เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1265 ม้าปีศาจฝันร้าย
แปลโดย iPAT
หลังจากฟางหยวนกำจัดฝูงปลาหมึกยักษ์ ฝูงวานรก็ปรากฏขึ้น
ต่อจากฝูงวานรยังมีฝูงอสรพิษเพลิง
‘ฝูงสัตว์อสูรเหล่านี้เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังพันธมิตรผีดิบมาก่อน ตัวอย่างเช่นฝูงปลาหมึกยักษ์เป็นสัตว์อสูรของนักรบมังกรเย่ชา’
‘เมืองคลื่นทมิฬยังอยู่รอดมาถึงตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่สัตว์อสูรเหล่านี้จะยังอยู่ นอกจากนั้นพิจารณาถึงท่าไม้ตายอมตะของไห่ลั่วหลัน อาจมีวิญญาณอมตะอยู่เช่นกัน’
‘หากเป็นเช่นนั้นข้าต้องประเมินพลังการต่อสู้ของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำความเข้าใจท่าไม้ตายอมตะได้ในเวลาสั้นๆ และยังมีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งของพลังงานแห่งเต๋า’
ฟางหยวนวิเคราะห์สถานการณ์ขณะต่อสู้
เป็นเพียงเวลานี้ที่ฝูงม้าที่มีเขาเหมือนแกะหนึ่งคู่อยู่บนศีรษะปรากฏตัวขึ้น
‘หือ? ม้าปีศาจฝันร้าย สัตว์อสูรเดียวดายบนเส้นทางแห่งความฝัน!’
ฟางหยวนตะลึง
‘ดูเหมือนม้าปีศาจฝันร้ายจะปรากฏตัวขึ้นตั้งแต่ยุคนี้…’
‘ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีมากมาย!’
ฟางหยวนมีความสุข
ม้าปีศาจฝันร้ายเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งความฝัน พวกมันหายากมากกระทั่งในชีวิตแรกของฟางหยวน
ยุคสมัยเปลี่ยน มนุษย์เปลี่ยน โลกก็เปลี่ยน
วัสดุในการหลอมรวมวิญญาณมากมายสูญหายไปตามกาลเวลา เส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งพลังปราณตกต่ำลง ในทำนองเดียวกันทรัพยากรชนิดใหม่ก็ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เส้นทางแห่งความฝัน!
เส้นทางสายนี้พึ่งเริ่มต้น ตอนนี้กองกำลังใหญ่ทั้งหมดกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับมัน แม้พวกเขาจะได้รับกำไรบ้าง แต่พวกมันก็ยังเป็นส่วนเล็กๆเท่านั้น
หลังจากผ่านไปไม่กี่ร้อยปี ทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝันจะเริ่มปรากฏขึ้น ม้าปีศาจฝันร้ายเป็นหนึ่งในนั้น
ฟางหยวนเคยคิดว่าม้าปีศาจฝันร้ายยังไม่ถือกำเนิดขึ้นในยุคนี้ แต่การปรากฏตัวของพวกมันทำให้ฟางหยวนตระหนักว่าเขาคิดผิด
‘ดีที่ข้าคิดผิด! ข้าต้องจับม้าปีศาจฝันร้ายมาให้ได้!’ ฟางหยวนมีความสุขมาก
สัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งความฝันหมายถึงสิ่งใด?
มันหมายถึงวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณบนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนมาก!
เหตุใดฟางหยวนจึงต้องเข้าไปในอาณาจักรแห่งความฝันของตนเอง?
เพราะเขาต้องการรวบรวมทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความฝัน!
หากฟางหยวนมีม้าปีศาจฝันร้าย เขาสามารถใช้เนื้อของพวกมันหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันจำนวนมากหรืออาจกระทั่งสามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน!
ฟางหยวนไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันได้มากนักในการสำรวจอาณาจักรแห่งความฝันที่ภาคใต้เพราะเหตุใด?
มันไม่ใช่เพราะเขามีวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความฝันไม่เพียงพองั้นหรือ?
‘ม้าปีศาจฝันร้ายเหล่านี้ต้องเป็นของข้า!’
ฟางหยวนเริ่มจับม้าปีศาจฝันร้าย
มังกรดาบบรรพกาลรวดเร็วมาก มันเคลื่อนที่ไปรอบๆฝูงม้าปีศาจฝันร้ายโดยปราศจากสิ่งกีดขวาง
ฟางหยวนพยายามทุบม้าปีศาจฝันร้ายให้หมดสติและโยนพวกมันเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
อย่างไรก็ตามนิกายเงาได้เตรียมแผนการบางอย่างเอาไว้เช่นกัน
ฟางหยวนพยายามอย่างหนักแต่เขากลับไม่สามารถจับม้าปีศาจฝันร้ายอย่างมีชีวิต อย่างมากที่สุดเขาก็สามารถสังหารพวกมันและเก็บศพเท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นฟางหยวนก็เก็บเกี่ยวได้มากมาย
หลังจากกำจัดฝูงม้าปีศาจฝันร้าย ฟางหยวนยังกวาดล้างฝูงสัตว์อสูรอีกสามฝูง ท่ามกลางพวกมันมีสัตว์อสูรบรรพกาลรวมอยู่ด้วย
แต่พวกมันไม่ใช่ภัยคุกคามของฟางหยวนอีกต่อไป
หลังจากไม่นานฟางหยวนก็สามารถกวาดล้างฝูงสัตว์อสูรทั้งหมดของเมืองคลื่นทมิฬ เขายังทำลายค่ายกลวิญญาณที่ปกป้องเมืองคลื่นทมิฬเอาไว้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทั้งหมดทำให้เขาใช้เวลาไปค่อนข้างมากและทำให้กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยมีเวลาหลบหนี
ผมที่หกถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อหยุดฟางหยวนเช่นเดียวกับซื่อหนิว
การบ่มเพาะของผมที่หกไม่สามารถเปรียบเทียบกับซื่อหนิวแต่เขามีข้อได้เปรียบมากกว่า
เขามองฟางหยวนอย่างไม่เกรงกลัว “เจ้ากล้าฆ่าข้าหรือไม่?”
“มีประโยชน์ใดในการฆ่าเจ้า เมื่อข้ากำจัดอิงอู๋เซี่ย ข้าจะปล่อยให้เจ้าตกอยู่ในความสิ้นหวังและความทุกข์ทรมาน” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะที่ร่างมังกรดาบบรรพกาลของเขาบินออกจากโลกใต้บาดาล
ผมที่หกถูกทิ้งไว้กับเมืองคลื่นทมิฬที่ถูกทำลาย
ภาคเหนือกว้างใหญ่มาก แม้จะมีค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศ แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะก็อยู่ไกลมาก
กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยไม่สามารถใช้ค่ายกลวิญญาณท่องรอบทิศได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นฟางหยวนจึงตามพวกเขาทันอีกครั้ง
“คราวนี้มาดูกันว่าผู้ใดจะมาช่วยพวกเจ้า!” มังกรดาบบรรพกาลพุ่งเข้าไป
นำวิญญาณสู่ความฝัน!
อิงอู๋เซี่ยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขา
ฟางหยวนถูกโจมตีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามอาณาจักรแห่งความฝันครั้งนี้ค่อนข้างยาก เขาต้องใช้เวลาสักพักก่อนจะสามารถกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง
“เกิดสิ่งใดขึ้น?” ฟางหยวนสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ
อิงอู๋เซี่ยหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าสละม้าปีศาจฝันร้ายทั้งหมด เจ้าคิดว่าทรัพยากรอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันเป็นเรื่องง่ายดายงั้นหรือ? ให้ข้าแนะนำเจ้า อย่าติดตามพวกเรา มิฉะนั้นแม้เจ้าจะมีอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด เจ้าก็ยังต้องตาย”
“ฮืม เจ้าเล่ห์นัก!” ฟางหยวนพ่นลมหายใจออกมา
ไม่ว่าอิงอู๋เซี่ยจะมีเจตนาใด ไม่ว่ามันจะเป็นการข่มขู่หรือเรื่องจริง ฟางหยวนก็ตัดสินใจหยุดไล่ล่าพวกเขาในเวลานี้
อาณาจักรแห่งความฝันรบกวนเขาตลอดเวลา เขาต้องคลี่คลายความฝันทั้งหมด ด้วยวิธีนี้เขาจึงจะได้รับอิสระและปราศจากความกังวล
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าท่าไม้ตายอมตะนำวิญญาณสู่ความฝันเป็นปัญหาที่ยุ่งยาก แม้ฟางหยวนจะมีท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน แต่เขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยความพยายามเพียงครั้งเดียวและต้องผ่านอาณาจักรแห่งความฝันซ้ำๆ
ภายในอาณาจักรแห่งความฝัน
ภาคใต้ รุ่งเช้า
น้ำค้างและชั้นหมอกหนาทึบทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกหดหู่ใจ
ขบวนสินค้าหยุดเดินทาง หมอกหนาทึบบนภูเขาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
ฟางหยวนนั่งอยู่ข้างเตียงที่เรียบง่าย
ผู้ใช้วิญญาณเคราหนานอนอยู่บนเตียงในสภาพใกล้ตาย
“ฟางหยวน ขอบใจเจ้ามากสำหรับสมุนไพร” ผู้ใช้วิญญาณเคราหนากล่าวด้วยเสียงที่อ่อนแรง
ฟางหยวนสะอื้น “ลุงเครา ท่านจะดีขึ้น”
ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาส่ายศีรษะ “ข้าจะไม่รู้อาการบาดเจ็บของตนเองได้อย่างไร? เด็กน้อย อย่าร้องไห้ การร้องไห้ไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเรา”
“ข้าเคยเป็นเด็กเหมือนเจ้าและมีความฝันอันยิ่งใหญ่”
“น่าเสียดายที่พรสวรรค์ของข้าแย่มาก ในที่สุดข้าก็จมอยู่ในจุดนี้”
“ฮ่าฮ่า โลกใบนี้ใหญ่โตเกินไป ขณะที่พวกเราเล็กเกินไป”
“เมื่อข้ายังเด็ก ข้าอยากเป็นวีรบุรุษเหมือนตัวตนในตำนานของฝ่ายธรรมะ เมื่อข้ายังเด็ก ข้าอยากเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เมื่อข้าโตเป็นผู้ใหญ่ ข้าพอใจกับการเป็นผู้อาวุโสของตระกูล เมื่อข้ากลายเป็นชายวัยกลางคน ข้าถูกเนรเทศออกจากตระกูล ข้ารู้สึกว่าตนเองสามารถอยู่ได้ด้วยตัวข้าเอง ข้าพอใจกับการเลี้ยงดูวิญญาณและตัวข้าเอง”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าต้องการสิ่งใด?”
ฟางหยวนกล่าวเบาๆ “มันคือสิ่งใด?”
“ข้าเพียงต้องการนอนอยู่ในห้องที่เงียบสงบและค่อยๆนึกถึงอดีตจนกว่าความตายจะมาเยือน” ผู้ใช้วิญญาณเคราหนาแสดงท่าทีเย้ยหยันตนเอง
“ข้าควรออกไปหรือไม่?” ฟางหยวนไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
“ออกไปเถอะ ปล่อยข้าไว้คนเดียว ข้าไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็นข้าตาย” ผู้ใช้วิญญาณเคราหนากล่าว
ฟางหยวนยืนขึ้นอย่างช้าๆและลังเลที่จะเดินออกจากประตู
ผู้ใช้วิญญาณเคราหนากล่าวอีกครั้ง “เจ้าเคยอ่านตำนานมนุษย์คนแรกบทที่เล่าเรื่องของมนุษย์จิ๋วที่เดินออกมาจากเหวธรรมดาหรือไม่?”
“พวกเราต่างเป็นมนุษย์จิ๋วและพวกเราต่างต้องการเดินออกจากเหวธรรมดา”
“ฟางหยวน เจ้าต้องเดินหน้าต่อไป”
“มีชีวิตอยู่ต่อไป สู้ต่อไป”
“น่าเสียดายที่วิญญาณทั้งหมดของข้าถูกทำลายไปในการต่อสู้ นี่เป็นคำแนะนำและเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่ข้าสามารถมอบให้เจ้า สำหรับพวกเราตัวตนที่เล็กจิ๋ว การร้องไห้ไม่มีประโยชน์ ไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงตะโกนของพวกเรา พวกเราทำได้เพียงอดทนและดูแลตนเองเท่านั้น”
“จงพากเพียรจนกว่าเจ้าจะบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และกลายเป็นคนที่ไม่ธรรมดา มิฉะนั้นก็จงยอมรับความตาย”