เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1282

ตอนที่ 1282

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1282 เหนือกว่ามนุษย์คนแรก
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1282 เหนือกว่ามนุษย์คนแรก

แปลโดย iPAT

เหตุผลสำคัญที่สุดคือการต่อสู้ในแม่น้ำหวนคืนส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ของฟางหยวน

เพราะเขาจำเป็นต้องว่ายขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อหายใจเป็นครั้งคราว

ในแง่นี้ฟางหยวนยังด้อยกว่ามู่หลิงหลานที่ตายไปก่อนหน้า เขาเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งวารีที่สามารถหายใจใต้น้ำ

ในทางกลับกันผีดิบอมตะไม่จำเป็นต้องหายใจเพราะมันตายไปแล้วตั้งแต่แรก

“ฮืม!” ฟางหยวนไม่สามารถสังหารอิงอู๋เซี่ย ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ราชันภูเขาม่วง

อิงอู๋เซี่ยกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของราชันภูเขาม่วงและพยายามช่วยเขา

แต่ฟางหยวนก็เปลี่ยนเป้าหมายอีกครั้งและเล็งไปที่ดวงตาของอิงอู๋เซี่ย

นี่เป็นการโจมตี่ที่โหดเหี้ยม

ตราบเท่าที่เขาทำสำเร็จ ฟางหยวนจะสามารถแทงทะลุเข้าไปถึงสมองของอิงอู๋เซี่ยและจบชีวิตของฝ่ายหลัง

หัวใจของอิงอู๋เซี่ยเต้นแรงแต่มันสายเกินไปที่จะป้องกันตัวและทำให้เขาตกสู่ความสิ้นหวัง

อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้ราชันภูเขาม่วงกลับลุกขึ้นและพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนโดยไม่คาดคิด

ฟางหยวนสามารถป้องกันตัว นอกจากนั้นเขายังคว้าร่างของราชันภูเขาม่วงเอาไว้โดยหวังจะบีบทำลายในครั้งเดียว

แต่ราชันภูเขาม่วงก็ไม่ธรรมดาและสามารถดิ้นรนออกจากกำมือของฟางหยวน

ราชันภูเขาม่วงกระโดดลงไปในแม่น้ำทำให้การโจมตีทั้งหมดของฟางหยวนพลาดเป้า

ต่อมาราชันภูเขาม่วงก็บินเข้าไปหาอิงอู๋เซี่ยที่ลอยไปตามกระแสน้ำและคว้าคอเสื้อของเขาเอาไว้

อิงอู๋เซี่ยทั้งตกใจและดีใจมากเมื่อเห็นราชันภูเขาม่วงได้สติ

“เยี่ยมมาก!” อิงอู๋เซี่ยมีความสุข หากราชันภูเขาม่วงกลับมามีสติ พวกเขาจะสามารถจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน

“ออกไปเร็วเข้า!” อย่างไรก็ตามราชันภูเขาม่วงกลับพาอิงอู๋เซี่ยลอยไปตามกระแสน้ำ

เขาตัวเล็กแต่กลับมีพละกำลังมหาศาล

“ท่านสีม่วง!” อิงอู๋เซี่ยตกใจแต่เขาก็เข้าใจบางสิ่งทันที หลังจากนี้ราชันภูเขาม่วงจะกลับไปวิกลจริตอีกครั้ง

อิงอู๋เซี่ยลอบถอนหายใจและเข้าใจว่าพวกเขาต้องล่าถอย

การคงอยู่ราชันภูเขาม่วงทำให้ฟางหยวนไม่สามารถกำจัดอิงอู๋เซี่ย

นอกจากนี้เขายังอยู่ไกลจากหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนมากขึ้น

ปีศาจอมตะเซี่ยหูแสดงออกอย่างไม่มีความสุขเนื่องจากอิงอู๋เซี่ยและราชันภูเขาม่วงออกจากการแข่งขันเรียบร้อยแล้ว

ในแม่น้ำหวนคืนเหลือเพียงหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุน และฟางหยวน

“เขาคือผู้ใด? เขาเป็นผู้อมตะภาคเหนือแต่เขากล้าทำลายแผนการของข้างั้นหรือ?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูปลดปล่อยเจตนาสังหารออกมา

หัวใจของไห่ลั่วหลันเต้นแรงมากเมื่อได้ยินคำถามนี้ เห็นได้ชัดว่าฟางหยวนเป็นศัตรูกับอิงอู๋เซี่ย ดังนั้นนางจึงต้องเป็นคนตอบคำถามนี้

ตอนนี้ไห่ลั่วหลันเป็นสมาชิกนิกายเงา นางไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวน แต่โชคดีที่เขามีตัวตนอื่น ดังนั้นนางจึงเปิดปากกล่าว “เขาคือหลิวกวนซื่อ”

“หลิวกวนซื่อ? ปีศาจอมตะที่ใช้ร่างมังกรดาบบรรพกาลสังหารเย่หลิวชุนซิงงั้นหรือ?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูตกตะลึง

เขารู้เรื่องหลิวกวนซื่อ

แม้เขาจะหลอมรวมวิญญาณอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะแต่เขายังให้ความสนใจกับสถานการณ์ของภาคเหนือ

เนื่องจากผู้อมตะระดับแปดของภาคเหนือล้วนเป็นอุปสรรคของเขา สำหรับหลิวกวนซื่อและชูตู๋ ปีศาจอมตะเซี่ยหูไม่ได้กังวลเกี่ยวกับพวกเขามากนัก

แต่ผู้ใดจะคิดว่าตัวละครที่ไร้นัยสำคัญกำลังขัดขวางแผนการของเขาอยู่ในขณะนี้

“ฮ่าฮ่าฮ่า โชคเข้าข้างเราจริงๆ” พังพอนหางสุนัขหัวเราะเสียงดัง

กลุ่มของไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางเฝ้ามองด้วยความเคร่งเครียด

ปีศาจอมตะเซี่ยหู ไห่ลั่วหลัน และไป่หนิงปิงยืนอยู่ด้วยกัน

ทั้งสามฝ่ายอยู่ที่จุดเริ่มต้นของแม่น้ำและรอให้หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนถูกกวาดออกมา

“เทพธิดาจ้าว หม่าหงหยุน ตอนนี้พวกเจ้าสามารถออกมาได้แล้ว แม้พวกเราต้องสละชีวิต พวกเราก็จะปกป้องพวกเจ้า” เว่ยหลิงหยางเรียก

“น่าขัน! คนภาคกลางคิดว่าสามารถแย่งพวกเขาไปจากท่านปู่ผู้นี้งั้นหรือ!?” พังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวตะโกนด้วยความโกรธ

ผู้อมตะดำเกรงว่ารูปลักษณ์ที่น่ากลัวของเหมาหลี่ชิวจะทำให้หม่าหงหยุนหวาดกลัว ดังนั้นเขาจึงเร่งกล่าว “หม่าหงหยุน เจ้าได้รับการยอมรับจากวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์และมีสายเลือดของบรรพชนตะวันเดือด เจ้าเป็นสมาชิกของถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเรามาที่นี่เพื่อพาเจ้ากลับบ้าน!”

ปีศาจอมตะเซี่ยหูกดดันฟางหยวน “หลิวกวนซื่อ หากเจ้าสามารถจับหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน ข้าจะอนุญาตให้เจ้าเป็นผู้นำยอดเขาหิมะที่สาม ข้า เซี่ยหู เป็นคนรักษาคำพูด หากเจ้าทำสำเร็จ ข้าจะสนับสนุนเจ้า การบ่มเพาะในอนาคตของเจ้าจะราบรื่น!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผู้อมตะคนอื่นจึงเริ่มมองไปที่ฟางหยวน

ฟางหยวนเสียโอกาสสังหารอิงอู๋เซี่ยไปแล้ว แต่นั่นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะเขาทำอย่างดีที่สุดแล้ว

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของเขายังน่าอึดอัดใจ

‘ข้าพลาดอีกครั้ง!’

ผู้อมตะระดับแปดสามคนรออยู่นอกแม่น้ำ เขาทำได้เพียงให้ความร่วมมือกับปีศาจอมตะเซี่ยหู

แต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูอยู่ฝ่ายเดียวกับนิกายเงา

‘หากข้าออกจากแม่น้ำหวนคืน ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามจะโจมตีข้า ความเร็วของข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับฮุ้ยฟงซื่อ ความหวังที่จะหลบหนีจากพวกเขามีน้อยมาก’

ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์ของตนเองอย่างชันเจน

‘อย่างไรก็ตามหากข้าสามารถจับหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน ข้าจะมีเครื่องมือที่ใช้ต่อรอง ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะภาคกลางหรือถ้ำสวรรค์นิรันดร พวกเขาจะเต็มใจทำธุรกรรมกับข้า เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะสามารถยืมมือพวกเขาเพื่อกำจัดนิกายเงา!’

เมื่อคิดได้เช่นนี้ฟางหยวนก็มองไปที่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

เขาว่ายทวนกระแสน้ำและพุ่งข้าหาคนทั้งสอง

เมื่อหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนเห็นการเคลื่อนไหวของฟางหยวน พวกเขาทำได้เพียงกัดฟันว่ายน้ำต่อไปเท่านั้น

‘อดทนไว้!’

‘ข้าพึ่งหลบหนีออกจากแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ แล้วข้าจะถูกจับอีกครั้งได้อย่างไร?’

‘ยังมีคุณหนูเสี่ยวหยุน นางกลายเป็นเช่นนี้เพราะข้า ข้าต้องช่วยนาง!’

‘ฉะนั้นข้าต้องอดทน!’

‘หม่าหงหยุน เจ้าทำได้ เจ้าต้องทำงานอย่างหนัก!’

หม่าหงหยุนกัดฟันว่ายไปข้างหน้า แม้เขาจะเหนื่อยมาก แต่เขามีแรงผลักดันที่แข็งแกร่ง

ความเร็วของฟางหยวนเหนือกว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุน

แต่เพราะการต่อสู้กับอิงอู๋เซี่ย มันทำให้เขาถูกผลักกลับไประยะหนึ่ง

ดังนั้นตอนนี้หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนจึงถือว่าปลอดภัยมาก เว้นเพียงพวกเขาจะไม่สามารถอดทนต่อ

เมื่อเวลาผ่านไป การแข่งขันที่ลึกลับนี้ก็กำลังจะสิ้นสุดลง

ด้านนอกแม่น้ำ ผู้อมตะจำนวนมากกำลังเฝ้ามองคนทั้งสาม

“หือ?” เป็นเพียงเวลานี้ที่การแสดงออกของจ้าวเหลียนหยุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน

นางรู้สึกว่าเท้าของนางสัมผัสพื้น

ต่อมานางก็สามารถเหยียบพื้นและลุกขึ้นจากแม่น้ำ ศีรษะและไหล่ของนางโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นางและหม่าหงหยุนมีความสุขมาก

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” ผู้อมตะคลื่นสมุทรตะลึง

พังพอนหางสุนัขสบถ “เจ้าโง่ ต้นแม่น้ำหวนคืนจะตื่นขึ้นเรื่อยๆ เจ้าไม่เคยอ่านตำนานมนุษย์คนแรกงั้นหรือ? ย้อนกลับไปมนุษย์คนแรกต้องการเดินออกจากแม่น้ำหวนคืนแต่เขาล้มเหลวในก้าวสุดท้าย!”

“เป็นเช่นนี้!” ได้ยินคำกล่าวของเหมาหลี่ชิว ผู้อมตะภาคกลางได้รับความเข้าใจเช่นกัน

“โดยไม่รู้ตัว พวกเขาไปถึงจุดสิ้นสุดแล้ว”

“ดู พวกเขาอยู่ห่างจากชายฝังเพียงร้อยก้าวเท่านั้น!”

“นี่หมายความว่าหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนจะสามารถทำสิ่งที่มนุษย์คนแรกไม่สามารถทำได้โดยการออกจากแม่น้ำหวนคืนจากด้านหน้างั้นหรือ!?”

“ไม่ถูก มนุษย์คนแรกว่ายน้ำจากจุดเริ่มต้นแต่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนมีช่วงเวลาที่ค่อนข้างง่ายดายกว่ามาก”

“ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่!”

“ถูกต้อง พลังใจของพวกเขาช่างน่าตกตะลึงนัก!”

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์

กระทั่งเหมาหลี่ชิวยังต้องเคลื่อนไหว “นี่เป็นความจริง หม่าหงหยุนไม่ธรรมดาจริงๆ เขาอาจสามารถออกจากแม่น้ำหวนคืน ฮ่าฮ่า”

ผู้อมตะดำและผู้อมตะคลื่นสมุทรมองหน้ากันและกล่าว “ดังคาด เขาคือคนที่ได้รับเลือกจากวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์”

ฟางหยวนยังว่ายน้ำต่อไปข้างหน้าขณะที่หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนเดินอยู่ในแม่น้ำ

ผู้อมตะเกือบทั้งหมดกำลังมองหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุน

พวกเขาอยากรู้ว่าคนทั้งสองจะสามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของมนุษย์ชาติหรือไม่

หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนสนับสนุนซึ่งกันและกัน พวกเขาเดินไปข้างหน้าด้วยร่างกายสั่นคลอนแต่ยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

แม้ทั้งสองจะเหนื่อยมาก กระทั่งร่างกายของพวกเขากลายเป็นไร้ความรู้สึก แต่พวกเขายังมีความพากเพียร

ทุกย่างก้าว ร่างกายของพวกเขาจะสั่นสะท้านราวกับกิ่งไม้ท่ามกลางสายลมกรรโชกแรง ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคนใดคนหนึ่งจะล้มลงในวินาทีถัดไป

แต่ด้วยสภาพนี้พวกเขายังคงเดินไปข้างหน้า

สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหัวใจของกลุ่มผู้อมตะ

“พลังใจชนิดใด!?”

“มันคือพลังแห่งความรัก!?”

“ทั้งสองพยุงซึ่งกันและกัน พวกเขาเดินเคียงข้างกัน ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ข้าก็รู้สึกชื่นชมพวกเขาอย่างสุดซึ้ง”

เมื่อหม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของแม่น้ำ ทุกคนต่างกลั้นหายใจด้วยความคาดหวัง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท