เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1325

ตอนที่ 1325

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1325 ธาตุทั้งสี่

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนได้รับเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปฐพีดวงนั้นมาด้วย แต่วัสดุในการหลอมรวมส่วนใหญ่ไม่มีอยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไป

หากฟางหยวนต้องการหลอมรวมมัน เขาต้องแก้ไขเคล็ดลับการหลอมรวมวิญญาณด้วยตนเอง

แน่นอนว่าเขาจะไม่ทำเรื่องไร้สาระเช่นนี้ ด้วยข้อมูลที่รวบรวมมา เขามีความเข้าใจเกี่ยวกับวิญญาณระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งปฐพีดวงนี้มากพอแล้ว

ต่อไปฟางหยวนเริ่มอ่านมรดกระดับมนุษย์บนเส้นทางแห่งค่ายกล

สิ่งนี้ทำให้รากฐานบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาพัฒนาขึ้นเล็กน้อย

หลังจากนั้นเขาเริ่มไตร่ตรองเกี่ยวกับการทดสอบในอาณาจักรแห่งความฝัน

ในยุคโบราณ เส้นทางแห่งค่ายกลมีบางแนวความคิดที่ได้รับความนิยม

แนวคิดดังกล่าวคือระบบธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม และไฟ พวกมันเป็นค่ายกลวิญญาณรูปแบบพื้นฐานที่สุด

โดยธรรมชาติแล้วแนวคิดนี้มีความสำเร็จในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หลังจากผ่านไปหลายสิบปี แนวคิดนี้ก็ไม่ได้รับความนิยมอีก หากเปรียบเทียบกับประวัติศาสตร์ทั้งหมดบนเส้นทางแห่งค่ายกล ไม่กี่สิบปีถือว่าสั้นมาก แนวคิดนี้เหมือนระลอกคลื่นเล็กๆที่เลือนหายไปในสายธารแห่งกาลเวลา

‘มันเหมือนต้นกำเนิดของมนุษยชาติ ผู้คนเคยเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นโดยเทพเจ้า มันเป็นแนวคิดที่คงอยู่มาอย่างยาวนาน ในช่วงเวลานั้นผู้คนถูกครอบงำด้วยความคิดเหล่านี้ แต่เมื่อทฤษฎีต่างๆถูกพัฒนาขึ้น แนวคิดเก่าก็ถูกทำลาย เมื่อวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้า ผู้คนจึงค้นพบข้อบกพร่องมากมาย’

ความคิดของฟางหยวนล่องลอยออกไป

แนวคิดเรื่องดิน น้ำ ลม และไฟมีความคล้ายคลึงกัน

หลังจากเส้นทางแห่งค่ายกลพัฒนาขึ้น ผู้คนเริ่มพบว่าค่ายกลวิญญาณที่มีองค์ประกอบพื้นฐานทั้งสี่มีข้อบกพร่อง

พวกเขาค้นพบสิ่งใหม่ๆและก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลที่ได้รับทำให้ฟางหยวนตระหนักถึงวิธีที่จะทำให้เขาสามารถผ่านฉากแรกของอาณาจักรแห่งความฝัน

‘ปรากฎว่าข้าต้องใช้วิญญาณทั้งหมดเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณจริงๆ’ ฟางหยวนตระหนักรู้ได้ในที่สุด

ในเวลาเดียวกันเขาก็ถอนหายใจ ‘ตู้ซื่อเฉินผู้นี้ค่อนข้างเจ้าเล่ห์ เห็นได้ชัดว่าต้องใช้วิญญาณทั้งสี่ แต่เขากลับบอกข้าว่าต้องใช้อย่างน้อยสองดวง’

อย่างไรก็ตามแม้เขาจะรู้เรื่องนี้แต่เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้วิญญาณทั้งสี่หมุนวนอยู่รอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณที่มีประสิทธิภาพ

หากฟางหยวนมีวิญญาณเหล่านี้อยู่ในมือ เขาจะสามารถทดสอบในโลกของความเป็นจริง

นี่เป็นวิธีที่นิยมใช้ถอดรหัสอาณาจักรแห่งความฝันในช่วงแรก

ฟางหยวนไตร่ตรองและตัดสินใจที่จะทดสอบในอาณาจักรแห่งความฝัน

ความพยายามครั้งที่สองเหมือนก่อนหน้า แต่คราวนี้ฟางหยวนเลือกที่จะกระตุ้นใช้วิญญาณทั้งสี่ในเวลาเดียวกัน

แน่นอนว่ามันล้มเหลว

วิญญาณทั้งสี่ระเบิดขึ้นพร้อมกัน ฟางหยวนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

ความพยายามครั้งที่สาม ฟางหยวนเลือกใช้วิญญาณบนเส้ทางแห่งปฐพีเป็นอันดับแรกและวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีเป็นอันดับต่อมา แต่มันก็ยังล้มเหลว

อ่านนิยาย

ในความพยายามครั้งที่เจ็ด ฟางหยวนประสบความสำเร็จ

วิญญาณระดับมนุษย์ทั้งสี่บินไปรอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟและวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีบินอยู่รอบๆวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพีลอยอยู่ด้านล่างขณะที่วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุลอยนิ่งอยู่ด้านบนอย่างสงบ

ภายใต้การควบคุมของวิญญาณแก่นแท้ค่ายกล วิญญาณทั้งสี่ปลดปล่อยพลังงานแสงสีรุ้งที่ลึกลับออกมา

พลังวิญญาณของผู้ใช้วิญาณจะฟื้นตัวขึ้นด้วยความเร็วสองเท่าภายใต้แสงสีรุ้ง

‘สำหรับผู้ใช้วิญญาณ นี่เป็นค่ายกลวิญญาณที่ใช้งานได้จริง!’ ฟางหยวนคิด

“ฮ่าฮ่าฮ่า ดีมาก ดีมาก เจ้าเป็นบุตรชายของข้าจริงๆ เจ้ามีพรสวรรค์บนเส้นทางแห่งค่ายกลโดยธรรมชาติ!” ตู้ซื่อเฉินหัวเราะอย่างมีความสุขกับความสำเร็จของฟางหยวน

ฟางหยวน “…”

เนินเขา ท้องฟ้า และแผ่นดินค่อยๆเลือนหายไปจากวิสัยทัศน์ของฟางหยวน

ฉากแรกของอาณาจักรแห่งความฝันจบลง ฉากที่สองเริ่มขึ้น

ฟางหยวนถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขายืนกรานที่จะไม่ใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันในฉากแรก สุดท้ายเขาก็สูญเสียวิญญาณความเด็ดเดี่ยวไปสิบดวง ค่าใช้จ่ายนี้ยังถือว่าต่ำ

ฟางหยวนตรวจสอบสถานการณ์โดยไม่สนใจว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลของเขาจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด

ตอนนี้เขาพบว่าตนเองอยู่ในกรง

และภายในกรงขนาดมหึมานี้ยังมีกรงที่เล็กกว่า

กรงขนาดเล็กขังเสือดำที่หิวโหยเอาไว้ภายใน

‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’ ฟางหยวนรู้สึกสับสน

เป็นเพียงเวลานี้ที่ตู้ซื่อเฉินที่ยืนอยู่นอกกรงกล่าวกับฟางหยวน “ข้าจะให้เวลาเจ้าห้านาทีในการสร้างค่ายกลวิญญาณด้วยวิญญาณเหล่านี้ หลังจากผ่านไปห้านาทีเสือดำตัวนี้จะถูกปล่อยออกมา เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะไม่เคลื่อนไหวและจะดูว่าเจ้าสามารถใช้ค่ายกลวิญญาณเพื่อต่อต้านเสือดำตัวนี้หรือไม่?”

“กระไรนะ!?” ดวงตาของฟางหยวนเบิกกว้าง

วิธีการเรียนรู้ชนิดนี้ เฮ้ เจ้าเป็นพ่อของเด็กผู้นี้จริงๆหรือไม่?

“เจ้าเป็นบุตรชายของตู้ซื่อเฉิน เจ้าต้องทำได้อย่างแน่นอน หากเจ้าทำไม่ได้ นั่นหมายความว่าเจ้าไม่คู่ควรที่จะเป็นบุตรชายของข้า!” ตู้ซื่อเฉินกล่าวด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

‘สวรรค์!’ ฟางหยวนอุทานอยู่ในใจ

เขาพบว่าตนเองยังไม่โตมากนักจากฉากแรก เด็กผู้นี้ควรมีอายุอย่างมากเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น

‘ตู้ซื่อเฉินผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะ แต่เหตุใดเขาถึงใจร้ายนัก? บางทีนี่อาจเป็นเพียงการข่มขู่เพื่อบังคับให้บุตรชายของเขาปลดปล่อยศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่?’

ฟางหยวนคาดเดา

‘ไม่ว่าบุตรชายของตู้ซื่อเฉินผู้นี้จะเป็นผู้ใด เขาก็เป็นคนโชคร้ายจริงๆ’

อ่านนิยาย

เวลามีจำกัด ฟางหยวนเร่งสงบอารมณ์และเริ่มตรวจสอบวิญญาณที่เขามี

เสือดำที่อยู่ในกรงเป็นสัตว์ป่าทั่วไป แต่ด้วยร่างกายที่ยังเด็กของฟางหยวน เขาไม่สามารถต่อต้านมัน

เขาทำได้เพียงสร้างค่ายกลวิญญาณเท่านั้น

มีวิญญาณอยู่ห้าดวง พวกมันยังเป็นวิญญาณระดับหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลขณะที่อีกสี่ดวงเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งปฐพี วิญญาณบนเส้นทางแห่งวายุ วิญญาณบนเส้นทางแห่งวารี และวิญญาณบนเส้นทางแห่งไฟ

มันแทบจะเหมือนฉากแรก

ความแตกต่างคือแม้จะเป็นเส้นทางเดียวกันแต่มันเป็นวิญญาณที่แตกต่างออกไป

แล้วฟางหยวนควรสร้างค่ายกลวิญญาณอย่างไร?

เขาเริ่มทดลอง

ด้วยประสบการณ์ในฉากแรก ฟางหยวนเริ่มมีความเชี่ยวชาญมากขึ้น

ความพยายามครั้งแรกล้มเหลวอย่างรวดเร็ว ฟางหยวนพ่นเลือดคำโตออกมา โชคดีที่วิญญาณไม่ได้รับบาดเจ็บ

แต่เขายังไม่ถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน

‘ดูเหมือนข้าต้องพยายามต่อไปจนกว่าจะถึงห้านาที?’

‘แม้จะมีโอกาส แต่ในความเป็นจริง แทบไม่มีความหวังเลย’

ฟางหยวนขมวดคิ้ว

แม้จะไม่เกิดสิ่งใดขึ้นกับวิญญาณ แต่สภาพร่างกายของเขาแย่มากขณะที่พลังวิญญาณของเขาแทบหมดสิ้น

ในความพยายามครั้งต่อมา เขาแทบไม่สามารถประคองร่างกายเอาไว้ได้

มันล้มเหลวอีกครั้ง

มีเวลาเหลืออยู่แต่ฟางหยวนไม่สามารถดำเนินการต่อเพราะวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลเสียชีวิตไปแล้ว

“ท่านพ่อ วิญญาณของข้าถูกทำลายไปแล้ว ขอวิญญาณแก่นแท้ค่ายกลให้ข้าอีกดวงได้หรือไม่?” ฟางหยวนถาม

แต่คำตอบที่เขาได้รับคือการส่ายศีรษะอย่างไร้ปรานี “จะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเจ้าอยู่ในการต่อสู้จริง ผู้ใดจะมอบวิญญาณให้เจ้า เจ้าทำให้ข้าผิดหวัง เจ้าไม่มีโอกาสอีกแล้ว”

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด กรงขนาดเล็กก็ปล่อยเสือดำออกมา มันพุ่งเข้ากัดลำคดของฟางหยวนทันที

อาณาจักรแห่งความฝันนี้เหมือนจริงมาก ฟางหยวนสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการถูกกัดและลำคอที่กำลังฉีกขาด การหายใจของเขายากลำบากมากขึ้น ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีหัวใจของเขาอย่างหนัก

เลือดไหลออกมาจากบาดแผลขณะที่เสือดำดื่มมันอย่างพึงพอใจ

ตู้ซื่อเฉินส่ายศีรษะและถอนหายใจ “เจ้าไม่คู่ควรกับการเป็นบุตรของข้า”

จากนั้นเขาก็หันหลังและจากไป

‘ไม่ช่วยจนถึงที่สุด ตู้ซื่อเฉินผู้นี้เป็นผู้อมตะฝ่ายธรรมะหรือปีศาจกันแน่?’ หลังจากถูกขับออกจากอาณาจักรแห่งความฝัน ใบหน้าของฟางหยวนก็มืดครึ้มลง

หลังจากใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ เขาก็สำรวจต่อไป

ความพยายามครั้งที่สอง ความพยายามครั้งที่สาม ความพยายามครั้งที่สี่…

ทุกครั้งล้มเหลว ฟางหยวนถูกเสือดำฆ่าและกัดกินอย่างน่าสังเวช

หากเป็นคนอื่น จิตใจของพวกเขาอาจพังทลายไปแล้ว

อย่างไรก็ตามฟางหยวนไม่กลัว เขาเคยพบกับความทุกข์ทรมานมากกว่านี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

เขาปฏิบัติต่อความเจ็บปวดเหมือนสายลมที่พัดผ่านใบหน้า จิตใจของเขายังจดจ่ออยู่กับการสร้างค่ายกลวิญญาณ

ความพยายามครั้งที่สิบ ความพยายามครั้งที่สิบเอ็ด ความพยายามครั้งที่สิบสอง…

ฉากที่สองยากกว่าฉากแรกมาก อาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณที่เขาได้รับก็มากกว่า

ฉากแรกเขาใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวเพียงสองดวงในแต่ละครั้ง แต่ฉากที่สองเขาต้องใช้วิญญาณความเด็ดเดี่ยวสามดวงเพื่อกู้คืนอาการบาดเจ็บทางจิตวิญญาณ

ฟางหยวนคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างใจเย็น

“หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้น ข้าต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันหรือไม่?”

“เดี๋ยว!”

ขณะที่เขากำลังกังวล เขากลับได้รับแรงบันดาลใจบางอย่างขึ้นมาโดยพลัน

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันและพยายามต่อไป

มีวิธี!

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท