาไม่เข้าใจเจตนาของฟางหยวนและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แต่ในไม่ช้าเขาก็กรีดร้องออกมาอีกครั้งด้วยเสียงแหลมสูง “เจ้า! เจ้าทำสิ่งใดกับข้า!? ดวงวิญญาณของข้ากำลังหลอมละลาย คนชั่ว แม้ข้าจะเหลือเพียงดวงวิญญาณ เจ้าก็ยังไม่ปล่อยข้าไป!”
ฟางหยวนเฝ้ามองโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องใดๆ
‘ดวงวิญญาณจะหลอมละลายหากเข้าไป…’ ฟาหงยวนตรวจสอบด้วยทุกวิธี
‘โอ้ นี่เป็นวิธีบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่น่าทึ่ง ดวงวิญญาณของผู้อมตะผู้นี้ไม่สามารถคงอยู่ได้แม้จะเป็นช่วงเวลาเพียงสั้นๆ!’ ฟางหยวนรู้สึกพูดไม่ออกและพยายามดึงดวงวิญญาณออกจากร่างเดิมของเขา
แต่ในจังหวะนี้ใบหน้าภูตผีกลับปรากฏขึ้นจากหน้าอกของร่างนั้นและส่งเสียงกรีดร้องมาที่ร่างผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ฟางหยวนควบคุมอยู่
ผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งถูกบังคับให้ถอยหลังกลับไปสามก้าว
เมื่อมองดูอีกครั้ง ใบหน้าภูตผีก็หายไปแล้ว
ฟางหยวนควบคุมผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งให้เดินเข้าไปอีกครั้งอย่างระมัดระวัง
ฟางหยวนยังตรวจสอบต่อไป
เวลานี้ดวงวิญญาณของผู้อมตะที่ฟางหยวนยัดเข้าไปในร่างเดิมของเขาหลอมละลายไปจนหมดแล้ว
‘หลอมละลายเร็วมาก! กระทั่งข้าจะต้องการดึงมันกลับออกมาก็ไม่สามารถทำได้!’
ฟางหยวนวิเคราะห์
กับดักของอิงอู๋เซี่ยรุนแรงมาก มันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมจนไม่น่าเชื่อ
ฟางหยวนดีใจที่ตนเองระวังตัวและไม่ผลีผลามส่งดวงวิญญาณของตนเองกลับเข้าร่างเดิมของเขา
หลังจากตรวจสอบด้วยหลากหลายวิธี ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าอีกครั้ง
‘เกิดสิ่งใดขึ้น? ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้นอีกสองพันร่องรอย!’ ฟางหยวนตกใจมาก
ฟางหยวนรู้สึกตกตะลึงกับวิธีการบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณที่น่าอัศจรรย์ของนิกายเงา
เดิมทีฟางหยวนวางแผนที่จะใส่ดวงวิญญาณของผู้อมตะเข้าไปเรื่อยๆเพื่อทำให้กับดักค่อยๆอ่อนแอลงและพังทลายไปในที่สุด
แต่กับดักของอิงอู๋เซี่ยกลับไม่ธรรมดา
มันไม่เพียงไม่อ่อนแอลงแต่กระทั่งแข็งแกร่งขึ้น!
‘น่าประทับใจ! ในกรณีนี้แผนการของข้าก็ไม่สามารถทำได้ เว้นเพียงข้าจะมีวิธีการบางอย่างที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของนิกายเงา มิฉะนั้นข้าจะทำให้กับดักนี้ทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ!’
ฟางหยวนกัดฟันแน่น
แท้จริงแล้วมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลของทะเลตะวันออกมีวิธีจัดการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า
สิ่งนี้สามารถเห็นได้จากการสลักข้อมูลไว้ในวิญญาณอมตะดาบบิน
นอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกที่เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้
ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลสามารถสลักร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าไว้บนโครงกระดูก นี่เป็นวิธีที่ค่อนข้างพิเศษ
สุดท้ายวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋าก็เป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดีว่าผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลผู้นี้มีวิธีการพิเศษที่สามารถจัดการกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
‘มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สมบูรณ์แบบอาจมีวิธีจัดการร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า น่าเสียดายที่ข้าได้รับมรดกนี้ช้าเกินไป วิญญาณส่วนใหญ่ตายไปแล้วขณะที่ข้อมูลต่างๆก็สูญหายไป’
ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้
ฟางหยวนสามารถรับสืบทอดมรดกที่แท้จริงของไห่ฟาน นั่นถือว่าโชคดีมากแล้ว
มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลของทะเลตะวันออกอยู่ที่นั่นมานานเกินไป ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลสร้างมรดกขึ้นมาในเวลาที่เขาใกล้ตาย ดังนั้นมันจึงเก็บไว้ได้ไม่นานนัก
แม้ฟางหยวนจะได้รับวิญญาณอมตะสัมผัสแห่งเต๋า แต่เขายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการกับข้อตกลงพันธมิตร
‘การค้นหาวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่สามารถทำลายข้อตกลงพันธมิตรเป็นวิธีการหนึ่ง แต่ข้าต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ข้าไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากนิกายหลางหยา’
มรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับ ขณะเดียวกันความสำเร็จบนเส้นทางแห่งข้อมูลของฟางหยวนก็อยู่ในระดับทั่วไป เขาไม่สามารถคิดค้นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลได้ด้วยตัวเขาเอง
ฟางหยวนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากมิติช่องว่างจักรพรรดิและเริ่มบ่มเพาะจิตวิญญาณ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาเขาออกจากหุบเขาเหล่าโป
เขาบ่มเพาะจิตวิญญาณทุกวันอย่างเข้มงวด เมื่อจิตวิญญาณของเขาเติบโตขึ้น เขาก็สามารถอยู่ในหุบเขาเหล่าโปได้นานขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อฟางหยวนเห็นกับดักที่อยู่ในร่างเดิม เขารู้สึกลังเลเล็กน้อยเกี่ยวกับแผนการบ่มเพาะจิตวิญญาณ
อิงอู๋เซี่ยรู้ว่าฟางหยวนมีหุบเขาเหล่าโปและภูเขาตงฮัน แล้วเขาจะไม่พิจารณาเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?
การบ่มเพาะจิตวิญญาณไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิด
อย่างไรก็ตามเวลาและพลังงานของฟางหยวนไม่ใช่สิ่งที่ไร้ขอบเขตเพราะเขายังต้องวางแผนการบ่มเพาะและพัฒนามิติช่องว่าง
‘ข้าควรลืมเกี่ยวกับเส้นทางแห่งข้อมูลไปก่อน ตอนนี้ภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้ากำลังจะมาถึง’
ภัยพิบัติพิภพครั้งที่ห้าแตกต่างจากภัยพิบัติสี่ครั้งก่อนหน้า
สี่ครั้งก่อนหน้าฟางหยวนเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่แดนน้ำแข็งของภาคเหนือ แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่นั่นและต้องหาสถานที่ใหม่
แล้วเขาควรเลือกที่ใด?
ไม่กี่วันต่อมาชูตู๋ส่งจดหมายมาหาฟางหยวนและบอกว่าจะช่วยเขาก้าวข้ามภัยพิบัติโดยแลกกับความหมายที่แท้จริงของเทพปีศาจคลั่ง
นี่ทำให้ฟางหยวนรู้สึกราวกับถูกมัดมือชก!