เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1173

ตอนที่ 1173

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1173 ถ้ำปีศาจคลั่ง

แปลโดย iPAT

ถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

ร่างเทียมของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูนับหมื่นร่างลอยอยู่กลางอากาศและมองไปที่ชูตู๋

การแสดงออกของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก

“ชูตู๋! มอบตัวฆาตกรและส่งถ้ำสวรรค์ไห่ฟานให้ข้า ด้วยวิธีนี้ข้าอาจไว้ชีวิตเจ้า!”

ปากนับหมื่นกล่าวอย่างพร้อมเพรียง

ชูตู๋ยืนอยู่บนพื้นและเงยหน้ามอง

หากเปรียบเทียบกับร่างนับหมื่นของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ชูตู๋ดูโดดเดี่ยวและอ่อนแอกว่ามาก

อย่างไรก็ตามร่างกายของเขายังตั้งตรงเหมือนหอกที่ไม่หวั่นไหว

“ฮืม! เจ้ากำลังบุกโจมตีถ้ำสวรรค์ของข้า แต่เจ้าต้องการให้ข้ายอมจำนนงั้นหรือ? หากคนเผ่าไป่ซูเสียชีวิต มันก็คือบทลงโทษและค่าตอบแทนที่เจ้าต้องจ่ายให้ข้า!”

ชูตู๋กล่าวเสียงดังอย่างไม่เกรงกลัว

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังต้องการกล่าวต่อแต่ชูตู๋กลับกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะทันที

ความแข็งแกร่งของสวรรค์พิภพ!

ร่างเทียมทั้งหมดของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูระเบิดในเวลาเดียวกันและสร้างเป็นฉากที่น่าประทับใจ

กองทัพศัตรูถูกทำลายโดยชูตู๋ในการโจมตีเดียว

“จักรพรรดิอมตะ!” ด้านนอกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูขมวดคิ้วและกัดฟันแน่นด้วยความโกรธ

ไม่นานมานี้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูได้รับจดหมายแจ้งการเสียชีวิตของไป่ซูเหว่ยจากเผ่าของเขา

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูโกรธมาก

ไป่ซูเหว่ยเป็นเด็กที่เขาเลี้ยงดูมานานที่สุด

ผู้ใดจะคิดว่าหลังจากก่อตั้งเผ่าไป่ซูได้เพียงไม่นาน เขาจะเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว นี่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักได้ทันทีว่าหากเรื่องนี้ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม มันจะเกิดวิกฤตครั้งใหญ่

‘หากข้าไม่ทำลายถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและสังหารฆาตกร ชื่อเสียงของข้าจะพังพินาศ ผู้คนจะคิดว่าข้าอ่อนแอ เผ่าไป่ซูจะถูกผลักออกไป’

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่ยอมให้สิ่งนี้เกิดขึ้น

แต่การเรียกร้องให้ยอมจำนนก่อนหน้านี้ไม่ได้ผล

‘จักรพรรดิอมตะชูตู๋! คนผู้นี้แข็งแกร่งราวกับหินบนชายหาด คลื่นเพียงลูกเดียวไม่สามารถหยุดเขา เช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าพบกับคลื่นยักษ์!’ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตั้งใจแน่วแน่

ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

“จักรพรรดิอมตะ ข้า ห่าวเจิ้น รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับท่าน!”

“จักรพรรดิอมตะ ข้า เชาเหลาอู๋ จะเชื่อฟังท่านเพียงผู้เดียว!”

ก่อนหน้านี้ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ถูกนำเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน

พวกเขาซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน เพียงเมื่อชูตู๋กำจัดร่างเทียมทั้งหมดของจักรพรรดิสวรรค์ พวกเขาจึงปรากฏตัวขึ้น

แรกเริ่มพวกเขารู้สึกกังวล แต่ชูตู๋ปฏิเสธข้อเสนอยอมจำนนของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น นั่นทำให้ความสงสัยของพวกเขาถูกปัดเป่าออกไปและรู้สึกยกย่องชูตู๋เป็นอย่างมาก

“พวกเจ้าทั้งสอง” ชูตู๋แสดงออกอย่างจริงใจ “พวกเจ้าพบปัญหาเพราะข้า หากข้ายอมแพ้ต่อการคุกคามของผู้อมตะระดับแปดและละทิ้งพวกเจ้า ข้าคงต้องทิ้งชื่อจักรพรรดิอมตะ และนั่นไม่ใช่นิสัยของข้า ชูตู๋!”

“จักรพรรรดิอมตะตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?” เชาเหลาอู๋ถาม

ชูตู๋เผยรอยยิ้มบาง “อย่ากังวล ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้ข้าเพียงผู้เดียวยังสามารถปกป้องมันได้ ตอนนี้มีพวกเจ้าให้ความช่วยเหลือ พวกเราไม่จำเป็นต้องกังวล”

เชาเหลาอู๋และห่าวเจิ้นพยักหน้าแต่ยังกังวลอยู่ภายใน

ชูตู๋กล่าวต่อ “แน่นอนว่าในที่สุดพวกเราจะพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ข้าส่งจดหมายของกำลังเสริมไปแล้ว พวกเราจะต่อสู้กับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูสักครั้ง!”

ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋โห่ร้องเรียกขวัญกำลังใจ

“จักรพรรดิอมตะ ท่านสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมั่นคง พวกเราสบายใจแล้ว”

“ชื่อเสียงของท่านจะดึงดูดผู้คนมาที่นี่เพื่อเอาชนะผู้อมตะระดับแปด นี่จะเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง”

ห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋มองหน้ากันก่อนกล่าวต่อ “เราเต็มใจที่จะแบกรักค่าใช้จ่ายในการเชิญชวนสหายร่วมศึก!”

ชูตู๋หัวเราะ “ไม่จำเป็น นี่เป็นปัญหาของข้าตั้งแต่เริ่มต้น แล้วข้าจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้อย่างไร?”

หลังกล่าวจบคำ ชูตู๋จับมือห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ “โชคลาภและภัยพิบัติมาพร้อมกันเสมอ ไม่ว่ามันจะจบลงด้วยโชคลาภหรือภัยพิบัติ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานหนักของเรา หากเราสามารถปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน ข้ายินดีมอบพื้นที่หกสิบส่วนให้พวกเจ้าทั้งสอง มันเป็นโชคชะตาที่นำพวกเรามาพบกัน ตั้งแต่วันนี้ข้าหวังว่าพวกเราสามคนจะผ่านพ้นความยากลำบากไปด้วยกันไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย!”

ผลประโยชน์มหาศาล!

ชูตู๋สัญญาว่าหลังจากประสบความสำเร็จ เขาจะมอบพื้นที่หกสิบส่วนของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานให้กับห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋!

ดวงตาของห่าวเจิ้นและเชาเหลาอู๋ส่องประกายขึ้นทันที

นี่คือถ้ำสวรรค์ไห่ฟานที่ปราศจากภัยพิบัติใดๆทั้งสิ้น

ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถปกป้องมัน ชูตู๋จะมอบส่วนแบ่งให้พวกเขาคนละสามสิบส่วน!

พวกเขารู้สึกว่านี่คือโชคลาภที่สวรรค์ประทานอย่างแท้จริง!

ร่างของห่าวเจิ้นสั่นสะท้านขึ้นด้วยความตื่นเต้น “ผ่านหนาวผ่านร้อนด้วยกันไม่ว่าจะยากจนหรือร่ำรวย!”

ดวงตาของเชาเหลาอู๋กลายเป็นสีแดง “การได้พบกับจักรพรรดิอมตะถือเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า!”

ชูตู๋ไม่เพียงรับพวกเขาเข้าร่วมแต่ยังให้ผลประโยชน์มหาศาล แล้วพวกเขาจะไม่ยินดีได้อย่างไร?

ทันใดนั้นห้วงมิติบนท้องฟ้าของถ้ำสวรรค์ไห่ฟานพลันเกิดการบิดเบี้ยว

ต่อมาเงาร่างจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นไม่ว่าจะเป็นร่างเทียมของจักรพรรดิสรรค์ไป่ซูและสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนมหาศาล

ใบหน้าของผู้อมตะทั้งสามเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งทาส เขาไม่สามารถเข้ามาในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานแต่เขาสามารถส่งกองทัพสัตว์อสูรเข้ามา

ท่ามกลางพวกมันมีสัตว์อสูรบรรพกาลหลายตัว

พืชอสูรบรรพกาลหลั่งรากลงสู่พื้นดินและเริ่มเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศ

“จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูใช้ทักษะที่แท้จริงออกมาแล้ว!”

“พวกเราต้องเคลื่อนไหว ฆ่าพวกมัน!”

ชูตู๋ตะโกนเสียงดัง “ดี พวกเจ้าไปฆ่าสัตว์อสูรเหล่านั้น ข้าจะควบคุมสถานการณ์และป้องกันไม่ให้ร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้ามา!”

หากร่างจริงของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเข้ามา พวกเขาจะไม่สามารถแข่งขัน

มีความแตกต่างขนาดใหญ่ระหว่างผู้อมตะระดับเจ็ดและระดับแปด

เหตุผลที่ชูตู๋สามารถต่อต้านจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเพราะเขาใช้ถ้ำสวรรค์ไห่ฟานเป็นโล่ป้องกัน

…..

แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

ในห้องลับของเมืองเมฆา ฟางหยวนนั่งอยู่โดยมีวิญญาณอมตะดวงหนึ่งเคลื่อนที่อยู่รอบๆ

มันคือวิญญาณอมตะคิ้วดาบระดับเจ็ด!

ฟางหยวนใช้มันเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบให้กับตนเอง

ห้องลับมืดมากแต่วิญญาณอมตะคิ้วดาบที่บินอยู่รอบๆทิ้งริ้วแสงสีเงินเอาไว้เบื้องหลัง

หลังจากไม่นานฟางหยวนก็หยุดการบ่มเพาะของเขา

ฟางหยวนใช้เวลาทุกวินาทีกับการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นการบ่มเพาะจิตวิญญาณที่หุบเขาเหล่าโปหรือใช้วิญญาณอมตะคิ้วดาบเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบให้กับตนเอง

โดยรวมแล้ววิญญาณอมตะคิ้วดาบมีประโยชน์มากแต่โชคไม่ดีที่มันเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับหก การใช้วิญญาณอมตะระดับเจ็ดทำให้เขาต้องจ่ายด้วยองุ่นเขียวอมตะจำนวนมาก

ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะคิ้วดาบได้อย่างอิสระ มีเพียงหลังจากผ่านพ้นภัยพิบัติและสถานะทางการเงินอยู่สถานการณ์ที่ดี เขาจึงจะสามารถใช้วิญญาณอมตะดวงนี้

“หือ ชูตู๋ส่งจดหมายมา” ฟางหยวนเก็บวิญญาณอมตะคิ้วดาบเมื่อเขาได้รับข้อความ

ชูตู๋อธิบายเกี่ยวกับว่าสถานการณ์ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน เขายังบอกฟางหยวนถึงทัศนคติที่มั่นคงของเขา

ขณะที่ชูตู๋เขียนจดหมายฉบับนี้ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูยังไม่ได้ขอให้ชูตู๋ยอมจำนนและยังไม่ได้ส่งกองทัพสัตว์อสูรบุกถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน อย่างไรก็ตามชูตู๋สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า

จดหมายกล่าวว่า “พลังการต่อสู้ระดับแปดไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถต่อต้าน แม้จะได้รับการปกป้องจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน แต่ความพ่ายแพ้ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยง มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น”

“เขาตระหนักถึงสถานการณ์ของตนเองเป็นอย่างดี” ฟางหยวนชื่นชมและอ่านต่อ

ชูตู๋ขอความช่วยเหลือจากฟางหยวนและบอกแผนการต่อไปของเขา

การขอกำลังเสริมเพื่อปกป้องถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและป้องกันไม่ให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูได้รับประโยชน์ใดไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

สิ่งสำคัญคือกองกำลังอื่นๆและผู้อมตะที่ไม่พอใจเผ่าไป่ซู ตราบเท่าที่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักว่าเผ่าไป่ซูตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เขาจะหยุดโจมตีถ้ำสวรรค์ไห่ฟานและกลับไปรักษาเสถียรภาพของเผ่า

นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจากไป

เดิมทีจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูไม่มีจุดอ่อนนี้แต่หลังจากเขาก่อตั้งกองกำลังและเข้าสู่ฝ่ายธรรมะ เขาจึงต้องปกป้องมัน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแผนนี้จะใช้ได้ผล มันเป็นวิธีเดียวที่สามารถจัดการจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู

ฟางหยวนเคยคิดถึงวิธีนี้เช่นกัน

“ผู้ใดที่ชูตู๋ขอความช่วยเหลือ? ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างมั่นใจ แต่เขาขอให้ข้าไปยังถ้ำปีศาจคลั่งเพื่อขอกำลังเสริมที่มีความสามารถเท่านั้น”

ถ้ำปีศาจคลั่ง!

หนึ่งในสิบเขตต้องห้ามของภาคเหนือ

ผู้บ่มเพาะสันโดษคนใดอยู่ที่นั่น ผู้ใดที่ชูตู๋คิดว่าสามารถสนับสนุนเขา?

ฟางหยวนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ถ้ำปีศาจคลั่งแตกต่างจากเขตต้องห้ามอื่นๆ

หากเป็นไท่ชิว แม้มันจะอันตราย แต่ก็ยังสามารถเดินทางไปได้ มีผู้บ่มเพาะสันโดษบางคนบ่มเพาะอย่างลับๆอยู่ที่นั่น นิกายหลางหยาก็กำลังทำสิ่งเดียวกันนั้นอยู่ในขณะนี้

แต่ถ้ำปีศาจคลั่งถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจไร้ขอบเขต ถ้ำแห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงปีศาจและผู้อมตะที่เสียสติ ในประวัติศาสตร์กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ยังสูญเสียตัวตนและกลายเป็นคนบ้าเพราะถ้ำแห่งนี้

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท