เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1336

ตอนที่ 1336

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1336 จ้าวเย่ฮุ้ย

แปลโดย iPAT

ดวงจันทร์ลอยอยู่เหนือภูเขาที่รกร้าง

มนุษย์อสูรหัวหมูป่าสองคนแบกฟางหยวนขึ้นภูเขา

ฟางหยวนเฝ้าสังเกตต่อไปและไม่ได้หุนหันพลันแล่น

‘ร่างกายของข้าคือผู้ใช้วิญญาณระดับสี่ ข้ามีทะเลวิญญาณและพลังวิญญาณแต่ข้าไม่มีวิญญาณ’

‘และข้าได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้ข้าจะอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แต่ปราศจากวิญญาณ ข้าก็ไม่สามารถต่อสู้กับมนุษย์อสูรทั้งสอง’

‘อย่างไรก็ตามเมื่อเราไปถึงหน้าผา มนุษย์อสูรหัวหมูป่าทั้งสองจะโยนข้าลงไป ด้วยการตกจากที่สูงและไม่ได้รับการป้องกันโดยวิญญาณ ข้าจะตายอย่างแน่นอน’

‘ดังนั้น…ความหวังเดียวของข้าคือบนเส้นทางภูเขา?’

หลังจากวิเคราะห์ ฟางหยวนกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันทันที

เขารู้สึกราวกับนักเดินทางในทะเลทรายที่หิวกระหายและได้ดื่มน้ำไปสองสามหยด

‘ประสิทธิภาพของมันต่ำมาก!’

ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันอีกครั้ง

คราวนี้บาดแผลบนร่างกายของเขาเริ่มตกสะเก็ดทันที ความเจ็บปวดที่เขารู้สึกลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว

แต่หน้าอกและแผ่นหลังของขายังมีบาดแผลลึกอยู่อีกหลายจุด พวกมันยังไม่ฟื้นตัว

คลี่คลายความฝัน

คลี่คลายความฝัน

คลี่คลายความฝัน

ฟางหยวนต้องใช้ท่าไม้ตายอมตะนี้อย่างต่อเนื่อง อาการบาดเจ็บรุนแรงของเขาหายดีแล้ว อย่างน้อยก็ไม่มีเลือดไหลอีก ความแข็งแกร่งของเขาฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ร่างกายของเขาเริ่มอบอุ่นขึ้น

แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ฟางหยวนมีความแข็งแกร่งที่โดดเด่น

เขายังเป็นมนุษย์ธรรมดา โดยปราศจากวิญญาณ เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับมนุษย์อสูรทั้งสอง

‘เกิดสิ่งใดขึ้น?’

‘ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันยังไม่เพียงพอ?’

‘ข้าใช้มันไปแล้วห้าครั้ง แต่นี่คือสิ่งที่ข้าได้รับงั้นหรือ?’

ฟางหยวนมองไปที่หน้าผาและตัดสินใจ ‘ลืมมันไปซะ ข้าต้องลงมือเดี๋ยวนี้!’

เขาเริ่มดิ้นรนและหลุดออกจากพันธนาการในที่สุด

มนุษย์อสูรหัวหมูป่าประหลาดใจมาก

ฟางหยวนล้มลงบนพื้นและเกือบหมดสติจากความเจ็บปวด

มนุษย์อสูรหัวหมูป่าทั้งสองตอบสนองด้วยการพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน

ฟางหยวนใช้ทักษะการต่อสู้ของเขาหลบหลีกและวิ่งลงจากภูเขา

มนุษย์อสูรทั้งสองไล่ตาม

ไม่นานทั้งสองก็พบฟางหยวน

“ปัง!”

เขี้ยวหมูป่าแทงแผ่นหลังของฟางหยวนและทะลุออกจากหน้าอก

ฟางหยวนหยุดเคลื่อนไหว เลือดไหลออกมาจากปากของเขา ไม่นานหลังจากนั้นวิสัยทัศน์ของเขาก็มืดลง

เขาเปิดเปลือกตาขึ้นในห้องโถง

ฟางหยวนกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกครั้ง

ใบหน้าของเขาซีดขาว จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บ แต่สิ่งที่ทำให้ฟางหยวนประหลาดใจก็คืออาณาจักรแห่งความฝันนี้แปลกประหลาดมาก

‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้เป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่ยากที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็น’

‘ความยากของมันสูงจนไม่น่าเชื่อ’

‘ข้าไม่แม้แต่จะผ่านฉากแรกของมันและยังตายไปหลายครั้ง’

‘ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันมีประสิทธิภาพต่ำมาก มันเกิดสิ่งใดขึ้น?’

ปัญหานี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกงุนงง

เขาคิดเกี่ยวกับมันและไม่สามารถคาดเดาสิ่งใดได้เลย เขาต้องถอยออกมาและคิดว่าจะจัดการมนุษย์อสูรทั้งสองอย่างไร

‘สัตว์อสูรหัวหมูป่ามีร่างกายใหญ่โต หากข้าสามารถเข้าไปในป่า มันจะง่ายกว่านี้ แต่ภูเขาลูกนี้ไม่มีต้นไม้อยู่เลย มันไม่มีแม้แต่กองหิน’

‘แม้ข้าจะใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันห้าครั้งแต่ความพยายามของข้ายังไร้ประโยชน์’

‘แม้มันจะช่วยให้พละกำลังของข้าฟื้นฟูขึ้น แต่มันก็มีประโยชน์ไม่มาก มันจะดีกว่าหากข้ามีวิญญาณ’

‘นอกจากนี้ต่อให้ข้ามีวิญญาณแต่พลังการต่อสู้ของข้าก็มีจำกัด ข้าไม่สามารถหนีไปได้ไกลนัก’

หลังจากวิเคราะห์ ฟางหยวนตระหนักถึงบางสิ่ง ‘อาณาจักรแห่งความฝันนี้บังคับให้ข้าต้องตกลงไปใต้หน้าผา?’’

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

มนุษย์อสูรทั้งสองโยนเขาลงไปใต้หน้าผา

แต่สิ่งที่แตกต่างก็คือฟางหยวนสามารถจัดระเบียบร่างกายกลางอากาศ

หลายลมหายใจต่อมา เขาเห็นจงอยหินที่แปลกประหลาดยื่นออกมาจากกำแพง นอกจากนี้ยังมีต้นไม้บางต้นที่เกี่ยวพันอยู่บนกำแพงอย่างแน่นหนา

“ตุบ!”

ฟางหยวนตกลงบนก้อนหินและเสียชีวิต

‘ความเร็วของการตกรวมกับอาการบาดเจ็บของข้าทำให้ข้าตายทันทีที่ปะทะก้อนหิน ดูเหมือนข้าต้องลงจอดบนต้นไม้’

เขาเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

จากประสบการณ์ก่อนหน้า ฟางหยวนตกลงบนต้นไม้

กิ่งไม้หักแต่มันก็ช่วยให้ความเร็วในการร่วงหล่นของเขาช้าลงมาก

เขาใช้ฝ่าเท้าและแขนจับกำแพงหน้าผาเพื่อปรับทิศทาง

แต่เขากลับถูกกิ่งไม้ที่แหลมคมแทงทะลุร่างกายและเสียชีวิต

เขาถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรแห่งความฝันอีกครั้ง

หลังจากตายไปสิบแปดครั้ง ในที่สุดฟางหยวนก็ลงไปถึงก้นเหวได้สำเร็จ

แต่อาการบาดเจ็บของเขารุนแรงเกินไป แขนขาทั้งสี่ของเขาไม่สามารถใช้งาน มีเพียงแขนขวาเท่านั้นที่ยังมีความรู้สึกอยู่บ้าง เลือดอุ่นๆไหลออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่กระดูกส่วนใหญ่ในร่างกายของเขาแตกหัก ความเจ็บปวดพุ่งเข้าโจมตีเขา

แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ฟางหยวนสามารถบรรลุถึงจุดนี้หลังจากความพยายามนับครั้งไม่ถ้วน

คลี่คลายความฝัน

คลี่คลายความฝัน

คลี่คลายความฝัน

ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันหลังจากไปถึงก้นเหว

มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเขา เขาสามารถใช้แขนข้างขวา ขาข้างซ้ายของเขาเริ่มมีความรู้สึก แต่ขาข้างขวาหักไปแล้ว ข้อเท้าของเขาบิดเบี้ยวและดูไม่น่ามอง

ฟางหยวนตรวจสอบสภาพแวดล้อม

มีกองซากศพถูกทิ้งไว้เหมือนภูเขา

‘ข้าต้องทำสิ่งใดต่อไป?’ ขณะที่ฟางหยวนกำลังมึนงง เขารู้สึกถึงกลิ่นอายของผู้อมตะมาจากด้านบน

ผู้อมตะระดับเจ็ดเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์สองคนลอยอยู่บนท้องฟ้า

พวกเขาต่างเป็นมนุษย์อสูร ตัวหนึ่งมีศีรษะเป็นหมูป่าและมีร่างกายเป็นมนุษย์ อีกตัวมีร่างกายเป็นอสรพิษแต่มีศีรษะเป็นมนุษย์

“ระวัง เจ้าตัวโตอยู่ด้านล่าง” ผู้อมตะร่างอสรพิษศีรษะมนุษย์กล่าวเสียงเย็น

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าตัวโต เจ้ากำลังหลับอยู่งั้นหรือ? ตื่นเดี๋ยวนี้!” ผู้อมตะร่างมนุษย์ศีรษะหมูป่าหัวเราะเสียงดัง

ทั้งสองจงใจขยายเสียงของพวกเขา

ด้วยเสียงนี้ กลิ่นอายที่ทรงพลังปะทุขึ้นมาจากกองซากศพทันที

ร่างที่ใหญ่โตปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฟางหยวน

มันเป็นยักษ์ที่มีความสูงเท่ากับตึกเจ็ดถึงแปดชั้น

ร่างกายของมันเป็นสีดำและมีเส้นผมสีดำราวกับเสื้อคลุม

มันตื่นขึ้นแล้ว!

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรทั้งสองตกตะลึง พวกเขาไม่กล้ายโสอีกต่อไปและกระทั่งแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว

ฟางหยวนก็เช่นกัน

เพราะกลิ่นอายของสัตว์ประหลาดตัวนี้แสดงให้เห็นว่า ‘มันเป็นกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปด! แต่มันดูเหมือนมนุษย์และสัตว์อสูรแรกกำเนิดในเวลาเดียวกัน’

“เจ้าตัวโต ไปกิน!”

“ถูกต้อง เลือดและเนื้อเหล่านี้ถูกนำมาโดยตระกูลของพวกเรา”

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์อสูรทั้งสองกระตุ้น

“ข้าบอกกี่ครั้งแล้ว ข้ามีชื่อ ข้าคือจ้าวเย่ฮุ้ย!” ยักษ์ดำกล่าวแต่หลังจากนั้นมันก็เริ่มกินอาหาร

มันกางแขนออกและคว้าซากศพยัดเข้าไปในปาก

‘ไม่ดีแล้ว!’ ฟางหยวนคิดขณะที่เขากำลังจะถูกกิน

…..

ภาคใต้ ถ้ำปีศาจดำ

ภาคใต้มีภูเขาและถ้ำอยู่มากมาย

ถ้ำปีศาจดำมีขนาดเล็กและไม่สะดุดตา

มันผลิตทรัพยากรบนเส้นทางแห่งความมืด แต่สำหรับกองกำลังใหญ่ มันไม่มีประโยชน์ และสำหรับกองกำลังขนาดกลาง การสำรวจมันเป็นเรื่องยากเกินไป

ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดมาที่นี่

แต่ในเวลานี้ราชันภูเขาม่วงและคนอื่นๆกลับมายังถ้ำปีศาจดำแห่งนี้

“เรามาที่นี่เพื่อสิ่งใด?” ไป่หนิงปิงมองไปรอบๆและตรวจสอบโดยใช้วิธีการจากมรดกที่แท้จริงของไป่เซียง อย่างไรก็ตามนางยังไม่พบสิ่งใด

ราชันภูเขาม่วงไม่ตอบแต่กล่าว “ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ทำตามข้อตกลงของเรา ก่อนหน้านี้ข้ามอบมรดกที่แท้จริงให้เจ้า เจ้าติดหนี้บุญคุณข้า”

“หนี้บุญคุณ? หนี้บุญคุณใด?” เสียงดังออกมาจากถ้ำ

หลังจากนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลังก็ปะทุออกมา นี่ทำให้การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆเปลี่ยนไป

มีเพียงราชันภูเขาม่วงที่ยังสงบนิ่ง “เจ้าอยากเป็นมนุษย์มาตลอดมิใช่หรือ จ้าวเย่ฮุ้ย!”

“มนุษย์? โอ้ ข้าจำได้แล้ว เจ้าคือชายผู้นั้น”

“ถูกต้อง ข้าช่วยเจ้าไปแล้ว เจ้าติดหนี้บุญคุณข้า”

“ถูกต้อง ข้า จ้าวเย่ฮุ้ย อยากเป็นมนุษย์ ข้าต้องตอบแทนเจ้า บอกมา เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด?”

“สิ่งที่เจ้าเชี่ยวชาญที่สุด กินมนุษย์!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเบื่อที่จะกินมนุษย์ธรรมดาแล้ว”

“ไม่จำเป็นต้องกังวล พวกเขาเป็นผู้อมตะ อาจมีกระทั่งผู้อมตะระดับแปด” ราชันภูเขาม่วงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท