เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1237

ตอนที่ 1237

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1237 เทพธิดามังกร

แปลโดย iPAT

ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาไม่เข้าใจอารมณ์ของฟางหยวน

ในฐานะนักเดินทางต่างโลก ความสามารถพิเศษของผู้ใช้วิญญาณเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามาก การเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาเป็นยอดมนุษย์ แน่นอนว่าฟางหยวนย่อมรู้สึกตื่นเต้นและกระตือรือร้น

“นอกจากนี้พรสวรรค์ของข้ายังอยู่ในนภาที่สามเท่านั้น แล้วข้าจะไม่ทำงานหนักได้อย่างไร?” ฟางหยวนหัวเราะ

“ท่านลุงเชิญทำธุระของท่าน ข้าจะฝึกฝนต่อไป” ฟางหยวนกล่าวอีกครั้ง

ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาหัวเราะและส่ายศีรษะอย่างมีชั้นเชิง

เขามองฟางหยวนฝึกฝนอยู่ห่างๆและพึมพำ “แม้เจ้าจะทำงานหนัก พรสวรรค์ของเจ้าก็อยู่ในนภาที่สามเท่านั้น…ความจริงที่โหดร้ายจะทำร้ายเจ้าและดับไฟแห่งความกระตือรือร้นของเจ้า ความล้มเหลวจะหยุดความตื่นเต้นของเจ้า แล้วเจ้าจะทำงานหนักเช่นนี้ได้นานเท่าใด?”

อีกมุมหนึ่งของอาณาจักรแห่งความฝัน ฟางหยวนตัวจริงจับกิ่งไม้ที่ถูกตัดขาดโดยดาบแสงจันทร์

“ไม่เลว ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันชิ้นนี้ค่อนข้างดี หากข้าโชคดี ข้าสามารถใช้มันหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันได้มากกว่าสิบดวง”

เขาเผยรอยยิ้มบางขณะที่ดวงตาส่องประกายราวกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่มืดมิด

…..

ถ้ำสวรรค์ไป่เซียง

การหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรดำเนินมาถึงช่วงเวลาสุดท้ายที่สำคัญที่สุด

“อดทนไว้ ท่านไม่สามารถเสียสมาธิ นายน้อย ท่านทำได้ ท่านจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน!” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงตะโกน

ค่ายกลวิญญาณปล่อยเสาแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยมีร่างอันคลุมเครือของคนผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงกลาง

มันคือไป่หนิงปิง

ใบหน้าและร่างกายของเขาหลอมละลายราวกับเทียนที่ถูกความร้อน

เส้นผมของเขาไหม้ไปหมดแล้ว ดวงตาของเขาบอด กระทั่งมือและขายังถูกหลอมรวมเป็นหนึ่ง

ไป่หนิงปิงไม่เหมือนมนุษย์อีกต่อไป

เขาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่รุนแรงมาหลายสัปดาห์

แรกเริ่มเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่หลังจากนั้นเขาถูกบังคับให้รักษาชีวิตมาจนถึงเวลานี้

เขาทำได้เพียงกัดฟันและอดทนเท่านั้น

ต่อมาไม่ว่าจะเป็นฟันหรือลิ้นของเขาก็หลอมละลายภายใต้เปลวเพลิงที่บ้าคลั่ง

ตอนนี้เขากลายเป็นเสามนุษย์ที่ดูน่าสยดสยองมาก

แต่จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงยังสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นของไป่หนิงปิง

มันเป็นความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าและทำให้เขาสงบลง กระทั่งจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงก็ยังรู้สึกพูดไม่ออก

เดิมทีจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงไม่คิดว่าไป่หนิงปิงจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากสถานการณ์ของไป่หนิงปิงเลวร้ายเกินไป

การหลอมรวมวิญญาณทุกครั้งมีโอกาสล้มเหลวโดยเฉพาะการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ผู้หลอมรวมจำเป็นต้องเตรียมตัวและเตรียมใจรับความเสี่ยงนี้มาอย่างเพียงพอ

“ตูม!”

เสียงระเบิดดังขึ้น

เสาแสงเปลี่ยนเป็นมังกรเพลิงสีแดงบินขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนจะบินกลับลงมาและหลอมรวมกับร่างกายของไป่หนิงปิง

ก้อนเนื้อสีแดงระเบิดออกมาจากภายในและทำให้ไป่หนิงปิงกำเนิดใหม่!

“สำเร็จ! สำเร็จแล้ว!” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง

ภายใต้แสงสว่างไป่หนิงปิงเงยหน้าคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า

นางกล่าว “มังกรทะยานร่างขึ้นสู่ท้องฟ้า วันนี้ข้าสามารถทะยานขึ้นสู่อิสรภาพที่แท้จริง”

เสียงของนางก้องกังวาลราวกับมังกร

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงคุกเข่าลงบนพื้นและกล่าว “ขอแสดงความยินดีกับชีวิตใหม่ของนายท่าน ท่านกลายเป็นผู้อมตะที่แท้จริงแล้ว!”

ไป่หนิงปิงเดินออกมา ตอนนี้ผิวของนางไม่ได้ขาวราวหิมะอีกต่อไป นางแตกต่างจากก่อนหน้าเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามความงามของนางกลับเหนือกว่าตัวตนในอดีตของนางไปอีกมาก

ดวงตามังกรสีฟ้าของนางส่องประกายเย็นชาอย่างที่สุด

แต่ในเวลาต่อมาความตกใจก็ปรากฏในดวงตามังกรของนาง “หือ เกิดสิ่งใดขึ้น ข้ากลายเป็นผู้อมตะแล้ว ข้ามีมิติช่องว่างที่แท้จริง แต่เหตุใดข้าถึงกลายเป็นผู้หญิง?”

“นี่…” จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงครุ่นคิดก่อนอธิบาย “วิธีการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรใช้ร่างกายของผู้อมตะเป็นวัสดุในการหลอมรวม ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ร่างกายของนายท่านเคยมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ดูเหมือนมันจะส่งผลต่อร่างกายของนายท่านและทำให้นายท่านกลายเป็นมนุษย์มังกรเพศหญิง”

ไป่หนิงปิง “…”

นางตระหนักว่าร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งข้อมูลและข้อตกลงพันธมิตรทั้งหมดของนางหายไป แต่ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการร่างกายของนาง ดังคำกล่าวของจิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียง วิธีการหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกรไม่สามารถควบคุมขณะที่วัสดุในการหลอมรวมจะส่งอิทธิพลอย่างมากต่อผลลัพธ์

ไป่หนิงปิงขมวดคิ้ว

นี่เป็นเหมือนคำสาป

คำสาปร่างหญิงของนางเริ่มขึ้นตั้งแต่ภูเขาชิงเหมา

หลังจากครุ่นคิด ไป่หนิงปิงถาม “ข้าจะกลับเป็นผู้ชายได้อย่างไร?”

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงตอบ “นี่เป็นเรื่องง่ายมาก เพียงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง”

ไป่หนิงปิงส่ายศีรษะ “นั่นไม่สามารถแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ข้ามีสุดยอดกายาน้ำแข็งแห่งความมืด ข้าจะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งในอนาคต”

จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงครุ่นคิดก่อนกล่าว “นายท่าน ท่านกำเนิดใหม่แล้ว ร่างกายของผู้หญิงคือเพศสภาพที่แท้จริงของท่าน แต่หากท่านต้องการเปลี่ยน ท่านต้องตามหาวิญญาณกงล้อหยินหยางและเปลี่ยนมันให้เป็นวิญญาณอมตะกงล้อหยินหยางเพื่อทำให้ท่านเปลี่ยนเป็นผู้ชาย”

ไป่หนิงปิง “…”

ภาพของบางคนปรากฏขึ้นในใจของนางอย่างไม่สามารถควบคุม

“ฟางหยวน เจ้ายังเป็นอุปสรรคของข้าจนถึงตอนนี้ ฮืม!” ไป่หนิงปิงก่นเสียงเย็น

นางรู้ว่าฟางหยวนมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด หากนางต้องการวิญญาณกงล้อหยินหยางจากเขา นางต้องวางแผนการอย่างรอบคอบ

…..

ภาคกลาง นิกายคฤหาสน์วิญญาณ

บนท้องฟ้า กลุ่มผู้อมตะมารวมตัวกัน

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณกล่าว “ปู้เจิ้งซือ เจ้าต้องปกป้องผู้นำนิกายของเราในการเดินทางไปยังภาคเหนือครั้งนี้ นางเป็นเพียงผู้อมตะเทียมและพึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะได้ไม่นาน”

ปู้เจิ้งซือเป็นผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เขาเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดบนเส้นทางแห่งภูตผี เขากล่าวด้วยความมั่นใจ “ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ ข้ามั่นใจว่านางจะปลอดภัย”

ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งพยักหน้าและมองไปที่จ้าวเหลียนหยุน “เจ้าต้องคิดทุกอย่างให้รอบคอบ ในการเดินทางครั้งนี้ความปลอดภัยของเจ้าสำคัญที่สุด ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจากสิบนิกายโบาณดำเนินการทั้งหมด ด้วยความได้เปรียบของเราในฐานะผู้โจมตี มีโอกาสสูงที่พวกเราจะประสบความสำเร็จ”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

นางโค้งคำนับผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งและซูเฮากับหลี่จุนอิง “ข้าขอลาก่อน”

“อืม ออกเดินทางเถอะ” ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งโบกมือ

ปู้เจิ้งซือป้องหมัดขึ้นก่อนจะนำจ้าวเหลียนหยุนบินออกไป

“ผู้ใดจะคิดว่าจ้าวเหลียนหยุนจะกลายเป็นผู้นำนิกายของพวกเรา”

“สวรรค์กำลังเล่นตลกกับพวกเรา”

“ข้าสงสัยนักว่านางจะสามารถช่วยหม่าหงหยุนผู้นั้นได้หรือไม่?”

“ในความคิดของข้า มีโอกาสเป็นไปได้สูง หลังจากทั้งหมดนี่คือการรวมตัวของผู้เชี่ยวชาญจากสิบนิกายโบราณของภาคกลาง!”

ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณสนทนากัน

“ข้าจะไปคุยกับลูกสาวของเรา” เทพธิดาไป่ชิงกล่าวกับฟงจิวเก้อ

ฟงจิวเก้อพยักหน้า

ครั้งนี้เขาต้องการไปภาคเหนือด้วยแต่วังสวรรค์ไม่อนุญาต

ฟงจิวเก้อเป็นอัจฉริยะในตำนานที่ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนในรอบหลายพันปี เขามีความสามารถสูงมาก เขาสามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ด!

ตามตรรกะ เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะส่งไปภาคเหนือ แต่เขากลับไม่สามารถเข้าร่วมในภารกิจนี้

ฟงจิวเก้อไม่รู้ว่าวังสวรรค์กำลังคิดหรือวางแผนใดอยู่

เมื่อเทพธิดาไป่ชิงพบฟงจินฮวง ฝ่ายหลังกำลังนั่งอยู่ริมทะเลสาบและมองระลอกคลื่นบนผิวน้ำ

เทพธิดาไป่ชิงรู้สึกห่วงใยบุตรสาวเป็นอย่างมาก

นางรู้ว่าบุตรสาวของนางต้องการเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณมาตลอด นางทำงานหนักเพื่อมัน แต่ตอนนี้จ้าวเหลียนหยุนกลับได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก นอกจากนั้นนางยังได้รับการสนับสนุนจากวังสวรรค์และกลายเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณในที่สุด

นี่ทำให้ฟงจินฮวงถูกตัดออกจากการแข่งขัน

เทพธิดาไป่ชิงเดินเข้าไปหาฟงจินฮวง “เจ้ายังคิดถึงตำแหน่งผู้นำนิกายอยู่งั้นหรือ?”

“ไม่ ท่านแม่ ข้ากำลังคิดว่าเหตุใดข้าถึงไม่ได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรัก?” ดวงตาของฟงจินฮวงเป็นสีแดงจากการแอบร้องไห้ก่อนหน้านี้

“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่มีความรัก” เทพธิดาไป่ชิงนั่งลงด้านข้างฟงจินฮวงและยกมือขึ้นลูบศีรษะของบุตรสาว

ฟงจินฮวงถาม “เหตุใดข้าถึงไม่มีความรัก? ความรักคือสิ่งใด?”

เทพธิดาไป่ชิงคิดก่อนกล่าว “ความรักแตกต่างจากความรักในครอบครัวและมิตรภาพ มันเป็นความสัมพันธ์รูปแบบหนึ่งเหมือนความรักที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันระหว่างพ่อกับแม่ของเจ้า ไม่มีผู้ใดสามารถควบคุมหรือบังคับความรัก ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนสองคน”

ฟงจินฮวงส่ายศีรษะ “ข้าไม่ต้องการปล่อยให้โชคชะตานำพาไป นั่นไม่ใช่ข้า ข้าต้องการค้นหาความรักและได้รับการยอมรับจากวิญญาณแห่งความรักเพื่อยึดตำแหน่งผู้นำนิกายกลับมา ท่านแม่คิดว่านี่เป็นไปได้หรือไม่?”

เทพธิดาไป่ชิงยิ้ม นี่เป็นไปไม่ได้แต่เมื่อนางเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของบุตรสาว ในฐานะมารดา นางจะพูดความจริงออกมาได้อย่างไร

ดังนั้นนางจึงกล่าว “มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เจ้าต้องหาคนรักก่อนเป็นอันดับแรกและคนผู้นี้ต้องไม่ใช่พ่อแม่หรือสหายเพศหญิงของเจ้า”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท