เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1276

ตอนที่ 1276

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1276 ความพยายามของมนุษย์จิ๋ว

แปลโดย iPAT

“น่าประทับใจ ค่ายกลวิญญาณนี้สามารถควบคุมแม่น้ำหวนคืนได้จริงๆ” ผู้อมตะคลื่นสมุทรยกย่อง

แต่ผู้อมตะดำกลับส่ายศีรษะ “นี่ไม่ใช่การควบคุม ค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันเหมือนกับการขุดคลองและปล่อยให้แม่น้ำหวนคืนไหลมาตามเส้นทางเท่านั้น”

“ด้วยวิธีนี้ถ้ำสวรรค์นิรันดรจะได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพใช่หรือไม่?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรคาดเดา

ผู้อมตะดำอธิบาย “เมื่อแม่น้ำหวนคืนมาถึง ค่ายกลวิญญาณรองจะพังทลายลง เจ้าต้องเปิดมิติช่องว่างของเจ้าและปล่อยให้แม่น้ำหวนคืนไหลเข้าไป เจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารี เจ้ามีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่”

ผู้อมตะคลื่นสมุทรรู้สึกถึงปัญหา “หากแม่น้ำหวนคืนเปลี่ยนทิศทางจะทำอย่างไร? มีวิญญาณที่สามารถควบคุมมันหรือไม่?”

ผู้อมตะดำขมวดคิ้ว “ไม่อย่างแน่นอน แต่มีความน่าจะเป็นอื่น…”

“เจ้าหมายถึง?”

“ตำนานมนุษย์คนแรกกล่าวว่าตราบเท่าที่มนุษย์คนแรกมีวิญญาณอมตะดวงนั้น เขาจะสามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืน”

“เจ้าหมายถึงวิญญาณความพยายามงั้นหรือ? ไม่มีทาง วิญญาณความพยายามไม่เคยปรากฏมาก่อน ในความคิดเห็นของข้า มันเป็นเพียงนิทานที่กระตุ้นให้ผู้คนขยันบ่มเพาะเท่านั้น”

ในตำนาน บุตรสาวของมนุษย์คนแรก เสิ้นไห่หลุนฮุ้ย ถูกขังอยู่ในเหวธรรมดา

นางพบมนุษย์จิ๋วและได้ไปเยี่ยมบ้านของเขาในเมืองจิ๋ว

หลังจากนางเข้าไปในเมืองจิ๋ว นางเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“ข้าเข้าใจแล้ว” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยกล่าว

นางถูกขังอยู่ในเหวธรรมดา นางเหมือนมนุษย์จิ๋วที่อยู่ในบ่อน้ำ มนุษย์จิ๋วเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือบ่อน้ำเหมือนกับเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยที่มองขึ้นไปจากก้นเหวธรรมดา

“ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะทำงานอย่างหนักและออกจากเหวธรรมดาเพื่อพบกับท่านพ่ออีกครั้ง” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยกำหมัดและตัดสินใจ

มนุษย์จิ๋วดีใจมาก “ดี ข้าจะออกจากเหวธรรมดาและไปดูโลกภายนอกเช่นกัน ข้าเห็นต้นไม้มากมายในเหวธรรมดา เราโค่นพวกมันและทำเป็นบันไดเพื่อปีนขึ้นไปดีหรือไม่?”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยอ้าปากค้าง “โอ้ มนุษย์จิ๋ว ไม่ใช่ว่าเจ้ามีปีกงั้นหรือ? เหตุใดเจ้าไม่บินออกไป?”

มนุษย์จิ๋วเผยรอยยิ้มขมขื่น “โอ้ มนุษย์ ข้าอาจมีปีกคู่หนึ่ง แต่มันบอบบางและอ่อนแอมาก พวกมันสามารถยกข้าได้เพียงระยะทางสั้นๆเท่านั้น เมื่อข้าออกจากเมือง ข้าก็ใช้บันไดเช่นกัน”

“เป็นเช่นนั้น” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยเข้าใจในที่สุด

วันต่อมานางและมนุษย์จิ๋วเริ่มตัดต้นไม้และสร้างบันได ต้นไม้ถูกโค่นลงทีละต้น

วิญญาณสติปัญญาบินออกมาจากต้นไม้ต้นหนึ่งที่ถูกโค่นลง

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยประหลาดใจ “วิญญาณสติปัญญา เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?”

“สติปัญญาซ่อนอยู่ในความธรรมดา แน่นอนว่าข้าสามารถอยู่ที่นี่” วิญญาณสติปัญญาตอบ

มันกล่าวต่อ “พวกเจ้าฉลาดมาก พวกเจ้ารู้ว่าควรใช้วิธีใดเพื่อหลบหนีจากการเป็นคนธรรมดา แต่หากพวกเจ้าต้องการออกจากเหวธรรมดา พวกเจ้าต้องสร้างบันไดของตนเองด้วยตัวของพวกเจ้าเอง มิฉะนั้นพวกเจ้าจะไม่สามารถจากไป”

เสิ้นไห่หลุ่นฮุ้ยพยักหน้า “โอ้ วิญญาณสติปัญญา ขอบคุณที่เตือนเรา เราจะจดจำไว้”

จากนั้นนางและมนุษย์จิ๋วจึงเริ่มสร้างบันไดของตนเอง

บันไดสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ในไม่ช้าบันไดของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยก็นำบันไดของมนุษย์จิ๋ว

บันไดของมนุษย์จิ๋วทั้งสั้นและเล็ก ระยะห่างระหว่างขั้นก็เล็กมากเช่นกัน

หากเปรียบเทียบ บันไดของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยทั้งสูงและยาว

เส้นไห่หลุนฮุ้ยล้อเลียนมนุษย์จิ๋ว “โอ้ มนุษย์จิ๋ว ข้าสร้างบันไดครึ่งวันได้สูงพอๆกับที่เจ้าสร้างบันไดครึ่งเดือน ด้วยความเร็วระดับนี้เมื่อใดที่เจ้าจะสามารถสร้างบันไดที่สูงพอและหลบหนีจากเหวธรรมดา?”

มนุษย์จิ๋วรู้สึกช่วยไม่ได้ “ข้าทำดีที่สุดแล้ว แต่นี่เป็นไม้ทั้งหมดที่ข้าสามารถแบกได้ในเวลาครึ่งวัน”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยพยักหน้า “น่าเสียดายที่เราต้องสร้างบันไดด้วยตนเอง”

มนุษย์จิ๋วตอบ “ถูกต้อง เพื่อออกจากเหวธรรมดา เราสามารถทำตามคนรุ่นก่อน แต่เราต้องพึ่งพาตนเองและทำงานหนักเท่านั้น”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยและมนุษย์จิ๋วยังโค่นต้นไม้เพื่อทำบันไดต่อไป

ต้นไม้ล้มลงทีละต้น สุดท้ายวิญญาณความแข็งแกร่งก็บินออกมา

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตกใจ “โอ้ วิญญาณความแข็งแกร่ง เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?”

“ความแข็งแกร่งซ่อนอยู่ในความธรรมดา แน่นอนว่าข้าสามารถอยู่ที่นี่” วิญญาณความแข็งแกร่งตอบ

เสิ้นไห่หลุนฮุยคิดก่อนถาม “โอ้ วิญญาณความแข็งแกร่ง เจ้าสามารถให้คำแนะนำกับเราเช่นวิญญาณสติปัญญาหรือไม่?”

วิญญาณความแข็งแกร่งกล่าว “ข้าไม่สามารถแนะนำสิ่งใด แต่ข้าสามารถมอบความแข็งแกร่งให้กับเจ้า ตราบเท่าที่เจ้ามอบความวัยเยาว์ให้แก่ข้า”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยลังเล

วิญญาณความแข็งแกร่งกล่าวต่อ “ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจ้า เมื่อใดที่เจ้าจะสามารถสร้างบันไดที่สูงพอและหลบหนีออกจากเหวธรรมดาได้”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยคิดและตอบ “อีกนานมาก ข้าอาจต้องใช้เวลายี่สิบหรือสามสิบปี”

วิญญาณความแข็งแกร่งกล่าว “ถูกต้อง เมื่อถึงเวลานั้น เจ้าก็ไม่ใช่เด็กอีกต่อไป เจ้าจะสูญเสียความเยาว์วัยและกลายเป็นหญิงวัยกลางคน หากเจ้ามอบความเยาว์วัยให้ข้า แม้เจ้าจะกลายเป็นหญิงวัยกลางคน แต่เจ้าจะใช้เวลาเพียงสองหรือสามปีในการสร้างบันได”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยคิดและพยักหน้า “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง วิญญาณความแข็งแกร่ง ข้าต้องพึ่งพาเจ้าแล้ว”

ด้วยเหตุนี้เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยจึงได้รับความแข็งแกร่งและทำให้นางสามารถสร้างบันไดได้เร็วมาก

หนึ่งปีต่อมา นางยืนอยู่บนชั้นบนสุดของบันไดและมองลงไป

นางเห็นต้นไม้เหมือนกับทุ่งหญ้า นางมีความสุขมาก “เมื่อข้ายืนอยู่บนที่สูง สิ่งที่ใหญ่โตจะกลายเป็นเล็ก มันเหมือนเมืองจิ๋ว”

นางมองลงไปที่บันไดของมนุษย์จิ๋วและพบว่ามันสั้นมาก มันยังน้อยกว่าหนึ่งในร้อยของบันไดของนาง

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยขมวดคิ้ว

นางเดินลงไปและกล่าวกับมนุษย์จิ๋ว “เหตุใดเจ้าถึงช้านัก? บันไดของข้าสูงมากแล้ว”

ร่างเล็กมองบันไดของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยและชื่นชม “เจ้ายอดเยี่ยมจริงๆ ความแข็งแกร่งของเจ้าเหนือกว่าข้าตั้งแต่แรก ตอนนี้เจ้ายังมีวิญญาณความแข็งแกร่ง น่าเสียดายที่ข้าสามารถพึ่งพาตนเองเท่านั้น ข้าพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว นอกจากเวลากินและพักผ่อน ข้าใช้เวลาทั้งหมดในการสร้างบันได แต่มันยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับบันไดของเจ้า”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยพยักหน้า “นั่นเป็นเรื่องปกติ”

ผ่านไปอีกหนึ่งปี

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยสร้างบันไดสูงขึ้นไปอีก

นางยืนอยู่ด้านบนและมองลงไป

ต้นไม้ด้านล่างเล็กจนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

นางมองบันไดของมนุษย์จิ๋วและพบว่ามันยังน้อยกว่าหนึ่งในพันส่วนของบันไดของนาง

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยเดินลงไปและหัวเราะ “โอ้ มนุษย์จิ๋ว หยุดความพยายามของเจ้าเถอะ ความแข็งแกร่งของเจ้าต่ำเกินไป เจ้าไม่สามารถสร้างบันไดได้แม้เจ้าจะใช้เวลาทั้งชีวิต เหตุใดไม่ใช่เวลาเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน”

“แท้จริงแล้วเจ้าน่าทึ่งมาก หากเปรียบเทียบกับมนุษย์จิ๋วคนอื่นๆ เจ้าสามารถออกมาจากเมืองจิ๋ว ตอนนี้เจ้าสามารถสนุกกับชีวิตของเจ้า”

ร่างเล็กคิดและส่ายศีรษะ “ข้าไม่พอใจกับการเป็นคนธรรมดา ข้าไม่มีความสุขกับการเป็นคนธรรมดา การเป็นคนธรรมดาเหมือนขุมนรก ข้าอยากออกไป แม้ข้าจะทำไม่สำเร็จ ข้าก็ยังอยากลอง หากข้าไม่พยายามมากพอ ข้าจะไม่มีความสุข”

มนุษย์จิ๋วยังสร้างบันไดต่อไป

ปีที่สามผ่านไป

บันไดของเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยสูงมาก

นางยืนอยู่ด้านบนและมองลงไปเพียงเพื่อจะเห็นเมฆบดบังสายตาของนางเอาไว้ทั้งหมด

นางต้องการดูบันไดของมนุษย์จิ๋ว แต่นางแทบมองไม่เห็นสิ่งใด ตอนนี้มันน้อยกว่าหนึ่งในหมื่นของบันไดของนาง

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยถอนหายใจและรู้สึกเหงา

เมื่อลมพัดมา ร่างกายของนางสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น

“ดังนั้นเมื่อข้าอยู่บนที่สูง ไม่เพียงข้าจะรู้สึกเหงา แต่ข้ายังรู้สึกหนาวอีกด้วย” เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยเดินลงไปหามนุษย์จิ๋ว

คนตัวเล็กส่ายศีรษะ “บันไดของข้าไม่สูงพอ ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร?”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย

นางยังคงสร้างบันไดต่อไป แต่เวลาที่นางใช้ไปกับการสร้างบันไดเริ่มลดลง

วิญญาณความแข็งแกร่งถาม “โอ้ มนุษย์ เหตุใดเจ้าไม่สร้างบันไดต่อ?”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตอบ “บันไดนี้ทั้งสูงและหนาว ข้าต้องการพักผ่อนและกู้คืนความอบอุ่น”

หนึ่งปีผ่านไป

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยยิ่งเบื่อหน่ายมากกว่าเดิม

นางยังสร้างบันไดต่อไปแต่นางใช้เวลากับมันน้อยลงและน้อยลง

วิญญาณความแข็งแกร่งถาม “โอ้ มนุษย์ เหตุใดเจ้าไม่สร้างบันไดต่อ?”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตอบ “บันไดสูงเกินไป เมื่อข้ามองลงไป ข้ารู้สึกกลัว ข้าต้องการพักผ่อนและทำให้ใจสงบ”

ผ่านไปอีกหนึ่งปี

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยยิ่งเกียจคร้านมากขึ้น

วิญญาณความแข็งแกร่งถาม “มองไปที่มนุษย์จิ๋ว เขาไม่เคยหยุดสร้างบันไดของเขา เขาทุ่มเททุกอย่าง หากเจ้ายังเกียจคร้าน เขาจะนำหน้าเจ้าในวันหนึ่ง”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยหัวเราะ “จะเป็นไปได้อย่างไร? หนึ่งวันของข้าเท่ากับหนึ่งเดือนของเขา เขาจะนำหน้าข้าได้อย่างไร?”

หลายปีผ่านไปเช่นนี้

ในที่สุดวันหนึ่งร่างเล็กพบเสิ้นไห่หลุนฮุ้ยพักอยู่ใต้ต้นไม้ เขากล่าวกับนาง “โอ้ สหาย บันไดของข้าอยู่ที่ขอบเหวธรรมดาแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะก้าวออกจากเหวธรรมดา”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยหัวเราะ “เจ้าตัวเล็ก อย่าโกหกข้า นี่มันตลกเกินไปแล้ว”

ร่างเล็กส่ายศีรษะและกล่าวอย่างจริงจัง “ผู้ยิ่งใหญ่และตัวตลกมีเพียงเส้นบางๆกั้นอยู่ แต่ข้าไม่ใช่ตัวตลกอีกต่อไป ข้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่และสุดท้ายก็สามารถออกจากเหวธรรมดา หากเจ้าไม่เชื่อข้า คอยดูข้าออกไป”

มนุษย์จิ๋วเริ่มปีนขึ้นบันไดของเขา

เสิ้นไห่หลุนฮุยตกใจมาก บันไดของมนุษย์จิ๋วอยู่บนขอบเหวจริงๆ เขาจะสามารถออกไปหากสิ่งนี้ยังดำเนินต่อไป

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตะโกน “มนุษย์จิ๋ว เจ้าไม่หนาวงั้นหรือ?”

คนตัวเล็กกล่าว “แน่นอน แต่ข้าต้องการสร้างบันไดของข้าและปีนออกจากที่นี่”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตะโกนอีกครั้ง “มนุษย์จิ๋ว เจ้าไม่รู้สึกเหงาบ้างงั้นหรือ?”

คนตัวเล็กกล่าว “แน่นอน แต่ข้าต้องการสร้างบันไดของข้าและปีนออกจากที่นี่”

เสิ้นไห่หลุนฮุ้ยตะโกนอีกครั้ง “มนุษย์จิ๋ว เจ้าไม่กลัวงั้นหรือ?”

คนตัวเล็กกล่าว “แน่นอน แต่ข้าต้องการสร้างบันไดของข้าและปีนออกจากที่นี่”

หลังจากนั้นแสงสว่างก็ส่องประกายขึ้นบนร่างของมนุษย์จิ๋ว วิญญาณดวงหนึ่งบินออกมา

“ข้าคือความพยายาม โอ้ มนุษย์จิ๋ว ขอบคุณที่ให้กำเนิดข้า” วิญญาณความพยายามขอบคุณมนุษย์จิ๋ว

มนุษย์จิ๋วหัวเราะ “เยี่ยมมาก แม้ข้าจะไร้ความแข็งแกร่ง แต่ข้าก็มีความพยายาม”

ร่างเล็กกล่าวขณะที่เขาปีนออกจากเหวธรรมดาและก้าวสู่โลกภายนอก

เขาเห็นบางคนที่นั่น

มันคือมนุษย์คนแรก

เวลาในเหวธรรมดาต่างจากเวลาของโลกภายนอก

มนุษย์คนแรกถอนหายใจเมื่อเห็นมนุษย์จิ๋ว “นี่คือวิญญาณความพยายามงั้นหรือ? น่าเสียดาย หากข้ามีมัน ข้าจะสามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืน”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท