เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1286 โน้มน้าวปีศาจอมตะเซี่ยหู
แปลโดย iPAT
วิญญาณความพยายาม!
ด้านนอกแม่น้ำหวนคืน ผู้อมตะทั้งหมดตกอยู่ในความเงียบงัน
พวกเขาเฝ้ามองแม่น้ำหวนคืนและผู้อมตะระดับเจ็ดในชุดคลุมสีขาว ผมยาว และดวงตาสีดำสนิทกำลังยืนอยู่ในแม่น้ำอย่างอิสระท่ามกลางสายลม
“เขาประสบความสำเร็จในการหลอมรวมวิญญาณอมตะความพยายามจริงๆ!” ไป่หนิงปิงพึมพำด้วยความรู้สึกซับซ้อน
“เขาสามารถทำสิ่งเดียวกับเทพอมตะบัวสวรรค์ได้จริงๆงั้นหรือ?” ผู้อมตะภาคกลางยังรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“ดูนั่น เขาหยุดเดินแล้ว เขายืนอยู่ที่นั่นแต่แม่น้ำหวนคืนกลับไม่กวาดเขาออกมา!” ซือเจิ้งอี้ชี้นิ้วและตะโกนเสียงดัง
ฟางหยวนปิดเปลือกตาลง เขาเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
วิญญาณอมตะดวงใหม่ก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์
มันก็คือวิญญาณอมตะความพยายาม!
มันเหมือนปิระมิดหินขนาดมหึมาที่ดูเหมือนน้ำทะเลไม่สามารถกัดเซาะมันได้แม้จะผ่านไปนับหมื่นปี มันเหมือนหินก้อนใหญ่ที่จะไม่สูญสลายตราบจนนิรันดร์
มันเป็นวิญญาณอมตะที่พิเศษมาก
เพราะในแง่ของขนาด มันเป็นวิญญาณอมตะที่ขนาดใหญ่โตที่สุดที่ฟางหยวนเคยเห็น
“วิญญาณอมตะระดับเจ็ด…”
ฟางหยวนสามารถบอกระดับของวิญญาณอมตะดวงนี้จากกลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมา
มันไม่ใช่วิญญาณอมตะระดับแปดหรือเก้า
แต่ฟางหยวนมีความสุขกับสิ่งนี้
การมีวิญญาณอมตะระดับสูงเกินไปไม่ใช่เรื่องดี นี่คือสิ่งที่ผู้อมตะทุกคนรู้
วิญญาณอมตะความพยายามระดับเจ็ดเหมาะสมกับการบ่มเพาะระดับเจ็ดของฟางหยวนมากที่สุด
‘สิ่งใดคืออาหารของวิญญาณความพยายาม แล้วมันสามารถทำสิ่งใด? ข้าจะใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร?’ คำถามปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน
เขายังไม่ได้คิดเพิ่มเติมและกลับมาสนใจโลกภายนอก
ด้านนอกแม่น้ำหวนคืนมีผู้อมตะระดับแปดสามคนกำลังรอโจมตีอยู่พร้อมกับผู้อมตะอีกมากมาย
‘ด้วยการครอบครองวิญญาณความพยายาม ข้าสามารถพิชิตแม่น้ำหวนคืนได้จริงๆ!’ ในไม่ช้าฟางหยวนก็ตระหนักว่าแม่น้ำหวนคืนเชื่อฟังเขาเหมือนสุนัขที่เขาเลี้ยง
แรงกดดันมหาศาลก่อนหน้านี้หายไปอย่างสมบูรณ์
ฟางหยวนยืนอยู่ที่นี่โดยไม่เคลื่อนไหวขณะที่แม่น้ำหวนคืนไม่ส่งผลกระทบต่อเขาอีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น ฟางหยวนยังพบว่าเขาสามารถใช้วิญญาณได้อย่างอิสระในแม่น้ำ เขายังสามารถเปิดมิติช่องว่างได้อย่างง่ายดาย
‘ดี!’ ฟางหยวนเริ่มรู้สึกตื่นเต้น เขาเก็บศพของหม่าหงหยุนไว้ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ
ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนก็เช่นกัน
ดวงวิญญาณของเขาบรรจุมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคเอาไว้ ฟางหยวนย่อมไม่ละเลยสิ่งนี้ ระหว่างการต่อสู้ในแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือ หม่าหงหยุนกับจ้าวเหลียนหยุนได้รับการคุ้มครองจากมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคและสามารถรอดชีวิต พวกเขาได้รับผลประโยชน์จากมัน
‘ตอนนี้ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนอยู่กับข้า โชคส่วนหนึ่งของเขาจะกลายเป็นของข้า น่าเสียดายที่จ้าวเหลียนหยุนมีวิญญาณแห่งความรัก ข้าไม่สามารถจับนางได้’
ในความคิดเห็นของฟางหยวน ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนมีค่ามากกว่า ร่างกายของเขาป็นเพียงวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณเท่านั้น
แต่ฟางหยวนยังขมวดคิ้วเล็กน้อย
หากเขาสามารถจับจ้าวเหลียนหยุน เขาอาจใช้นางเจรจากับกลุ่มผู้อมตะ
อย่างไรก็ตามจ้าวเหลียนหยุนได้รับความช่วยเหลือจากวิญญาณแห่งความรักและกลับไปหาไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางแล้ว
“หลิวกวนซื่อ ผู้ใดจะคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะทำให้เจ้ามีชื่อเสียง” เว่ยหลิงหยางถอนหายใจ
“ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” จ้าวเหลียนหยุนมองฟางหยวนและใช้วิญญาณตะโกนออกมาด้วยความเกลียดชัง
ความรักที่นางมีต่อหม่าหงหยุนกลายเป็นความเกลียดชังต่อฟางหยวน
“หลิวกวนซื่อ แม้เจ้าจะเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืน แล้วอย่างไร?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูเผยรอยยิ้มเย็นชา
“เด็กน้อย เจ้ามีความสามารถมาก แต่เจ้าฆ่าหม่าหงหยุน เจ้าทำให้ข้าล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน เดินออกมาจากแม่น้ำหวนคืนและรับความตายไปซะ ข้าจะไม่ทำให้เจ้ารู้สึกเจ็บปวด!” พังพอนหางสุนัขกล่าวด้วยท่าทางเหี้ยมโหด
‘บัดซบ!’ ฟางหยวนลอบกัดฟัน
เขากลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืน แต่สถานการณ์ของเขายังไม่ดีขึ้น
กล่าวได้ว่าเขาถูกขังอยู่ในแม่น้ำหวนคืน
แม้เขาจะสามารถหลอมรวมวิญญาณความพยายามและพิชิตแม่น้ำหวนคืน แต่เขาก็ไม่สามารถหลบหนี
‘ผู้อมตะระดับแปดสามคนรวมถึงผู้เชี่ยวชาญอีกมากมายและเจตจำนงสวรรค์…’ ฟางหยวนมองไปรอบๆ ตอนนี้เขากลายเป็นเป้าหมายของทุกคน
“ฮ่า!”
ปีศาจอมตะเซี่ยหูพ่นลมหายใจออกมาและส่งมวลอากาศเย็นพุ่งไปยังแม่น้ำหวนคืน
อย่างไรก็ตามมวลอากาศเย็นยังสะท้อนกลับไปหาเขา
ปีศาจอมตะเซี่ยหูหลบมันและหัวเราะ “หลิวกวนซื่อ เจ้าทำลายแผนการของข้า หากเจ้ายอมจำนนตอนนี้และมอบแม่น้ำหวนคืนให้ข้า ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า เจ้าสามารถเป็นทาสของข้า แต่หากเจ้ายังยืนกรานที่จะต่อต้านพวกเรา ข้าจะทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่สามารถตายแม้เจ้าจะต้องการตายก็ตาม!”
หลังกล่าวจบคำเขาก็พ่นลมหายใจออกมาอีกครั้ง
แม่น้ำหวนคืนยังสะท้อนการโจมตีทั้งหมดของเขากลับไปแต่ปีศาจอมตะเซี่ยหูยังสามารถหลบและกล่าวต่อ “หลิวกวนซื่อ อย่าคิดว่าจะสามารถใช้แม่น้ำหวนคืนป้องกันตัวได้ตลอดไป แม่น้ำหวนคืนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ แต่มันไม่สามารถคงอยู่ตลอดไป ในที่สุดแม่น้ำก็จะแห้งเหือดลง เมื่อเวลานั้นมาถึง เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”
ปีศาจอมตะเซี่ยหูยังโจมตีต่อไปขณะที่แม่น้ำหวนคืนเริ่มแสดงให้เห็นร่องรอยของการหดตัวลง
ฟางหยวนโต้แย้ง “ผู้อาวุโสเซี่ยหู ท่านเป็นผู้อมตะระดับแปดอันดับหนึ่งของภาคเหนือ แล้วท่านจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วผู้อมตะภาคกลางเป็นคนทำลายแผนการของท่าน นอกจากนี้ยังมีกับดักของถ้ำสวรรค์นิรันดร ข้าพึ่งมาถึงที่นี่เพราะเหตุบังเอิญ ท่านไม่สนใจศัตรูที่ยิ่งใหญ่เหล่านี้แต่มุ่งเป้ามาที่ตัวละครที่ไร้นัยสำคัญเช่นข้างั้นหรือ?”
ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ไป่เฉิงเทียนและเว่ยหลิงหยางเริ่มระวังตัวมากขึ้น พวกเขาถอยกลับไปเล็กน้อย
เหมาหลี่ชิวขมวดคิ้ว “เด็กผู้นี้เก่งเรื่องการหว่านความบาดหมาง”
ปีศาจอมตะเซี่ยหูรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “หลิวกวนซื่อ ดูเหมือนเจ้าจะลืมไปว่าแม่น้ำหวนคืนที่อยู่ใต้เท้าของเจ้าเป็นของข้า เจ้าขโมยแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพของข้า เจ้าเป็นศัตรูของข้า เจ้าทำให้หม่าหงหยุนตายและทำลายความหวังของข้า หากข้าไม่ฆ่าเจ้า ความโกรธของข้าจะไม่มีวันคลี่คลาย!”
ฟางหยวนเร่งโต้แย้ง “ผู้อาวุโสเซี่ยหู เราทั้งคู่ต่างเป็นคนเหนือ ท่ามกลางคนเหล่านี้ พังพอนหางสุนัขมาจากถ้ำสวรรค์นิรันดร ขณะที่ผู้อมตะภาคกลางทั้งหมดมาจากสิบนิกายโบราณหรือวังสวรรค์ พวกเขาต่างเป็นฝ่ายธรรมะ มีเพียงพวกเราที่อยู่บนเส้นทางสายปีศาจ ธรรมะและปีศาจไม่สามารถอยู่ร่วมโลก แต่พวกเราสามารถร่วมมือ”
“ถูกต้อง ข้ากลายเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนโดยบังเอิญ แต่เรายังสามารถร่วมมือ ข้าสามารถให้ท่านยืมแม่น้ำหวนคืน ด้วยความช่วยเหลือจากข้า แม่น้ำหวนคืนจะมีประโยชน์กับท่านมากขึ้น”
“ถูกต้อง ข้าทำให้หม่าหงหยุนตาย แต่ทุกคนรู้ว่าข้าไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขา ข้าเพียงจับเขาเบาๆ แล้วหม่าหงหยุนก็ตายด้วยตัวของเขาเอง เขาตายเพราะหมดแรงและสูญสิ้นพลังจิต เขาอยู่ในแม่น้ำหวนคืนนานเกินไป เขาอดทนต่อความทรมานจนเกินขีดจำกัดของตนเอง ความตายของเขาไม่เกี่ยวกับข้า แม้จะไม่มีข้า เขาก็ยังต้องตาย ข้าบังเอิญอยู่ที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้พวกท่านคิดว่าข้าจะสังหารเขาเพื่อทำให้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากจริงๆงั้นหรือ?”
“อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาตายไปแล้ว พลังอำนาจของวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์อาจหายไป ข้าเข้าใจได้ว่าท่านกำลังโกรธและต้องการระบายความโกรธ แต่ท่านต้องก้าวข้ามหมื่นภัยพิบัติ การข้าฆ่าเพื่อระบายความโกรธจะช่วยให้ท่านผ่านหมื่นภัยพิบัติไปได้งั้นหรือ?”
ฟางหยวนส่ายศีรษะก่อนกล่าวต่อ “ไม่เพียงเท่านั้น หมื่นภัยพิบัติของท่านอาจอันตรายมากขึ้นเพราะการคงอยู่ของแม่น้ำหวนคืน ท่านต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อระบายน้ำออกไป มิฉะนั้นท่านจะไม่สามารถหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์และเผชิญหน้ากับภัยพิบัติของท่าน!”
“ผู้อาวุโสเซี่ยหู ท่านมีครอบครัวแล้ว ท่านเป็นผู้ปกครองที่ยิ่งใหญ่ เป็นตัวตนอันดับหนึ่งของภาคเหนือ หากท่านตายในภัยพิบัติหรือได้รับบาดเจ็บสาหัส ศัตรูทั้งหมดของท่านและฝ่ายธรรมะไม่ว่าจะภาคเหนือหรือภาคกลางจะมีความสุข ในเวลาเดียวกันท่านหญิงหว่านซูก็จะเสียใจ”
“แม้แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะจะถูกทำลายและการหลอมรวมวิญญาณอมตะจะล้มเหลว ตราบเท่าที่ท่านยังอยู่ ท่านยังสามารถสร้างแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะขึ้นมาใหม่ หากท่านล้มเหลวในการหลอมรวม ท่านยังสามารถฉกฉวยทรัพยากรจากผู้อื่นและเริ่มหลอมรวมใหม่ได้อีกครั้ง”
“ผู้อมตะฝ่ายธรรมะเหล่านี้ล้วนมีเจตนาร้าย เราสามารถร่วมมือและจัดการพวกเขา!”
“ข้า หลิวกวนซื่อ เป็นสมาชิกฝ่ายปีศาจของภาคเหนือ ข้ายินดีที่จะให้ความร่วมมือกับท่านเพื่อบรรลุความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ของพวกเรา!”
ฟางหยวนกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ปีศาจอมตะเซี่ยหูรู้สึกว่าฟางหยวนไม่น่ารังเกียจอีกต่อไป
เพราะสิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นเรื่องจริง แม้ปีศาจอมตะเซี่ยหูจะโกรธ เขาก็ยังไม่สูญเสียเหตุผล นอกจากนี้ฟางหยวนยังพิจารณาถึงสถานการณ์ของเขาและวางตัวเขาเองไว้ในแผนการอีกด้วย
เห็นการแสดงออกของปีศาจอมตะเซี่ยหู เว่ยหลิงหยางและไป่เฉินเทียนเริ่มรู้สึกประหม่า ขณะที่เหมาหลี่ชิวรู้สึกขุ่นเคือง มันเผยเขี้ยวอันแหลมคมไปทางปีศาจอมตะเซี่ยหูโดยไม่แสดงความอ่อนแอออกมา
‘คนผู้นี้ยังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม!’ อิงอู๋เซี่ยรู้สึกผิดหวัง
หากเป็นก่อนหน้านี้ เขาอาจสนับสนุนปีศาจอมตะเซี่ยหูให้ร่วมมือกับฟางหยวน ท้ายที่สุดแล้วร่างทารกอมตะของฟางหยวนก็เป็นความพยายามนับแสนปีของนิกายเงา พวกเขาไม่สามารถสูญเสียมัน
แต่ตอนนี้หลังจากถูกไล่ล่าโดยฟางหยวนและเห็นเขาพิชิตแม่น้ำหวนคืน อิงอู๋เซี่ยจึงต้องระวังฟางหยวนมากขึ้นไปอีก
หากมีโอกาส อิงอู๋เซี่ยจะฆ่าฟางหยวนอย่างแน่นอน เขาต้องกำจัดศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวนี้!
แต่อิงอู๋เซี่ยไม่สามารถกล่าวสิ่งใดออกมาได้ในเวลานี้
ราชันภูเขาม่วงหลับสนิทอยู่ในมือของเขา
เมื่อมนุษย์จิ๋วผู้นี้ตื่นขึ้น เขาจะบ้าคลั่งเป็นครั้งคราว
ตอนนี้สิ่งที่อิงอู๋เซี่ยทำได้คืออยู่นิ่งๆเพื่อให้ทุกคนลืมการคงอยู่ของพวกเขา
นี่เป็นช่วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุดของนิกายเงา
ผู้อมตะภาคกลางก็เช่นกัน แม้พวกเขาจะได้ตัวจ้าวเหลียนหยุนกลับไป แต่พวกเขายังไม่กล้าล่าถอย มิฉะนั้นมันจะดึงดูดความสนใจและตกเป็นเป้าหมายของทุกคน
สถานการณ์กลายเป็นชะงักงัน
มันค่อนข้างแปลก
ปีศาจอมตะเซี่ยหู นิกายเงา ผู้อมตะภาคกลาง ถ้ำสวรรค์นิรันดร และฟางหยวน ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหว พวกเขากำลังพิจารณาในมุมมองของตนเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือไม่มีฝ่ายใดแข็งแกร่งพอที่จะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด
ทัศนคติของปีศาจอมตะเซี่ยหูเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้
ทุกคนมองไปที่เขา
ปีศาจอมตะเซี่ยหูครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเปิดปากกล่าวอย่างกะทันหัน “เอาล่ะ เราสามารถสร้างความร่วมมือ!”
ฟางหยวนมีความสุขมาก