เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1304

ตอนที่ 1304

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1304 ได้รับวิญญาณอมตะ

แปลโดย iPAT

ผู้อมตะระดับเจ็ดของตระกูลวู วูอวี้ป๋อ แพ้ผู้อมตะเยี่ยนฮวง

ข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปด้วยความตั้งใจของตระกูลเซี่ย โลกของผู้อมตะภาคใต้ตกสู่ความโกลาหล

“วูอวี้ป๋อเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่ทรงพลังของตระกูลวู แต่เขายังพ่ายแพ้ให้กับเยี่ยนฮวง?”

“เยี่ยนฮวงไม่ได้อ่อนแอ ตอนนี้เขาได้รับการสนับสนุนจากตระกูลเซี่ย มันไม่ใช่เรื่องแปลกหากเขาจะสามารถเอาชนะวูอวี้ป๋อ”

“วูอวี้ป๋อเป็นคนหยิ่งยโส มันค่อนข้างน่าตกใจที่เขาแพ้ให้กับคนที่เขาเคยเอาชนะมาก่อน”

“สิ่งสำคัญคือผู้อมตะเยี่ยนฮวงสามารถทำลายท่าไม้ตายอมตะของวูอวี้ป๋อ นี่เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมาก บางทีเซี่ยลิ่วเพ่ยของตระกูลเซี่ยอาจช่วยเขาอนุมาน”

ตระกูลเซี่ยมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาที่มีชื่อเสียงในการอนุมาน

มันคือเซี่ยลิ่วเพ่ย

“คราวนี้ตระกูลวูเสียหน้า ไม่เพียงวูอวี้ป๋อจะพ่ายแพ้ แต่เขายังเกือบเสียชีวิต หากไม่ใช่เพราะวูอี้ไห่ที่ทำลายเขตแดน วูอวี้ป๋อคงไม่รอด”

“นี่เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง มีการบันทึกฉากการต่อสู้เอาไว้ พวกมันถูกแพร่กระจายออกไปแล้ว”

“ตระกูลวูสูญเสียหุบเขาจันทรา ฮ่าฮ่า เรื่องนี้ช่างน่าขันนัก”

“หากเราย้อนไปดูต้นตอ ตระกูลวูชิงหุบเขาจันทรามาอย่างน่าไม่อาย นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า วูตู๋ซิ่วตายไปแล้ว ตระกูลวูไม่สามารถรักษาสถานะของพวกเขาไว้ได้อีก”

การสูญเสียหุบเขาจันทราไม่ใช่ปัญหาสำหรับตระกูลวู หลังจากทั้งหมดพวกเขามั่งคั่งมาก

แต่วูอวี้ป๋อพ่ายแพ้ในการต่อสู้และรอดชีวิตมาได้เพราะการแซงแทรงของวูอี้ไห่ นี่เป็นเรื่องที่ตระกูลวูไม่สามารถโต้เถียง

มีความแตกต่างระหว่างฝ่ายธรรมะและปีศาจ

ฟางหยวนช่วยวูอวี้ป๋อซึ่งขัดต่อกฎเกณฑ์ของฝ่ายธรรมะ นี่ทำให้ตระกูลวูสูญเสียใบหน้า

ปัญหาคือมีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้

เซี่ยชิงกังเป็นคนรอบคอบ เขาใช้วิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งข้อมูลบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้

ตระกูลวูทำได้เพียงยอมรับความผิด หลังจากฟางหยวนกลับไปพร้อมกับวูอวี้ป๋อ วูหยงออกคำสั่งลงโทษฟางหยวนเพราะเขาทำผิดกฎของการต่อสู้ เขาถูกกักบริเวณและต้องชดเชยด้วยหินวิญญาณอมตะบางส่วน

ฟางหยวนช่วยชีวิตวูอวี้ป๋อ นี่ถือเป็นบุญคุณ แต่สำหรับตระกูลวู พวกเขาเสียหน้าแม้พวกเขาจะสามารถช่วยชีวิตผู้อมตะระดับเจ็ดเอาไว้ สำหรับฝ่ายธรรมะ หน้าตาสำหรับกว่าทุกสิ่ง!

ฟางหยวนทำสิ่งที่ถูกต้องแต่วูหยงยังต้องลงโทษเขา

แต่วูหยงไม่โกรธ เขายังลดโทษให้ฟางหยวนและให้เขาบ่มเพาะอย่างเงียบสงบอยู่บนภูเขาผาหมี

เหตุการณ์เกี่ยวกับหุบเขาจันทราส่งผลกระทบในวงกว้าง

วูอวี้ป๋อเป็นคนยโสที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง หลังจากพ่ายแพ้ เขารู้สึกละอายใจอย่างมาก เขาประกาศว่าเขาจะปิดประตูฝึกตนอย่างสงบและจะกลับมาคว้าชัยชนะในอนาคต

เรื่องนี้ทำให้ตระกูลวูสูญเสียชื่อเสียงอย่างช่วยไม่ได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเคลื่อนไหวของตระกูลเซี่ยในครั้งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับกองกำลังอื่นๆ

ฝ่ายธรรมะแตกต่างจากฝ่ายปีศาจ

พวกเขาจะใช้กฎในการตัดสิน

ตระกูลเซี่ยมีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งแสงและเส้นทางแห่งปัญญา แม้ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาจะหายาก แต่ตระกูลเซี่ยไม่ขาดแคลนตัวตนเช่นนี้

ในภาคใต้ ตระกูลเซี่ยมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาอยู่มากที่สุด

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตระกูลเซี่ยจะสามารถวางแผนต่อต้านตระกูลวู

เมื่อกองกำลังอื่นเห็นความสำเร็จของตระกูลเซี่ย พวกเขาก็เริ่มเลียนแบบ

ด้วยเหตุนี้เหตุการณ์เช่นเดียวกับหุบเขาจันทราจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ศัตรูมากมายกำลังรุมล้อมเข้ามา วูหยงรู้สึกสังหรณ์ร้าย

หลังจากตระกูลเซี่ยก็เป็นตระกูลลั่ว ตระกูลชือ และตระกูลช่าย

วูหยงต้องส่งผู้อมตะออกไปเพื่อปกป้องแหล่งทรัพยากรของตระกูลวูและพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้

ตระกูลวูกำลังพบปัญหา วูหยงปวดหัวมาก แต่น้องชายของเขา วูอี้ไห่ ยังมีชีวิตที่สงบสุข

ในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า! อา…” ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

แต่ฟางหยวนไม่สนใจและยังดำเนินการต่อไป

ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนไม่สามารถต่อท้านการทรมานชนิดนี้และอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว

วิญญาณความเด็ดเดี่ยว!

ฟางหยวนใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวฟื้นฟูดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนก่อนจะเริ่มค้นวิญญาณอีกครั้ง

“ปีศาจร้าย!”

“ฆ่าข้า! ฆ่าข้า…”

ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้หม่าหงหยุนไม่สามารถอดทน เขาทั้งสาปแช่ง ดุด่า ร้องไห้ และอ้อนวอน แต่ฟางหยวนยังไม่หวั่นไหว

ครู่ต่อมาเขาก็หยุด

ดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนกลายเป็นกลุ่มหมอกควันและกำลังจะหายไป

ฟางหยวนใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวอีกดวง

“ในที่สุดข้าก็ประสบความสำเร็จในการขุดค้นมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชคที่หม่าหงหยุนมี”

“แต่จ้าวเหลียนหยุนยังไม่ตาย ข้ายังต้องรักษาดวงวิญญาณของหม่าหงหยุนเอาไว้ มันยังมีค่า”

ฟางหยวนฆ่าหม่าหงหยุนโดยบังเอิญในแม่น้ำหวนคืนและได้รับดวงวิญญาณของเขา

หลายวันที่ผ่านมา ฟางหยวนค้นวิญญาณหม่าหงหยุนอย่างไม่หยุดยั้ง

ตอนนี้เขาสามารถยืนยันว่าเขาได้ขุดค้นทุกอย่างจากหม่าหงหยุนเรียบร้อยแล้ว

ฟางหยวนได้รับมรดกที่แท้จริงบนเส้นทางแห่งโชค โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด!

โชคของตนเอง โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด และโชคแห่งสวรรค์พิภพ สิ่งเหล่านี้เป็นมรดกที่แท้จริงสามอย่างของเทพอมตะตะวันเดือด โชคของตนเองอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา โชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอยู่ในวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริง และโชคแห่งสวรรค์พิภพอยู่กับถ้ำสวรรค์นิรันดร

เมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือถูกทำลาย วังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงพังทลายลง มรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็ถูกทำลายเช่นกัน

อย่างไรก็ตามหม่าหงหยุนและจ้าวเหลียนหยุนได้รับการคุ้มครองจากมรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด กล่าวได้ว่าพวกเขาได้รับส่วนหนึ่งของมัน

หลังจากเหตุการณ์มากมาย ฟางหยวนได้ค้นวิญญาณของหม่าหงหยุนและได้รับมรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในส่วนของเขา

“โชคดีที่ปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องการใช้หม่าหงหยุนหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่สามารถสังหารหม่าหงหยุน”

“ย้อนกลับไปหม่าหงหยุนถูกจับโดยฉินไป่เฉิงของนิกายเงา เขาต้องเรียนรู้เกี่ยวกับโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและส่งต่อให้กับนิกายอย่างแน่นอน”

ฟางหยวนวิเคราะห์ สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือเคล็บลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์

หม่าหงหยุนได้รับรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้

นี่คือแก่นแท้ของมรดกที่แท้จริงโชคของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด

ด้วยวิธีนี้ปีศาจอมตะเซี่ยหูจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับมันและตั้งใจหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์

“วิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์…” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น

ตามเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณอมตะดวงนี้ แม้เขาจะใช้ทรัพย์สินทั้งหมด แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำตามความต้องการของมัน

เว้นเพียงเขาจะมีวิธีการพิเศษเช่นการใช้หม่าหงหยุนเป็นวัสดุในการหลอมรวม

แต่ฟางหยวนจะกล้าหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์ได้อย่างไร?

มันเป็นวิญญาณอมตะระดับแปด!

ความพยายามในการหลอมรวมวิญญาณอมตะระดับแปดอย่างเปิดเผยจะเกิดสิ่งใดขึ้น? ปีศาจอมตะเซี่ยหูเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้

กระทั่งผู้อมตะระดับแปดที่แข็งแกร่งที่สุดของภาคเหนือยังพบกับความล้มเหลว นอกจากนั้นเขายังสูญเสียแม่น้ำหวนคืนและแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ แม้แต่ท่านหญิงหว่านซูก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส

“แม้ข้าจะมีทรัพยากรมากมาย แต่พวกมันยังห่างไกลจากเรื่องนี้ นอกจากนั้นตอนนี้ลูกพลัมแดงอมตะของข้าก็เหลืออยู่น้อยมาก”

ในการไล่ล่าอิงอู๋เซึ่ย เขาเดินทางจากภาคใต้ไปถึงภาคเหนือ แม้เขาจะได้รับแม่น้ำหวนคืนและท่าไม้ตายใหม่ แต่มันมีค่าใช้จ่ายสูงมาก

“หลังจากชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานอมตะของมันลดลงอย่างมาก”

“แม้ข้าจะได้รับกำไรแต่ค่าใช้จ่ายก็มหาศาลเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้อาหารวิญญาณอมตะระดับแปด มันยังเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ของข้า”

ฟางหยวนต้องแก้ปัญหาเรื่องอาหารของวิญญาณอมตะ เขายังต้องสำรองลูกพลัมแดงอมตะเอาไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาน่าอึดอัดใจมาก

เมื่อไม่นานมานี้เขายังต้องจ่ายหินวิญญาณอมตะเนื่องจากทำผิดกฎของฝ่ายธรรมะเรื่องการช่วยวูอวี้ป๋อ

“เวลาในมิติช่องว่างของข้าเดินช้าลง ด้วยวิธีนี้ข้าทำได้เพียงเพิ่มกำลังผลิตเพื่อเน้นปริมานเท่านั้น”

“แต่การเพิ่มกำลังผลิตต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ หากทรัพยากรบางอย่างมีมากเกินความต้องการของตลาด มันจะกลายเป็นการทำร้ายตนเอง”

ในขณะที่ฟางหยวนกำลังคิดเรื่องนี้ วูอวี้ป๋อได้นำวิญญาณอมตะดวงหนึ่งมาหาฟางหยวนที่ภูเขาผาหมี

“ข้าต้องขอบคุณท่านวูอี้ไห่ที่ช่วยชีวิตข้า วิญญาณอมตะระดับหกดวงนี้ถือเป็นการแสดงความกตัญญูของข้า” วูอวี้ป๋อมอบวิญญาณอมตะให้กับฟางหยวน

วิญญาณอมตะความคิดวัชระ!

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

ฟางหยวนได้รับประโยชน์จากเหตุการณ์หุบเขาจันทราโดยไม่คาดคิด

แม้มันจะเป็นเพียงวิญญาณอมตะระดับหก แต่วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่สามารถประเมินค่าได้!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท