เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1239

ตอนที่ 1239

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1239 เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

แปลโดย iPAT

สัมผัสแห่งโชค

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่สามารถค้นหาบุคคลที่มีความเชื่อมโยงของโชค

ยิ่งอยู่ใกล้กันมากเท่าใด ความรู้สึกเชื่อมต่อก็ยิ่งชัดเจนมากเท่านั้น

ฟางหยวนสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้ค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของอิงอู๋เซี่ยแม้พวกเขาจะอยู่ต่างภูมิภาคเนื่องจากอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆมีโชคที่เชื่อมต่อกับฟางหยวน

อย่างไรก็ตามอิงอู๋เซี่ยสามารถต่อต้านท่าไม้ตายนี้ด้วยการซ่อนตัวอยู่ในมิติช่องว่างของผู้อื่น

กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ฟางหยวนต้องระวังพวกเขาเป็นพิเศษ

‘หลังจากนี้หากข้าพบตำแหน่งของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆ ข้าจะกำจัดพวกเขาอย่างรวดเร็วที่สุดและไม่ปล่อยให้ภัยคุกคามนี้เติบโตขึ้นได้อีก!’

ฟางหยวนตัดสินใจที่จะเพิ่มวิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเข้าไปในท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชค

‘วิญญาณอมตะคลี่คลายปริศนาเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา อืม…ข้าควรเพิ่มวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปัญญาบางดวงเข้าไปด้วย’

ฟางหยวนอนุมานและตัดสินใจตามสัญชาตญาณ

วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกเพิ่มเข้าไป

ฟางหยวนมีวิญญาณส่วนหนึ่งอยู่แล้วขณะที่เขาต้องซื้อวิญญาณบางส่วนจากสวรรค์สีเหลือง

โดยปราศจากอุปสรรค์ ในไม่ช้าเขาก็ได้รับวิญญาณทั้งหมดที่ต้องการ

แต่เขาไม่ได้กระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายใหม่ทันที เขาต้องทดสอบเป็นอันดับแรก

เขารู้สึกว่าท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคเปลี่ยนไปมาก หากเขาบุ่มบ่ามใช้งานมัน เขาอาจล้มเหลวและได้รับบาดเจ็บ บางทีวิญญาณจำนวนมากอาจถูกทำลาย วิญญาณระดับมนุษย์อาจไม่เป็นไร แต่หากมันเป็นวิญญาณอมตะ แล้วเขาจะทำอย่างไร?

การทดลองท่าไม้ตายมีความเสี่ยงเช่นกัน

ฟางหยวนแยกขั้นตอนออกเป็นหลายส่วนและทดลองทีละส่วน

ผลการทดลองเป็นไปได้ด้วยดี

ไม่มีการล้มเหลวแม้แต่ครั้งเดียว

ครึ่งวันต่อมาในที่สุดฟางหยวนก็พัฒนาท่าไม้ตายสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงใหม่ได้สำเร็จ

แต่เมื่อเขากระตุ้นใช้งานมันได้ครึ่งทาง เขาพบปัญหาเล็กๆ

มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่ฟางหยวนระวังตัวมากและหยุดใช้งานมันทันที

วิญญาณระดับมนุษย์หลายดวงถูกทำลายในกระบวนการนี้

วิญญาณอมตะสองดวงที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายยังปกติดีทั้งคู่ สำหรับวิญญาณระดับมนุษย์ พวกมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน หลังจากทั้งหมดตอนนี้เขาร่ำรวยมาก

เขาอนุมานและสรุปหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดนี้

คราวนี้ฟางหยวนใช้เวลาครึ่งวันเพื่อแก้ไขก่อนจะเริ่มทดลองอีกครั้ง

มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในครึ่งหลังของการกระตุ้นใช้งาน

แม้มันจะเกิดประกายไฟขึ้นเล็กน้อยและไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ฟางหยวนยังต้องตรวจสอบและหยุดใช้ท่าไม้ตายนี้ทันที

เขายังลองผิดลองถูกต่อไป

หลายวันต่อมาในที่สุดฟางหยวนก็ได้รับท่าไม้ตายอมตะสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงล่าสุดที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ

เขาประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้งานสัมผัสแห่งโชคฉบับปรับปรุงใหม่ในที่สุด!

ความรู้สึกลึกลับปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน

แรกเริ่มเขาตรวจสอบเย่ฟาน หงอี้ และฮันหลี่ ทั้งสามอยู่ในภาคใต้ ภาคกลาง และทะเลทรายตะวันตกตามลำดับ ฟางหยวนเห็นรายละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะเย่ฟาน ฟางหยวนสามารถบอกได้ว่าเขาอยู่บนภูเขาเฉิงเหลียง

ส่วนคนที่เหลือ มันค่อนข้างคลุมเครือ

อิงอู๋เซี่ยและไห่ลั่วหลันระวังตัวมาก ฟางหยวนยังไม่รู้ตำแหน่งที่แน่ชัดของพวเขา แต่ฟางหยวนยังสามารถบอกได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ภาคใต้

‘แปลก นอกจากอิงอู๋เซี่ยและไห่ลั่วหลัน ยังมีบุคคลที่สาม แต่มันยังไม่แน่ชัด อย่าบอกว่าอิงอู๋เซี่ยใช้วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคเพื่อเชื่อมต่อโชคกับผู้อมตะคนอื่น?’

ฟางหยวนเดาได้ทันที

เขาขมวดคิ้ว

วิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคอยู่ในมือของอิงอู๋เซี่ย นี่ไม่ใช่ความลับ

ปัจจุบันฟางหยวนไม่สามารถใช้งานวิญญาณกาลเวลาได้อีกต่อไป แต่ด้วยการคงอยู่ของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข มันเปลี่ยนจุดอ่อนของเขาให้เป็นจุดแข็ง

แต่อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆกำลังใช้ประโยชน์จากฟางหยวน

เทพอมตะตะวันเดือดประสบความสำเร็จในช่วงแรกของชีวิตเนื่องจากวิญญาณอมตะโชคอึสุนัข แต่ฟางหยวนกลับไม่ได้เพลิดเพลินกับมันเพียงลำพัง เขาต้องแบ่งปันโชคดีให้กับคนอื่นๆ

แม้จะรวมคนโชคดีเช่นเย่ฟาน ฮันหลี่ หงอี้ และไห่ลั่วหลัน แต่สุดท้ายอิงอู๋เซี่ยกับคนใหม่ก็ยังเป็นภาระหนักสำหรับพวกเขาและมันจะทำให้พลังอำนาจของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขลดลง

‘ทางนี้…ฮ่าฮ่า ผู้ใดจะคิดว่าพวกเขาจะอยู่ที่ภาคใต้!’

‘อิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆต้องถูกกำจัด หลังจากสังหารพวกเขา ข้าจะปลอดภัยขึ้นและจะไม่มีผู้ใดพยายามยึดครองร่างทารกอมตะอีก’

‘ในเวลาเดียวกันหลังจากที่ข้าสังหารพวกเขาและกำจัดภัยคุกคาม โชคของข้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังอำนาจที่แท้จริงของวิญญาณอมตะโชคอึสุนัขจะปะทุขึ้น’

ในเวลานี้ฟางหยวนเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร เขาต้องการเคลื่อนไหวและกำจัดกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยทันที

…..

ภาคกลาง

“ถึงเวลาแล้ว ไปได้!” ผู้อมตะระดับแปดเว่ยหลิงหยางตะโกน

เสียงของเขาแหบแห้ง เขาเป็นชายวัยกลางคนที่มีถุงใต้ตาคล้ำและทำให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกเหนื่อยล้าตามไปด้วย

แต่เขาเป็นผู้นำและเป็นหนึ่งในสามผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งที่สุดในคณะเดินทางนี้

นอกจากเขายังมีไป่เฉินเทียนและนักรบหมื่นมังกร

คนทั้งสองเป็นผู้อมตะระดับแปดเช่นกัน

ไป่เฉินเทียนเป็นผู้รอดชีวิตจากการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน

สำหรับนักรบหมื่นมังกร เขาอาวุโสกว่าไป่เฉินเทียน เมื่อไม่นานมานี้เขายังได้รับคำแนะนำจากราชันมังกร นั่นทำให้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งสูงขึ้นอีกมาก

ราชันมังกรอายุมากแล้วและเป็นเรื่องยากที่เขาจะเข้าสู่การต่อสู้ด้วยตนเอง แต่เขาเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์และเปลี่ยนแปลงการทำงานของวังสวรรค์

คนทั้งสามเป็นผู้อมตะระดับแปดจากวังสวรรค์ที่เหนือกว่าผู้อมตะระดับแปดของสิบนิกายโบราณ

หลังจากได้ยินคำสั่งของเว่ยหลิงหยาง ทุกคนแยกออกเป็นสามกลุ่มและเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง

คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังประกอบด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยวายุของนิกายเมฆาวายุ ศาลานกขมิ้นของนิกายบัวสวรรค์ และค่ายนักรบของนิกายเทพยุทธ์อมตะ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อมตะระดับแปด

จ้าวเหลียนหยุนอยู่ในหอคอยวายุ

นางอยู่บนชั้นสูงสุดซึ่งเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดของคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้

“คณะเดินทางของเราแข็งแกร่งมาก เรามีผู้อมตะระดับแปดถึงสามคนและคฤหาสน์วิญญาณอมตะอีกสามหลัง! โดยพื้นฐานแล้วพวกเราสามารถมั่นใจในชัยชนะ” ปู้เฉิงซือเดินเข้ามาด้านหลังจ้าวเหลียนหยุนและกล่าว

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์แต่หัวใจของนางกลับเต้นแรง นางคิด ‘หงหยุน ข้ามาแล้ว! อดทนไว้!’

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามเหมือนดวงดาวที่บินผ่านท้องฟ้า

ค่ายนักรบอยู่ด้านหน้าเพื่อเปิดเส้นทาง หอคอยวายุอยู่ตรงกลาง ขณะที่ศาลานกขมิ้นติดตามอยู่ด้านหลัง

กำแพงพลังงานอยู่ด้านหน้าพวกเขาแล้ว

“ตูม!”

ค่ายนักรบปล่อยพลังทำลายล้างพุ่งเข้าโจมตีกำแพงพลังงานอย่างดุเดือดและสร้างอุโมงค์ขึ้นโดยปราศาจการต่อต้าน

หอคอยวายุและศาลานกขมิ้นบินตามไปอย่างรวดเร็ว

“ครืน…ครืน…ครืน…”

หอคอยวายุสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จ้าวเหลียนหยุนเกือบล้มลงบนพื้น

ปู้เฉิงซือรู้สึกพูดไม่ออก ‘กล่าวกันว่ากำแพงสวรรค์หนากว่ากำแพงภูมิภาคทั้งห้า ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องจริง แม้หอคอยวายุจะเคลื่อนที่ผ่านอุโมงค์มิติแต่ลมปราณสวรรค์ยังทำให้คฤหาสน์วิญญาณอมตะหอคอยวายุสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง มันเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าค่ายนักรบจะเป็นเช่นไร!’

กำแพงสวรรค์ถูกสร้างขึ้นโดยปราณสวรรค์ กระทั่งพวกเขาจะสร้างอุโมงค์มิติ ปราณสวรรค์ก็ยังสามารถเติมเต็มช่องว่างอย่างรวดเร็ว

ดังนั้นคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังจึงเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

หลังจากเดินทางไปได้ระยะหนึ่ง ค่ายนักรบสูญเสียวิญญาณไปแล้วหลายดวง พลังงานของมันลดลง ดังนั้นมันจึงเคลื่อนที่ไปอยู่ท้ายขบวน

หอคอยวายุเข้าแทนที่เพื่อเปิดเส้นทาง เมื่อเวลาผ่านไปศาลานกขมิ้นก็รับช่วงต่อ

ด้วยวิธีนี้หลังจากไม่กี่วันคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังก็สามารถทะลวงผ่านกำแพงสวรรค์เพื่อเข้าสู่สวรรค์สีดำ

เหตุใดพวกเขาไม่เลือกสวรรค์สีขาว?

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน

สวรรค์สีดำสามารถเก็บซ่อนร่องรอยของคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามได้ในระดับหนึ่ง

ด้วยวิธีนี้ผู้อมตะภาคกลางจึงเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถลอบโจมตีเป้าหมาย

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท