เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1323

ตอนที่ 1323

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1323 เส้นทางแห่งค่ายกล

แปลโดย iPAT

‘ตู้ซื่อเฉิน? ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน…’ ฟางหยวนคิด

เนื่องจากแซ่ของพ่อเด็กคือตู้ เด็กที่ฟางหยวนสวมบทบาทก็ต้องแซ่ตู้เช่นกัน ความสามารถในการฝากอาณาจักรแห่งความฝันไว้เบื้องหลังหมายความว่าเด็กผู้นี้มีทักษะที่โดดเด่นบนเส้นทางแห่งค่ายกล แต่ฟางหยวนไม่เคยได้ยินว่ามีผู้เชี่ยวชาญแซ่ตู้ในประวัติศาสตร์

ฟางหยวนทบทวนความทรงจำแต่ไม่พบสิ่งใดเลย

โดยธรรมชาติแล้วความรู้ของเขาย่อมไม่ครอบคลุมประวัติศาสตร์ทั้งหมด บางทีนี่อาจเป็นอาณาจักรแห่งความฝันของผู้เชี่ยวชาญที่ซ่อนอยู่

“มานั่งข้างข้า” ผู้อมตะวัยกลางคนนั่งลงบนพื้น

ฟางหยวนรีบนั่งลงข้างๆเขา

“บุตรของข้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเส้นทางแห่งการบ่มเพาะของผู้ใช้วิญญาณมีกี่เส้นทาง?” ตู้ซื่อเฉินถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

ฟางหยวนไตร่ตรองและรู้สึกว่ามันมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น เส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งพลังปราณ เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งกฎ และเส้นทางสายอื่นๆ พวกมันค่อยๆปรากฏขึ้นทีละเส้นทาง

‘ห้าร้อยปีหลังจากนี้ยังมีเส้นทางแห่งความฝัน…เส้นทางการบ่มเพาะของผู้อมตะจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ’ ฟางหยวนไตร่ตรองอยู่ในใจก่อนตอบ “ตามที่ข้ารู้มีเส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลา อืม ยังมีเส้นทางแห่งพลังปราณ และเส้นทางแห่งปัญญา”

ตู้ซื่อเฉินพยักหน้า “เจ้ากล่าวได้ถูกต้อง แต่มันไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ให้ข้าบอกเจ้า ในยุคของมนุษย์คนแรกมีเส้นทางแห่งห้วงมิติและเส้นทางแห่งกาลเวลา ทั้งสองเส้นทางได้รับการค้นคว้าทำให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง”

“ในอดีตอันไกลโพ้น เทพอมตะแรกกำเนิดได้สร้างเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งทาสขึ้นมา เทพอมตะกลุ่มดาวสร้างเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งดวงดาว สำหรับเส้นทางแห่งค่ายกล มันถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้น แต่ผู้สร้างเส้นทางสายนี้ไม่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เส้นทางแห่งการหลอมรวมและเส้นทางแห่งไฟถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้น”

“ต่อมาเทพปีศาจไร้ขอบเขตสร้างเส้นทางแห่งกฎ เทพปีศาจคลั่งสร้างเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งวายุ เส้นทางแห่งแสง และเส้นทางแห่งความมืดถูกสร้างขึ้นในยุคนี้เช่นกัน”

“เทพอมตะบัวสวรรค์สร้างเส้นทางแห่งไม้ เทพปีศาจปล้นสวรรค์สร้างเส้นทางแห่งการโจรกรรม เทพอมตะตะวันเดือดสร้างเส้นทางแห่งโชค นอกจากนั้นเส้นทางแห่งโลหะ เส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง เส้นทางแห่งเมฆา เส้นทางแห่งปฐพี เส้นทางแห่งสายฟ้า เส้นทางแห่งข้อมูล และเส้นทางแห่งเสียง พวกมันถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้น”

“และในยุคปัจจุบัน เส้นทางแห่งกระดูก และเส้นทางแห่งภูตผีถูกสร้างขึ้น แน่นอนว่ายังมีเส้นทางสาขาเล็กๆเกิดขึ้นอีกมากมาย”

ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ฟางหยวนเข้าใจทันที

‘ดังนั้นอาณาจักรแห่งความฝันนี้ก็อยู่ในยุคโบราณตอนปลาย ตอนนี้เทพปีศาจจิตวิญญาณยังไม่ปรากฏ มิฉะนั้นตู้ซื่อเฉินคงพูดถึงเขาไปแล้ว’

ตู้ซื่อเฉินกล่าวต่อ “บุตรของข้า เส้นทางแห่งค่ายกลของเราเป็นหนึ่งในเส้นทางที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด แม้จะไม่สามารถเปรียบเทียบกับเส้นทางแห่งห้วงมิติและเส้นทางแห่งกาลเวลา แต่มันก็ถูกสร้างขึ้นในยุคเดียวกับเส้นทางแห่งพลังปราณและเส้นทางแห่งปัญญา มันยังปรากฏขึ้นก่อนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง”

ตู้ซื่อเฉินถาม “แก่นแท้ของเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงคือการแสดงเส้นทางจำนวนนับไม่ถ้วน บุตรของข้า เจ้าคิดว่าแก่นแท้ของเส้นทางแห่งค่ายกลคือสิ่งใด?”

แม้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของฟางหยวนจะอยู่ในระดับสามัญ แต่คำถามนี้ค่อนข้างง่าย

เขาตอบ “เส้นทางแห่งค่ายกลคือการผสานเส้นทางจำนวนนับไม่ถ้วน”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ตอบได้ดี!” ตู้ซื่อเฉินสรรเสริญและอธิบาย “เส้นทางแห่งค่ายกลของเราสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณที่ใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติ เส้นทางแห่งกาลเวลา เส้นทางแห่งโลหะ เส้นทางแห่งไม้ เส้นทางแห่งไฟ เส้นทางแห่งวารี และเส้นทางสายอื่นๆ กล่าวได้ว่าเส้นทางแห่งค่ายกลเป็นเส้นทางที่ซับซ้อนที่สุดในบรรดาเส้นทางทั้งหมด”

“การสร้างค่ายกลวิญญาณเป็นเรื่องยากมากเพราะมันอาจต้องใช้วิญญาณบนเส้นทางสายอื่นอีกมากมาย ดังนั้นเมื่อพวกเราบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งค่ายกล พวกเราต้องมีความเข้าใจเส้นทางสายอื่นด้วย แม้ความเข้าใจจะไม่ลึกซึ้งมากนัก พวกเราก็จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับพวกมัน เราต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิญญาณที่เราจะใช้”

ฟางหยวนพยักหน้าและตั้งใจฟัง

นี่คือหนึ่งในความยากลำบากของการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งค่ายกล

ในความเป็นจริงทุกเส้นทางล้วนมีจุดแข็งและจุดอ่อน ตัวอย่างเช่นเส้นทางแห่งทาสทำให้คนผู้หนึ่งสามารถต่อสู้กับศัตรูจำนวนมากด้วยตนเองแต่ผู้ที่บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งนี้ก็ต้องการทรัพยากรจำนวนมาก

เส้นทางแห่งค่ายกลมีอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่เรื่องการเรียนรู้เพราะมันเกี่ยวข้องกับเส้นทางสายอื่นๆอีกมากมาย

การบ่มสร้างผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งค่ายกลไม่ใช่เรื่องง่าย ด้านหนึ่ง พวกเขาจำเป็นต้องใช้ทรัพยากร เวลา และความรู้ ในทางกลับกัน ผู้ใช้วิญญาณจำเป็นต้องมีพรสวรรค์และทุ่มเท

ดังนั้นในโลกใบนี้จึงมีผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลอยู่น้อยมาก

อย่างไรก็ตามผู้อมตะบนเส้นทางแห่งค่ายกลยังมีมากกว่าผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

นี่เป็นเหตุผลที่ฟางหยวนไม่เคยเกี่ยวข้องกับเส้นทางแห่งค่ายกลตลอดห้าร้อยปีในชีวิตแรก

อุปสรรคในการเข้าสู่เส้นทางสายนี้สูงมากและเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้

“บุตรของข้า ตั้งแต่เจ้าเป็นผู้ใช้วิญญาณในวันนี้ ข้าก็จะมอบวิญญาณดวงแรกให้กับเจ้า” ตู้ซื่อเฉินนำวิญญาณดวงหนึ่งออกมา

มันเป็นเต่าทองที่ดูน่ารัก

“นี่คือวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล มา ปรับแต่งมัน” ตู้ซื่อเฉินกล่าว

ด้วยความช่วยเหลือจากตู้ซื่อเฉิน ฟางหยวนสามารถปรับแต่งวิญญาณระดับหนึ่งดวงนี้ได้อย่างง่ายดาย

เต่าทองตัวน้อยกระพือปีกและบินไปรอบๆฟางหยวน

วิญญาณดวงนี้ไม่ได้ล้ำค่า อาจเรียกได้ว่ามันเป็นวิญญาณที่ธรรมดามาก

เพราะมันเป็นวิญญาณระดับหนึ่งและพบเห็นได้ทั่วไป

“เอาล่ะ เรามาเล่นเกมส์กัน” ตู้ซื่อเฉินยิ้มและนำวิญญาณอีกสี่ดวงออกมา

“พวกมันล้วนเป็นวิญญาณระดับหนึ่ง ข้าจะให้เจ้ายืมพวกมันชั่วคราว มา ใช้วิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเป็นแกนกลาง เลือกวิญญาณเหล่านี้และจัดการพวกมัน แล้วมาดูว่าเจ้าจะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณชนิดใด”

คิ้วของฟางหยวนยกขึ้นเล็นน้อย เขามองตู้ซื่อเฉินด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นเรื่องตลกหรือไม่?

เด็กผู้นี้พึ่งกลายเป็นผู้ใช้วิญญาณแต่บิดาของเขากลับต้องการให้เขาสร้างค่ายกลวิญยาณทันที?

แม้ฟางหยวนจะไม่ได้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งค่ายกล แต่เขาก็มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ แต่เด็กผู้นี้อย่างมากก็ได้เรียนรู้บางสิ่งมาเพียงสองหรือสามเดือน มันเป็นเรื่องที่ยากมาก

‘ฮ่าฮ่า วิธีการเรียนรู้แบบดั่งเดิมอย่างแท้จริง โชคดีที่มันเป็นอาณาจักรแห่งความฝัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้า เด็กธรรมดาจะสามารถทำเรื่องนี้ได้อย่างไร? หรือบางที…อาจเป็นเพราะเขาไม่สามารถทำสิ่งนี้ให้สำเร็จและหมกมุ่นอยู่กับมันทำให้เกิดอาณาจักรแห่งความฝันนี้ขึ้น?’

ฟางหยวนตรวจสอบวิญญาณทั้งสี่ดวงแต่เขารู้จักเพียงสามดวง

นี่เป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างน่าอึดอัดใจ

แต่เมื่อคิดดูแล้ว มันไม่แปลก

ช่วงเวลาในอาณาจักรแห่งความฝันนี้คือยุคโบราณตอนปลาย กระทั่งเทพปีศาจจิตวิญญาณก็ยังไม่ปรากฎ ดังนั้นสถานการณ์ของมันจึงแตกต่างจากปัจจุบัน

บนโลกใบนี้มีวิญญาณอยู่นับไม่ถ้วน นอกจากนั้นยังมีการคิดค้นวิญญาณชนิดใหม่ขึ้นตลอดเวลา แล้วฟางหยวนจะรู้จักวิญญาณทั้งหมดได้อย่างไร?

แม้เขาจะจำพวกมันไม่ได้ทั้งหมด แต่ฟางหยวนยังตระหนักถึงเส้นทางของวิญญาณทั้งสี่ดวง

มันคือวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี วารี วายุ และไฟ

สิ่งที่ฟางหยวนไม่รู้จักก็คือวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี

‘ในการสร้างค่ายกลวิญญาณ ข้าจำเป็นต้องทำความเข้าใจวิญญาณเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล แต่วิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพีดวงนี้มีความสามารถใด?’ ฟางหยวนตั้งใจทดสอบวิญญาณดวงนี้เพื่อดูความสามารถของมัน

แต่การกระทำนี้ถูกหยุดโดยตู้ซื่อเฉิน

ตู้ซื่อเฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ใช้หัวใจของเจ้าสัมผัสมัน ฟังเสียงหัวใจของเจ้า พึ่งพาความรู้สึกของเจ้า และสร้างค่ายกลวิญญาณตามความรู้สึกเหล่านั้น จำไว้ว่าเจ้ามีโอกาสเพียงครั้งเดียว”

ฟางหยวนตะลึง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท