เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1314

ตอนที่ 1314

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1314 ผลไม้เขากวาง

แปลโดย iPAT

ภาคใต้ ตระกูลวู

ในห้องลับ ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศด้วยการแสดงออกที่เคร่งขรึม

เส้นผมของเขาพลิ้วไหวอยู่ในอากาศ กลิ่นอายของวิญญาณจำนวนมากเล็ดรอดออกมาจากร่างกายของเขา

“ขั้นตอนสำคัญ…” ฟางหยวนพึมพำ สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว

เขากระตุ้นใช้งานวิญญาณระดับมนุษย์อย่างระมัดระวัง

มันเป็นเพียงวิญญาณระดับหนึ่งบนเส้นทางแห่งโลหะ

ในเวลาปกติ มันไม่มีความเสี่ยง แต่สถานการณ์นี้แตกต่างออกไป

“บึม!”

เสียงระเบิดดังขึ้น

ร่างของฟางหยวนสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ใบหน้าของเขากลายเป็นซีดขาวขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

“ข้าล้มเหลวอีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจยาว

เขาค่อยๆลอยลงบนพื้นและตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตน

“โชคดีที่ข้าใช้เพียงวิญญาณระดับหนึ่ง อาการบาดเจ็บเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาและไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณบุรุษคนก่อนหน้า มันจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว”

ฟางหยวนพยายามพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ

ท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระใช้วิญญาณอมตะความคิดวัชระระดับหกเป็นแกนกลาง ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายนี้เอาชนะเซี่ยเฟยกุ้ย

หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น ฟางหยวนรู้สึกว่าท่าไม้ตายดังกล่าวยังไม่น่าพอใจ มันยังสามารถพัฒนาไปได้อีก

ฟางหยวนให้ความสำคัญกับความรู้สึกนี้

ด้วยความสำเร็จระดับปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระ

“น่าเสียดายแม้ข้าจะมีความก้าวหน้าแต่ผลลัพธ์ยังไม่ดีนัก ดูเหมือนระดับความสำเร็จของข้ายังไม่เพียงพอ ตอนนี้ข้าทำได้เพียงเท่านี้”

ฟางหยวนถอนหายใจ

ในความเป็นจริงพัฒนาการของเขาถือว่าอัศจรรย์มากแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับผู้อมตะคนอื่นๆ

ในอดีตอสูรสายฟ้ายังต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อคิดค้นท่าไม้ตายเทพสายฟ้า ความเร็วในการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะของเขายังไม่แม้แต่จะถึงสิบในร้อยส่วนของฟางหยวน

อย่างไรก็ตามมันเป็นทางเลือกที่ฉลาดสำหรับฟางหยวนที่จะยอมแพ้ในตอนนี้

เพราะเขามีวิธีเพิ่มระดับความสำเร็จที่รวดเร็ว ตราบเท่าที่ความสำเร็จของเขาพุ่งสูงขึ้น เขาจะสามารถพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระได้ในพริบตา

หลังจากขายปลามังกร สถานะทางการเงินของฟางหยวนเริ่มดีขึ้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีพลังงานอมตะมากพอที่จะทดลองท่าไม้ตายอมตะ

กล่าวไปแล้วการคิดค้นท่าไม้ตายอมตะถือว่าสิ้นเปลืองมาก ตัวอย่างเช่นหากความพยายามล้มเหลว ผู้อมตะอาจได้รับบาดเจ็บ วิญญาณอาจถูกทำลาย พลังงานอมตะถูกใช้จ่าย และวิญญาณอมตะอาจได้รับความเสียหาย

ในทางตรงข้ามหากผู้อมตะมีระดับความสำเร็จสูงพอ การพัฒนาท่าไม้ตายอมตะจะเป็นไปอย่างง่ายดาย มันจะช่วยประหยัดเวลา ความพยายาม และทรัพยากรไปได้มาก

ระดับความสำเร็จในปัจจุบันของฟางหยวนยังไม่เพียงพอให้เขาพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ แม้เขาจะสามารถทำได้ แต่เขาก็ต้องจ่ายด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง

เขาไตร่ตรองและเลือกยอมแพ้โครงการนี้

หลังจากพักผ่อน ฟางหยวนส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังสวรรค์สีเหลือง

“ข้าจะจ่ายหนึ่งพันสามร้อยหินวิญญาณอมตะสำหรับผลไม้เขากวางทั้งหมดของท่าน” ฟางหยวนกล่าว

ผู้ขายส่ายศีรษะ “ราคาที่ข้าเสนอต่ำมากแล้ว ท่านมาที่นี่สามครั้งแล้ว หากท่านต้องการซื้อจริงๆ เพิ่มอีกสองร้อยหินวิญญาณอมตะและรับมันไป”

ผลไม้เขากวางเป็นทรัพยากรอมตะระดับหก

มันไม่ใช่สมบัติหายากแต่มีไม่กี่คนที่ขายมันเนื่องจากมันไม่ได้รับความนิยม

อย่างไรก็ตามฟางหยวนต้องการมันเพื่อให้อาหารวิญญาณความคิดวัชระ

ฟางหยวนไม่ตอบรับแต่เลือกลดจำนวนสินค้า

ผลไม้เขากวางของร้านนี้มีคุณภาพสูงสุด ราคาก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล ดังนั้นเขาจึงมาที่ร้านนี้หลายครั้ง

ผลไม้เขากวางมีขนาดเท่ากำปั้นทารก มันไม่ได้เติบโตขึ้นบนต้นไม้แต่เติบโตขึ้นบนเขากวางอสูรเดียวดาย

‘ตอนนี้ข้าควรซื้อผลไม้เขากวางเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อให้อาหารครั้งแรกกับวิญญาณความคิดวัชระ’

‘เมื่อข้ามีเงินทุนมากพอในอนาคต ข้าอาจซื้อวิธีเพาะเลี้ยงผลไม้เขากวางและสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง’

‘เรื่องที่ข้าจะผลิตมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโอกาสในอนาคต’

ฟางหยวนไตร่ตรองก่อนกล่าว “เช่นนั้นให้ข้าตรวจสอบอีกครั้ง”

แต่ในเวลานี้เจตจำนงของผู้อมตะที่อยู่ตรงหน้าฟางหยวนกลับสั่นสะท้านขึ้น เขาเร่งกล่าว “ร่างหลักของข้ามาแล้ว เขาบอกว่าเขาจะพูดคุยเกี่ยวกับราคาสินค้ากับท่านด้วยตนเอง’

ฟางหยวนมีความสุขมาก

เขากำลังรอสถานการณ์นี้อยู่

ผู้อมตะมักทิ้งเจตจำนงของตนไว้ในสวรรค์สีเหลืองเพื่อขายสินค้าของพวกเขา

อย่างไรก็ตามแม้เจตจำนงจะสามารถสื่อสารและดำเนินทางทั้งหมด แต่มันต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของร่างหลักอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้ไม่สามารถต่อรองได้

แต่เมื่อสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของผู้ขายสินค้าเข้ามาในสวรรค์สีเหลือง ฟางหยวนจะสามารถเจรจาต่อรอง

มีหลายสิ่งที่ต้องพูดคุย

“ข้าต้องการผลไม้เขากวางเพื่อเป็นอาหรให้กับวิญญาณอมตะ”

“หากเราสามารถบรรลุข้อตกลง นี่จะไม่ใช่ธุรกรรมสุดท้าย”

“ข้าเสนอหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันสามร้อยก้อน”

ฟางหยวนเริ่มเจรจา

ผู้ขายลังเล “นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของเรา ข้าจะเชื่อคำสัญญาปากเปล่าของท่านได้อย่างไร? ฮ่าฮ่า ลืมไปได้เลย ข้าต้องการหนึ่งพันสี่ร้อยหินวิญญาณอมตะ”

“เมื่อเราทำธุรกรรมถึงสามครั้ง ราคาจะลดลงเหลือหนึ่งพันสามร้อย ท่านคิดอย่างไร?”

เห็นได้ชัดว่าผู้ขายก็ไม่โง่ เขาค่อนข้างฉลาด

ฟางหยวนปฏิเสธ “หากข้ามีเงินมากพอข้าจะไม่ทำให้ยุ่งยากเช่นนี้ หนึ่งพันสามร้อยห้าสิบได้หรือไม่?”

ผู้ขายฝืนยิ้ม “เอาล่ะ หากไม่ใช่เพราะความจำเป็นเร่งด่วนของข้าและความจริงที่ว่าผลไม้เขากวางเหล่านี้ขายออกได้ช้า ข้าจะไม่ตกลงกับราคาของท่าน”

ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากเสร็จสิ้นธุรกรรมนี้ ปัญหาการให้อาหารวิญญาณความคิดวัชระได้รับการแก้ไขในที่สุด

ต่อไปเป็นอาหารของวิญญาณอมตะเต่าพยากรณ์

วิญญาณอมตะดวงนี้กินสาหร่ายทะเลเป็นอาหาร

โดยธรรมชาติแล้วมันไม่ใช่สาหร่ายทั่วไปแต่เป็นสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพ สิ่งนี้เป็นทรัพยากรอมตะระดับหก

ปัจจุบันฟางหยวนกำลังขาดแคลนทุนทรัพย์ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจซื้อและเก็บสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพเอาไว้

เขาจะพิจารณาเกี่ยวกับการสร้างแหล่งอาหารขึ้นมาด้วยตนเองในอนาคต

สำหรับวิญญาณวันอมตะ มันกินสายธารแห่งกาลเวลาเป็นอาหารและไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้

หากเปรียบเทียบกับผลไม้เขากวาง ผู้ขายสาหร่ายหมึกดึกดำบรรพมีมากมายในสวรรค์สีเหลือง

แต่ฟางหยวนไม่สามารถทำข้อตกลงกับพวกเขา

ประเด็นคือราคา

แต่เขาไม่รีบ ยังมีเวลาเหลืออยู่ก่อนจะถึงเวลาให้อาหารวิญญาณอมตะเต่าพยากรณ์

‘โชคดีที่ข้าสร้างทะเลเกล็ดมังกรสำเร็จ ตราบเท่าที่มันยังสร้างผลผลิต ข้าจะทำเงินได้มากมายในอนาคต’

‘ต่อไปคือการสร้างถ้ำขดด้ายเพื่อเพาะเลี้ยงแมงมุมหน้าคน’

ฟางหยวนคิดมาแล้ว ตลาดการค้าแมงมุมหน้าคนใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทะเลทรายตะวันตก แม้ความต้องการมันจะไม่สูงเท่าปลามังกรแต่มันยังค่อนข้างดี

แต่ตอนนี้ฟางหยวนยังขาดแคลนทุนทรัพย์และต้องการเวลาเพื่อสะสมความมั่งคั่ง

‘จากสถานการณ์นี้ข้าประเมินว่าต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนก่อนที่ข้าจะสามารถรวบรวมเงินทุนก้อนแรกและเริ่มสร้างถ้ำหดด้าย’

‘หวังว่าตระกูลวูจะมีเสถียรภาพในช่วงเวลานี้และให้ข้ากลับไปยังค่ายกลวิญญาณ’

ตัวตนของวูอี้ไห่จำกัดเสรีภาพของฟางหยวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลวูที่ไม่เป็นผลดีต่อเขา

ในช่วงเดือนที่ผ่านมาวูหยงส่งกลุ่มผู้อมตะของตระกูลวูออกไปจัดการปัญหาที่เกิดจากกองกำลังต่างๆตลอดเวลา มีการสูญเสียและมีกำไร ศักดิ์ศรีของตระกูลวูตกต่ำลง แต่ในความเป็นจริงมีความเสียหายไม่มากต่อผลประโยชน์ของพวกเขา

ดังนั้นสถานการณ์ของตระกูลวูจึงยังไม่เลวร้ายนัก

วูหยงต้องการกู้คืนชื่อเสียงของพวกเขาขณะที่กองกำลังอื่นๆไม่พอใจและต้องการคว้าผลประโยชน์บางอย่าง

การเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังฝ่ายธรรมะแตกต่างจากฝ่ายปีศาจ

การเผชิญหน้าของฝ่ายปีศาจมีเพียงความรุนแรงและป่าเถื่อนขณะที่การเผชิญหน้าของฝ่ายธรรมะเป็นเรื่องของการพ่นน้ำลายและมักใช้เวลาที่ยาวนาน มันเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะต่อสู้กันโดยปราศจากข้อแม้ พวกเขาจะไม่ต่อสู้กันจนตัวตาย

ด้วยเหตุนี้วันเวลาที่สงบสุขของฟางหยวนจึงอยู่ได้ไม่นาน

ไม่กี่วันต่อมาเขาได้รับภารกิจใหม่จากวูหยง

“หอยทากภูเขา? สัตว์ประหลาดเฒ่าเคลื่อนภูเขา?”

คิ้วของฟางหยวนขมวดบาง

ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความมั่นใจที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ แต่สถานการณ์ปัจจุบันดูไม่ดีนัก

ก่อนหน้านี้แม้ฟางหยวนจะสามารถแก้ปัญหาของยอดเขาเยือกแข็ง แต่ในความเป็นจริงผลลัพธ์ที่ปรากฏยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับตระกูลวู เขาสร้างข้อตกลงห้าปีและยังปล้นสะดมทรัพยากรของยอดเขาเยือแข็ง

นี่เป็นความตั้งใจของฟางหยวนที่จะทิ้งความประทับใจที่ไม่ดีนักให้กับวูหยง ตัวตนระดับสูงไม่ชอบใช้งานคนเช่นนี้ หากพวกเขาส่งฟางหยวนไปยังค่ายกลวิญญาณ มันจะตรงกับความปรารถนาของฟางหยวน

แต่ปัจจุบันตระกูลวูกำลังขาดแคลนกำลังคนขณะที่อาณาเขตของพวกเขากว้างใหญ่เกินไป ปัญหาเรื่องหอยทากเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน วูหยงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องใช้งานฟางหยวนอีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท