เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1183

ตอนที่ 1183

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1183 เข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่ (อ่านฟรี)

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนกลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้สำเร็จ

เขาส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่มิติช่องว่างจักรพรรดิ

‘ข้าตรวจสอบมาแล้วสิบแปดครั้ง มันไม่ควรมีปัญหา แต่กระทั่งมันจะมีปัญหา อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดที่พึ่งฟักออกจากไข่ก็มีพลังการต่อสู้เท่ากับสัตว์อสูรเดียวดายเท่านั้น มันไม่ใช่ภัยคุกคาม’ ฟางหยวนคิด

สวรรค์สีม่วงน้อยมีรังอินทรีย์ลอยอยู่

ภายในรังนอกจากไข่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็ไม่มีสิ่งใดอีก

ในรัศมีหนึ่งร้อยลี้รอบๆ ฟางหยวนวางผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งจำนวนมากเอาไว้รวมถึงสัตว์อสูรเดียวดายและกระทั่งต้นไม้กินเนื้อเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

เขากำลังจะฟักไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดอีกครั้ง

ฟางหยวนเริ่มเคลื่อนไหวในที่สุด

เขาส่งเลือดสดจำนวนมากเข้าไปหลอมรวมกับไข่อินทรีย์

นี่เป็นสิ่งที่เขาเคยทำมาก่อน

ย้อนกลับไปฟางหยวนใช้เลือดของไห่เจิ้ง แต่ครั้งนี้ฟางหยวนต้องการเปลี่ยนความทรงจำของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด ดังนั้นเขาจึงใช้เลือดของตนเองในการฟักไข่

ฟางหยวนดำเนินการไปทีละขั้นตอนอย่างราบรื่น

แปดวันแปดคืนต่อมาอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดก็ฟักออกมาจากไข่

“เจี๊ยบ เจี๊ยบ”

อินทรีย์น้อยเห็นฟางหยวนและกระโดดเข้ามาหาเขาด้วยความรัก

ฟางหยวนในที่นี้ไม่ใช่ร่างจริงของฟางหยวน มันเป็นผีดิบอมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นตัวเขาเอง

แม้อินทรีย์น้อยจะพึ่งฟักออกมาแต่ร่างกายของมันก็ไม่เล็ก ตอนนี้มันมีความสูงเท่ากับเด็กห้าขวบ

อินทรีย์น้อยปฏิบัติต่อฟางหยวนราวกับบิดามารดา มันกระโดดไปรอบตัวฟางหยวนและส่งเสียงกรีดร้องอย่างมีความสุข

“พอแล้ว พอแล้ว” ฟางหยวนยิ้มและลูบศีรษะของอินทรีย์น้อย

อินทรีย์น้อยหยุดเคลื่อนไหวอย่างเชื่อฟังและส่งเสียงที่อ่อนโยนออกมา

“มากิน” ฟางหยวนนำคริสตัลสวรรค์ออกมา

เขาวางคริสตัลสวรรค์สีทองที่โปร่งแสงไว้ตรงหน้าอินทรีย์น้อย

ดวงตาของอินทรีย์น้อยส่องประกายขึ้น มันเริ่มจิกกัดคริสตัลสวรรค์ก่อนจะกลืนลงท้องไปอย่างรวดเร็ว

อินทรีย์น้อยเชื่อใจฟางหยวนอย่างสมบูรณ์ มันไม่ลังเลที่จะกินคริสตัลสวรรค์ที่ฟางหยวนส่งให้

หลังจากกินคริสตัลสวรรค์ชิ้นนี้ มันแสดงออกด้วยความพึงพอใจ

ท้องของมันโป่งพองขึ้นและกลายเป็นอินทรีย์อ้วนนั่งอยู่บนพื้น

“อิ่มแล้วหรือ?” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอบอุ่นและนั่งลงเคียงข้างอินทรีย์น้อย

อินทรีย์น้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย มันปิดเปลือกตาลงและเอนกายนอนบนตักของฟางหยวนก่อนผล็อยหลับไป

ฟางหยวนยกมือขึ้นลูบขนของอินทรีย์น้อย

ในวันต่อๆมาฟางหยวนยังทำเช่นเดิม นี่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอินทรีย์น้อยใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ

‘ข้ามีคริสตัลสวรรค์เพียงพอแล้ว’ ฟางยวนมองคริสตัลสวรรค์ที่อยู่รอบๆ

มันคือรังอินทรีย์ที่ฟางหยวนนำมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก

ฟางหยวนเลือกรังอินทีย์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นบ้านชั่วคราวให้กับอินทรีย์น้อย

ท่ามกลางคริสตัลสวรรค์เหล่านี้มีบางส่วนมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา อย่างไรก็ตามคริสตัลสวรรค์ส่วนใหญ่มาจากจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู หลังจากชูตู๋กลายเป็นพันธมิตรกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ฟางหยวนสามารถทำธุรกรรมกับจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูผ่านชูตู๋

จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นผู้อมตะระดับแปด เขามีถ้ำสวรรค์ที่สามารถผลิตคริสตัลสวรรค์

เพื่อทำธุรกรรมนี้ ฟางหยวนต้องบอกความลับเกี่ยวกับอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดให้ชูตู๋รับรู้

แต่ในความจริงเรื่องนี้ไม่ถือเป็นความลับ

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเคยเป็นของเผ่าไห่มาก่อน แน่นอนว่าจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูตระหนักถึงการคงอยู่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดและต้องการครอบครองมัน แต่ตอนนี้เขาต้องการชูตู๋มากกว่า ขณะที่ชูตู๋ก็ต้องการฟางหยวน ดังนั้นฟางหยวนจึงประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายในการทำธุรกรรมนี้

ฟางหยวนต้องจ่ายด้วยทรัพยากรจำนวนมาก แต่ทรัพยากรเหล่านี้ล้วนมาจากถ้ำสวรรค์ไห่ฟาน เพื่อคริสตัลสวรรค์ ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะขายพวกมันออกไป

ไม่ว่าจะเป็นนิกายชูหรือเผ่าไป่ซู พวกเขาต่างต้องการทรัพยากรเหล่านี้เป็นอย่างมาก

การต่อสู้ที่รุนแรงทำให้ทั้งสองฝ่ายต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ตอนนี้พวกเขาต้องการเติมเต็มและสะสมรากฐาน เมื่อทรัพยากรเหล่านี้เคยอยู่ในถ้ำสวรรค์ไห่ฟานมาก่อน พวกมันจึงไม่จำเป็นต้องปรับตัว

หลังจากประสบความสำเร็จในการฟักไข่อินทรีย์ ฟางหยวนเฝ้าสังเกตมันอยู่หลายวัน

หลังจากยืนยืนว่าอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดไม่มีปัญหา ฟางหยวนก็ออกเดินทางไปยังไท่ชิว

ภัยพิบัติพิภพครั้งที่หกกำลังจะมาถึง แล้วเหตุใดฟางหยวนจึงต้องไปไท่ชิว?

เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่ไท่ชิวเพราะมันอันตรายเกินไป

ที่นี่เต็มไปด้วยสัตว์อสูรเดียวดายและพืชอสูรเดียวดายที่มีสติปัญญาต่ำ เจตจำนงสวรรค์สามารถควบคุมพวกมันได้อย่างง่ายดาย

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรเดียวดายเพื่อเดินทางในไท่ชิว

เขาไม่กล้าไปที่จุดศูนย์กลางของไท่ชิวเพราะมันยิ่งอันตราย

โชคดีที่จุดหมายของฟางหยวนไม่ได้อยู่ที่นั่นแต่อยู่ที่ขอบรอบนอกของไท่ชิว

สามวันต่อมาเขาบรรลุถึงจุดหมาย

มันเป็นพื้นที่ที่ดูธรรมดาแต่มันไม่สามารถปกปิดร่องรอยของการต่อสู้

มีซากศพมากมายกระจัดกระจายอยู่ที่นี่

ฟางหยวนกวาดตามองไปรอบๆก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อไม่พบอันตรายใดๆ

‘ภัยพิบัติพิภพครั้งก่อน ข้าได้รับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืดมาเป็นจำนวนมาก ครั้งนี้ข้าสามารถใช้วิญญาณอมตะขีดจำกัดความมืดเพื่อซ่อนตัวจากเจตจำนงสวรรค์ได้ดีขึ้นหลายเท่า! ด้วยเหตุนี้ข้าจึงปลอดภัย’

‘ต่อไปคือ…’ ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณจำนวนมากเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม

เขาตรวจสอบอย่างพิถีพิถันและระวังตัวมาก

มีวิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงหนึ่งอยู่ในมิติช่องว่างของฟางหยวน เขายืมวิญญาณอมตะดวงนี้มาจากจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู การยืนวิญญาณอมตะเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงพันธมิตร ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะ

ด้วยการใช้วิญญาณอมตะระดับเจ็ดดวงนี้เป็นแกนกลาง ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะและค้นพบบางสิ่ง

‘ดี ความทรงจำของข้าถูกต้อง มันคือที่นี่!’

ท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวนสามารถค้นหาแดนศักดิ์สิทธิ์!

‘อินทรีย์น้อย ตอนนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว’ ฟางหยวนเปิดมิติช่องว่างและปล่อยอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดออกมา

อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเติบโตขึ้นหลายเท่านับตั้งแต่มันถือกำเนิดใหม่ ตอนนี้มันดูแข็งแรงขึ้นมาก

มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยแบกฟางหยวนไว้บนแผ่นหลัง ภายใต้การชี้นำของฟางหยวน มันพุ่งชนพื้นที่ที่ว่างเปล่าแห่งหนึ่ง

เมื่อมันบรรลุถึงเป้าหมาย มันก็หายตัวไปจากไท่ชิวในพริบตา

ในช่วงเวลาต่อมาฟางหยวนมาถึงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท