เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1313

ตอนที่ 1313

ทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1313 ทะเลเกล็ดมังกร

แปลโดย iPAT

ฟางหยวนอ่านรายการสมบัติที่เต็มไปด้วยทรัพยากรที่หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ มีทรัพยากรอมตะอยู่สองหรือสามชิ้น

ฟางหยวนตระหนักดีว่าหากเขาส่งมอบหยกเยือกแข็ง รางวัลจะไม่ใช่เพียงสิ่งเหล่านี้

วูหยงและวูฝาให้ฟางหยวนเลือกทรัพยากรด้วยตนเอง

ฟางหยวนปล้นสะดมทรัพยากรจากยอดเขาเยือกแข็ง แม้เขาจะทิ้งบางส่วนเอาไว้ แต่ตระกูลวูก็ต้องการยอดเขาเยือกแข็งที่ไม่บุบสลาย

อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังแสดงออกอย่างไร้เดียงสา เขากล่าว “ข้าสงสัยว่าข้าสามารถแลกเปลี่ยนรางวัลเหล่านี้กับดินเกล็ดมังกรหรือไม่?”

วูหยงตะลึงเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปทางวูฝา

หลังจากคิด วูฝาพยักหน้า

หลังจากกลับบ้าน ฟางหยวนยังบ่มเพาะต่อไป

ครั้งนี้เขาได้รับหยกเยือกแข็งจำนวนมาก เขาอาจสามารถสร้างยอดเขาเยือกแข็งขนาดเล็กในมิติช่องว่างจักรพรรดิ

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

จุดสำคัญคือดินเกล็ดมังกร

ดินชนิดนี้เป็นทรัพยากรระดับมนุษย์ หากมองจากระยะไกล มันจะดูเหมือนเกล็ดมังกร

ดินเกล็ดมังกรเป็นดินที่สัตว์อสูรประเภทมังกรเคยอาศัยอยู่ ด้วยเหตุนี้มันจึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของมังกร

ฟางหยวนเคยซื้อดินชนิดนี้มาก่อนเพราะดินชนิดนี้จะกระตุ้นให้ปลามังกรผสมพันธุ์

“เวลาในมิติช่องว่างของข้าเดินช้าลง มันส่งผลกระทบต่อผลผลิตของข้าเป็นอย่างมาก”

“ตอนนี้ข้ามีพลังงานอมตะสำรองไม่เพียงพอเช่นเดียวกับหินวิญญาณอมตะ แต่แรงกดดันนี้จะบรรเทาลงหากข้าสามารถขยายผลผลิต”

หลังจากคิดเรื่องนี้ ฟางหยวนตัดสินใจขยายผลผลิตปลามังกร

ปลามังกรเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมในสวรรค์สีเหลือง

ปลามังกรเป็นสัตว์อสูรบนเส้นทางอาหาร มันสามารถใช้เป็นอาหารเสริมให้กับวิญญาณ

ไม่ใช่ผู้อมตะทุกคนที่มีวิญญาณอมตะ

แต่กองกำลังใหญ่จะซื้อปลามังกรจำนวนมากเก็บเอาไว้

ฟางหยวนเริ่มพัฒนาพื้นที่ทะเล ปัจจุบันทะเลตะวันออกน้อยยังดูเหมือนทะเลสาบน้ำตื้น

อย่างไรก็ตามด้วยการกลืนกินแดนศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางแห่งวารี ตอนนี้ทะเลตะวันออกน้อยจึงเต็มไปด้วยคลื่นน้ำ แม้ระดับน้ำจะไม่ลึก แต่มันก็ถือเป็นทะเลที่กว้างใหญ่ แทบไม่มีเกาะอยู่ที่นี่

แผนของฟางหยวนคือสร้างทะเลเกล็ดมังกร

ทะเลที่มนุษย์สร้างขึ้น!

นี่ไม่ใช่นวัตกรรมใหม่หรือความคิดสร้างสรรค์ของฟางหยวน ในความเป็นจริงผู้อมตะมากมายของทะเลตะวันออกต่างสร้างพื้นที่ทะเลในแบบฉบับของตนเอง

ในการจัดอันดับทะเลที่มีชื่อเสียงของโลกผู้อมตะทะเลตะวันออก ทะเลที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ค่อยๆเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

แน่นอนว่าทะเลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติยังคงครองตำแหน่งส่วนใหญ่ของการจัดอันดับ

การสร้างพื้นที่ทะเลเทียมไม่ใช่เรื่องง่าย

ฟางหยวนต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการจัดวางดินเกล็ดมังกร จากนั้นเขายังสร้างค่ายกลวิญญาณระดับมนุษย์ในพื้นที่เพื่อแยกทะเลแห่งนี้ออกจากทะเลทั้งหมด

สุดท้ายเขาก็นำฝูงปลามังกรมาเลี้ยงไว้ในสถานที่แห่งนี้

ฝูงปลามังกรพึงพอใจมากและมีการผสมพันธุ์มากขึ้น

อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่เพียงพอ

ฟางหยวนเตรียมท่าไม้ตายอมตะเอาไว้แล้ว มันคือปีที่อุดมสมบูรณ์!

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะของไห่ฟาน แต่เขาไม่ได้คิดค้นขึ้นด้วยตนเอง เขาได้รับมันมาจากผู้อมตะที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่ง

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ค่อนข้างหายาก เนื่องจากมันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ใช้จัดการมิติช่องว่างโดยเฉพาะและไม่สามารถใช้ในการต่อสู้

แต่ผลลัพธ์ของมันยอดเยี่ยมมาก กระทั่งไห่ฟานก็ยังต้องยกย่องท่าไม้ตายนี้

กลิ่นอายของวิญญาณค่อยๆปะทุขึ้น

ฟางหยวนดัดแปลงท่าไม้ตายอมตะปีที่อุดมสมบูรณ์เล็กน้อย

เดิมทีมันใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณระดับมนุษย์นับหมื่นดวงเป็นส่วนสนับสนุน แต่ตอนนี้ฟางหยวนมีวิญญาณอมตะความพยายามระดับเจ็ด เขาจึงเพิ่มมันเข้าไปในท่าไม้ตายนี้

สิบกว่าวันผ่านไป ในที่สุดปีที่อุดมสมบูรณ์ก็แสดงพลังอำนาจของมันออกมา

พลังงานลึกลับแผ่ขยายไปทั่วทะเลเกล็ดมังกร แต่ผลลัพธ์ของมันต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง

“กระทั่งไห่ฟานยังต้องใช้เวลาสองถึงสามวันในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายอมตะปีที่อุดมสมบูรณ์ มันค่อนข้างยาก หลังจากที่ข้าเพิ่มวิญญาณความพยายามเข้าไป มันยิ่งต้องใช้เวลามากขึ้น โชคดีที่ข้าประสบความสำเร็จ”

ฟางหยวนทบทวนประสบการณ์ที่ผ่านมา

“ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของข้าอยู่ในระดับทั่วไป ข้าแทบไม่สามารถเพิ่มวิญญาณความพยายามเข้าไปในท่าไม้ตายนี้ นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ข้าเสียเวลาไปมาก”

ยิ่งใช้เวลากระตุ้นการทำงานน้อยเท่าใด มันก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมันมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย

ด้วยการสนับสนุนของวิญญาณความพยายาม ประสิทธิภาพของปีที่อุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า

เดิมทีปีที่อุดมสมบูรณ์จะอยู่ได้เพียงหนึ่งปี แต่ตอนี้มันสามารถทำงานได้ถึงสองปี สิ่งนี้ยังช่วยประหยัดพลังงานอมตะให้กับฟางหยวนอีกด้วย

“ยังมีช่องว่างให้ปรับปรุงอีกมาก แต่ด้วยระดับความสำเร็จบนเส้นทางแห่งกาลเวลาของข้า ตอนนี้ข้าถึงขีดจำกัดแล้ว ข้าทำได้เพียงลืมมันไปก่อน”

ด้วยวิธีนี้ทะเลเกล็ดมังกรจึงถือกำเนิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบในทะเลตะวันออกน้อยของฟางหยวน

มีปลามังกรจำนวนมากอาศัยอยู่ที่นี่

ท่าไม้ตายปีที่อุดมสมบูรณ์ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อทะเลเกล็ดมังกรแต่มันยังแผ่กระจายไปยังพื้นที่รอบๆ

อย่างไรก็ตามมันยังครอบคลุมเพียงบางส่วนของทะเลตะวันออกน้อยเท่านั้น

ด้านหนึ่งเพราะฟางหยวนเพิ่มวิญญาณความพยายามเข้าไปทำให้พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบลดน้อยลง อีกด้านเป็นเพราะมิติช่องว่างจักรพรรดิใหญ่โตเกินไป

การถือกำเนิดของทะเลเกล็ดมังกรถือเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่ของฟางหยวน

แต่หลังจากโครงการนี้ หินวิญญาณอมตะและพลังงานอมตะของฟางหยวนก็แทบหมดสิ้น

เพื่อความปลอดภัย ฟางหยวนเริ่มขายทรัพยากรที่ไม่จำเป็นทั้งหมด

ตัวอย่างเช่นหยกเยือกแข็งที่เขาปล้นสะดมมาจากยอดเขาเยือกแข็ง

หลังจากขายทรัพยากรบางส่วน ฟางหยวนยังต้องใช้กำไรส่วนหนึ่งเพื่อซื้อปลามังกรฝูงใหญ่จากสวรรค์สีเหลือง

เขาวางฝูงปลามังกรเหล่านี้ไว้ในทะเลเกล็ดมังกร

อาจกล่าวได้ว่าเขากำลังเดิมพันกับโครงการนี้

แน่นอนว่ามันมีความเสี่ยง แต่หากเขาไม่รับความเสี่ยง ผลตอบแทนจะลดน้อยลง ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคง ดังนั้นฟางหยวนจึงสามารถรับความเสี่ยงมากขึ้น

แต่ด้วยพลังงานอมตะที่มีอยู่อย่างจำกัด ฟางหยวนจึงไม่ต่างจากคนที่ถูกมัดมือมัดเท้าและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบาย

แต่ละวันผ่านไปอย่างยากลำบาก

หลังจากครึ่งเดือน ปลามังกรชุดแรกถูกขายออกไป สถานการณ์ของเขาเริ่มดีขึ้น

“ผู้ใดจะคิดว่าเจ้าจะมีความเชี่ยวชาญในการเพาะพันธุ์ปลามังกรถึงระดับนี้!” กระทั่งวูหยงยังประหลาดใจเล็กน้อย

ตระกูลวูเริ่มทำธุรกิจเกี่ยวกับปลามังกร พวกเขาเริ่มขายให้คนในตระกูลก่อนจะขยายไปยังตระกูลอื่นเช่นตระกูลเฉียวที่มีความใกล้ชิดกับพวกเขา

ด้วยตัวตนของวูอี้ไห่ ปลามังกรของฟางหยวนจึงเข้าสู่ตลาดโลกผู้อมตะภาคใต้ได้อย่างราบรื่น

หลังจากขายปลามังกรไปสามชุด สถานการณ์ของฟางหยวนก็ดีขึ้นมาก ลูกพลัมแดงอมตะในคลังของเขาเพิ่มขึ้นทีละน้อย

เมื่อสถานะทางการเงินได้รับการแก้ไข ฟางหยวนจึงสามารถกลับไปบ่มเพาะอีกครั้ง

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท