เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1224

ตอนที่ 1224

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1224 การล่อลวงของเทพธิดากระต่ายขาว (1)

แปลโดย iPAT

“ผู้น้อยทักทายนายท่านวูอี้ไห่” ผู้อมตะหญิงคุกเข่าลงต่อหน้าฟางหยวน

นางอยู่ในชุดขนสัตว์สีขาวผืนเล็กๆสองผืนที่พันรอบอกและสะโพก นางเผยให้เห็นผิวสีขาวราวหิมะ นางมีหูเหมือนกระต่าย ดวงตาของนางเป็นสีแดงทับทิม จมูกของนางเล็กและน่ารัก ในแง่ของความงาม นางเป็นรองเพียงเฉิงซินซื่อและฟงจินฮวงเท่านั้น

ผู้อมตะหญิงก้นหน้าลงและวางหน้าผากไว้บนพื้น หน้าอกขนาดใหญ่ของนางถูกบีบรัดขณะที่สะโพกของนางเชิดขึ้นด้านบน นี่เป็นท่าทางที่ดึงดูดสายตาของผู้คนเป็นอย่างมาก

นางไม่ใช่ผู้ใดนอกจากเทพธิดากระต่ายขาว

นางดูบริสุทธิ์ น่ารัก ขณะเดียวกันก็ดูเย้ายวนใจและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติที่ศิโรราบของนางที่ทำให้เป้ากางเกงของผู้ชายส่วนใหญ่พุ่งออกมาได้อย่างง่ายดาย

เมื่อไม่นานมานี้ฟางหยวนเคยเสนอทรัพยากรให้กับหญิงผู้นี้เพื่อแลกกับข้อมูลของโลกผู้อมตะภาคใต้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าตอนนี้หญิงคนเดิมกลับคุกเข่าลงและอ่อนน้อมราวกับยอมทำทุกอย่างเพื่อเขาเช่นนี้

‘นี่เป็นความพยายามที่จะล่อลวงข้า’

‘วูอันผู้นี้ยอมเสี่ยงและโกหกข้าโดยบอกว่ามีบางคนต้องการรายงานเรื่องสำคัญกับข้า สุดท้ายมันกลับเป็นเทพธิดากระต่ายขาว’

‘ดูเหมือนที่ผ่านมาข้าจะเก็บตัวนานเกินไป นั่นทำให้พวกเขากังวลมากและต้องใช้วิธีนี้’

‘วิธีโบราณและซ้ำซากแต่มันมีประสิทธิภาพสูง’

ฟางหยวนยืนขึ้นจากเก้าอี้และเดินเข้าไปหาเทพธิดากระต่ายขาว

หน้าผากของเทพธิดากระต่ายขาวยังวางอยู่บนพื้น แต่ฟางหยวนยังสังเกตเห็นร่างกายที่สั่นเทาของนาง

นางรู้สึกประหม่า

ฟางหยวนเคยพบเทพธิดากระต่ายขาวมาก่อน และด้วยประสบการณ์ห้าร้อยปี เขาสามารถบอกได้ว่าหญิงผู้นี้เป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์ นี่ต้องเป็นครั้งแรกที่นางเสนอร่างกายให้กับบางคน

แน่นอนว่าการตัดสินของฟางหยวนอาจผิดพลาด แต่มีไม่กี่คนในห้าภูมิภาคที่สามารถหลอกลวงเขา

เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกประหม่ามาก

ความประหม่าทำให้หัวใจและร่างกายของนางสั่นสะท้าน

‘ปรากฏว่าการล่อลวงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย’ เทพธิดากระต่ายขาวลอบถอยหายใจอยู่ภายใน

นอกจากนี้นางยังรู้สึกอับอายและโกรธตนเอง

‘ข้าจะทำเช่นนี้จริงๆงั้นหรือ? เหตุใดข้าถึงทำตัวเช่นนี้? ข้าพยายามล่อลวงผู้ชายที่ไม่เคยพบมาก่อน!’ เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกซับซ้อน

นี่ไม่ใช่นิสัยของนาง ก่อนหน้านี้นางเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่บริสุทธิ์และไม่เคยขัดแย้งกับผู้ใด นางบ่มเพาะอยู่อย่างเงียบสงบ หากบางคนล้อเลียนนางเกี่ยวกับเรื่องนี้ในอนาคต นางจะต่อสู้จนตัวตายอย่างแน่นอน

‘ข้ามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?’ เทพธิดากระต่ายขาวคิด

ก่อนหน้านี้วูอันไปหานางและบอกว่ามีโชคลาภมหาศาลที่ต้องการแบ่งปันกับนาง

ย้อนกลับไปเทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกสงสัยและระวังตัวมาก นางคิดว่าเหตุใดจึงมีโชคลาภก้อนใหญ่เข้ามาหานางโดยไม่คาดคิด นางรู้สึกว่าวูอันอาจพยายามโกงเงินหรือต้องการร่างกายของนาง

แต่ไม่ใช่

เทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นผู้จัดการธุรกิจซื้อขายโอกาส นางเป็นคนกลางที่คอยติดต่อปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษเพราะคนเหล่านั้นรู้สึกเชื่อใจนาง

แรกเริ่มธุรกิจยังไม่ดีนัก แต่หลังจากการบอกต่อของผู้คน ธุรกิจนี้ก็เริ่มดีขึ้น ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาหานางอย่างไม่ขาดสาย

เทพธิดากระต่ายขาวสามารถสะสมความมั่งคั่งได้มากกว่าความพยายามในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

นางทั้งตกใจและดีใจมาก

แต่อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดกับเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน

นางรู้ว่าวูตู๋ซิ่วเสียชีวิตขณะที่วูอี้ไห่รอดชีวิตและกลับมาถึงภาคใต้

แต่สิ่งที่เทพธิดากระต่ายขาวไม่คาดคิดก็คือเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อนาง วูอี้ไห่ที่มีสถานะสูงส่งกลายเป็นผู้ดูแลค่ายกลวิญญาณของตระกูลวู

ธุรกิจซื้อขายโอกาสของนางต้องหยุดลง!

เนื่องจากธุรกิจนี้ไม่สามารถเปิดเผย ก่อนหน้าผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลวูเป็นผู้อยู่เบื้องหลังธุรกิจนี้

แต่ตอนนี้เขาจากไปแล้วขณะที่วูอี้ไห่เข้ามาแทนที่

วูอันและคนอื่นๆไม่สามารถดำเนินธุรกิจนี้ได้อีกต่อไปเพราะพวกเขาไม่มีอำนาจ

พวกเขาไม่สามารถมองข้ามฟางหยวนและดำเนินธุรกิจลับหลังเขา

เนื่องจากธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับเจ็ดตระกูลเท่านั้น ตระกูลปา ตระกูลไท่ ตระกูลเฉิงไม่ได้เข้าร่วม

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการผู้สนับสนุนที่มีอำนาจ

หยุดอยู่ตรงนี้?

ไม่อย่างแน่นอน!

ผู้อมตะมากมายได้รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ พวกเขายังต้องการดำเนินธุรกิจต่อไป

ดังนั้นฟางหยวนจึงกลายเป็นคนสำคัญของเรื่องนี้

วูอันได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจนี้ วูเหลียวเป็นคนที่ไม่สามารถพึ่งพาเพราะเขาเป็นคนหัวโบราณและเคร่งครัดในกฎระเบียบ

วูอันพยายามตีสนิทฟางหยวนแต่ฟางหยวนกลับปิดประตูฝึกตน

สิ่งนี้ทำให้วูอันและผู้อมตะคนอื่นๆรู้สึกกังวลใจมาก

สถานการณ์ของปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษก็แย่มากเช่นกัน

พวกเขาไม่สามารถเข้าสู่ค่ายกลวิญญาณและสำรวจอาณาจักรแห่งความฝัน เรื่องนี้ทำให้พวกเขารู้สึกผิดปกติและคิดว่าฝ่ายธรรมะต้องการโกงพวกเขาหรือไม่?

ผู้อมตะจำนวนมากปิดล้อมคฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์บนยอดเขาของเทพธิดากระต่ายขาวและเรียกร้องคำตอบ

เทพธิดากระต่ายขาวตระหนักว่าตนเองตกอยู่ในอันตราย

หากธุรกิจนี้ไม่สามารถดำเนินต่อไป ไม่เพียงนางจะหมดอนาคตแต่นางอาจถูกหมาป่าเหล่านี้ฉีกกระชากเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและมีจุดจบที่น่าสมเพช

ในสถานการณ์นี้วูอันเข้ามาและใช้ลิ้นสองแฉกของเขาโน้มน้ามเทพธิดากระต่ายขาว

เทพธิดากระต่ายขาวถูกบังคับโดยสถานการณ์ นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องแต่งตัวยั่วยวนและมาพบฟางหยวนโดยใช้ความงามของนางล่อลวงผู้อมตะตระกูลวูผู้นี้เพื่อขอให้เขาออกมาจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาส

“เงยหน้าขึ้น” เป็นเพียงเวลานี้ที่เทพธิดากระต่ายขาวได้ยินเสียงของฟางหยวน

ร่างของเทพธิดากระต่ายขาวสั่นสะท้าน หัวใจของนางเต้นผิดจังหวะ

นางสูดหายใจลึกและเงยหน้าขึ้นมองฟางหยวน

ฟางหยวนมองหญิงผู้นี้ด้วยท่าทางสง่างาม

“ยืนขึ้น” ฟางหยวนกล่าวต่อ

เทพธิดากระต่ายขาวเหมือนหุ่นไม้ที่ยืนขึ้นอย่างเชื่อฟัง

นางมีรูปร่างที่งดงามแต่ความสูงของนางอยู่ที่ระดับอกของฟางหยวนเท่านั้น นี่ทำให้นางเหมือนลูกสาวที่น่ารักของเพื่อนบ้าน

ทั้งสองยืนห่างกันไม่ถึงห้าเมตร

หัวใจของเทพธิดากระต่ายขาวเต้นระรัว การหายใจของนางผิดปกติ ขณะที่นางอ้าปากค้าง

เมื่อนางจำคำแนะนำของวูอันได้ นางจึงเริ่มก้าวเท้าออกไปและสวมกอดฟางหยวน

นางใช้แขนโอบรอบเอวของฟางหยวนและกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ายวน “นาย…นายท่านโปรดลงโทษสาวใช้ผู้นี้อย่างรุนแรง!”

นางพูดตะกุกตะกักและรู้สึกอับอายมาก

แม้นางจะบ่มเพาะมานานหลายปี แต่เทพธิดากระต่ายขาวก็ไม่เคยสนใจความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง สิ่งที่นางทำคือคำแนะนำจากวูอันทั้งหมด

‘กระต่ายขาว โอ้ กระต่ายขาว เจ้ากล่าวถ้อยคำที่น่าอับอายเช่นนี้อย่างมาได้อย่างไร? เจ้าพูดมันออกมาจริงๆ!’ ใบหน้าของเทพธิดากระต่ายขาวกลายเป็นสีแดง นางกำลังถามตัวเองอยู่ในใจเพราะนางไม่กล้าเชื่อว่าตนเองกำลังทำเรื่องเช่นนี้อยู่

ด้านนอก วูอันเดินไปรอบๆด้วยความกังวล

หากธุรกิจซื้อขายโอกาสหยุดลงและฟางหยวนปฏิเสธที่จะรับช่วงต่อ นั่นหมายความว่าเขาไม่ชอบความคิดนี้และจะเปิดเผยมัน

นี่มีความเป็นไปได้สูงมาก วูอี้ไห่ยังเป็นเด็ก เขาพึ่งกลับเข้าสู่ตระกูลวู เขาจำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองกับตระกูล

พี่ชายของเขาคือวูหยง เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับทรัพยากรในการบ่มเพาะ ตอนนี้ผลประโยชน์มีความสำคัญน้อยกว่าชื่อเสียงของเขา

ในกรณีนี้ แม้เทพธิดากระต่ายขาวจะไม่ตาย แต่นางจะถูกผลักไปอยู่ฝ่ายปีศาจ

แม้วูอันจะไม่ตายเพราะเป็นสมาชิกของตระกูลวู เขาก็ยังต้องสูญเสียผลประโยชน์และถูกลงโทษ อนาคตของเขาจะพังทลายลง

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขาได้ยินเสียงฝีเท้า

วูอันหันกลับไปมองเพียงเพื่อเห็นคนผู้หนึ่งยืนตัวตรงราวกับหอกที่ปลดปล่อยกลิ่นอายอันน่าประทับใจออกมา

วูอันรู้สึกไม่ดีนัก “วูเหลียว เจ้ามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?”

วูเหลียวตะคอกเสียงเย็น “เพื่อสิ่งใดงั้นหรือ? มีคนไร้ยางอายต้องการล่อลวงท่านวูอี้ไห่ให้ทำความผิดร้ายแรง! ข้ามาที่นี่เพื่อบอกนายท่านทุกอย่างที่เจ้าทำ ข้าต้องการให้เขารู้แผนการและเจตนาร้ายของเจ้า!”

วูอันโกรธมากจนแทบระเบิด เขาชี้นิ้วไปที่วูเหลียวและกัดฟันกล่าว “วูเหลียว เจ้ากล้างั้นหรือ?”

เขาไม่พยายามติดสินบนวูเหลียว

เพราะวูเหลียวจะปฏิเสธมัน นี่คือบุคลิกของคนผู้นี้

ผู้อมตะทุกคนของตระกูลวูรู้จักบุคลิกของวูเหลียวเป็นอย่างดี

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท