เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1291

ตอนที่ 1291

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1291 ทรัพย์สินมหาศาล

แปลโดย iPAT

ในขณะที่หลบเลี่ยงการอนุมาน ฟางหยวนตรวจสอบมิติช่องว่างของตน

เก้าชั้นฟ้าห้าภูมิภาค

ขนาดของมันช่างน่าเหลือเชื่อและเกินสามัญสำนึกของผู้คนบนโลกใบนี้

นอกจากนั้นเขายังกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้ามามากมายทำให้พื้นที่ของมิติช่องว่างขยายใหญ่ขึ้นไปอีก

พื้นที่ที่ถูกกลืนกินเข้ามาได้รับการดูแลโดยจิตวิญญาณแผ่นดิน มันช่วยให้ฟางหยวนสามารถประหยัดความพยายามไปได้มาก

‘มิติช่องว่างของข้ามีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ผู้อมตะทั่วไปพยายามที่จะขยายขนาดมิติช่องว่างของพวกเขา แต่ข้ากลับมีพื้นที่มากเกินกว่าที่จะสามารถพัฒนา’

ฟางหยวนพอใจกับสิ่งนี้

อย่างไรก็ตามพิจารณาในแง่ของเวลา ก่อนหน้านี้เวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิเดินเร็วกว่าโลกภายนอกหกสิบเท่า แต่ตอนนี้มันกระทั่งต่ำกว่ามาตรฐานปกติ

นี่เป็นเพราะเขาเปลี่ยนวิธีบ่มเพาะและต้องการชะลอภัยพิบัติโดยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของไห่ฟาน

แต่ด้วยเวลาที่เดินช้าลง มันจึงผลิตพลังงานอมตะและทรัพยากรต่างๆให้ฟางหยวนได้น้อยลง

ในภาคกลางน้อยมีป่าเห็ดหลินจือโลหิตและต้นหลิวกระจก นอกจากนั้นยังมีถ้ำแสงมรกตที่ฟางหยวนปล้นชิงมาจากเผ่าหลิว

ถ้ำแสงมรกตสามารถให้กำเนิดวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งแสงแต่แน่นอนว่ามันไม่สามารถเปรียบเทียบกับถ้ำแสงมรกตที่แท้จริงเพราะพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่างกัน

ท่ามกลางภูมิภาคทั้งห้า ภาคกลางน้อยมีทรัพยากรอยู่น้อยที่สุด

สำหรับภาคเหนือน้อย มันมีทรัพยากรมากขึ้นเล็กน้อย พื้นที่ส่วนใหญ่ของมันกลายเป็นทุ่งน้ำแข็งแต่มันไม่มีสิ่งใดโดดเด่น

ใกล้กับทะเลตะวันออกน้อย มีชายหาดน้ำตื่นที่มีจิตวิญญาณแผ่นดินอสรพิษแดงชมพูอาศัยอยู่

มันเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงตงฮัน

ใกล้กับทะเลทรายตะวันตกน้อยมีสุสานกระดูก

มันเต็มไปด้วยกองกระดูกที่ฟางหยวนนำมาจากเผ่าหลิวหลังจากสังหารผู้อมตะหลิวหยง

‘แต่หากเปรียบเทียบกับสุสานกระดูกดั้งเดิม สุสานกระดูกของข้ามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกระดูกอยู่ไม่มาก มันไม่เหมือนกับสุสานกระดูกของเผ่าหลิวที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋า พวกเขาสามารถสร้างสุสานกระดูกขึ้นมาอีกครั้ง’

ฟางหยวนเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน

แน่นอนว่าฟางหยวนเก็บเกี่ยวส่วนสำคัญที่สุดมาแปดสิบส่วน อีกยี่สิบส่วนที่เหลือคือภูมิประเทศ แต่หากพวกเขาต้องการกู้คืนสุสานกระดูก พวกเขายังต้องใช้จ่ายทรัพยากรจำนวนมาก

ใกล้กับภาคกลางน้อย

ที่นี่เป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ป่า มันมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์ไป่หู

ที่นี่มีฝูงกระต่ายสีชมพู ฝูงจิ้งจอก ฝูงหมาป่า หมาป่าครีบฉลามเดียวดาย และแกะเขาเดี่ยวเดียวดายอาศัยอยู่

ภาคตะวันตกน้อยมีอุณหภูมิสูง

มันเป็นทะเลทราบที่เต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งไฟ

มีสามแหล่งทรัพยากรสำคัญอยู่ที่นี่

หนึ่งคืออสรพิษเพลิง

สองคือหาดทรายนางนวล มันเคยเป็นอาหารของวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชค

แต่ฟางหยวนสูญเสียวิญญาณอมตะเชื่อมโยงโชคไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถขายมันออกไปเท่านั้น

ตรงกลางหาดทรายนางนวลยังมีไข่ที่ตายแล้วของนกนางนวลทะเลทราย ไข่ขาวที่ไหลออกมาจากรอยแตกของเปลือกไข่จะเปลี่ยนพื้นที่รอบๆให้เป็นหาดทรายนางนวล

สามคือบึงทมิฬ ฟางหยวนได้รับสิ่งนี้มาจากการก้าวข้ามภัยพิบัติ มันเต็มไปด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งความมืด มันสามารถสร้างวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งความมืด แต่เนื่องจากมันพึ่งถือกำเนิดขึ้น ผลผลิตของมันจึงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

นอกจากแหล่งทรัพยากรทั้งสาม ยังมีแดนศักดิ์สิทธิ์อีกสองแห่งที่ฟางหยวนกลืนกินเข้ามา

หนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งปฐพี มันเหมือนบึงทมิฬที่เต็มไปด้วยบ่อโคลน มีอสูรโคลนเดียวดายอยู่ที่นี่ห้าตัวและมีวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปฐพีทุกชนิด มันอยู่ภายใต้การควบคุมของจิตวิญญาณแผ่นดินมนุษย์โคลนตัวเล็ก

อีกหนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งทาสของหลิวหยง มีสัตว์อสูรเดียวดายอยู่ที่นี่มากกว่ายี่สิบตัว พวกมันล้วนเป็นสัตว์อสูรที่ถูกซื้อมาจากสวรรค์สีเหลืองโดยฟางหยวน นี่เป็นเพราะเงื่อนไขในการเป็นเจ้าของคนใหม่ของมันคือสัตว์อสูรเดียวดายประเภทสุนัขจำนวนยี่สิบตัว ท่ามกลางพวกมันมีสุนัขเกราะกระดูกหกตัว จิตวิญญาณแผ่นดินสุนัขสีดำเป็นผู้จัดการพื้นที่ส่วนนี้

สำหรับทะเลตะวันออกน้อย มันคล้ายกับทะเลทรายตะวันตกน้อย

มีแดนศักดิ์สิทธิ์ของวูอี้ไห่อยู่ที่นี่

มีสัตว์อสูรบรรพกาลสามตัวได้แก่เต่าศักดิ์สิทธิ์ ปะการังอสูรบรรพกาล และนกนางนวลสีฟ้า พวกมันได้รับการดูแลโดยจิตวิญญาณแผ่นดินเต่าทะเล

นอกจากนี้ยังมีฝูงปลามังกร ฝูงปลาฟองอากาศ ฝูงปลาคราฟศิลปิน และหอยนางรมห้องลับ

มีบ่อโลหิตและสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งเลือด วิญญาณอมตะสมบัติเลือดเคยรักษาตัวอยู่ที่นี่มาก่อน

แม้วิญญาณอมตะสมบัติเลือดจะฟื้นตัวขึ้นอย่างเต็มที่แล้วแต่บ่อเลือดแห่งนี้ยังอยู่

ในภูมิภาคทั้งห้า ภาคใต้น้อยมีทรัพยากรอยู่มากที่สุด

ตั้งแต่ภูเขาแสงห้าสี ภูเขามรดกอมตะ ภูเขาผนึกสวรรค์ และอื่นๆ

มีฝูงแมงมุมหน้าคน เผ่ามนุษย์หิน ป่าต้นไม้ดนตรี แม่น้ำชา วิหคปราณมรณะ และอื่นๆ

สำหรับสวรรค์ทั้งเก้า

สวรรค์สีส้มน้อยมีธารแสงที่ขยายใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้า

สวรรค์สีเหลืองน้อยมีแม่น้ำทองคำ

สวรรค์สีฟ้ามีธูปสีฟ้าและทะเลสาปที่ใช้เก็บคริสตัลสวรรค์จากถ้ำสวรรค์ไห่ฟานแต่ตอนนี้มันยังไม่ได้ใช้ประโยชน์

สวรรค์สีดำน้อยมีต้นไม้กินเนื้อ

สวรรค์สีขาวมีทุ่งดอกไม้หลากสี สุนัขสวรรค์บรรพกาลสามตัว สุนัขอินทรีย์บรรพกาลหนึ่งตัว และสุนัขอินทรีย์เดียวดายอีกเจ็ดตัว

สวรรค์สีม่วงน้อยเป็นที่อยู่ของอินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุด มีรังอินทรีย์มากกว่าแปดสิบรังอยู่ที่นี่

สวรรค์สีน้ำเงินมีดินเมฆจำนวนมาก บนดินเมฆเป็นป่าไผ่ลูกศร ทุ่งหญ้าสะเก็ดดาว และสุนัขดาวตกเพลิง

นอกจากนี้ยังมีหลุมอุกกาบาตที่สามารถผลิตวิญญาณดาวตก หลังจากสังหารเย่หลิวชุนซิงและได้รับแดนศักดิ์สิทธิ์ของเขา มันกลายเป็นเกาะสวรรค์ลอยอยู่ที่นี่ภายใต้การดูแลของจิตวิญญาณแผ่นดินดวงดาว

นอกจากนี้ยังมีแดนศักดิ์สิทธิ์กระจัดกระจายอยู่รอบๆรวมถึงสัตว์อสูรและพืชอสูรอีกมากมายที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงรายละเอียด

สำหรับภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป พวกมันยังอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

แม่น้ำหวนคืนถูกวางไว้ในทะเลตะวันออกน้อยเป็นการชั่วคราว

สำหรับวิญญาณ

วิญญาณสติปัญญาระดับเก้าอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา

วิญญาณอมตะระดับแปด วิญญาณทัศนคติ วิญญาณดาบแห่งปัญญา วิญญาณปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ

วิญญาณอมตะระดับเจ็ด วิญญาณคิ้วดาบ วิญญาณคลื่นดาบ วิญญาณดาบบิน วิญญาณดาบทะลวงมิติ วิญญาณเรียกภัยพิบัติ (อยู่กับชูตู๋) วิญญาณปี วิญญาณลมหายใจมังกร วิญญาณความใคร่ วิญญาณความพยายาม

วิญญาณอมตะระดับหก วิญญาณคลี่คลายปริศนา วิญญาณหัวใจหญิงงาม วิญญาณสมบัติเลือด วิญญาณขีดจำกัดความมืด วิญญาณโชคอึสุนัข วิญญาณเปลี่ยนรูปลักษณ์ วิญญาณความแข็งแกร่งของพลังปราณ วิญญาณความแข็งแกร่งของตนเอง วิญญาณความแข็งแกร่งของหมีบิน วิญญาณยกภูเขา วิญญาณดึงแม่น้ำ วิญญาณพื้นที่ก่อนหน้า วิญญาณบุรุษคนก่อนหน้า วิญญาณเนตรดารา วิญญาณกาลเวลา (ถูกผนึกอยู่ในร่างผีดิบอมตะ) วิญญาณหนามกระดูก วิญญาณสัมผัสแห่งเต๋า

วิญญาณระดับมนุษย์มีมากเกินไปและไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง

ในแง่ของเชลย มีฟางเจิ้ง (อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา) ไห่เจิ้ง (ยังมีชีวิตอยู่) ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุน ดวงวิญญาณของหลิวหยง ดวงวิญญาณของเย่หลิวชุนซิง สำหรับดวงวิญญาณของซื่อหนิว ฟางหยวนไม่สามารถจับมันเพราะมันทำลายตนเองทันที

สำหรับดวงวิญญาณอื่นๆ พวกมันถูกขายให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไปแล้ว

นอกจากนี้ทาสอมตะเผ่ามนุษย์ขนจ้าวจงถูกส่งไปยังทะเลทรายตะวันตกสำหรับแผนการใหม่ของฟางหยวน

ทรัพย์สินมหาศาล!

นี่เป็นสิ่งที่ฟางหยวนมีอยู่ในปัจจุบัน

แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดแต่เขาสามารถแข่งขันกับผู้อมตะระดับแปด

เพียงแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพอย่างเดียวก็มีค่าอย่างไม่น่าเชื่อแล้ว แต่ฟางหยวนยังมีวิญญาณอมตะอีกมากมายจนน่าตกใจ

พิจารณาจากไห่ฟาน แม้เขาจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่เขามีวิญญาณอมตะกี่ดวง?

วิญญาณอมตะเป็นภาระสำหรับผู้อมตะ

ฟางหยวนยังอยู่ในขั้นตอนจัดหาอาหารให้กับพวกมัน

วิญญาณความพยายามกินแม่น้ำหวนคืนเป็นอาหาร นี่ช่วยแบ่งเบาภาระของฟางหยวนไปได้มาก วิญญาณความใคร่กินสิ่งเดียวกับวิญญาณแห่งความรัก นั่นคือความหวังและความหวาดกลัว ฟางหยวนสามารถแก้ปัญานี้ด้วยการซื้อวิญญาณแห่งความหวังและวิญญาณความหวาดกลัวมาจากสวรรค์สีเหลือง

สำหรับฟางหยวน การพัฒนามิติช่องว่างยังไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุดในเวลานี้

ตราบเท่าที่เขาสังหารผู้อมตะและกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา รากฐานของมิติช่องว่างจักรพรรดิจะเติบโตขึ้นต่อไป

แต่เขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาพลังงานอมตะที่ไม่เพียงพอ

การไล่ล่าอิงอู๋เซี่ย การต่อสู้ในแม่น้ำหวนคืน และการหลบหนีจากเหมาหลี่ชิวทำให้ฟางหยวนสูญเสียพลังงานอมตะไปมากมาย

นี่ทำให้คลังเก็บลูกพลัมแดงอมตะของเขาอยู่ในสภาวะวิกฤต

‘เดิมทีมิติช่องว่างของข้าสามารถผลิตลูกพลัมแดงอมตะได้มากมายในหนึ่งวัน’

‘แต่หลังจากใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาชะลอเวลาในมิติช่องว่าง ข้าสามารถเติมเต็มพลังงานอมตะด้วยการทำธุรกรรมเท่านั้น’

ขณะพักผ่อน เขาขายซากสัตว์อสูรทั้งหมดในสวรรค์สีเหลือง

มันเป็นซากสัตว์อสูรที่ฟางหยวนเก็บเกี่ยวระหว่างการไล่ล่าอิงอู๋เซี่ยที่โลกใต้บาดาลของภาคเหนือ

ท่ามกลางซากศพเหล่านี้มีม้าอสูรฝันร้ายรวมอยู่ด้วย หากเขาขายพวกมันในสวรรค์สีเหลือง ผู้คนจะต่อสู้เพื่อพวกมัน

แต่ฟางหยวนเลือกที่จะเก็บพวกมันเอาไว้กับตัว เขามีวิธีใช้งานพวกมันที่ดีกว่าการขายออกไป

หลังจากพักผ่อน เขายังทำธุรกรรมอีกหลายอย่างและสามารถสะสมหินวิญญาณอมตะได้เป็นจำนวนมาก

หินวิญญาณอมตะหนึ่งก้อนสามารถเปลี่ยนเป็นองุ่นเขียวอมตะหนึ่งผล

ฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาต้องใช้องุ่นเขียวอมตะหนึ่งร้อยผลเพื่อเปลี่ยนเป็นลูกพลัมแดงอมตะหนึ่งผล

ขณะที่เขากำลังเต็มลูกพลัมแดงอมตะ เขาได้รับข้อมูลบางอย่าง

“จดหมายจากผมที่หก?”

ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

หลังจากตรวจสอบ เขายิ่งตกใจมากขึ้น “นิกายเงาต้องการเจรจาสงบศึกกับข้า? พวกเขาต้องการทำงานร่วมกับข้าด้วยงั้นหรือ?”

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท