เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1229

ตอนที่ 1229

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1229 วิญญาณแห่งความรัก (1)

แปลโดย iPAT

จ้าวเหลียนหยุนตื่นขึ้นในห้องลับเล็กๆแห่งหนึ่ง

“ที่นี่ที่ใด?” นางเปิดเปลือกตาขึ้นและรู้สึกมึนงง

ห้องลับแห่งนี้ค่อนข้างมืดสลัว มีเพียงเทียนเล่มเดียวที่ถูกจุดไว้และทำให้จ้าวเหลียนหยุนแทบไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด

“มานี่สิ” เสียงสูงวัยสายหนึ่งดังขึ้น

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปตามทิศทางของเสียง

เมื่อนางเข้าใกล้มากขึ้น นางก็เห็นหญิงชราผู้หนึ่ง

นางคือผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งมองจ้าวเหลียนหยุนอย่างลึกซึ้งก่อนจะหันสายตาไปที่วิญญาณแห่งความรักที่เกาะอยู่บนไหล่ของเด็กสาว

“คุกเข่าลง” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าว

เสียงของนางทรงอำนาจและทำให้ผูคนรู้สึกต้องเชื่อฟังคำสั่งของนาง

ดังนั้นจ้าวเหลียนหยุนจึงก้มศีรษะลงและเห็นเบาะวางอยู่บนพื้น

นางคุกเข่าลงบนเบาะ ร่างกายส่วนบนของนางตั้งตรงขณะที่นางมองไปที่หญิงชรา

หญิงชรากล่าว “จงมองไปข้างหน้า”

จ้าวเหลียนหยุนมองไปข้างหน้าและรู้สึกว่าห้องลับเริ่มสว่างขึ้น จ้าวเหลียนหยุนอ้าปากค้างขณะที่ดวงตาเบิกกว้าง

เพราะนางเห็นป้ายหยกจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่บนผนัง

“นี่คือวิญญาณป้ายหยกแห่งชีวิต มันเป็นชื่อของผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณทั้งหมดตั้งแต่รุ่นที่หนึ่งจนถึงปัจจุบัน…” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างช้าๆ

จ้าวเหลียนหยุนสูดหายใจลึกและรู้สึกตื่นตากับสิ่งที่เห็น

ที่มุมบนด้านซ้ายเป็นชื่อของผู้นำนิกายรุ่นแรก ซุ้ยหนี่

ผู้นำรุ่นที่สอง ซุ้ยหยู

ผู้นำรุ่นที่สาม ซุ้ยซิน

นางยังเห็นชื่อโม่เหยา เหลียนเซียง และอีกหลายคนที่นางรู้สึกคุ้นเคย

จ้าวเหลียนหยุนมองชื่อเหล่านี้ด้วยความตื่นเต้น นางเหมือนเด็กที่กำลังจ้องมองท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน

นางรู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นดวงดาวของโลกผู้อมตะ ผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณทุกรุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังในทุกยุคสมัย พวกเขาทำให้นิกายคฤหาสน์วิญญาณเจิดจรัสและรุ่งเรืองมากตลอดช่วงเวลาอันยาวนาน

จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกงุนงงขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวต่อ “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปเจ้าคือผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ป้ายหยกแห่งชีวิตของเจ้าอยู่ที่นั่นแล้ว”

ร่างกายของจ้าวเหลียนหยุนกลายเป็นแข็งค้าง

นางจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้างและกล่าวด้วยความสงสัย “เป็นไปได้อย่างไร? ข้ากำลังฝันอยู่หรือไม่? ตามกฎของนิกาย ข้ายังไม่มีคุณสมบัติ…”

นางยังกล่าวไม่จบประโยคขณะที่นางนึกถึงบางสิ่งและหันหน้าไปทางวิญญาณที่อยู่บนไหล่ “เป็นเพราะวิญญาณดวงนี้งั้นหรือ?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้าเล็กน้อย “นี่คือวิญญาณแห่งความรัก ตอนนี้มันยอมรับเจ้าแล้ว”

เมื่อนางตื่นขึ้น นางก็อยู่ในห้องลับแห่งนี้แล้ว นางไม่แน่ใจว่าวิญญาณแห่งความรักเป็นอย่างไร แต่นางรู้ว่าวิญญาณแห่งความรักเป็นวิญญาณที่มีความสำคัญกับนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

“นี่คือวิญญาณแห่งความรัก!?” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเสียงแหลม

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้าอีกครั้ง

จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุข แต่ความสุขนี้กะทันหันเกินไป มันยอดเยี่ยมเกินไป นั่นทำให้นางเริ่มกังวลและไม่สบายใจ

นางกลัวว่าทุกสิ่งจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่เป็นความฝัน

ดังนั้นนางจึงเริ่มถามด้วยความประหม่า “เพราะเหตุใด?”

เหตุใดวิญญาณแห่งความรักถึงเลือกนาง?

เหตุใดนางถึงกลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณ?

เหตุใดเรื่องทั้งหมดนี้ถึงเกิดขึ้น?

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ตอบ นางถอนหายใจก่อนจะกล่าวอย่างช้าๆ “เจ้าเคยอ่านตำนานมนุษย์คนแรกหรือไม่? มีบทหนึ่งกล่าวไว้”

เมื่อมนุษย์ได้รับวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความเด็ดเดี่ยว และวิญญาณทรยศ เขาสามารถเดินหน้าต่อไป

วันหนึ่งเขาได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง “โอ้ มนุษย์ ในที่สุดข้าก็พบเจ้า ช้าก่อน รอข้าด้วย”

มนุษย์คนแรกหันหลังกลับเพื่อพบกับมนุษย์หิมะที่วิ่งเข้ามาหาเขา

“มนุษย์หิมะ?” มนุษย์คนแรกสงสัย

มนุษย์หิมะกล่าว “โอ้ มนุษย์ ในที่สุดข้าก็พบเจ้า ข้าเป็นมนุษย์หิมะที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่า พวกเขากล่าวว่ามนุษย์หิมะกลัวไฟ ข้าต้องการพิสูจน์ว่ามันไม่เป็นความจริง ข้าเดินทางไปทั่วโลกและสามารถกำหราบแสงแห่งความรุ่งโรจน์ที่อยู่บนท้องฟ้า เพลิงเทพปฐพีบนพื้นพิภพ และเพลิงมังกรล่องคลื่นในทะเล แต่ข้าได้ยินว่ามีเพลิงชนิดที่สี่อยู่บนโลกใบนี้ มันเรียกว่าเพลิงรัก เมื่อถูกเผาผลาญ มันจะเปลี่ยนรูปแบบชีวิตทั้งหมดให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ข้าไม่เชื่อมัน ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก ดังนั้นข้าจึงต้องการทดลองมัน”

“เพลิงรัก?” มนุษย์คนแรกประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้

ดังนั้นเขาจึงนำวิญญาณแห่งความรักออกมาและถาม “โอ้ วิญญาณ เจ้าสามารถปลดปล่อยเพลิงรักออกมาหรือไม่?”

วิญญาณแห่งความรักตอบ “ข้าสามารถและไม่สามารถ”

มนุษย์คนแรกและมนุษย์หิมะรู้สึกสับสน พวกเขาถามต่อ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

วิญญาณแห่งความรักอธิบาย “ข้าสามารถเพราะข้าเป็นผู้จุดเพลิงรัก แต่ข้าไม่สามารถเพราะเพียงตัวข้ายังไม่พอแต่ต้องมีหัวใจสองดวง”

“หัวใจสองดวง?” มนุษย์หิมะกังวล นางถอดหัวใจออกมาจากหน้าอก

หัวใจดวงนี้ทั้งใหญ่และแข็ง

มนุษย์หิมะกล่าว “นี่คือหัวใจจักรพรรดินีของข้า แต่น่าเสียดายที่มีเพียงดวงเดียว”

มนุษย์กล่าว “ไม่จำเป็นต้องกังวล ข้าก็มีหัวใจดวงหนึ่ง”

มนุษย์คนแรกเคยมีหัวใจดวงหนึ่งแต่เขามอบมันให้กับวิญญาณแห่งความหวังไปแล้ว

ต่อมาเขาได้รับหัวใจแห่งความเดียวดายแต่วิญญาณตัวตนครอบครองมันอยู่

เขามีหัวใจที่แห้งแล้งเช่นกัน

ดังนั้นเขาจึงนำมันออกมา

หัวใจที่แห้งแล้งทั้งเหี่ยวแห้งและอ่อนแอ นี่เป็นเพราะครั้งหนึ่งมนุษย์คนแรกเคยใช้เลือดจากหัวใจในเหวธรรมดาเพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้แห่งความสำเร็จ

วิญญาณแห่งความรักบินเข้าไปในหัวใจที่แห้งแล้งก่อนจะบินเข้าไปในหัวใจจักรพรรดินีและบินกลับออกมา

มันบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและกล่าวว่า “เอาล่ะ หากต้องการเพลิงรัก ให้หัวใจทั้งสองดวงสัมผัสกัน”

มนุษย์หิมะกับมนุษย์คนแรกนำหัวใจทั้งสองดวงมารวมกัน

ประกายไฟปะทุขึ้น

เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว

เพลิงรัก!

เพลิงรักแผดเผาหัวใจที่แห้งแล้งของมนุษย์คนแรกและทำให้มันกลายเป็นเถ้าถ่านไปในพริบตา

มนุษย์คนแรกตะลึง

วิญญาณแห่งความรักกล่าว “ความรักมีราคาที่ต้องจ่ายแต่มนุษย์ก็เต็มใจที่จะเสียสละเพื่อมัน”

มนุษย์หิมะหัวเราะ “โอ้ มนุษย์ โชคดีที่เจ้ามีหัวใจสองดวง มิฉะนั้นเจ้าอาจตายไปแล้ว”

มนุษย์หิมะมองหัวใจจักรพรรดินีในมือของนาง

เพลิงรักห่อหุ้มหัวใจดวงนี้เอาไว้แต่มันกลับทำให้หัวใจดวงนี้เปล่งประกายมากขึ้น

มนุษย์หิมะกล่าว “โอ้ เพลิงรักค่อนข้างน่าประทับใจ มันไม่เหมือนแสงแห่งความรุ่งโรจน์ เพลิงเทพปฐพี หรือเพลิงมังกรล่องคลื่น”

หลังกล่าวจบคำ นางเก็บหัวใจจักรพรรดินีกลับไปที่หน้าอก

หลังจากนั้นร่างกายของนางก็เริ่มลุกไหม้ขึ้น หิมะบนร่างของนางเริ่มหลอมละลายภายใต้ดวงตะวัน

นางตกใจและรีบตบเบาๆเพื่อดับเพลิงรัก

แต่เพลิงรักไม่อาจมอดดับ

ในที่สุดร่างกายของมนุษย์หิมะก็ละลายจนหมดสิ้นและทิ้งไว้เพียงหัวใจที่ลุกโชนด้วยเพลิงรักเท่านั้น

มนุษย์คนแรกตกใจมาก เขารู้สึกว่ามนุษย์หิมะผู้นี้แข็งแกร่งมาก แต่ผู้ใดจะคิดว่านางจะหายไปในลักษณะนี้

“เพลิงรักช่างบ้าคลั่งนัก” มนุษย์คนแรกตกตะลึง

วิญญาณแห่งความรักกล่าว “ผลลัพธ์ของความรักจะแตกต่างกันไปในหัวใจแต่ละดวง หัวใจของมนุษย์หิมะเป็นหัวใจจักรพรรดินี แต่เจ้ามีหัวใจที่แล้งแห้งและมันถูกเผาทำลายลงอย่างสมบูรณ์ นี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น”

ผลลัพธ์ของความรักจะแตกต่างกันไป ความรักที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเหมือนการเสี่ยงโชค

มนุษย์คนแรกคิดถึงบางสิ่ง “โอ้ วิญญาณแห่งความรัก เจ้ากล่าวว่าความรักทำให้มนุษย์เต็มใจที่จะเสียสละ นี่วิเศษมาก ข้าจะรักกับมนุษย์วิหคและทำให้พวกมันเต็มใขบินเพื่อข้า ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถช่วยบุตสาวออกจากเหวธรรมดา”

แต่ในจังหวะนี้เสียงสายหนึ่งกลับดังขึ้น “ท่านพ่อ”

จากเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อยู่บนหัวใจจักรพรรดินี เด็กชายผู้หนึ่งกระโดดออกมา

เขาคือเยี่ยนฮวงเล่ยซื่อ

เยี่ยนฮวงเล่ยซื่อกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของมนุษย์คนแรก “ท่านพ่อ ดังนั้นข้าก็มีพี่สาว ข้าสนับสนุนท่าน ไปช่วยพี่สาวกันเถอะ”

มนุษย์คนแรกดีใจมาก เขาลูบศีรษะของบุตรชายและกล่าว “บุตรชายของข้า เจ้าฉลาดมาก!”

มนุษย์คนแรกออกเดินทางอีกครั้ง เขากลับไปที่รังของมนุษย์วิหค

มนุษย์คนแรงกล่าวกับมนุษย์วิหค “พวกเจ้ามีหัวใจหรือไม่?”

มนุษย์วิหคตอบ “เราทุกคนมีหัวใจแห่งเสรีภาพ”

มนุษย์หัวเราะ “เช่นนั้นเรามารักกันเถอะ ข้ามีหัวใจและยังมีวิญญาณแห่งความรัก”

มนุษย์วิหคส่ายศีรษะ “หัวใจแห่งเสรีภาพของพวกเราจะถูกเพลิงรักเผ่าทำลายลงอย่างสมบูรณ์”

ความรักคือการสูญเสียอิสรภาพ

มนุษย์ยังยืนกราน “ผลลัพธ์ของความรักจะแตกต่างกันไปในหัวใจแต่ละดวง อย่ามองหัวใจเพียงดวงเดียว หัวใจแห่งความเดียวดายของข้าจะเข้าสู่กระบวนการนี้เช่นกัน”

แต่ไม่ว่ามนุษย์จะหว่านล้อมอย่างไร มนุษย์วิหคก็ไม่ตกลง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท