เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1216

ตอนที่ 1216

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1216 ซุ่มโจมตีในกำแพงภูมิภาค

แปลโดย iPAT

ลมหายใจมังกรทำให้วูอี้ไห่รู้สึกเหมือนมีเข็มพุ่งเข้ามาที่ใบหน้า

เขาตกใจมากแต่ไม่มีเวลาหลบ

“เคร้ง!”

โล่โลหะสีทองปรากฏขึ้นด้านหน้าวูอี้ไห่ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย

ลมหายใจมังกรทำลายโล่ทองคำแต่พลังงานที่เหลือยังพุ่งตรงไปที่ใบหน้าของวูอี้ไห่

แต่โล่ทองคำก็ทำให้วูอี้ไห่มีเวลารักษาชีวิตของเขาเอาไว้

เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงของทะเลตะวันออก เป็นธรรมดาที่เขาจะสามารถตอบสนองโดยการกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

วูอี้ไห่แปลงร่างเป็นเต่าตัวโตทันที

แขนขาและศีรษะของมันหลบอยู่ในกระดอง

ลมหายใจมังกรปะทะกระดองเต่าและฝากรอยฝังลึกเอาไว้

‘ช่างเป็นลมหายใจมังกรที่น่ากลัวนัก! เต่าศักดิ์สิทธิ์เป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีพลังป้องกันอยู่ในสิบอันดับแรกท่ามกลางสัตว์อสูรบรรพกาลของทะเลตะวันออกแต่มันกลับแทบไม่สามารถป้องกันการโจมตีนี้’ วูอี้ไห่ตกใจมาก ‘ศัตรูแข็งแกร่งกว่า ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับท่านลุงจางและพี่เล้งแล้ว’

วูอี้ไห่เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เต่าศักดิ์สิทธิ์มีขนาดใหญ่และเคลื่อนที่ในน้ำได้รวดเร็ว แต่การเคลื่อนไหวบนบกของมันช้ามาก

นี่ทำให้พลังการต่อสู้ของวูอี้ไห่ลดลงอย่างมาก ตอนนี้เขาทำได้เพียงป้องกันตัวเท่านั้น

ในสถานการณ์นี้วูอี้ไห่สูญเสียเจตจำนงแห่งการต่อสู้ทั้งหมดไปแล้ว

เขามีท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นเช่นกัน แต่อย่าลืมจุดอ่อนสำคัญของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

นั่นคือพวกเขาต้องลบพลังงานแห่งเต๋าเดิมออกไปก่อนจะสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง ระหว่างกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะ

ฟางหยวนมีร่างทารกอมตะ นั่นทำให้เขาไม่มีจุดอ่อนนี้

ดังนั้นหลังจากวูอี้ไห่เปลี่ยนร่างเป็นเต่าศักดิ์สิทธิ์ แม้มันจะสามารถรักษาชีวิตของเขาเอาไว้ แต่เขาก็ไม่สามารถโจมตี

แต่วูอี้ไห่ไม่ตื่นตระหนก

เขามีผู้อมตะระดับเจ็ดสองคนคุ้มครองอยู่

หนึ่งคือลุงจาง อีกหนึ่งคือพี่เล้ง วูอี้ไห่ไม่รู้ชื่อจริงของคนทั้งสอง แต่เขารู้ว่าสองคนนี้ถูกมารดาของเขาส่งมาจากภาคใต้เพื่อคุ้มครองเขา

ระหว่างการเดินทางครั้งนี้ผู้อมตะทั้งสองแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าทึ่งออกมาและทำให้วูอี้ไห่รู้สึกมั่นใจว่าสามารถฝากความหวังไว้กับพวกเขา

แต่ลุงจางกลับกระอักเลือดออกมาเพราะโล่ทองคำของเขาถูกทำลายโดยลมหายใจมังกร

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันของลุงจาง ดังนั้นเมื่อมันถูกทำลาย ลุงจางจึงได้รับผลกระทบย้อนกลับ

เช่นเดียวกับวูอี้ไห่ ลุงจางตกใจมาก

‘ในกำแพงภูมิภาค ท่าไม้ตายอมตะจะอ่อนแอลง แต่ลมหายใจมังกรกลับสามารถทำลายการป้องกันของข้าและทิ้งรอยฝังลึกไว้บนกระดองเต่าศักดิ์สิทธิ์!’

ขณะที่ลุงจางกำลังกระอักเลือด พี่เล้งบินออกไปข้างหน้า

ทั้งสองทำงานร่วมกัน

ผู้อมตะหนุ่มรู้ว่าลุงจางต้องการเวลาพักผ่อนหลังจากถูกทำลายท่าไม้ตายอมตะสายป้องกัน

เขาพุ่งไปข้างหน้าก่อนจะเปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าสายฟ้า

หมาป่าสายฟ้าตัวนี้เป็นสัตว์อสูรบรรพกาล มันมีขนเป็นผลึกคริสตัลสีฟ้าที่ปลดปล่อยกระแสสายฟ้าออกมารอบๆ

เมื่อหมาป่าสายฟ้าปรากฏตัว มันทำให้พื้นที่บริเวณนั้นสว่างไสวไปด้วยแสงสีฟ้าม่วงทันที

สายฟ้าบนร่างของมันควบรวมเป็นอสรพิษสายฟ้าพุ่งออกไป

นี่คือท่าไม้ตายอมตะ

ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจลุงจางสามารถควบคุมอาการบาดเจ็บขณะที่ร่างกายของเขาส่องแสงสีทองออกมาและเปลี่ยนร่างเป็นพยัคฆ์ทองคำที่มีร่างกายใหญ่โตกว่าหมาป่าสายฟ้าสองเท่า

ปรากฏว่าเขาก็เป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

นี่เป็นการจัดเตรียมโดยเจตนาของวูตู๋ซิ่ว

ในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะมีความได้เปรียบ

โดยปกติแล้วการใช้ท่าไม้ตายอมตะในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะสามารถปลดปล่อยการโจมตีออกไป

แต่ด้วยร่างกายที่แข็งแกร่งของสัตว์อสูร พวกเขาจะมีข้อได้เปรียบในการต่อสู้กับผู้อมตะร่างมนุษย์ที่อ่อนแอ

ลุงจางตระหนักถึงพลังป้องกันของเต่าศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นเขาจึงติดตามหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลไปโดยไร้กังวล

ไม่นานหลังจากนั้นลุงจางกลับเห็นหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลวิ่งกลับมา

ด้านหลังหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลมีลมหายใจมังกรพุ่งตามมา นอกจากนั้นท่ามกลางแสงสีฟ้าม่วงยังมีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้น

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ลุงจางตกใจมาก เขารู้จักความกล้าหายของพี่เล้ง แต่ตอนนี้ผู้อมตะหนุ่มกลับวิ่งหนี มันต้องมีบางสิ่งผิดปกติ!

“อย่าสู้ ถอย!” หมาป่าสายฟ้าบรรพกาลพี่เล้งกล่าวด้วยภาษามนุษย์

นี่ทำให้ลุงจางยิ่งตกใจมากขึ้น เหตุใดพี่เล้งถึงหลีกเลี่ยงการต่อสู้?

เขากำลังจะถามแต่ในที่สุดเขาก็มองเห็นคู่ต่อสู้

มังกรดาบบรรพกาลพุ่งเข้ามาอยู่ต่อหน้าพวกเขา

เกล็ดมังกรสีเงิน ดวงตาสีขาวซีด เขามังกรพุ่งขึ้นสู้ท้องฟ้า กรงเล็บที่แหลมคม ฟันที่ส่องประกายเย็นเยียบ และกลิ่นอายของวิญญาณอมตะจำนวนมากที่ปะทุออกมาจากร่างกายของมัน

“นี่คือมังกรดาบบรรพกาลป่างั้นหรือ?” พยัคฆ์ทองคำลุงจางเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

แต่ความจริงอยู่ตรงหน้า เขาต้องยอมรับมันเท่านั้น

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดผู้อมตะหนุ่มที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดกลับวิ่งหนีอย่างน่าสมเพช

เนื่องจากมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ไม่ได้มาจากห้าภูมิภาคแต่มันมาจากสวรรค์สีขาวหรือสีดำ

เหตุใดลุงจางจึงแน่ใจในความคิดนี้?

เพราะมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค นี่คือการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลราวกับมันไม่รู้สึกถึงแรงกดดันหรือแรงต่อต้านใดๆทั้งสิ้น

หากเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมาก

มีเพียงรูปแบบชีวิตที่อาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวหรือสวรรค์สีดำเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค

ลุงจางไม่ลังเลที่จะหันหลังและวิ่งหนี

ในกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะจะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาได้เพียงห้าสิบหรือหกสิบส่วนเท่านั้น

กระทั่งการต่อสู้กับมังกรดาบบรรพกาลที่โลกภายนอก ลุงจางยังไม่มีความมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะโดยไม่ต้องกล่าวถึงสภาพแวดล้อมพิเศษเช่นกำแพงภูมิภาค

“เหตุใดพวกเราจึงโชคร้ายนัก?”

“ข้าเดาว่ามังกรดาบบรรพกาลตัวนี้น่าจะถูกล่อมาที่นี่เพื่อขัดขวางพวกเราโดยผู้อมตะบางคน!”

ลุงจางกับพี่เล้งสนทนากันระหว่างหลบหนี

ในไม่ช้าพวกเขาก็พบกับเต่าศักดิ์สิทธิ์วูอี้ไห่

วูอี้ไห่ได้รับการแจ้งเตือนจากลุงจาง “พยายามอย่าต่อสู้กับมังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ มันอาจถูกล่อมาที่นี่โดยมีจุดประสงค์เพื่อลดพลังงานอมตะและพลังการต่อสู้ของพวกเรา!”

“แล้วเราควรทำอย่างไร?” วูอี้ไห่ถาม

“ถอย ปล่อยมังการดาบบรรพกาลไว้ข้างหลังและไม่ยั่วยุมัน แต่เราต้องแสดงความแข็งแกร่งออกมาเช่นกัน สัตว์ป่ามีสติปัญญาเพียงเล็กน้อย เมื่อมันตระหนักว่าเหยื่อไม่อ่อนแอ มันจะยอมแพ้”

ผู้อมตะทั้งสามวางแผนและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

ทั้งสองพยายามหลบหนีพร้อมกับต่อต้านลมหายใจมังกรตลอดเวลา

“เราจะทำอย่างไร? มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปง่ายๆ!”

“บางทีอาจเป็นเพราะการโจมตีด้วยท่าไม้ตายอมตะของข้าก่อนหน้านี้ที่ยั่วยุมัน!”

“ข้ามีท่าไม้ตายอมตะที่สามารถลดความโกรธของสัตวป่า แต่ข้าต้องการเวลา!”

ผู้อมตะทั้งสามพูดคุยกัน

ลุงจางและพี่เล้งปกป้องวูอี้ไห่ขณะที่คนหลังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อกำจัดร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนร่างกายของตนออกไปเพื่อเปลี่ยนร่างอีกครั้ง

ในฐานะสัตว์ป่า มังกรดาบบรรพกาลมีสติปัญญาเพียงเล็กน้อยและตอนนี้มันกำลังโจมตีหมาป่าสายฟ้าบรรพกาลกับพยัคฆ์ทองคำ

ลุงจางกับพี่เล้งต่อต้านการโจมตีของมังกรดาบบรรพกาลอย่างยากลำบาก ทั้งสองได้รับบาดเจ็บ แต่การขับไล่มังกรดาบบรรพกาลตัวนี้ พวกเขาไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายที่ทรงพลังเพราะอาจตกลงสู่หลุมพรางของศัตรู

“เกือบแล้ว ท่าไม้ตายอมตะของข้าคือ…อา…” วูอี้ไห่กำลังจะกล่าวแต่เขากลับอุทานออกมาด้วยความตกใจ

เพราะเขาเห็นศีรษะของพยัคฆ์ทองคำถูกตัดออกและตาย ณ จุดเกิดเหตุ!

ท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืด!

มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ

จากนั้นมังกรดาบบรรพกาลก็ระเบิดความเร็วที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดออกมาและหายไปจากสายตาของผู้อมตะทั้งหมด

พี่เล้งตกใจมาก!

“พวกเราตกหลุมพราง โอ้ ไม่!”

เขาหันหน้ากลับไปเพียงเพื่อเห็นศีรษะของวูอี้ไห่ถูกสับเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยพร้อมกับเลือดและสมองที่ระเบิดออกไปรอบๆ

ศพไร้หัวของวูอี้ไห่ถูกจับยัดเข้าไปในมิติช่องว่างของมังกรดาบบรรพกาลอย่างรวดเร็ว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท