เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1240

ตอนที่ 1240

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1240 ประโยชน์ของระดับความสำเร็จ

แปลโดย iPAT

ภาคใต้ ภายในค่ายกลวิญญาณ

ฟางหยวนนึกถึงพลังอำนาจของท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคและตระหนักถึงประโยชน์ของระดับความสำเร็จ

‘กระบวนการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคค่อนข้างน่าเบื่อแต่มันง่ายดายมาก’

‘ทุกอย่างลื่นไหลไปตามธรรมชาติเหมือนน้ำที่ไหลลงสู่ท่อระบายน้ำ’

ผู้อมตะทั่วไปต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในการพัมนาหรือแก้ไขท่าไม้ตายอมตะ ตัวอย่างเช่นอสูรสายฟ้าของนิกายท่าเรือหมื่นมังกร เขาใช้เวลาหลายปีก่อนจะสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเทพสายฟ้า

‘เทพสายฟ้าของอสูรสายฟ้าถูกพัฒนาขึ้นจากท่าไม้ตายอมตะเทพโลหิตที่ไม่สมบูรณ์ มันเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งสายฟ้าและเส้นทางแห่งเลือด อสูรสายฟ้ามีระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งสายฟ้าที่เพียงพอ แต่ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งเลือดของเขาอยู่ในระดับทั่วไป ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาและความพยายามหลายปีอย่างยากลำบาก’

‘มันคือผลของการขาดแคลนระดับความสำเร็จ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาช่วยได้มากในเรื่องนี้ ไห่ฟานเป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่ยอดเยี่ยม แต่ถึงกระนั้นเขาก็มีท่าไม้ตายอมตะจำนวนมากที่ยังไม่สมบูรณ์’

‘อย่างไรก็ตามเมื่อระดับความสำเร็จเพียงพอ การอนุมานก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป พวกเขาสามารถใช้สัญชาตญานและทำให้มันกลายเป็นเรื่องง่าย’

ฟางหยวนคิด

เขาใช้เวลาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคเพียงไม่กี่วัน

แต่ผลลัพธ์ของมันกลับน่าตกใจมาก

แรกเริ่มฟางหยวนไม่ได้คิดมาก เขามีเพียงแนวคิดที่คลุมเครืออยู่ในใจเท่านั้น

ต่อมาเขาเลือกวิญญาณต่างๆตามสัญชาตญาณ

สัญชาตญาณ?

นี่เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการ

แต่มันเป็นเรื่องจริง เมื่อความสำเร็จบรรลุถึงระดับที่เพียงพอ ความเข้าใจของคนผู้หนึ่งต่อวิญญาณบนเส้นทางสายนั้นรวมถึงแนวคิดของพวกเขาจะเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณ

สัญชาตญาณเหมือนพรสวรรค์ตามธรรมชาติที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด มันเป็นเรื่องง่ายและไม่ต้องพยายาม

เช่นเดียวกับการหายใจทางจมูกของมนุษย์

‘ระดับความสำเร็จคือความเข้าใจของผู้ยิ่งใหญ่’

‘การบรรลุระดับผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชคทำให้ข้าเกิดแรงบันดาลใจเกี่ยวกับเส้นทางแห่งโชค มันยากที่จะอธิบายเป็นคำพูด เมื่อข้าเพิ่มวิญญาณเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชค ข้าแทบไม่ต้องทดสอบแต่ข้าก็รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรและควรใช้วิญญาณดวงใดเพื่อสนับสนุนมัน’

‘ในทำนองเดียวกันความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าทำให้ข้าสามารถผสานวิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคได้อย่างง่ายดาย’ ฟางหยวนสรุปและตระหนักถึงประโยชน์ของระดับความสำเร็จ

‘หากข้าสามารถยกระดับความสำเร็จในทุกเส้นทาง ในอนาคตข้าจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะที่น่าสะพรึงกลัวโดยผสานเส้นทางทั้งหมดเข้าด้วยกันหรือไม่?’

ความคิดของฟางหยวนล่องลอยออกไป

‘ในความเป็นจริงเทพปีศาจจิตวิญญาณบรรลุถึงระดับดังกล่าวแล้ว บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาสามารถสร้างวิญญาณทารกอมตะ?’

การคิดค้นท่าไม้ตายอมตะเหมือนการสร้างเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะ

เมื่อนึกถึงเทพปีศาจจิตวิญญาณ ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะมองไปยังทิศใต้

ฟางหยวนสามารถยืนยันด้วยท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคและรู้ว่ากลุ่มของอิงอู๋เซี่ยอยู่ที่ใด

แม้ฟางหยวนจะเต็มไปด้วยเจตนาสังหารแต่เขาตัดสินใจที่จะเตรียมการบางอย่างก่อนเริ่มโจมตี

กระทั่งฟางหยวนจะฟักไข่อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดเรียบร้อยแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของมันยังอยู่ในระดับหกเท่านั้น

กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยเข้าใจว่าฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด แต่ในความเป็นจริงฟางหยวนไม่สามารถใช้พลังอำนาจดังกล่าวเพื่อสังหารพวกเขา

ในการต่อสู้ครั้งก่อนที่ทะเลตะวันออก ฟางหยวนยังได้เห็นความแข็งแกร่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ

ตอนนี้เวลาได้ผ่านไประยะหนึ่งแล้ว ฟางหยวนไม่สามารถประเมินความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นของพวกเขา

เพื่อความปลอดภัย ฟางหยวนต้องเตรียมตัวให้พร้อม

เขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่

ด้วยความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้น ฟางหยวนเริ่มพัฒนาท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบบรรพกาล

เขายังยืมวิญญาณอมตะบางดวงจากตระกูลวู

นี่เป็นประโยชน์ของการเข้าร่วมกับตระกูลวู

แตกต่างจากนิกายหลางหยาที่ต้องใช้แต้มผลงาน ตระกูลวูเป็นตระกูลของวูอี้ไห่ ขณะที่วูอี้ไห่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดที่ใกล้ชิดกับวูหยง

ดังนั้นเมื่อฟางหยวนออกปากขอยืมวิญญาณอมตะจากคลังสมบัติของตระกูลวู วูหยงจึงไม่ปฏิเสธ

อันที่จริงวูหยงค่อนข้างพอใจกับผลงานล่าสุดของฟางหยวน

ประการแรก หลังจากฟางหยวนมาที่ค่ายกลวิญญาณ เขาทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับวูหยงและไม่ได้แทรกแซงการเมืองภายใต้ตระกูลวู นั่นทำให้วูหยงสามารถควบคุมตระกูลวูได้อย่างง่ายดาย

ประการที่สอง ฟางหยวนสามารถจัดการธุรกิจซื้อขายโอกาสได้อย่างสมบูรณ์แบบ เขาแสดงความสามารถทางการเมืองออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและป้องกันไม่ให้ตระกูลปาเข้าแทรกแซง เขาช่วยตระกูลวูควบคุมสถานการณ์และปกป้องดินแดนของพวกเขาภายในอาณาจักรแห่งความฝัน

นี่เป็นผลงานของฟางหยวน ดังนั้นวูหยงจึงอนุญาตให้ฟางหยวนยืมวิญญาณอมตะและกระทั่งลดค่าใช้จ่ายลงอีกด้วย

ฟางหยวนจ่ายทรัพยากรของทะเลตะวันออกจำนวนมากเพื่อยืมวิญญาณอมตะหลายดวง ตัวอย่างเช่นวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของมังกรบนเส้นทางความแข็งแกร่ง และวิญญาณอมตะเกล็ดมังกรบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง วิญญาณอมตะเหล่านี้ถูกเพิ่มเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนและท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นมังกรดาบ สิ่งนี้ถือเป็นตัวช่วยชั้นยอดสำหรับฟางหยวน

…..

ถ้ำสวรรค์ไป่เซียง

ในค่ายกลวิญญาณ ไห่ลั่วหลัน ซื่อหนิว ไท่เป่ยหยุนเฉิง และอิงอู๋เซี่ยกำลังต่อต้านไป่หนิงปิง

พายุน้ำแข็งหมุนวนอยู่รอบๆผู้อมตะทั้งสี่

ด้วยความร่วมมือของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ แม้พวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก แต่พวกเขายังตั้งมั่นอยู่ได้

ทันใดนั้นร่างหนึ่งพลันปรากฎขึ้นด้านหน้าไท่เป่ยหยุนเฉิง

มันคือไป่หนิงปิง แต่มันมีเพียงร่างกายส่วนบนเท่านั้น สำหรับร่างกายส่วนล่างของนาง มันเหมือนกลุ่มหมอกควัน

ไป่หนิงปิงพุ่งเข้าโจมตีไท่เป่ยหยุนเฉิง

ไท่เป่ยหยุนเฉิงอ่อนแอที่สุดในกลุ่ม ดังนั้นไป่หนิงปิงจึงเลือกที่จะโจมตีเขาเป็นคนแรก

ไท่เป่ยหยุนเฉิงเร่งล่าถอย

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้เขาได้เห็นพลังอำนาจของไป่หนิงปิงมาแล้ว หากไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่ได้รับการปกป้องจากคนอื่นๆ เขาต้องตายอย่างแน่นอน

“ซื่อหนิว ไป!” เมื่อเห็นสถานการณ์ของไท่เป่ยหยุนเฉิง อิงอู๋เซี่ยเร่งออกคำสั่ง

แสงสีขาวส่องประกายขึ้นขณะที่ซื่อหนิวกับไท่เป่ยหยุนเฉิงสลับตำแหน่งกันอย่างกะทันหัน

ซื่อหนิวรับการโจมตีของไป่หนิงปิงโดยตรง

ไท่เป่ยหยุนเฉิงที่ย้ายไปอยู่ด้านหลังรีบใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเมฆารักษาอาการบาดเจ็บของซื่อหนิว

‘ไป่หนิงปิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ นางคุ้นเคยกับวิธีการของไป่เซียง นางเชี่ยวชาญในการควบคุมเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง หากสถานการณ์นี้ยังดำเนินต่อไป มันจะเลวร้ายมาก!’

‘บัดซบ!’

‘จิตวิญญาณสวรรค์ไป่เซียงมีวิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร ไม่ใช่ว่าวิธีนี้ถูกกวาดล้างไปแล้วโดยราชันมังกรงั้นหรือ? เขาพลาดสิ่งนี้ไปได้อย่างไร?’

‘นอกจากนี้ระหว่างการต่อสู้ก่อนหน้า ข้ายังรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของโชค ดูเหมือนฟางหยวนจะตรวจสอบพวกเราอีกครั้ง แม้ข้าจะซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่าง เขาก็ยังค้นพบข้างั้นหรือ?’

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล

ไป่หนิงปิงหักหลังพวกเขาและแข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องตนเองเนื่องจากพวกเขาไม่สามารถหลบหนี

อีกด้านหนึ่งฟางหยวนรู้แล้วว่าพวกเขาอยู่ที่ใด

ในทางตรงข้ามอิงอู๋เซี่ยยังคิดว่าฟางหยวนมีพลังการต่อสู้ระดับแปด หากเขามาที่นี่ กระทั่งถ้ำสวรรค์ไป่เซียงก็ไม่สามารถกีดขวางอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด

นั่นหมายความว่าฟางหยวนสามารถปรากฏตัวขึ้นได้ทุกเมื่อ อิงอู๋เซี่ยจะไม่แปลกใจหากฟางหยวนปรากฏตัวขึ้นในลมหายใจต่อไป

“ไป่หนิงปิง หยุดการต่อสู้ พวกเราสามารถร่วมงานเพื่อผลประโยชน์!”

“เมื่อเจ้ากลายเป็นมนุษย์มังกร เจ้าย่อมมีคุณสมบัติที่จะรับสืบทอดคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกร ตอนนี้เผ่ามนุษย์มังกรสูญพันธุ์ไปแล้ว คฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรถูกซ่อนไว้อย่างลับๆในทะเลตะวันออก นิกายเงาของข้ารู้ตำแหน่งคร่าวๆของมัน แต่มีเพียงมนุษย์มังกรเท่านั้นที่สามารถรับสืบทอดมันได้!”

“หากเจ้าร่วมงานกันเรา วังมังกรจะเป็นของเจ้า!”

อิงอู๋เซี่ยตะโกน

ไป่หนิงปิงไม่ตอบสนอง ค่ายกลวิญญาณยังโจมตีอย่างไม่หยุดยั้ง

อิงอู๋เซี่ยหยุดก่อนกรีดร้องอีกครั้ง “ไป่หนิงปิง มันจะสายเกินไปหากเจ้าไม่หยุด ศัตรูตัวฉกาจของเราทั้งคู่กำลังจะมา เขามีพลังการต่อสู้ระดับแปด อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด เขาใช้วิธีตรวจสอบและค้นพบตำแหน่งของพวกเราแล้ว!”

“ข้าไม่ได้โกหกเจ้า โชคของเราสั่นสะเทือนขึ้นก่อนหน้านี้ เจ้าต้องรับรู้ได้เช่นกันถูกต้องหรือไม่?”

ไป่หนิงปิงส่งเสียงออกมา “ข้าอยากให้เขามาที่นี่ ข้าอยากร่วมมือกับเขา แม้ข้าจะต้องทิ้งถ้ำสวรรค์ไป่เซียงก็ตาม”

อิงอู๋เซี่ยตะโกนด้วยความกังวล “เจ้ายังไม่รู้จักเขาอีกงั้นหรือ? เจ้ากำลังเล่นกับไฟ เจ้าจะถูกเผาจนกลายเป็นกองเถ้าถ่าน เดี๋ยว! เหตุใดเจ้าถึงต้องการร่วมมือกับเขา?”

ไป่หนิงปิงหัวเราะ “นี่เป็นเรื่องของข้า ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับเจ้า พวกเจ้าทั้งสี่ควรตายไปซะ!”

อิงอู๋เซี่ยเกิดแรงบันดาลใจ “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการวิญญาณกงล้อหยินหยางที่อยู่ในมือของเขาถูกต้องหรือไม่? เจ้าใช้วิธีหลอมรวมวิญญาณมนุษย์เปลี่ยนเป็นมังกร แต่เจ้ากลับเปลี่ยนเป็นเทพธิดามังกร เจ้าต้องการกลับเป็นผู้ชาย แต่ข้ามีวิญญาณที่เจ้าต้องการ! มันอยู่กับข้า!”

“กระไรนะ!?” ไป่หนิงปิงรู้สึกประหลาดใจมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่การโจมตีของค่ายกลวิญญาณชะลอตัวลง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท