เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1288

ตอนที่ 1288

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1288 ฝึกท่าไม้ตายใหม่

แปลโดย iPAT

ด้วยระดับความสำเร็จที่เพียงพอ ฟางหยวนสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

เพราะเขาใช้ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนเป็นรากฐาน ดังนั้นเขาจึงเรียกมันว่าหมื่นตัวตนรูปแบบที่สอง

แต่เนื่องจากท่าไม้ตายนี้พึ่งถูกสร้างขึ้น มันจึงยังห่างไกลจากการใช้งานจริง

“บึม บึม บึม…”

ปีศาจอมตะเซี่ยหูและพังพอนหางสุนัขเหมาหลี่ชิวยังโจมตีแม่น้ำหวนคืนอย่างไม่หยุดยั้ง การโจมตีนับไม่ถ้วนทำให้ระดับน้ำเริ่มลดลง

การเจรจาของฟางหยวนล้มเหลวไปแล้วแต่เขาไม่เต็มใจยอมรับความพ่ายแพ้ ดังนั้นปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิวจึงต้องการใช้พลังอำนาจของพวกเขาเพื่อสังหารฟางหยวน

ฟางหยวนมองแม่น้ำหวนคืนและคิด ‘ข้ายังมีเวลาอีกมาก’

หัวใจของเขาผ่อนคลายลง

แม่น้ำหวนคืนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ มันสามารถอดทนต่อการโจมตีของผู้อมตะระดับแปดทั้งสอง ในความเป็นจริงระดับน้ำพึ่งลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แน่นอนว่าอีกเหตุผลหนึ่งก็คือปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิวไม่ได้ใช้พลังอำนาจทั้งหมดออกมา

พวกเขายังต้องระวังซึ่งกันและกัน ขณะที่กลุ่มผู้อมตะภาคกลางรอโอกาสที่จะโจมตี คนเหล่านี้ต้องเฝ้าระวังกันเอง แล้วพวกเขาจะใช้พละกำลังทั้งหมดกับฟางหยวนได้อย่างไร?

มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างซับซ้อน นี่ทำให้แรงกดดันของฟางหยวนลดลงอย่างมากและสามารถทดสอบท่าไม้ตายใหม่ของเขาได้อย่างไม่รีบร้อน

ฟางหยวนระวังมากในการกระตุ้นใช้งานครั้งแรก

อันดับแรก วิญญาณความพยายาม ฟางหยวนส่งลูกพลัมแดงอมตะให้มันเพื่อให้เขาสามารถเคลื่อนไหวในแม่น้ำหวนคืนได้อย่างอิสระ

ครู่ต่อมา วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากที่อยู่ในมิติช่องว่างของเขาบินขึ้นสู่อากาศและปลดปล่อยแสงสีฟ้าออกมา

ในไม้ช้าแสงสีฟ้าก็เปลี่ยนเป็นแสงสีแดงและเริ่มอุ่นขึ้น

‘ข้าล้มเหลว’ ฟางหยวนหยุดทันที

ฉากตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

เขาหยุดใช้จ่ายพลังงานอมตะ วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากถูกทำลายทันที

แต่ฟางหยวนยังสงบนิ่งและเริ่มคิด

ตามแผนของเขา แสงสีฟ้าควรจะเย็นลงไม่ใช่อุ่นขึ้น

ฟางหยวนอนุมานและพบที่มาของปัญหาในที่สุด

นั่นเป็นเพราะเขาใช้วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีสองประเภทที่ขัดแย้งกัน

ฟางหยวนเปลี่ยนหนึ่งในนั้น สำหรับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารี เขาสามารถซื้อจากสวรรค์สีเหลืองได้อย่างง่ายดาย

หลังจากแก้ไขท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนทดลองเป็นครั้งที่สอง

วิญญาณอมตะความพยายามถูกกระตุ้นใช้งานขณะที่วิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งวารีจำนวนมากบินอยู่รอบๆ

เมื่อแสงสีฟ้าส่องประกายขึ้น ฟางหยวนกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดึงแม่น้ำระดับหกเป็นแกนกลางดวงที่สองของท่าไม้ตาย

แน่นอนว่าแกนกลางดวงแรกคือวิญญาณอมตะความพยายามระดับเจ็ด

ฟางหยวนระวังมาก หากผิดพลาด วิญญาณอมตะทั้งสองดวงอาจได้รับบาดเจ็บหรือกระทั่งถูกทำลาย

เขาพยายามอย่างหนักแต่ยังพบปัญหาความขัดแย้งระหว่างวิญญาณอมตะ

‘ปัญหานี้เกิดจากสิ่งใด?’

ฟางหยวนหยุดและทำให้วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากถูกทำลาย

การทดลองท่าไม้ตายอมตะมีราคาที่ต้องจ่าย

ท่าไม้ตายอมตะที่สมบูรณ์แบบต้องมีประสิทธิภาพและผ่านการทดลองซ้ำแล้วซ้ำอีก

การโจมตีจากภายนอกยังพุ่งเข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่ฟางหยวนเพิกเฉยต่อพวกมันอย่างสิ้นเชิง ด้วยร่างทารกอมตะ กลุ่มก้อนความคิดถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งชนกันอย่างต่อเนื่อง

ด้วยความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา การอนุมานของเขาจึงรวดเร็วมาก

ในเวลาไม่กี่ลมหายใจฟางหยวนก็พบปัญหา

วิญญาณอมตะความพยายามและวิญญาณอมตะดึงแม่น้ำเป็นวิญญาณบนเส้นทางที่แตกต่าง ดังนั้นวิญญาณระดับมนุษย์จึงต้องเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างวิญญาณอมตะทั้งสอง

ฟางหยวนคิดและปรับเปลี่ยนวิญญาณระดับมนุษย์บางส่วน

จากนั้นเขาก็ทดลองเป็นครั้งที่สาม

ครั้งนี้มันราบรื่นมาก เขาประสบความสำเร็จในการนำวิญญาณอมตะดึงแม่น้ำเข้าสู่ท่าไม้ตายอมตะ

คลื่นค่อยๆก่อตัวขึ้นในแม่น้ำหวนคืน

ในที่สุดมันก็เริ่มทำงาน!

แต่เขายังห่างไกลจากเป้าหมาย

ฟางหยวนไม่ได้หยุดพัก เขาไม่สามารถทิ้งเวลาแม้แต่วินาทีเดียวในสถานการณ์นี้ เขายังทดลองต่อไป

“หลิวกวนซื่อกำลังทำสิ่งใด?”

“กลิ่นอายวิญญาณปะทุออกมาจากร่างของเขาเป็นครั้งคราว ดูเหมือนเขากำลังทดสอบท่าไม้ตายอมตะ?”

นอกจากปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิว ผู้อมตะคนอื่นๆกำลังเฝ้ามองอยู่อย่างตั้งใจ

ทุกครั้งที่ฟางหยวนทดสอบท่าไม้ตายอมตะ กลิ่นอายของวิญญาณจะรั่วไหลออกมาและไม่สามารถปกปิด

หากเขาต้องการปกปิดกลิ่นอายเหล่านั้น เขาต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะบางอย่าง

ท่าไม้ตายอมตะประเภทนี้หายากมาก มันเหมือนกับท่าไม้ตายอมตะลอบสังหารในความมืดของฟางหยวน

ตอนนี้ฟางหยวนกำลังทำงานอย่างหนัก เขาไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องการปกปิดกลิ่นอายของวิญญาณ

แต่มันไม่สำคัญ

เพียงกลิ่นอายของวิญญาณไม่สามารถระบุประเภทของวิญญาณเหล่านั้น

นอกจากนี้มันยังเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนและใช้วิญญาณจำนวนมาก เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ชมจะค้นพบบางสิ่ง

ฟางหยวนทดลองต่อไป

ครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้า…

เขาต้องปรับเปลี่ยนหลายสิ่งแต่เขาไม่รู้สึกหดหู่ใจ เขาพยายามต่อไปโดยไม่เผยความรู้สึกใดๆออกมา

“เขากำลังทดสอบท่าไม้ตายอมตะจริงๆ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า หลิวกวนซื่อเป็นเพียงคนงี่เง่างั้นหรือ? สร้างท่าไม้ตายอมตะอย่างกะทันหัน เขาคิดว่าเขาเป็นเทพอมตะหรือเทพปีศาจงั้นหรือ?”

“แม้เขาจะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะ แต่ข้าอยากดูนักว่าเขาจะใช้มันจัดการพวกเราอย่างไร?”

ผู้อมตะที่เฝ้าดูอยู่เย้ยหยัน

หากการสร้างท่าไม้ตายอมตะเป็นเรื่องง่าย พวกมันยังจะเรียกว่าท่าไม้ตายอมตะอีกหรือไม่?

แต่ในไม่ช้าการแสดงออกของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป

พวกเขาพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นในแม่น้ำหวนคืน

‘ครั้งที่ยี่สิบเอ็ด’

ฟางหยวนใช้มือจับแม่น้ำที่อยู่ใต้เท้า

“ขึ้นมา!” เขาพึมพำเบาๆ

“ครืน…”

บอลวารีลอยขึ้นจากแม่น้ำหวนคืนก่อนจะระเบิดกระจัดกระจายออกไป

ท่าไม้ตายล้มเหลว!

เลือดไหลออกมาจากจมูกของฟางหยวน

“ท่าไม้ตายอมตะของเขาส่งผลกระทบต่อแม่น้ำหวนคืน?” ดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือส่องประกายขึ้น

“ไม่ กล่าวให้ถูกคือเขาใช้แม่น้ำหวนคืนเพื่อสร้างท่าไม้ตายอมตะ!” ปู้เจิ้งซือกล่าว

“ฮืม น่าขัน!” ผู้อมตะดำเผยรอยยิ้มเย็นชา “เมื่อข้าสร้างค่ายกลวิญญาณโดยหยิบยืมพลังอำนาจของแม่น้ำหวนคืน ข้าต้องใช้เวลาคิดและทดลองหลายปี หลิวกวนซื่อ แม้เจ้าจะเป็นเจ้าของแม่น้ำหวนคืนก็อย่ายโสให้มากนัก เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถใช้มันสร้างท่าไม้ตายอมตะได้ในระยะเวลาสั้นๆงั้นหรือ?”

เห็นได้ชัดว่าไม่มีผู้อมตะคนใดที่คิดว่าฟางหยวนจะประสบความสำเร็จ

แต่ในไม่ช้าฟางหยวนก็เริ่มการทดลองอีกครั้ง

“ครืน…”

ครั้งนี้แม่น้ำลอยขึ้นมาราวกับเนินเขาเล็กๆก่อนที่มันพังทลายลง

ใบหน้าของฟางหยวนกลายเป็นซีดขาว ร่างกายของเขาสั่นสะท้านขึ้น เลือดไหลออกมาจากจมูกและรูหูของเขา

‘ข้าล้มเหลวอีกครั้ง บุรุษคนก่อนหน้า!’ ในเวลาต่อมา ฟางหยวนก็กลับสู่สภาพปกติ

‘ข้าควรหาสาเหตุของความล้มเหลว ดูเหมือนจะมีปัญหาเล็กๆเกิดขึ้นในจุดเชื่อมต่อสุดท้าย…’ ฟางหยวนครุ่นคิดอย่างหนัก

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท