เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1284

ตอนที่ 1284

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1284 ความตายของหม่าหงหยุน

แปลโดย iPAT

นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าขันมาก

ทั้งสามฝ่ายยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับฟางหยวน

หากฟางหยวนประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งนี้ ไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมกับฝ่ายใด เขาก็จะได้รับผลประโยชน์มหาศาล

อย่างไรก็ตามฟางหยวนกลับไม่ตอบสนอง

เขาไม่เหลือพลังงานมากพอที่จะพูดไร้สาระ

เขายืนขึ้นและเดินไปข้างหน้า

เขารู้ว่าการพูดคุยไร้ประโยชน์ มีเพียงการจับตัวหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนเท่านั้นที่จะทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะสร้างเงื่อนไขและเจรจากับทั้งสามกองกำลัง

ระยะทางลดลงเรื่อยๆ

ผู้คนนอกแม่น้ำหวนคืนเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของฟางหยวนและพยายามยื่นข้อเสนอ

แต่มีบางอย่างที่ค่อนข้างแปลก

ไม่มีผู้ใดข่มขู่ฟางหยวน

เพราะทุกคนรู้จักตัวตนของหลิวกวนซื่อที่สามารถสังหารเย่หลิวชุนซิง เขามีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่นและกล้ารุกรานเผ่าหลิว เขาเป็นคนดุร้ายและไร้กฎเกณฑ์ การข่มขู่บุคคลเช่นนี้จะเกิดผลในแง่ลบเท่านั้น

‘ข้าต้องรอด ข้าอยากอยู่กับหงหยุน!’ จ้าวเหลียนหยุนสะอื้นและกรีดร้องอยู่ในใจ ทุกย่างก้าวยากลำบากมากสำหรับนาง

“ข้าอยู่ที่นี่ คุณหนูเสี่ยวหยุนอย่ากังวล ข้าจะปกป้องท่าน…” หม่าหงหยุนกล่าวด้วยใบหน้าซีดขาว เขาจับแขนของจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้ ทุกย่างก้าวทำให้เขาวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรงและรู้สึกว่าตนเองสามารถล้มลงได้ทุกเมื่อ

“พวกเจ้าจะไปที่ใด?” เสียงของฟางหยวนดังมาจากด้านหลังหม่าหงหยุน

ร่างกายของหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนสั่นสะท้านขึ้น ทั้งสองหันหลังกลับเพียงเพื่อพบว่ามือของฟางหยวนวางอยู่บนไหล่ของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว

“ไม่!” หม่าหงหยุนตะโกนเสียงดังและผลักจ้าวเหลียนหยุนออกไป ขณะเดียวกันเขาก็พุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน

แต่ฟางหยวนจะปล่อยให้หม่าหงหยุนประสบความสำเร็จได้อย่างไร?

ก่อนหน้านี้เขาล้มเหลวในการกำจัดอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วง ตอนนี้ฟางหยวนกำลังโกรธมาก การจัดการหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์และผู้อมตะเทียม มันง่ายดายมาก

ทั้งสองถูกฟางหยวนกำหราบอย่างง่ายดาย พวกเขาถูกอุ้มไว้ในแขนแต่ละข้างของฟางหยวน

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนพยายามดิ้นรนแต่ในเวลานี้เสียงที่เย็นชาของฟางหยวนก็ดังขึ้นอีกครั้ง “หากคนใดขยับ ข้าจะฆ่าคนที่เจ้ารัก!”

หม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนมองฟางหยวนด้วยความหวาดกลัว

คำกล่าวของฟางหยวนพุ่งตรงไปยังจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา

ฟางหยวนสูดหายใจและอุ้มเชลยทั้งสองเดินไปข้างหน้า

ในสถานการณ์อันตราย ในที่สุดฟางหยวนก็พบวิธีเอาตัวรอด

เขามองออกไปนอกแม่น้ำและกล่าว “ตอนนี้เราสามารถเจรจา!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กน้อย เจ้าเก่งมาก เจ้าเหมือนข้าสมัยยังหนุ่ม เราสามารถพูดคุย!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูหัวเราะ

“อย่ารีบร้อน ภาคกลางสามารถตอบสนองความต้องการของเจ้าได้ทุกประการ” เว่ยหลิงหยางเร่งกล่าว

“น่าเบื่อ” เหมาหลี่ชิวนอนอยู่บนพื้นและกระดิกหางอย่างผ่อนคลาย

ผู้อมตะดำเผยรอยยิ้มขมขื่น “หลิวกวนซื่อ เพียงบอกเราว่าเจ้าต้องการสิ่งใด…หือ?”

เป็นเพียงเวลานี้ที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

หม่าหงหยุนหยุดหายใจอย่างกะทันหัน!

เขาตาย!

ทุกคนตะลึง!

กระทั่งฟางหยวนยังตกตะลึง!

เงียบกริบ!

‘ข้าไม่ได้ออกแรงแม้แต่น้อย โอ้ เดี๋ยว! หม่าหงหยุนเสียชีวิตจากความอ่อนเพลีย! เขาอุ้มจ้าวเหลียนหยุนขณะเดินทางในแม่น้ำ เขาออกแรงมากเกินไป ไม่เพียงเขาจะหมดแรง แต่เขายังสูญเสียพลังจิต หลังจากที่ข้าจับเขา ร่างกายของเขาก็ผ่อนคลายลง นั่นทำให้เขาตายทันที’

ฟางหยวนเข้าใจเหตุผลอย่างรวดเร็ว

การเปลี่ยนแปลงนี้กะทันหันเกินไปและไม่มีผู้ใดคาดคิด

หม่าหงหยุนตายแล้ว!

ทุกคนอ้าปากค้าง

“บัดซบ! หลิวกวนซื่อ เจ้าฆ่าเขาจริงๆ ข้าจะเลาะกระดูกดึงเส้นเอ็นของเจ้าออกมา! ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างน่าสยดสยอง!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูโกรธจัด เขากรีดร้องเสียงดังด้วยดวงตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด

หม่าหงหยุนเสียชีวิต เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์

มีเพียงหม่าหงหยุนที่มีชีวิตที่สามารถเป็นวัสดุในการหลอมรวม หม่าหงหยุนที่ตายแล้วเป็นเพียงศพของผู้ใช้วิญญาณระดับห้าที่ไร้ค่าเท่านั้น

“หม่าหงหยุน…” หัวใจของไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางจมดิ่งลง

“เจ้าหนอนน้อย เจ้าฆ่าหม่าหงหยุนจริงๆ เจ้าทำให้เขาตาย!” เหมาหลี่ชิวตะโกนเสียงดังยิ่งกว่าปีศาจอมตะเซี่ยหู เส้นขนทั้งร่างของมันพองตัวขึ้นด้วยความโกรธ ตอนนี้มันพร้อมที่จะกระโดดเข้ากัดฟางหยวนทั้งเป็น

‘หม่าหงหยุนเสียชีวิต! ไม่เป็นไร ข้ายังมีจ้าวเหลียนหยุน!’ ฟางหยวนตะลึง

ดวงตาของจ้าวเหลียนหยุนเต็มไปด้วยน้ำตา

‘หงหยุน!’

‘หงหยุน…’

คนที่นางรักตายต่อหน้านาง

มันเป็นความเจ็บปวดที่ยิ่งกว่าตัวนางเองถูกทำร้าย

แต่นางไม่สามารถกรีดร้อง นางไม่สามารถเปล่งเสียงใดๆออกมา

นางทำได้เพียงกรีดร้องอยู่ในใจ

นางใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อมาถึงจุดนี้ นางพึ่งพบกับหม่าหงหยุนอีกครั้งหลังจากถูกแยกกันมานาน

แล้วตอนนี้นางควรทำอย่างไร?

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของนางราวกับสายน้ำ ความเจ็บปวดฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของนาง ความโศกเศร้าอย่างที่สุดทำให้ร่างกายของนางสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

‘โอ้ ไม่’ ฟางหยวนเร่งเคลื่อนไหว

มันเป็นการป้องกันการเสียชีวิตทันทีจากความโศกเศร้าของจ้าวเหลียนหยุน

อย่างไรก็ตามขณะที่ฟางหยวนกำลังจะสับคอจ้าวเหลียนหยุนให้หมดสติ แสงสีฟ้ากลับพุ่งออกมาจากร่างของนาง

วิญญาณแห่งความรัก!

ในช่วงเวลาสำคัญมันแสดงพลังอำนาจออกมาอีกครั้ง

“กลิ่นอายนี้…วิญญาณแห่งความรักระดับเก้า! เดี๋ยว! วิญญาณไม่สามารถใช้ในแม่น้ำหวนคืนมิใช่หรือ?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรอุทาน

เหมาหลี่ชิวกลอกตา “เจ้าโง่ มีสิ่งใดที่สมบูรณ์แบบบนโลกใบนี้? แม่น้ำหวนคืนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของสวรรค์พิภพ มันเต็มไปด้วร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่สามารถผนึกวิญญาณ แต่วิญญาณอมตะระดับเก้าไม่ได้เป็นเพียงร่องรอยอันเปราะบางของพลังงานแห่งเต๋า มันเต็มไปด้วยพลังแห่งเต๋าที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นมันจึงสามารถใช้งานในแม่น้ำหวนคืน”

‘ช่วยเขา ช่วยเขา แม้ข้าต้องตายก็ตาม!’ จ้าวเหลียนหยุนดีใจมากและกรีดร้องอยู่ภายใน

แต่วิญญาณแห่งความรักไม่สามารถควบคุม แสงสีฟ้านำจ้าวเหลียนหยุนบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและหลบหนีออกจากแม่น้ำหวนคืน

เว่ยหลิงหยางกับไป่เฉินเทียนตอบสนองอย่างรวดเร็ว

สำหรับศพของหม่าหงหยุน มันยังอยู่กับฟางหยวน

แม้หม่าหงหยุนจะเสียชีวิต แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่ในร่าง

อย่างไรก็ตามปีศาจอมตะเซี่ยหูหมดความสนใจในศพนี้แล้ว หากซากศพของหม่าหงหยุนสามารถใช้งาน ท่านหญิงหว่านซูคงไม่ใช่วิธีปรับแต่งที่ยากลำบากเช่นนั้น

เหมาหลี่ชิวมองฟางหยวนและพร้อมโจมตี

ฟางหยวนสามารถคว้าโอกาสก่อนหน้านี้ แต่ผู้ใดจะคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายยิ่งกว่าก่อนหน้า

‘เรื่องเลวร้ายเช่นนี้ มันต้องเป็นเจตจำนงสวรรค์อย่างแน่นอน!’

ฟางหยวนเข้าใจทันที

ตั้งแต่เขาตกลงมาในแม่น้ำหวนคืน เจตจำนงสวรรค์ก็เริ่มแผนการของมันแล้ว

เจตจำนงสวรรค์!

ฟางหยวนเงยหน้าขึ้น

ตอนนี้เขาติดอยู่ในกับดักอย่างสมบูรณ์

ไม่เพียงปีศาจอมตะเซี่ยหู เหมาหลี่ชิว และผู้อมตะภาคกลางที่ต้องการจัดการเขา แต่เจตจำนงสวรรค์เป็นภัยคุกคามที่อันตรายที่สุด

‘สถานการณ์สิ้นหวัง…ข้าควรทำอย่างไร?’

ฟางหยวนรู้สึกปากแห้ง

เขาไม่สามารถทำสิ่งใด

ยังไม่ต้องกล่าวถึงผู้อมตะคนอื่นๆ

เพียงปีศาจอมตะเซี่ยหูก็เป็นศัตรูที่ฟางหยวนไม่สามารถเผชิญหน้า

พังพอนหางสุนัขผู้รอบรู้เป็นพาหนะของเทพอมตะตะวันเดือด

ฟางหยวนไม่มีทางเลือก เขาทำได้เพียงเคลื่อนที่ต่อไปในแม่น้ำหวนคืนเท่านั้น

เสียงโห่ร้องคำรามจากกลุ่มผู้อมตะยังดำเนินต่อไป

“หลิวกวนซื่อ วันนี้เจ้าไม่สามารถหลบหนีจากความตาย!”

“เจ้าคนชั่ว เจ้าทำตนเองในวันนี้ เจ้าอยู่ในสภาพนี้เพราะการพิพากษาของสวรรค์!”

“ฆ่าเขา เราต้องฆ่าเขา เขาทำลายแผนการของเรา!”

“รู้หรือไม่ว่าเจ้าฆ่าคนที่เจ้าไม่สามารถแตะต้อง วันนี้เจ้าต้องตายอย่างแน่นอน!”

“ฮาว!” พังพอนหางสุนัขกรีดร้องอย่างไม่รู้จบสิ้น หากไม่ใช่เพราะแม่น้ำหวนคืน มันคงโจมตีฟางหยวนไปแล้ว

‘ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือก…หากแม่น้ำหวนคืนกวาดข้าออกไป ด้วยความสามารถในปัจจุบันของข้า มีโอกาสน้อยมากที่ข้าจะสามารถหลบหนี’ ฟางหยวนเงียบและเดินหน้าต่อไป

เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว แต่แม่น้ำหวนคืนยังขยายออกไปทุกครั้ง

แม่น้ำหวนคืนไม่มีจุดสิ้นสุด

นี่คือรูปแบบของความสิ้นหวัง

แต่ฟางหยวนไร้ความรู้สึก

‘ในชีวิตของข้า ข้าพบกับความสิ้นหวังมานับครั้งไม่ถ้วน มันมากเกินไป’ ฟางหยวนลอบถอนหายใจอยู่ภายใน

สายตาของเขายังคมชัดและไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก

‘ในสถานการณ์ปัจจุบัน ข้าทำได้เพียงรอให้ทั้งสามฝ่ายต่อสู้กัน เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะสามารถหลบหนี ข้าทำได้เพียงอดทนอยู่ในแม่น้ำหวนคืนเท่านั้น’ ฟางหยวนคิด

เมื่อเวลาผ่านไปกลุ่มผู้อมตะยังรอให้ฟางหยวนถูกกวาดออกมาด้วยความหงุดหงิด

“เมื่อใดเขาจะหยุด?”

“เดินหน้าต่อไปในแม่น้ำหวนคืนเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตาย!”

“ออกมา คนขี้ขลาด! ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยการตบเพียงครั้งเดียว!”

“ตอนนี้สิ้นหวังแล้ว หลิวกวนซื่อ การฆ่าตัวตนเป็นวิธีเดียวที่เจ้าจะสามารถรักษาเกียรติของตนเอง!”

ผู้อมตะบางคนหัวเราะ บางคนมองดูอย่างเย็นชา

ในความคิดเห็นของพวกเขา ฟางหยวนกำลังดิ้นรนอย่างไร้ประโยชน์

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท