เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1236 การบ่มเพาะเป็นเรื่องสนุก
แปลโดย iPAT
ทัศนคติของเหยากวงมั่นคงมาก
จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูหัวเราะ “ไม่จำเป็นต้องกังวล ชูตู๋เข้าใจเรื่องนี้และได้พูดคุยกับข้าแล้ว เขาสามารถยอมรับประเด็นนี้”
“ดีแล้ว” เหยากวงพยักหน้า
ทั้งสองพูดคุยกันอีกเล็กน้อยก่อนที่พวกเขาจะบินลงมาจากสวรรค์สีขาว
จากนั้นพวกเขาก็ประกาศว่าเหยากวงชนะการต่อสู้อย่างฉิวเฉียด งานประลองทุ่งโลหิตจบลงด้วยชัยชนะของตระกูลฮวงจิน
ใบหน้าของผู้อมตะนิกายชูและเผ่าไป่ซูกลายเป็นน่าเกลียด มีเพียงชูตู๋ที่ยังสงบนิ่ง เขาคาดเดาสิ่งไว้แล้วตั้งแต่แรก
ในทางตรงข้ามผู้อมตะตระกูลฮวงจินอยู่ในอารมณ์ที่สนุกสนาน
ไม่มีการกล่าวถึงรายละเอียด แต่งานประลองทุ่งโลหิตก็ทำให้ความโกลาหลในภาคเหนือจนสิ้นลง
…..
ภาคใต้ อาณาจักรแห่งความฝัน
ลึกลงไปในทะเลที่มืดมิด
ฟางหยวนเผชิญหน้ากับแรงกดดันมหาศาลจากฝูงมังกรใต้ทะเล
มังกรทะเลแต่ละตัวมีพลังการต่อสู้เท่ากับสัตว์อสูรเดียวดาย
มีมังกรทะเลหลายร้อยหรือหลายพันตัวเคลื่อนไหวอยู่รอบๆ
ตอนนี้ฟางหยวนเป็นเพียงผู้อมตะระดับหก เผชิญหน้ากับมังกรทะเลฝูงนี้ เขาไม่สามารถทำสิ่งใด
‘สิ่งที่ยากลำบากที่สุดคือข้าต้องสังหารมังกรทะเลทั้งหมดเพื่อผ่านฉากที่เก้าของอาณาจักรแห่งความฝัน’
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น
หากนี่เป็นความจริง มันก็ยังไม่แน่ชัดว่าเขาจะสามารถหลบหนีจากสถานการณ์นี้หรือไม่
แต่ในอาณาจักรแห่งความฝันมีกฎที่เฉพาะเจาะจงมาก หากฟางหยวนต้องการหลบหนี เขาจะล้มเหลวในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันนี้
ฟางหยวนไม่มีทางเลือก!
‘การสังหารมังกรทะเลทั้งหมดโดยพื้นฐานของข้าในอาณาจักรแห่งความฝันแห่งนี้ มันเป็นไปไม่ได้!’
ดังนั้นสิ่งเดียวที่ฟางหยวนสามารถทำได้มีเพียงท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน
‘แต่มังกรทะเลมีมากเกินไป ตอนนี้ข้าสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันได้ไม่เกินสิบครั้ง มันไม่สามารถแก้ปัญหานี้’
‘ดูเหมือนฉากนี้จะเป็นฉากสุดท้ายของอาณาจักรแห่งความฝัน’
ฟางหยวนเข้าใจอย่างชัดเจน
อาณาจักรแห่งความฝันส่วนใหญ่เป็นสถานการณ์จำลองประสบการณ์ของเจ้าของความฝัน อย่างไรก็ตามอาจมีบางอาณาจักรแห่งความฝันที่แปลกประหลาดและต่างออกไป
ฟางหยวนกำลังสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันที่มาจากประสบการณ์จริงของเจ้าของความฝัน แต่ความรุนแรงของมันดูเหมือนจะเกินความเป็นจริงไปมาก
‘ผู้อมตะผู้นี้เคยเป็นผู้ใช้วิญญาณของนิกายเทพยุทธ์อมตะ’
‘เขามีพรสวรรค์ที่ดี แต่หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เขาก็ไม่น่าทึ่งอีกต่อไป’
‘นิกายโบราณทั้งสิบของภาคกลางจะสนับสนุนผู้อมตะที่โดดเด่น แต่คนผู้นี้ยังห่างไกลจากจุดนั้น โดยปราศจากความแข็งแกร่งหรือวิธีการที่ทรงพลัง มันยากที่จะได้รับแต้มผลงานของนิกาย ดังนั้นเขาจึงได้รับทรัพยากรไม่มากนักและเป็นเหตุผลที่เขาต้องออกมาสำรวจทะเลตะวันออก’
‘หลังจากก้าวข้ามกำแพงภูมิภาค มิติช่องว่างของเขาได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากนั้นเขาได้ยินข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรและเดินทางมาที่นี่ สุดท้ายเขาตายจากการโจมตีของฝูงมังกรทะเล’
คิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนเลือกที่จะยอมแพ้
เขาออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน
โดยปกติแล้วยิ่งลึกเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝัน ผลประโยชน์ของมันก็จะมากขึ้นหลังจากผ่านฉากนั้นๆ
แต่ฟางหยวนเลือกที่จะล่าถอยอย่างชาญฉลาด
เขาจะไม่ใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันอย่างไร้ประโยชน์ที่นี่
ฟางหยวนกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงและใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวรักษาอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณของตน
กึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งวารี!
ระดับความสำเร็จของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง
แต่มันเพียงพอแล้วสำหรับการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในเมืองจิ๋วเพราะพวกมันเป็นเพียงแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับหกเท่านั้น
‘มันจะดีที่สุดหากข้าสามารถยกระดับความสำเร็จทุกเส้นทางอย่างน้อยก็ระดับผู้เชี่ยวชาญ’
‘ด้วยวิธีนี้ข้าจะสามารถกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับหกทั้งหมด’
‘แม้แดนศักดิ์สิทธิ์ระดับหกจะช่วยเพิ่มการบ่มเพาะของข้าเพียงเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ของมันยังถือว่าโดดเด่นมาก’
ฟางหยวนคิด
จากนั้นเขาก็เข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันของตนเองและหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันอีกครั้ง
แน่นอนว่าเขาแบ่งเวลาในการอนุมานสิ่งต่างๆเช่นกัน
หลายวันที่ผ่านมาเขาได้รับแรงบันดาลใจที่จะผสานท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนเข้ากับท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ
การอนุมานของฟางหยวนเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากทั้งหมดเขาไม่ขาดแคลนความสำเร็จบนเส้นทางความแข็แกร่ง เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือเส้นทางแห่งปัญญา แม้ทักษะบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาจะขาดไปเล็กน้อย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
เทพธิดากระต่ายขาวมาพบฟางหยวนเพื่อรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับธุรกิจซื้อขายโอกาสรวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเขาตลอดเวลา
ตอนนี้นางก็อยู่ที่นี่
ฟางหยวนนั่งอยู่บนเบาะ เขากล่าวโดยไม่แม้แต่จะเปิดเปลือกตาขึ้น “ข้ากำลังฟังอยู่”
ฟางหยวนฟังรายงานจากเทพธิดากระต่ายขาวและอนุมานเกี่ยวกับสถานการณ์ของตนเองในเวลาเดียวกัน
เขาทำงานหลายอย่างพร้อมกัน!
ในฐานะปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา เขาสามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย
เทพธิดากระต่ายขาวกล่าวรายงานขณะที่นางมองใบหน้าของฟางหยวนด้วยความรักอันสุดซึ้ง
แต่ฟางหยวนไม่เคยเปิดเปลือกตาขึ้นมามองนาง นี่ทำให้นางรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
‘เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว’ ฟางหยวนกล่าวเบาๆ
เทพธิดากระต่ายขาวทำได้เพียงจากไปอย่างช้าๆเท่านั้น
นอกห้อง วูอันรออยู่นานแล้ว
“เทพธิดาเชิญทางนี้” ทัศนคติของวูอันที่มีต่อเทพธิดากระต่ายขาวสุภาพมาก
เทพธิดากระต่ายขาวได้รับอนุญาตให้เข้าพบฟางหยวน นี่แสดงให้เห็นว่าเขายังชื่นชอบนางอยู่ ดังนั้นวูอันจึงให้ความสำคัญกับนางเป็นอย่างมาก เพราะนางเป็นความหวังของธุรกิจซื้อขายโอกาส
เทพธิดากระต่ายขาวรู้สึกกังวลเล็กน้อย นางถามวูอัน “วูอัน ท่านวูอี้ไห่บ่มเพาะตลอดเวลาเลยงั้นหรือ?”
วูอันตะลึง “ท่านหมายถึงสิ่งใด?”
เทพธิดากระต่ายขาวถอนหายใจและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เศร้าหมอง “ท่านวูอี้ไห่บ่มเพาะอย่างหนัก เขาไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว แม้เขาจะฟังรายงานของข้า เขาก็ยังไม่หยุดบ่มเพาะ เขาเป็นเช่นนี้ตลอดเลยหรือ?”
วูอันกระพริบตา “เทพธิดา ข้าขอกล่าวตามความจริง แม้ข้าจะไม่เคยเห็นท่านวูอี้ไห่บ่มเพาะ แต่ข้าก็สามารถบอกได้หลายสิ่ง ท่านวูอี้ไห่เป็นผู้ฝึกตนที่ขยันที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมาตลอดชีวิต ท่านไม่สนใจสิ่งอื่นใดและบ่มเพาะอยู่ในห้องตลอดเวลาโดยไม่ออกมา นี่เป็นไปไม่ได้สำหรับข้า”
เทพธิดากระต่ายขาวกังวลมากขึ้น “ถูกต้อง แต่ข้าเป็นห่วงท่านวูอี้ไห่ การฝึกหนักอาจทำให้ท่านได้รับอันตราย หากฝืนตนเองมากเกินไป สภาพจิตใจของท่านอาจพังทลายลง วูอัน หากมีโอกาส เจ้าต้องพูดคุยกับท่านวูอี้ไห่”
วูอันคิดก่อนตอบ “ท่านได้พบกับเขามากกว่าข้า แล้วข้าจะทำสิ่งใดได้”
แต่เขายังพยักหน้า “หากข้ามีโอกาส ข้าจะคุยกับท่านวูอี้ไห่เกี่ยวกับเรื่องนี้”
ฟางหยวนวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับจากเทพธิดากระต่ายขาว
เขาเข้าใจสถานการณ์ของภาคใต้อย่างชัดเจนเพราะเหตุนี้
สรุปแล้วภาคใต้ค่อนข้างสงบ
แม้วูตู๋ซิ่วจะเสียชีวิตและตระกูลวูจะเหลือผู้อมตะระดับแปดเพียงหนึ่ง แต่วูหยงยังแสดงความแข็งแกร่งและทักษะทางการเมืองที่ยอดเยี่ยมหลังจากกลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูล
แม้ตระกูลปาและตระกูลอื่นๆจะเฝ้ามองอย่างใกล้ชิด พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำสิ่งใด
ค่ายกลวิญญาณยังเงียบสงบ ธุรกิจซื้อขายโอกาสดำเนินต่อไปและทำกำไรอย่างลับๆ ผู้คนที่มีส่วนร่วมรู้สึกมีความสุข นอกจากนั้นกลุ่มคนที่ไม่ได้เข้าร่วมก็สามารถเพียงเฝ้ามองอยู่ในระยะไกลเท่านั้น
‘งานประลองทุ่งโลหิตของภาคเหนือสิ้นสุดลงแล้ว นิกายชูกลายเป็นเผ่าชู เผ่าไป่ซูยังคงอยู่ ขณะที่กองกำลังตระกูลฮวงจินได้รับชัยชนะรวมถึงทรัพยากรมากมาย’
‘ด้วยวิธีนี้ภาคเหนือจึงเกิดเสถียรภาพเช่นกัน’
‘ทะเลตะวันออก ทะเลทรายตะวันตก และภาคกลางมีข้อมูลเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่ข้าได้รับข้อมูลเหล่านี้มาจากสวรรค์สีเหลือง แต่ตอนนี้พวกมันก็ค่อนข้างสงบ’
ในความเป็นจริงสถานการณ์ที่สงบสุขพบได้บ่อยที่สุด
หลังจากทั้งหมดผู้ใดจะต้องการต่อสู้เสี่ยงตายหากมีโอกาสที่จะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข?
สำหรับความสับสนวุ่นวายของภาคเหนือ มันมีต้นเหตุมาจากการพังทลายลงของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง
มีเพียงสงครามห้าภูมิภาคเท่านั้นที่จะทำให้โลกทั้งใบตกสู่ความโกลาหลอย่างแท้จริง
สถานการณ์ปัจจุบันยังสงบมาก
นี่เป็นเรื่องดีสำหรับฟางหยวน
เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันของตนเองและหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันต่อไป
ท่ามกลางภูเขาสีเขียว ขบวนสินค้าพักอยู่ที่นี่เป็นการชั่วคราว
“บึม!”
แสงจันทร์เสี้ยวเคลื่อนผ่านก้อนหินด้านหน้าและปะทะกับกิ่งไม้ด้านหลังอย่างแม่นยำ
กิ่งไม้ถูกตัดออกทันที
“หลังจากฝีกฝนมาหลายวันในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จ” ร่างกายของฟางหยวนปกคลุมไปด้วยเหงื่อแต่เขาแสดงออกอย่างมีความสุข
“เด็กน้อย ไม่เลว” ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาเดินเข้ามาหาฟางหยวน
“ลุงเครา ขอบคุณที่สอนสิ่งนี้!” ฟางหยวนยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเขาสดใสราวกับเด็กน้อย
ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาเกือบตาบอดด้วยแสงสว่างที่ส่องประกายออกมาจากดวงตาของฟางหยวน เขาถามด้วยความสับสน “คนทั่วไปต้องฝึกฝนอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้นก่อนจะประสบความสำเร็จ แต่เจ้าตื่นเช้าและนอนดึก เจ้าฝึกฝนอย่างหนัก เพียงไม่กี่วันเจ้าก็บรรลุถึงจุดนี้ น่าสนใจ”
ฟางหยวนกำหม้ดแน่นและมองขึ้นไปบนท้องฟ้า “แน่นอน ท่านลุง ท่านไม่คิดว่ามันน่าอัศจรรย์และน่าเหลือเชื่องั้นหรือ? มนุษย์สามารถโจมตีโดยการปล่อยคลื่นจากฝ่ามือ การบ่มเพาะเป็นเรื่องสนุกจริงๆ”