เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1230

ตอนที่ 1230

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1230 วิญญาณแห่งความรัก (2)

แปลโดย iPAT

มนุษย์คนแรกไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร เขาถามวิญญาณแห่งความรัก “โอ้ วิญญาณ พวกเขาไม่ต้องการรักข้า เจ้าต้องช่วยข้าและจุดเพลิงรักในหัวใจของพวกเรา”

วิญญาณแห่งความรักถอนหายใจ “นี่เกินขีดความสามารถของข้า ข้าไม่สามารถบังคับให้ผู้ใดรักกัน ไม่ว่าอย่างไรหัวใจสองดวงก็ต้องสัมผัสกัน”

มนุษย์คนแรกส่ายศีรษะ “ไม่ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยบุตรสาวของข้า ข้าไม่สามารถยอมแพ้ วิญญาณตัวตน ข้าต้องพึ่งเจ้าแล้ว”

วิญญาณตัวตนพยักหน้าและใช้ความแข็งแกร่งของตนเอง

มันเคยกินวิญญาณความแข็งแกร่งเข้าไป นั่นทำให้มนุษย์คนแรกมีความแข็งแกร่งของตนเอง

ดังนั้นมนุษย์วิหคจึงถูกจับโดยมนุษย์คนแรก หัวใจของพวกมันถูกนำออกมาสัมผัสกับหัวใจของมนุษย์คนแรก

แต่ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น หัวใจเหล่านั้นไม่ก่อให้เกิดประกายไฟแห่งรัก

วิญญาณแห่งความรักถอนหายใจ “โอ้ มนุษย์ การบังคับหัวใจของผู้อื่นเป็นไปไม่ได้ มันเป็นเพียงการสร้างความเกลียดชังเท่านั้น”

หลังวิญญาณแห่งความรักกล่าวจบประโยค วิญญาณดวงหนึ่งก็ปรากฏขึ้นต่อหน้ามนุษย์คนแรก

มนุษย์คนแรกมองวิญญาณดวงนี้ แน่นอนว่ามันคือวิญญาณความเกลียดชัง

วิญญาณความเกลียดชังบินเข้าไปในหัวใจของมนุษย์วิหค

พวกมันเริ่มตะโกน “มนุษย์ เจ้าทำเกินไปแล้ว เจ้าข่มเหงพวกเรา พวกเราจะตอบแทนเจ้าอย่างสาสม!”

ดังนั้นพวกมันจึงบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและปล่อยแสงออกมาจากปีก

วิญญาณอิสรภาพ

วิญญาณอิสรภาพจำนวนมากหลอมรวมกันกลายเป็นวิญญาณเสรีภาพขนาดใหญ่

วิญญาณเสรีภาพพรากวิญญาณแห่งความรักไปจากมนุษย์คนแรก

“จากนี้ไปความรักจะเป็นอิสระ” วิญญาณเสรีภาพกล่าว

วิญญาณตัวตนของมนุษย์คนแรกบินออกมาและต้องการแย่งวิญญาณแห่งความรักกลับคืน แต่มันไม่สามารถเอาชนะวิญญาณเสรีภาพ มันทำได้เพียงกัดวิญญาณแห่งความรักเท่านั้น

วิญญาณตัวตนกล่าวด้วยความโกรธ “ความรักเป็นของตนเองเช่นกัน!”

…..

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนได้ยินคำกล่าวของผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง นางยังรู้สึกมึนงง

จ้าวเหลียนหยุนเคยได้ยินตำนานมนุษย์คนแรกมาก่อน แต่นางคิดว่ามันเป็นเรื่องสมมติ

ในความเป็นจริงนางไม่ได้คาดหวังว่าคุณย่าที่เข้มงวดผู้นี้จะพูดคุยกับนางเกี่ยวกับตำนานมนุษย์คนแรกในบรรยากาศที่หนักหน่วงและจริงจังเช่นนี้

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณเห็นการแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนและตระหนักว่าเด็กหญิงผู้นี้ไม่เคยใส่ใจเกี่ยวกับตำนานมนุษย์แรก

ดังนั้นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งจึงเปิดปากกล่าว “วิญญาณแห่งความรักบนไหล่ของเจ้าคือวิญญาณอมตะระดับเก้า แต่มันมีข้อบกพร่องที่สำคัญอยู่เช่นกัน”

“ข้อบกพร่องใด?” จ้าวเหลียนหยุนถาม

“มันไม่สามารถปรับแต่ง” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ท่านหมายความว่าอย่างไร? กระทั่งผู้อมตะก็ไม่สามารถปรับแต่งมันงั้นหรือ?” จ้าวเหลียนหยุนถาม

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยิ้ม “ไม่เพียงผู้อมตะ กระทั้งผู้อมตะระดับเก้าก็ไม่สามารถทำได้ ในประวัติศาสตร์มีหลายคนเคยทดลองเรื่องนี้ เทพอมตะตะวันเดือดพยายามปรับแต่งวิญญาณแห่งความรักเป็นเวลาสามปีติดต่อกันโดยไม่หยุดพัก แต่เขายังล้มเหลวอย่างน่าสังเวช”

จ้าวเหลียนหยุนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเรื่องนี้ นางอุทาน “มีสิ่งที่เทพอมตะหรือเทพปีศาจไม่สามารถทำได้อยู่ด้วย!?”

“เทพอมตะเป็นเพียงผู้ที่มีพลังการต่อสู้สูงที่สุดบนโลกใบนี้ แต่พวกเขาไม่สามารถทำทุกสิ่ง ในอดีต เทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือดต้องขอให้บรรพชนผมยาวหลอมรวมวิญญาณให้กับพวกเขา นี่คือข้อสรุปที่เห็นชัด” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างช้าๆ

“ดังนั้นวิญญาณแห่งความรักจึงไม่สามารถควบคุมได้ มันเป็นอิสระและไม่มีผู้ใดสามารถสั่งมันได้” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวทิ้งท้าย

“แต่เหตุใดมันถึง…” จ้าวเหลียนหยุนไม่รู้ว่าควรกล่าวสิ่งใด นางมองไปที่วิญญาณแห่งความรักบนไหล่ของนาง

ในสายตาของนาง วิญญาณแห่งความรักช่างสดใสและเปล่งประกาย

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าว “นี่คือการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก สถานการณ์นี้เกิดได้ยากมาก ครั้งสุดท้ายที่มันเกิดขึ้นคือเทพธิดาโม่เหยา”

“เหตุใดมันถึงเลือกข้า?” จ้าวเหลียนหยุนถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งส่ายศีรษะ “ข้าไม่แน่ใจ แต่นิกายของเราได้สรุปไว้สองประเด็น ประการแรก คนผู้นั้นต้องเชื่อมั่นในความรัก ประการที่สอง ความรักของคนผู้นั้นต้องบรรลุถึงระดับที่ยิ่งใหญ่มาก ยิ่งความรักของเจ้าลึกซึ้งเท่าใด เจ้าก็มีโอกาสได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักมากเท่านั้น”

“เป็นเช่นนี้” จ้าวเหลียนหยุนกระพริบตาขณะฟังคำตอบ

นางตระหนักว่าเพราะนางรักหม่าหงหยุนอย่างสุดซึ้งและยินดีที่จะสละชีวิตของตนเพื่อความรัก นั่นทำให้วิญญาณแห่งความรักยอมรับนาง

เหตุใดสิ่งนี้จึงไม่เกิดขึ้นกับฟงจินฮวง?

เพราะนางไม่มีคนรัก

ความรักชนิดนี้ไม่ใช่ความรักของคนในครอบครัวหรือมิตรภาพ

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวต่อ “แน่นอนเพราะวิญญาณแห่งความรักไม่สามารถควบคุม เราจึงต้องใช้ประโยชน์จากความรักเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก ดังนั้นกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณของเราจึงถูกสร้างขึ้น กฎข้อนี้กล่าวว่าผู้ใดก็ตามที่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย คนผู้นั้นจะกลายเป็นผู้นำนิกายรุ่นต่อไป”

จ้าวเหลียนหยุนกระพริบตา “มีผู้นำชายด้วยงั้นหรือ?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งยิ้ม “นิกายของเรามีสมาชิกหญิงเป็นส่วนใหญ่ แต่เราก็มีสมาชิกผู้ชายเช่นกัน เหตุใดพวกเขาจะไม่สามารถเป็นผู้นำ? ดูที่ป้ายหยกแห่งชีวิตที่อยู่ตรงกลาง มันเป็นชื่อของเฉิงหยูซาน ที่มุมล่างด้านขวายังมีชื่อเฉียนหยวนเหลียง คนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลที่อุทิศตนเพื่อความรักในประวัติศาสตร์ของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ”

“แท้จริงแล้ววิญญาณแห่งความรักมีพลังอำนาจที่หลากหลายและแตกต่างกันไปในแต่ละคน ในสายตาเจ้า มันดูเป็นอย่างไร?”

จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “มันดูเหมือนสายรุ้งหลากหลายสีสันที่ส่องประกายงดงาม”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้า “ในสายตาของข้า มันดูเหมือนหินสีเทาที่ไม่น่าสนใจแม้แต่น้อย”

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งเผยรอยยิ้มบางก่อนจะปิดเปลือกตาลงและกล่าว “ข้าเลิกเชื่อในความรักมานานแล้ว ดังนั้นข้าจึงเห็นวิญญาณแห่งความรักเป็นเช่นนี้ ในอดีต ผู้นำนิกายแต่ละคนเห็นวิญญาณแห่งความรักแตกต่างกันไป บางคนเห็นมันเหมือนน้ำที่ใสสะอาด บางคนเห็นดอกท้อ และยังมีรูปลักษณ์ที่หลากหลายในสายตาของแต่ละคน”

“วิญญาณแห่งความรักสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน”

“โปรดชี้แนะด้วย” จ้าวเหลียนหยุนกล่าว

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวต่อ “โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นวิญญาณระดับมนุษย์หรือวิญญาณอมตะ พวกมันจะสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจได้เพียงหนึ่งเดียวเช่นวิญญาณศรวารี มันสามารถยิงศรวารีออกไป แต่วิญญาณแห่งความรักแตกต่างกัน กล่าวได้ว่าพลังอำนาจของมันไร้ขีดจำกัด ตัวอย่างเช่นมันสามารถยิงเปลวเพลิงออกไป มันสามารถรักษาอาการบาดเจ็บ มันสามารถป้องกันการโจมตีของศัตรู หรืออื่นๆ”

จ้าวเหลียนหยุนมีความสุขมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ “น่าทึ่งมาก!”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งส่ายศีรษะ “วิญญาณแห่งความรักเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า มันมีความพิเศษตามธรรมชาติ มันมีพลังอำนาจที่ไร้ขีดจำกัด แต่มันไม่สามารถควบคุมได้ หากเจ้าต้องการใช้มันโจมตี มันอาจพาเจ้าบินหนี หากเจ้าต้องการใช้มันป้องกัน มันอาจรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า บ่อยครั้งเมื่อเจ้าต้องการใช้งานมัน มันจะไม่ทำสิ่งใดเลย แต่เมื่อเจ้าไม่ต้องการมัน มันจะทำงานและปลดปล่อยพลังอำนาจของมันออกมา”

จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ในไม่ช้านางก็รวบรวมสติ “ถึงเป็นเช่นนั้นมันก็ยังเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า พลังอำนาจของมันย่อมไม่ธรรมดา”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าว “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่เจ้าลืมบางสิ่ง พลังอำนาจมีราคาที่ต้องจ่าย ทุกครั้งที่เจ้าใช้วิญญาณแห่งความรัก มันจะพรากบางสิ่งไปจากเจ้า”

จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกประหม่า “มันคือสิ่งใด?”

“สี่งที่ธรรมดาที่สุด นั่นคือพลังงานอมตะ แต่เจ้าไม่ใช่ผู้อมตะ มันอาจพรากความงามของเจ้า สายตาของเจ้า หรืออายุขัยของเจ้าไป” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งกล่าวอย่างเคร่งขรึม

ใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุนกลายเป็นซีดเผือด นางต้องมองวิญญาณแห่งความรักที่เกาะอยู่บนไหล่ของนางอีกครั้ง

แต่ตอนนี้สายตาของนางกลับเปลี่ยนไปจากก่อนหน้า

“วิญญาณอมตะต้องการเอาชีวิตของข้างั้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะใช้มันให้คุ้มค่า!” จ้าวเหลียนหยุนตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว

นางรวบรวมความกล้าและกล่าวกับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่ง “หากสามารถช่วยท่านพี่หม่าหงหยุนแม้ต้องจ่ายด้วยราคามหาศาล ข้าก็ยินดี ผู้อาวุโส หากข้ากลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณ ข้าสามารถยืมพลังของนิกายเพื่อไปที่ภาคเหนือหรือไม่?”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ตอบจ้าวเหลียนหยุนในทันที

นางแสดงออกอย่างซับซ้อน

เมื่อไม่นานมานี้ราชันมังกรของวังสวรรค์ได้ตื่นขึ้น เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป สิบนิกายโบราณตกลงสู่ความโกลาหล

ราชันมังกรอยู่ในระดับเดียวกับโป้ชิงในแง่ของความแข็งแกร่ง ด้วยความแข็งแกร่งนี้ เขาได้สร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์มังกรขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเป็นตำนานที่มีชีวิต แต่ชื่อของเขาไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ กระทั่งสิบนิกายโบราณก็มีผู้คนที่รู้จักเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ราชันมังกรมีความอาวุโสมาก เขาอายุมากอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเขาตื่นขึ้น เทพธิดาจื่อเว่ยต้องสละตำแหน่งผู้นำให้เขาทันที

ผู้อมตะวังสวรรค์ทั้งหมดต่างเห็นด้วยกับเรื่องนี้

ราชันมังกรทำความเข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็วและถ่ายทอดคำสั่งให้จ้าวเหลียนหยุนเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นต่อไป

ไม่เพียงเท่านั้นแต่ราชันมังกรยังมอบมิติช่องว่างเทียมให้กับจ้าวเหลียนหยุนเพื่อทำให้นางกลายเป็นผู้อมตะเทียม ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสั่งให้สิบนิกายโบราณร่วมมือกับจ้าวเหลียนหยุนเพื่อนำคณะเดินทางมุ่งหน้าไปภาคเหนือและช่วยหม่าหงหยุนออกมา

สิบนิกายโบราณไม่สามารถคัดค้านและไม่มีผู้ใดกล้าตั้งคำถาม

จ้าวเหลียนหยุนยังไม่ได้รับข่าวดังกล่าว

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ต้องการให้นางรู้

จ้าวเหลียนหยุนเห็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งไม่ตอบคำถาม นางรู้สึกกังวลมากและเกรงว่าหญิงชราจะปฏิเสธ

แต่ในไม่ช้าผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งก็เปิดปากกล่าว “จ้าวเหลียนหยุน เจ้าเป็นปีศาจต่างโลกที่ได้รับมรดกที่แท้จริงของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ บางทีเจ้าอาจกลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณที่โดดเด่นที่สุด”

“และอาจเป็นเพราะลักษณะพิเศษของเจ้า…”

“ไม่จำเป็นต้องกังวล วังสวรรค์ถ่ายทอดคำสั่งลงมาแล้ว สิบนิกายโบราณจะจัดตั้งคณะเดินทางเพื่อมุ่งหน้าไปยังภาคเหนือและช่วยเหลือหม่าหงหยุนคนรักของเจ้า”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนเบิกตากว้าง นางทั้งมีความสุขและประหลาดใจมาก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท