เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1269 มนุษย์จิ๋วระดับแปด
แปลโดย iPAT
“เซี่ยหู รับนี่!” เว่ยหลิงหยางชี้นิ้วไปที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูและยิงลำแสงขนาดใหญ่ออกไป
ปีศาจอมตะเซี่ยหูโบกมือสร้างกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ขึ้นปิดกั้นลำแสงของเว่ยหลิงหยางได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นปีศาจอมตะเซี่ยหูก็ทะยานร่างบินไปทางเว่ยหลิงหยางราวกับขวานที่หมุนวน
การแสดงออกของเว่ยหลิงหยางเปลี่ยนไปทันที
นี่เป็นท่าที่รับมือได้ยากมาก เขาเคยพบกับความทุกข์ทรมานจากท่านี้มาก่อนแล้ว
เว่ยหลิงหยางถูกบังคับให้บินกลับเข้าไปในค่ายนักรบและใช้มันปกป้องตนเองอย่างไม่สามารถช่วยได้
“บึม บึม บึม…”
ขวานน้ำแข็งทำให้ค่ายนักรบเกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากตกตายลงทันที
“เร็ว ซ่อมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ!”
“มีคนบาดเจ็บ รีบรักษา!”
“ใช้การโจมตีของคฤหาสน์วิญญาณอมตะเป็นการป้องกัน!”
ผู้อมตะที่อยู่ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะต่างตื่นตระหนก
เว่ยหลิงหยางหอบหายใจอย่างหนักหน่วง มือขวาของเขาถูกแช่แข็งและไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อใด
“ข้าถูกโจมตีตั้งแต่เมื่อใด?” กระทั่งตัวเว่ยหลิงหยางเองยังรู้สึกประหลาดใจ
ปีศาจอมตะเซี่ยหูมีวิธีการมากมาย แม้บางท่าจะไม่ทรงพลังนัก แต่มันกลับมีประสิทธิภาพและร้ายกาจ
นั่นเป็นเหตุให้เว่ยหลิงหยางได้รับบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวของปีศาจอมตะเซี่ยหูโดยไม่รู้ตัว
เขาทดลองหลายวิธีแต่ยังไม่สามารถรักษามือขวาที่ถูกแช่แข็ง
“อาการบาดเจ็บชนิดนี้ค่อนข้างลำบาก…” ไป่เฉินเทียนถอนหายใจ
“มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ข้าเพียงต้องผนึกมือขวาเอาไว้ชั่วคราว ตอนนี้สิ่งที่ข้ากังวลมากที่สุดคือนักรบหมื่นมังกร เขาควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะสองหลังและยังได้รับความช่วยเหลือจากผู้อมตะส่วนใหญ่ของเรา แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าคือวังสวรรค์แห่งโชคและถ้ำสวรรค์นิรันดร เราต้องช่วยหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนอย่างรวดเร็วที่สุดและไปช่วยนักรบหมื่นมังกรก่อนจะล่าถอยกลับภาคกลาง!”
ดวงตาของเว่ยหลิงหยางส่องประกายขึ้น
ผู้อมตะภาคกลางเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แม้พวกเขาจะพบอุบัติเหตุในอุโมงค์มิติ แต่ผู้อมตะเหล่านี้ยังสามารถตอบสนองและหลบหนีออกมาได้อย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตอนนี้กลับไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา
เดิมทีมันเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่จะจัดการวังสวรรค์แห่งโชค แต่ตอนนี้พวกเขายังแยกกันเป็นสองกลุ่ม ในฐานะผู้ตัดสินใจ เว่ยหลิงหยางกำลังเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางจิตใจอย่างมาก
“บึม!”
ค่ายนักรบเกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้อมตะระดับแปดทั้งสองของภาคกลางเป็นผู้อมตะระดับแปดชั้นสูงที่มีคุณสมบัติเข้าสู่วังสวรรค์ พวกเขาแข็งแกร่งมากโดยธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามพลังการต่อสู้ของคนเหนือถือว่าสูงที่สุดในห้าภูมิภาค นอกจากนั้นปีศาจอมตะเซี่ยหูยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งที่สุดของภาคเหนือ
ครั้งนี้เขาแสดงพลังการต่อสู้ที่น่าประหลาดใจออกมาและทำให้ผู้อมตะภาคกลางไม่สามารถต่อต้านตั้งแต่วินาทีแรกเมื่อการต่อสู้ปะทุขึ้น
“ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้! รักษาอาการบาดเจ็บของท่านและควบคุมคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ข้าจะออกไปก่อกวนปีศาจอมตะเซี่ยหู!” ไป่เฉินเทียนกัดฟันกล่าว
“ระวังตัวด้วย” เว่ยหลิงหยางกล่าวด้วยความกังวล
ไป่เฉินเทียนบินออกจากค่ายนักรบและใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาทันที
แสงสีเขียวพุ่งไปยังยอดเขาหิมะ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาตั้งใจทำลายค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน
เมื่อค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันถูกทำลาย ค่ายนักรบจะไม่ถูกกดดันอีกต่อไป โดยปราศจากสิ่งกีดขวาง พวกเขาจะสามารถช่วยจ้าวเหลียนหยุนและบางทีอาจสามารถช่วยหม่าหงหยุนได้เช่นกัน
ปีศาจอมตะเซี่ยหูอาจทรงพลัง แต่เขาก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีเต็มรูปแบบของค่ายนักรบ
“หยุดฝันกลางวัน!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูเคยเห็นท่าไม้ตายของผู้อมตะภาคกลางมาแล้ว ดังนั้นเขาจึงตอบโต้ด้วยท่าไม้ตายอมตะของเขา
ฝนน้ำแข็งร่วงหล่นลงมา เมื่อมันตกกระทบลงบนพื้น มันกลายเป็นอสูรหิมะ
อสูรหิมะแต่ละตัวเป็นอสูรหิมะระดับสัตว์อสูรเดียวดายและยังมีกระทั่งสัตว์อสูรบรรพกาล
พวกมันยืนอยู่บนยอดเขาและคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า
ปีศาจอมตะเซี่ยหูพ่นลมหายใจอันเย็นเยียบออกมาและก่อให้เกิดพายุหิมะที่ทรงพลัง
อสูรหิมะเหมือนปลาได้น้ำและยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
ไป่เฉินเทียนถูกปราบปรามทันที
“ทรงพลังนัก!”
“ปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่ได้รับประโยชน์จากค่ายกลวิญญาณแต่เขายังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็งของเขาน่าจะบรรลุระดับปรมาจารย์เอกแล้ว!”
ไม่ว่าจะเป็นไป่เฉินเทียนหรือเว่ยหลิงหยาง ทั้งคู่ต่างตกตะลึงกับฉากนี้
ความสำเร็จระดับปรมาจารย์เอกอนุญาตให้ผู้อมตะเปลี่ยนแปลงท่าไม้ตายอมตะของพวกเขาได้ดังใจปรารถนา
“แต่หากเพิ่มข้าอีกคนจะเป็นอย่างไร?” เว่ยหลิงหยางเย้ยหยันและบังคับค่ายนักรบพุ่งทะยานออกไป
อาการบาดเจ็บของเขาหายดีแล้ว เห็นได้ชัดว่าเขามีความสำเร็จด้านการรักษาที่ไม่ธรรมดา
การแสดงออกของปีศาจอมตะเซี่ยหูเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปดสองคนพร้อมกันรวมถึงคฤหาสน์วิญญาณอมตะ นี่ค่อนข้างลำบากสำหรับเขา
อย่างไรก็ตามปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่สามารถทำลายค่ายนักรบและกวาดล้างผู้อมตะระดับแปดเพราะเขาต้องการรักษาค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันเอาไว้เพื่อการหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์
ไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางโจมตีไปที่จุดอ่อนของศัตรูและค่อยๆพลิกสถานการณ์
“บึม บึม บึม…”
การระเบิดทุกครั้งทำให้ค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันเกิดการสั่นสะเทือน
“ยอดเยี่ยม!”
“กำลังเสริมของเราแข็งแกร่งมาก!”
จ้าวเหลียนหยุนและคนอื่นๆไม่จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตอีกต่อไป พวกเขายืนอยู่บนยอดเขาหิมะและเฝ้ามองการต่อสู้ด้านบน
ในทำนองเดียวกันผู้นำยอดเขาหิมะทั้งหมดก็จ้องมองการต่อสู้บนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน
แต่ใบหน้าของพวกเขากลับเต็มไปด้วยความกังวล
“พลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด…น่าอัศจรรย์และน่ากลัวจริงๆ”
“หากค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันถูกทำลาย พวกเราต้องตายอย่างน่าอนาถ”
“นายท่านเซี่ยหูแข็งแกร่งมาก แต่ผู้บุกรุกจากภาคกลางก็เจ้าเล่ห์มาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไปค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันจะถูกทำลายไม่ช้าก็เร็ว…”
บนยอดเขาที่หนึ่ง ท่านหญิงหว่านซูกำลังปรับแต่งหินสีม่วงทองและมาถึงขั้นตอนสุดท้าย
“ข้าไม่คาดหวังว่าข้าต้องใช้กลิ่นหอมหมื่นลี้เพื่อละลายหินก้อนนี้” ท่านหญิงหว่านซูรู้สึกประหลาดใจ
กลิ่นหอมหมื่นลี้เป็นทรัพยากรอมตะชนิดหนึ่ง นี่ทำให้ท่านหญิงหว่านซูตระหนักว่าแก่นแท้ของวิธีการนี้คือเส้นทางอาหาร
เส้นทางอาหารหายากมาก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านหญิงหว่านซูจะไม่สามารถจัดการหินก้อนนี้
เมื่อหินหลอมละลาย แสงสีม่วงก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ท่านหญิงหว่านซูหรี่ตามองแต่แทบไม่สามารถเห็นสิ่งใด
มีร่างขนาดเล็กมากนอนอยู่ในหินก้อนนี้ มันยังมีปีกสีม่วงคู่หนึ่งอยู่บนแผ่นหลัง
“มนุษย์จิ๋ว?” ท่านหญิงหว่านซูตกตะลึงเมื่อนางตระหนักถึงมัน
มนุษย์จิ๋วค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นขณะที่กลิ่นอายของมันรั่วไหลออกมา
ผู้อมตะระดับแปด!
“เหตุใดถึงมีผู้อมตะระดับแปดอีกคนและมันเป็น…กลิ่นอายของคนเหนือ!” ไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางมองหน้ากัน
“พวกเราขอแสดงความเคารพต่อท่านสีม่วง!” อิงอู๋เซี่ยนำกลุ่มผู้อมตะโค้งคำนับต่อมนุษย์จิ๋วระดับแปดผู้นี้
มีเพียงไป่หนิงปิงที่ยังยืนตัวตรง
“อา…ข้าตื่นขึ้นแล้ว…” มนุษย์จิ๋วกระพริบตา ความสับสนหายไปจากใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะถูกแทนที่ด้วยความเย็นชาและไม่แยแส