เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1297

ตอนที่ 1297

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1297 เต่าพยากรณ์

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนต้องการแสง

เขาต้องการสร้างธารแสงเพื่อเป็นแหล่งอาหารของวิญญาณทัศนคติ

แม้ราเรืองแสงจะเป็นพืชอสูรเดียวดายและไม่เหมือนผลไม้ธารแสง

แต่มนุษย์มีสติปัญญา พวกเขาสามารถดัดแปลง

ดังนั้นหากฟางหยวนได้รับราเรืองแสง เขาอาจใช้มันสร้างธารแสงได้ในอนาคต

นอกเหนือจากวิญญาณทัศนคติ ยังมีวิญญาณดาบแห่งปัญญา

วิญญาณดาบแห่งปัญญากินดอกไม้หลากสี

หากฟางหยวนต้องการเพาะปลูกดอกไม้หลากสีปริมาณมาก เขาจำเป็นต้องบรรลุเงื่อนไขสามประการ แสงสว่าง กลิ่นหอมหวาน และดินมุก

สองข้อหลังไม่ใช่เรื่องยาก แต่แสงสว่างไม่ใช่เรื่องง่าย

มิติช่องว่างของฟางหวนมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงอยู่ไม่มาก แม้เขาจะเคยกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งแสงเข้าไป แต่มันยังห่างไกลจากเป้าหมายของเขา

ในทางตรงข้าม หากมีราเรืองแสง มันจะช่วยแก้ปัญหานี้

แต่ยังมีปัญหาอื่น

ราเรืองแสงเติบโตในทะเลน้ำลึก พวกมันจะอยู่รอดในสภาพแวดล้อมอื่นหรือไม่?

‘นี่ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะราเรืองแสงเป็นพืชอสูรเดียวดาย’

‘สำหรับธารแสง ข้าสามารถมองข้ามมันไปก่อน เนื่องจากทรัพยากรจากถ้ำแสงมรกตของเผ่าหลิวช่วยมันได้มาก แม้มันจะยังไม่ถึงมาตรฐานที่กำหนดก็ตาม’

‘สำหรับทุ่งดอกไม้หลากสี ข้ายังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงไม่พอที่จะเพาะเลี้ยงพวกมัน’

‘โอ้ ถูกต้อง ข้ามีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ในช่วงเวลาสำคัญข้าสามารถเปลี่ยนพวกมันให้เป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งแสงได้ชั่วคราว’

ขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดเรื่องเหล่านี้ ตงฮัวกล่าวต่อ “ข้าต้องการแลกเปลี่ยนราเรืองแสงเหล่านี้กับช้างน้ำสามตัว”

ผู้อมตะบางคนตอบ “ข้ามีช้างน้ำอยู่บ้าง เจ้าต้องการกี่ชั้น?”

ช้างน้ำเป็นสัตว์อสูรชนิดพิเศษของทะเลตะวันออก พวกมันมีงาสีขาวและผิวสีน้ำเงิน บนแผ่นหลังของพวกมันมีโครงกระดูกสีน้ำเงินยื่นออกมาและดูเหมือนอาคารสองชั้น สามชั้น หรือมากกว่านั้น

ช้างน้ำหกชั้นเป็นสัตว์อสูรเดียวดาย ช้างน้ำเจ็ดชั้นเป็นสัตว์อสูรบรรพกาล ช้างน้ำแปดชั้นเป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด ช้างน้ำเก้าชั้นไม่ปรากฏ

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ พืช หรือมนุษย์กลายพันธุ์ พวกมันไม่สามารถบรรลุสู่ระดับเก้า มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถบรรลุเป็นผู้อมตะระดับเก้า

ตงฮัวบอกปริมาณราเรืองแสงของนางและต้องการแลกกับช้างน้ำหกชั้นจำนวนสามตัว

ราคานี้ไม่แพง มันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

แต่ผู้อมตะผู้นั้นยังขมวดคิ้ว “ข้ามีช้างน้ำหกชั้นเพียงตัวเดียว ราเรืองแสงของเจ้าสามารถแบ่งขายหรือไม่? หรือมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการอีกหรือไม่?”

ตงฮัวลังเล

เขาอาจไม่ได้กล่าวความจริง

แต่หลังจากพิจารณา ตงฮัวพยักหน้า “เช่นนั้นเรามาแลกเปลี่ยนกัน”

ดังนั้นธุรกรรมแรกจึงลุล่วงไปอย่างรวดเร็ว

“ข้าอยากได้ราเรืองแสงแต่ไม่มีช้างน้ำ ท่านรับหินวิญญาณอมตะหรือไม่?” ฟางหยวนถาม

ตงฮัวส่ายศีรษะแต่นางไม่ได้ปฏิเสธทั้งหมด “ข้าจะขายราเรืองแสงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าสามารถไปซื้อที่นั่น”

ในความเป็นจริงผู้อมตะของทะเลตะวันออกส่วนใหญ่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งวารี

ราเรืองแสงเหมาะสมกับผู้อมตะของทะเลตะวันออกเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับมิติช่องว่างของวูอี้ไห่ มิติช่องว่างของเขาเป็นทะเล

ตงฮัวค้นพบทรัพยากรชนิดใหม่ นางจะทำกำไรได้อย่างมากจากสิ่งนี้

สำหรับหินวิญญาณอมตะ นางไม่ต้องการเพราะนางยังไม่รู้ราคาตลาด

ดังนั้นนางจึงปฏิเสธฟางหยวนโดยไม่ลังเล จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากราเรืองแสงได้รับความนิยมในสวรรค์สีเหลือง หากนางขายมันตอนนี้ นางจะไม่ขาดทุนงั้นหรือ?

แต่หากนางขายในราคาสูงเกินไป อีกฝ่ายจะไม่แลกเปลี่ยนกับนาง สวรรค์สีเหลืองเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการทดลองตลาด

ตงฮัวไม่ต้องการขาย ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่สามารถทำสิ่งใด

แต่เขาเข้าใจนาง

นี่เป็นพืชอสูรเดียวดาย นางสามารถเพิ่มราคาของมันได้ในภายหลัง

โดยเฉพาะเมื่อมีเพียงตงฮันเพียงผู้เดียวที่ครอบครองมัน

หากเป็นฟางหยวน เขาจะเพิ่มราคาตั้งแต่แรกเพื่อทำกำไร

ราเรืองแสงเป็นพืชอสูรเดียวดายระดับหก เมื่อมันอยู่ในตลาดนานพอ ผู้คนจะค้นคว้าเกี่ยวกับมันและจะทำให้การผูกขาดของตงฮันพังทลายลงในที่สุด

ท้ายที่สุดแล้วทะเลตะวันออก็มีขนาดใหญ่โตมาก ราเรืองแสงไม่ได้เติบโตขึ้นในสถานที่เดียว

หลังจากทำวิจัย ผู้อมตะจะใช้วิธีการพิเศษของพวกเขาเพื่อค้นหามัน

เมื่อเวลานั้นมาถึง ตงฮัวจะถูกโค่นล้ม

ต่อมาผู้อมตะคนที่สองขึ้นไปบนแท่น

นี่คือกฎของงานประชุมการค้า

ในแต่ละรอบผู้อมตะจะออกไปตามลำดับที่ได้รับการตัดสินมาก่อนหน้า พวกเขาจะสามารถเสนอขายสินค้าได้รอบละชิ้นเท่านั้น

นี่เพื่อความยุติธรรม

สำหรับฟางหยวน สมาชิกใหม่ของกลุ่ม เขาจะเป็นคนสุดท้าย

“นี่คือหินไขกระดูก ทรัพยากรอมตะระดับเจ็ด ข้าต้องการไม้ลอยน้ำพันปี” ผู้อมตะคนที่สองบอกความต้องการของตนเองอย่างรวดเร็ว

หินไขกระดูกเหมือนหินชายหาดทั่วไป แต่เมื่อรูปแบบชีวิตเข้าไปใกล้ พวกมันจะถูกดูดเข้าไปข้างใน

ดังนั้นหินไขกระดูกจึงถูกเรียกว่าหินปีศาจ

ชื่อหินปีศาจถูกเรียกโดยเผ่าเงือก

เงือกเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ชนิดหนึ่ง พวกมันอาศัยอยู่ในทะเลตะวันออก

เมื่อเงือกพบหินไขกระดูก พวกมันจะได้รับความทุกข์ทรมานจากหินเหล่านั้น

อย่างไรก็ตามมีเงือกบางกลุ่มปฏิบัติต่อหินปีศาจราวกับเทพเจ้าและบูชาพวกมัน

แต่สำหรับผู้อมตะ หินไขกระดูกเป็นเพียงวัสดุในการหลอมรวมวิญญาณ

ธุรกรรมนี้ประสบความสำเร็จเช่นกัน

ไม้ลอยน้ำพันปีอาจหาได้ยากในท้องตลาด แต่ผู้อมตะทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนมีฐานะร่ำรวย มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่สามารถสร้างงานประชุมการค้าเช่นนี้

กล่าวได้ว่าการรวมตัวของผู้อมตะกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่หาได้ยากของทะเลตะวันออก

คนที่สามที่ออกไปคือถูเทาเทา

“ข้ามีราชินีคางคกอสูรบรรพกาล มันสามารถออกคำสั่งคางคกระดับหกและต่ำกว่า หากเลี้ยงมันได้ดี มันจะสามารถสร้างวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งทาส มีผู้ใดสนใจหรือไม่?”

ราชินีคางคกอสูรบรรพกาลเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางแห่งทาส

แต่ธุรกรรมของถูเทาเทาล้มเหลว

ต่อไปเป็นผู้อมตะคนที่สี่ “ข้ากำลังหาเบาะแสเกี่ยวกับทะเลปราณ หากผู้ใดมีข้อมูลเกี่ยวกับมัน ข้ายินดีจ่ายด้วยข้อมูลที่มีมูลค่าใกล้เคียงกัน”

นี่เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล แต่กลุ่มผู้อมตะยังนิ่งเฉย

ธุรกรรมนี้ล้มเหลวเช่นกัน

ทะเลปราณเป็นสถานที่พิเศษและลึกลับมากในทะเลตะวันออก

ผู้อมตะบางคนอาจไม่รู้หรือบางคนอาจรู้แต่ไม่ต้องการแลกเปลี่ยน

ผู้อมตะผลัดกันออกไปทีละคน

รอบแรกกำลังจะจบ

ฟางหยวนเป็นคนสุดท้าย

ขณะที่เมี่ยวหมิงเฉินเป็นคนรองสุดท้าย

เขาขึ้นไปและกล่าว “ข้ามีวิญญาณอมตะเต่าพยากรณ์ระดับเจ็ด ผู้ใดต้องการมันบ้าง?”

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นทันที

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท