เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity – ตอนที่ 1340

ตอนที่ 1340

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน – บทที่ 1340 ไท่เมียนเฉิน
ภาคใต้ ตระกูลไท่ ภูเขาหว่านเจิ้ง

“ครืน…”

เสียงสั่นสะเทือนดังขึ้นจากหุบเขา

ที่ก้นเหวมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

นางดูกล้าหาญและว่องไว คิ้วของนางแหลมคมเหมือนดาบ ดวงตาส่องประกายราวกับดวงดาว ขณะที่ร่างกายของนางทั้งสูงและสง่างาม

นางมองขึ้นไปด้านบน

หินก้อนใหญ่เท่าบ้านกำลังตกลงมาจากหน้าผา

หญิงสาวสูดหายใจลึก ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย นางปิดเปลือกตาลง

ในจังหวะที่หินยักษ์กำลังจะทับร่างของนาง นางเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง

แสงสีทองส่องประกายราวกับดวงตะวันในเสี้ยวพริบตาก่อนจะหายไป

เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับเศษฝุ่นควันที่กระจัดกระจายออกไปรอบๆ

ร่างของหญิงสาวถูกอาบด้วยฝุ่นละอองแต่ใบหน้าของนางยังแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่

“ดี ไท่รั่วหนาน เจ้าประสบความสำเร็จในการใช้ท่าไม้ตายที่ข้าสอน เจ้าผ่านการทดสอบสุดท้ายแล้ว จากนี้ไปเจ้าจะติดตามข้าและฝึกฝน ข้าจะสอนวิธีการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะให้เจ้า” เสียงดังขึ้นในหุบเขา

หญิงสาวคุกเข่าลงบนพื้น “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผู้อาวุโสสูงสุด”

“เจ้าเกลียดชังความชั่วร้ายมากและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม เจ้าเหมาะสมกับมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็กของข้า เดิมทีบิดาของเจ้าเป็นคนที่ข้าเลือก แต่ผู้ใดจะคิดว่าบุตรสาวของเขาจะมีพรสวรรค์มากกว่าเขา หือ?” เสียงสายเดิมหยุดลงอย่างกะทันหัน

แต่ในไม่ช้าไท่รั่วหนานก็ได้ยิน “มีเรื่องด่วน อยู่ที่นี่และฝึกฝนท่าไม้ตายที่ข้าสอนต่อไป ตอนนี้เจ้ายังไม่ชำนาญมากพอ เจ้าต้องฝึกฝนให้มากขึ้น เมื่อข้ากลับมา เราจะดำเนินการขั้นต่อไป”

“ทราบแล้ว” หญิงสาวโค้งคำนับด้วยความเคารพ ความตื่นเต้นปรากฏบนใบหน้าของนางอย่างไม่สามารถปิดบัง

“ในที่สุดข้าก็ทำได้ ท่านพ่อโปรดมองข้าจากสวรรค์ ข้าจะกลายเป็นผู้อมตะและได้รับความแข็งแกร่งที่แท้จริง!”

“โลกนี้มืดมนและโกลาหลเกินไป มีเพียงความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้ข้าสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดและให้รางวัลแก่ผู้ที่กระทำความดี ความยุติธรรมจะชนะ โลกจะน่าอยู่มากขึ้น!”

…..

“จางลี่ นางสารเลวที่สังหารสามีของตนเอง ผู้ใดจะคิดว่าน้องชายของข้าจะหลงรักคนเช่นเจ้าและจบชีวิตลงเช่นนี้ เจ้าช่างโหดเหี้ยมนัก วันนี้ข้าจะตัดเจ้าออกเป็นชิ้นๆ เจ้าจะตายโดยปราศจากซากศพ!” ผู้อมตะหนุ่มตะโกนด้วยความโกรธและระเบิดกลิ่นอายของผู้อมตะระดับเจ็ดออกมา

ฟางหยวน “…”

ตั้งแต่เขาผ่านอาณาจักรแห่งความฝันเกี่ยวกับจ้าวเย่ฮุ้ย เขากลายเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งความมืด แต่หลังจากนั้นเขากลับพบอาณาจักรแห่งความฝันที่ไร้สาระมาตลอด

หลังจากรอสักพัก ในที่สุดเขาก็พบอาณาจักรแห่งความฝันที่เกิดจากประสบการณ์จริงของผู้อมตะ สุดท้ายเขากลายเป็นผู้อมตะหญิงในอาณาจักรแห่งความฝันนี้และค่อนข้างน่าขันเพราะผู้อมตะหญิงผู้นี้บ่มเพาะบนเส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์

นี่เป็นสาขาย่อยของเส้นทางแห่งปัญญา มันใช้อารมณ์ในการต่อสู้และใช้มนต์เสน่ห์ในการล่อลวงศัตรู

ตอนนี้ฟางหยวนคือผู้อมตะหญิงในชุดสีชมพูที่มีร่างกายเย้ายวนใจ

ฟางหยวนรู้สึกพูดไม่ออก

นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝันที่มีปัญหาอีกครั้ง เขาต้องแสดงเป็นตัวละครนี้เพื่อคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน

แน่นอนว่าการกลายเป็นผู้หญิงไม่ใช่ปัญหาสำหรับฟางหยวน

และสิ่งที่ทำให้ฟางหยวนมีความสุขเล็กน้อยก็คือผู้อมตะหญิงผู้นี้มีวิญญาณอมตะมากมาย

‘ข้าต้องลองใช้วิญญาณเหล่านี้ก่อน’ ฟางหยวนส่งพลังวิญญาณให้กับวิญญาณอมตะดวงหนึ่ง

เสียงร้องที่เย้าย้วนดังขึ้นจากวิญญาณดวงนี้และทำให้ผู้อมตะหนุ่มรู้สึกอ่อนแรงขณะที่เจตจนาสังหารของเขาลดลง

เขากัดฟันกล่าว “หญิงแพศยา เจ้ากล้าเล่นลูกไม้กับข้างั้นหรือ? รับนี่!”

หลังกล่าวจบคำ เขาผลักฝ่ามือส่งพายุหมุนขนาดใหญ่เข้าโจมตีฟางหยวนทันที

ฟางหยวนถอยกลับพร้อมกับกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะดวงที่สอง

กระโปรงของฟางหยวนเปลี่ยนเป็นหมอกสีชมพูและพาฟางหยวนถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

ความเร็วของมันน่าประทับใจมากเพราะมันไม่ด้อยกว่าวิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ สิ่งที่น่าเสียใจเพียงอย่างเดียวคือยิ่งเขาใช้งานมันมากเท่าใด หมอกสีชมพูก็ยิ่งบางลงเท่านั้น ตอนนี้ต้นขาและต้นแขนของเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว

แต่ฟางหยวนไม่กลัวที่จะเปลือยกาย ความคิดเรื่องเขินอายไม่เหลืออยู่ในตัวเขาอีกแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่คือความฝัน

สิ่งที่ต้องระวังก็คือวิญญาณอมตะดวงนี้ใช้งานได้ไม่นาน

“หลบหนีงั้นหรือ? แต่ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็ต้องตายในวันนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าและล้างแค้นให้น้องชายของข้า ข้าจะทำทุกวิถีทางโดยไม่สนใจค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น!”

ผู้อมตะหนุ่มตะโกนด้วยดวงตาสีแดงเลือด

ในเวลาเดียวกันเขาก็กระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

สายลมสีเขียวควบรวมและกลายเป็นกริชเล็กๆอยู่ในมือของเขา

‘โอ้ ไม่’ หัวใจของฟางหยวนจมดิ่งลง

‘วิญญาณอมตะหนึ่งหรือสองดวงนี้ไม่สามารถหยุดท่าไม้ตายอมตะ และข้าไม่รู้ว่าจางลี่ผู้นี้มีท่าไม้ตายอมตะใด’

ฟางหยวนรีบใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝันเมื่อรู้สึกถึงความยากลำบาก

พลังงานลึกลับพุ่งเข้าสู่มิติช่องว่างของเขา วิญญาณอมตะและวิญญาณระดับมนุษย์หลายสิบดวงถูกกระตุ้นใช้งานภายใต้การควบคุมของพลังงานลึกลับสายนี้

‘นี่คือ?’ ฟางหยวนรู้สึกยินดี

ด้วยการใช้ท่าไม้ตายอมตะคลี่คลายความฝัน ท่าไม้ตายอมตะที่ไม่รู้จักถูกกระตุ้นใช้งานทันที

ฟางหยวนไม่รู้ว่าท่าไม้ตายอมตะนี้สามารถทำสิ่งใดหรือส่งผลกระทบอย่างไร

แต่ไม่มีเวลาให้คิดเพราะผู้อมตะหนุ่มส่งกริชหยกออกมาแล้ว

ฟางหยวนลอบถอนหายใจ ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่าไม้ตายนี้เท่านั้น

ภายใต้อิทธิพลของท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนโบกมือและกระซิบ “อัญเชิญภูตผี!”

มันเป็นเสียงที่เย้ายวนมาก กระทั่งฟางหยวนยังรู้สึกขนลุก

หลังจากนั้นมีภูตผีปรากฏขึ้นจริงๆ

ดวงวิญญาณของผู้อมตะระดับเจ็ดบินเข้าเผชิญหน้ากับกริชหยกโดยตรง

การแสดงออกของผู้อมตะหนุ่มเปลี่ยนไปเมื่อเห็นภูตผีตนนี้ เขาตะโกน “น้องชาย!”

ปรากฏว่าผู้อมตะหญิงจางลี่ฆ่าสามีของนางและปรับแต่งดวงวิญญาณของเขาให้เป็นนักฆ่า

ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้และเกิดแรงบันดาลใจทันที เขาตะโกน “ตราบเท่าที่ข้าหยุดใช้ท่าไม้ตายนี้ ดวงวิญญาณของน้องชายเจ้าจะปลอดภัย ทำลายมันหากมีความกล้า!”

ผู้อมตะหนุ่มโกรธจัด แต่เขาเกรงว่าจะทำร้ายน้องชายของตน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าต่อสู้

ฟางหยวนมีความสุขมาก เขาเร่งโจมตีและทำให้สถานการณ์เกิดเสถียรภาพ

ครู่ต่อมาเขาก็สามารถกำจัดศัตรู

เขาประสบความสำเร็จในการคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝัน

ฟางหยวนกลับสู่โลกแห่งความจริง

“อาณาจักรแห่งความฝันนี้มีเพียงฉากเดียว” ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

นี่เป็นอาณาจักรแห่งความฝันขนาดเล็ก

ฟางหยวนตรวจสอบและพบว่าความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาและเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“เส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์ไม่เคยถูกแยกออกจากเส้นทางแห่งปัญญา ไม่มีเส้นทางแห่งมนต์เสน่ห์อยู่บนโลกใบนี้ มีเพียงเส้นทางแห่งปัญญา ดังนั้นความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของข้าจึงเพิ่มสูงขึ้น”

“สำหรับเส้นทางแห่งภูตผี บางทีจางลี่อาจบ่มเพาะเส้นทางสายนี้เป็นเส้นทางรอง ภูตผีที่นางเรียกออกมาเป็นท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”

เขาวิเคราะห์และตรวจสอบความสำเร็จของตนอีกครั้ง

ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแปดสายได้แก่ เส้นทางแห่งเลือด เส้นทางความแข็งแกร่ง เส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง เส้นทางแห่งดวงดาว เส้นทางแห่งปัญญา เส้นทางแห่งวารี เส้นทางแห่งความมืด และเส้นทางแห่งค่ายกล

เขาเป็นกึ่งปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งการหลอมรวม เป็นผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งโชค เส้นทางแห่งดาบอยู่ในระดับสามัญ เส้นทางแห่งจิตวิญญาณอยู่ในระดับสามัญเช่นกัน แต่หลังจากคลี่คลายอาณาจักรแห่งความฝันของจางลี่ เขากลายเป็นกึ่งผู้เชี่ยวชาญาบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ

“ท่าไม้ตายอมตะอัญเชิญภูตผีค่อนข้างน่าสนใจ แม้ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณของข้าจะไม่เพียงพอ แต่ข้าเป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งปัญญา มีความเป็นไปได้ที่ข้าจะสามารถใช้ท่าไม้ตายลักษณะนี้ ข้าสามารถเลียนแบบมันและสร้างท่าไม้ตายที่คล้ายคลึงกันได้”

“แต่กระทั่งข้าจะสามารถคิดค้นท่าไม้ตายอมตะนี้ มันก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบกับการพัฒนาท่าไม้ตายกระดองเต่าวัชระ”

ผู้อมตะทั่วไปจะมีความสุขหากมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะใหม่ๆ

แต่ฟางหยวนแตกต่างออกไป

ระดับความสำเร็จที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เขามีแรงบันดาลใจใหม่ๆนับไม่ถ้วน เขาต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง

นี่เป็นปัญหาแต่ก็เป็นปัญหาที่ดี

ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งความมืดอนุญาตให้เขาสร้างท่าไม้ตายอมตะที่สามารถปกปิดตัวตนของเขา

ความสำเร็จบนเส้นทางแห่งค่ายกลทำให้เขาได้รับแนวคิดใหม่เกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ

สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกตื่นเต้นมาก

หลังจากอาณาจักรแห่งความฝันของจางลี่ อาณาจักรแห่งความฝันต่อไปไม่เหมาะสมที่จะสำรวจ

ฟางหยวนจึงหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาท่าไม้ตายอมตะกระดองเต่าวัชระ

ขณะที่ฟางหยวนกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตนเอง ไท่เมี่ยนเฉินได้พบกับเฉียวจื่อไคและวูหยงในที่สุด

ผู้อมตะระดับเจ็ดผู้นี้อยู่ในชุดเกราะเบาและมีหน้ากากเหล็กอยู่บนใบหน้า

ผู้อมตะทุกคนที่ฝึกฝนมรดกที่แท้จริงหน้ากากเหล็กต้องมีหัวใจแห่งความยุติธรรมและผู้สืบทอดมรดกนี้จะมีทักษะในการสืบสวนสูงมาก

หลังจากเห็นซากศพของผู้อมตะตระกูลวูทั้งสอง ไท่เมี่ยนเฉินประกาศทันที “นี่ไม่ใช่เฉียวจื่อไค”

เฉียวจื่อไคถอนหายใจ

“มันคือผู้ใด?” วูหยงถาม

“มีคนเลียนแบบท่าไม้ตายอมตะของเขา นี่คือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์” ไท่เมี่ยนเฉินตอบ “ท่านวูหยง ข้าสงสัยว่าท่านเคยได้ยินชื่อปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดหรือไม่?”

วูหยงขมวดคิ้ว “เจ้าหมายถึงมรดกที่แท้จริงภาพลวงตาทั้งเจ็ดงั้นหรือ? กล่าวกันว่าผู้อมตะที่สืบทอดมรดกนี้สามารถเลียนแบบท่าไม้ตายเกือบทุกชนิด”

ไท่เมี่ยนเฉินพยักหน้า “หอปราบมารของตระกูลไท่เคยมีปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด เราไม่สามารถจัดการเขาและรับมรดกที่แท้จริงนี้ แต่เรารู้ความลับมากมาย มรดกที่แท้จริงนี้มีเจ็ดชั้น ผู้สืบทอดสามารถเลือกสืบทอดแต่ละชั้นหรืออาจรับสืบทอดทั้งหมด แต่หลังจากรับสืบทอดมรดก พวกเขาต้องรับเงื่อนไขหนึ่งในอนาคต พวกเขาต้องทำงานให้กับบางคน”

“ตระกูลของเราค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด”

“น่าสนใจ” วูหยงพยักหน้าและขมวดคิ้วลึก

แม้จะรู้ความจริงแล้วอย่างไร?

ปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดคือผู้ใด? กองกำลังหรือผู้ใดอยู่เบื้องหลังเขา?

วูหยงยังไม่รู้คำตอบของปัญหานี้!

แต่ในเวลาต่อมาคำกล่าวของไท่เมี่ยนเฉินกลับทำให้วูหยงเลิกขมวดคิ้ว

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ เทพปีศาจหวนคืน Reverend Insanity

มนุษย์มีความรอบรู้นับสิบหมื่นรูปแบบ ของวิญญาณ ซึ่งเป็นพลังงานต้นกำเนิดแห่งสวรรค์พิภพ เมื่อเจดีย์แห่งทวยเทพไร้ซึ่งความยุติธรรม ปีศาจจึงถือกำเนิด วันเวลาผ่านไป แต่ความฝันไม่เคยเปลี่ยนแปลง ชื่อของเขาถูกกล่าวขานหลังจากนักท่องเที่ยวแห่งกาลเวลาหวนฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง บนโลกที่แตกต่าง เขาเติบโตขึ้น บ่มเพาะพลังปีศาจ และกลายเป็นยมทูตผู้ใช้วิญญาณ วิญญาณกาลเวลา วิญญาณแสงจันทร์ วิญญาณอสนีสีทอง วิญญาณสุรา วิญญาณไหมดำ วิญญาณแห่งความหวัง….. ด้วยพลังอำนาจแห่งวิญญาณบาป เทพปีศาจจะครองภพและทำทุกสิ่งที่หัวใจของเขาปรารถนา!

เรื่องย่อ

พื้นที่ราบเรียบและไร้ขอบเขตอยู่ในสายตาของนาง

สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของจ้าวเหลียนหยุนแผ่ขยายออกไปก่อนที่จะปกคลุมมิติช่องว่างทั้งหมด

นางประสบความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะเมื่อไม่นานมานี้และกลายเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

แดนศักดิ์สิทธิ์เหลียนหยุนมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เวลาของที่นี่เดินเร็วกว่าโลกภายนอกสามสิบสามเท่า นี่หมายความว่ามันสามารถสร้างองุ่นเขียวอมตะให้นางได้มากกว่าสามสิบผลทุกปี

‘ทุ่งหญ้าครึ่งหนึ่งและที่ราบครึ่งหนึ่ง?’ จ้าวเหลียนหยุนพึมพำ

ภูมิประเทศในมิติช่องว่างของผู้อมตะแต่ละคนมีรูปแบบเฉพาะตัวและเชื่อมโยงกับชีวิตของพวกเขา

ทุ่งหญ้าอาจเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อจ้าวเหลียนหยุนกับภาคเหนือ แต่หลังจากย้ายถิ่น นางจึงได้รับอิทธิพลจากภาคกลาง

แม้จะไม่มีแหล่งทรัพยากรใดๆ ทุ่งหญ้าก็ยังเต็มไปด้วยหญ้าสีเขียว ขณะเดียวกันพื้นที่ราบอีกครึ่งหนึ่งก็มีความอุดมสมบูรณ์

นอกจากมิติช่องว่างยังมีวิญญาณอมตะ

วิญญาณแห่งความรักจากไปโดยไม่กล่าวสิ่งใด แต่การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะด้วยมิติช่องว่างระดับสูงทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับวิญญาณอมตะอีกดวงหนึ่ง มันคือวิญญาณความทรงจำ

นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา

‘หงหยุน เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้ข้าไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป ข้ากลายเป็นผู้อมตะไปแล้ว!’

จ้าวเหลียนหยุนถอนสัมผัสศักดิ์สิทธิ์กลับมาและค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น

นางมองไปข้างนอกและถอนหายใจ

หลังจากกลายเป็นผู้อมตะ นางรู้สึกยินดี แต่ยิ่งไปกว่านั้นนางรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว

ในการต่อสู้ที่แม่น้ำหวนคืน หม่าหงหยุนอาจถูกฆ่าโดยฟางหยวน แต่ดวงวิญญาณของเขายังอยู่

นี่ไม่ใช่การคาดเดาแบบสุ่มโดยจ้าวเหลียนหยุน แต่มันได้รับการยืนยันแล้วจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญาของนิกายคฤหาสน์วิญญาณซูเฮา

จ้าวเหลียนหยุนเลือกที่จะเชื่อเขาและด้วยเหตุผลนี้มันจึงกลายเป็นแรงผลักดันและความหวังของนาง

เมื่อนึกถึงร่องรอยของความหวังที่จะฟื้นคืนชีพให้กับหม่าหงหยุน จ้าวเหลียนหยุนหยุดความรู้สึกของนางและเดินออกจากห้องลับแห่งนี้

วันนี้เป็นวันสำคัญ

จ้าวเหลียนหยุนเดินไปพบหลี่จุนอิงที่รออยู่ที่ปลายทาง

“คารวะท่านพี่จุนอิง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “น้องเหลียนหยุน ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังยอดเขามรดกลับ”

ยอดเขามรดกลับเป็นสถานที่ที่ผู้อมตะของนิกายคฤหาสน์วิญญาณมักจะไปเยี่ยมเยียนเสมอ

จ้าวเหลียนหยุนกำลังจะไปที่นั่นเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันเป็นยอดเขาที่ไม่ธรรมดา มันลอยอยู่กลางอากาศ มันดูเหมือนอยู่ใกล้แต่แท้จริงแล้วมันอยู่ห่างไกล มีค่ายกลวิญญาณอมตะระดับสูงถูกจัดตั้งไว้ที่นั่น

ผู้รับผิดชอบยอดเขาลูกนี้เป็นผู้อาวุโสสูงสุดฝ่ายที่เป็นกลาง ชื่อของนางคือเทพธิดาหลิวฟาง

ในการเดินทางครั้งนี้จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้พบตัวจริงของเทพธิดาหลิวฟางแต่นางได้รับการต้อนรับจากเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง

จ้าวเหลียนหยุนไม่ได้คิดสิ่งใดแต่หลี่จุนอิงกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย

ตามมติในที่ประชุม จ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบันจะได้รับการดูแลอย่างดีจากนิกายและในการมาเยือนยอดเขามรดกลับครั้งแรกของนางควรจะได้รับการต้อนรับเป็นการส่วนตัวจากผู้ดูแลยอดเขา

แต่เทพธิดาหลิวฟางกลับไม่อยู่

“ผู้น้อยเหลียนหยุนคารวะผู้อาวุโสหลิวฟาง” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับเจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟาง

“เจ้าเป็นผู้นำนิกายคฤหาสน์วิญญาณรุ่นปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก โปรดตรวจสอบวิญญาณดวงนี้” เจตจำนงของเทพธิดาหลิวฟางยิ้มและส่งวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลให้กับจ้าวเหลียนหยุน

จ้าวเหลียนหยุนอ่านเนื้อหาที่อยู่ภายในและรู้สึกมึนงงไปชั่วขณะ

“ข้าไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับพวกมัน ท่านพี่จุนอิงช่วยตรวจสอบให้ข้าได้หรือไม่?” จ้าวเหลียนหยุนเป็นคนฉลาด นางรีบส่งวิญญาณดวงนี้ให้หลี่จุนอิง

หลี่จุนอิงมองผ่านและพยักหน้าเล็กน้อย

ไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

นางถ่ายทอดเสียงไปยังจ้าวเหลียนหยุน “เหลียนหยุน ตอนนี้เจ้ากลายเป็นผู้อมตะ เจ้ามีวิญญาณแห่งความรัก วิญญาณความทรงจำ รวมถึงมิติช่องว่างระดับสูง จุดเริ่มต้นของเจ้าสูงมาก”

“หลังจากนี้เจ้าต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าและเพิ่มรากฐานให้กับตนเอง ภารกิจแรกคือการให้อาหารวิญญาณอมตะ โชคดีที่วิญญาณแห่งความรักไม่มีปัญหาเรื่องอาหาร”

“สิ่งที่เจ้าต้องพิจารณาในตอนนี้คือวิญญาณความทรงจำ อาหารของมันคือดอกเนตรกระจ่าง ในรายการสมบัติเหล่านี้มีวิธีการเพาะเลี้ยงดอกเนตรกระจ่างอยู่ด้วย เจ้าควรเลือกมัน”

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “ข้าจะเชื่อฟังท่านพี่ แล้วอีกสองรายการ ข้าควรเลือกสิ่งใด?”

ตามกฎของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เมื่อผู้นำนิกายก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ นางสามารถเลือกทรัพยากรสามรายการจากยอดเขามรดกลับ

หลี่จุนอิงยิ้ม “นอกจากนี้ข้าแนะนำให้เจ้าเลือกหญ้าบังเอิญ เนื่องจากเจ้าเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา เจ้าก็ต้องจัดการมิติช่องว่างของเจ้าให้สอดคล้องกับเส้นทางแห่งปัญญา หญ้าบังเอิญเป็นทรัพยากรบนเส้นทางแห่งปัญญาและเลี้ยงดูค่อนข้างง่าย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังขายได้ราคาสูงในสวรรค์สีเหลือง เจ้าจะไม่เสียใจหากเจ้าเลือกสิ่งนี้”

“เช่นนั้นข้าจะเลือกมัน” จ้าวเหลียนหยุนตอบ

หลี่จุนอิงพอใจกับทัศนคติของจ้าวเหลียนหยุนมาก

“แล้วข้าควรเลือกสิ่งใดเป็นสิ่งสุดท้าย” จ้าวเหลียนหยุนถามต่อ

“แน่นอนว่าเป็นรายการแรก”

“หินวิญญาณอมตะงั้นหรือ?”

“ถูกต้อง” หลี่จุนอิงหัวเราะเมื่อเห็นความสับสนบนใบหน้าของจ้าวเหลียนหยุน “ไม่ว่าจะเป็นดอกเนตรกระจ่างหรือหญ้าบังเอิญ ปริมาณที่นิกายมอบให้ยังไม่เพียงพอให้เจ้าสร้างแหล่งทรัพยากรขนาดใหญ่ หากไม่สามารถเพาะปลูกในปริมาณมาก ทรัพยากรเหล่านี้จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ ดังนั้นเจ้าต้องมีหินวิญญาณอมตะจำนวนมากเพื่อซื้อเมล็ดพันธุ์มาปลูกเพิ่ม”

“หินวิญญาณอมตะเป็นทรัพยากรที่สำคัญ ผู้อมตะต้องมีมันสำรองเอาไว้เสมอ ไม่เพียงมันจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ทำธุรกรรม มันยังสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานอมตะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นข้าจะเลือกหินวิญญาณอมตะ” จ้าวเหลียนหยุนแลกเปลี่ยนทั้งสามสิ่งอย่างไม่ลังเล

หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกมาจากยอดเขามรดกลับ

ก่อนที่พวกนางจะแยกย้าย หลี่จุนอิงมอบหินวิญญาณอมตะให้จ้าวเหลียนหยุน “น้องเหลียนหยุน ท่านพี่ซูเฮาและข้าจะให้เจ้ายืมหินวิญญาณอมตะสามพันก้อน อย่าลังเล ใช้มันมากเท่าที่เจ้าต้องการ ไม่มีกำหนดเวลาคืนเงินก้อนนี้”

“อา…” จ้าวเหลียนหยุนอุทานเบาๆ “นิกายให้หินวิญญาณอมตะแก่ข้าหนึ่งพันก้อนแต่พี่สาวยังให้ข้าอีกสามพันก้อน ข้าจะใช้มันอย่างไร?”

หลี่จุนอิงตบไหล่จ้าวเหลียนหยุน “เด็กโง่ เจ้าควรรู้ถึงความสำคัญของหินวิญญาณอมตะ มันเป็นสิ่งที่ผู้บ่มเพาะสันโดษและปีศาจอมตะต่างต่อสู้เพื่อให้ได้มา”

“โดยทั่วไปผู้ใช้วิญญาณที่พึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะมักอยู่ในสภาวะขัดสน ผู้ที่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อนถือเป็นชนชั้นกลาง การมีหินวิญญาณอมตะหนึ่งพันก้อนหาได้ยากในกลุ่มผู้อมตะระดับหก”

“แต่สถานการณ์ของเจ้าแตกต่างออกไป เพราะเจ้าไม่ได้เป็นเพียงสมาชิกของหนึ่งในสิบนิกายโบราณแต่เจ้ายังเป็นผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ เจ้าเป็นคนสำคัญของนิกาย ดังนั้นเจ้าจึงเป็นข้อยกเว้น”

“ผู้อมตะระดับหกส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักร้อยก้อน มีเพียงชนชั้นสูงที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน ผู้อมตะระดับเจ็ดส่วนใหญ่มีหินวิญญาณอมตะหลักพันก้อน มีไม่กี่คนที่สามารถครอบครองหินวิญญาณอมตะหลักหมื่นก้อน”

“นี่เป็นความรู้ทั่วไป เจ้าจงจำมันเอาไว้”

“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ” จ้าวเหลียนหยุนโค้งคำนับ

คำกล่าวของหลี่จุนอิงกำลังบอกจ้าวเหลียนหยุนว่านิกายไม่ได้โหดร้ายต่อนาง นอกจากนั้นหลี่จุนอิงกับสามียังสนับสนุนนางอย่างแข็งขัน

“ข้าจะตั้งใจทำงานอย่างแน่นอน” จ้าวเหลียนหยุนกล่าวอย่างจริงจัง

หลี่จุนอิงพยักหน้า “ไปเถอะ หากเจ้ามีข้อสงสัย อย่าลังเลที่จะถามข้าหรือท่านพี่ซูเฮา”

“ทราบแล้ว” จ้าวเหลียนหยุนรู้สึกมีความสุขเมื่อมีบางคนคอยให้คำชี้แนะ

หลังจากจ้าวเหลียนหยุนจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่จุนอิงก็ค่อยๆเลือนหาย

ตั้งแต่ฟงจินฮวงได้รับความสนใจจากราชันมังกร ชีวิตของหลี่จุนอิงก็ยากขึ้นเรื่อยๆ

นางและสามีของนางเป็นกลุ่มต่อต้านฟงจิวเก้อแต่ตอนนี้ผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายคฤหาสน์วิญญาณรู้สึกว่าฟงจินฮวงเป็นเมล็ดพันธุ์ชั้นยอดที่มีอนาคตที่ไม่สามารถหยั่งถึง

ทัศนคติของเทพธิดาหลิวฟางในครั้งนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงทิศทางทางการเมืองภายในนิกายคฤหาสน์วิญญาณ

หลี่จุนอิงตระหนักถึงเรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงติดตามจ้าวเหลียนหยุนมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของนาง

แน่นอนว่าสามีภรรยาคู่นี้ต้องเผชิญหน้ากับสงครามเย็นทางการเมืองต่อไปอีกนาน ดังนั้นพวกนางจึงต้องโอบกอดจ้าวเหลียนหยุนเอาไว้เพื่อสร้างความอบอุ่น

…..

ภาคเหนือ เผ่าชู

ชูตู๋มองวิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่อยู่ในมือ

“ฟางหยวน มันไม่ง่ายเลยที่จะเป็นสหายกับเจ้า” ชูตู๋เผยรอยยิ้มขมขื่น

วิญญาณบนเส้นทางแห่งข้อมูลดวงนี้ถูกส่งมาจากฟางหยวน เขากำลังขอยืมหินวิญญาณอมตะจากชูตู๋

ฟางหยวนเคยร่วมมือกับชูตู๋ในนามของหลิวกวนซื่อและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ตื้นเขิน ไม่นานมานี้เหตุการณ์ลอบสังหารผู้บ่มเพาะสันโดษหยุนเหลียงได้ทำลายแผนการของถ้ำสวรรค์นิรันดรและยังเปิดเผยความลับที่ฟางหยวนกับหลิวกวนซื่อเป็นบุคคลเดียวกันออกไปขณะที่ฟางหยวนกลายเป็นอาชญากรที่ชั่วร้าย

แน่นอนว่าชูตู๋ได้ยินข่าวนี้เช่นกัน

ชูตู๋ไม่แปลกใจมากนัก ในความเป็นจริงเขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าจะเป็นหลิวกวนซื่อหรือฟางหยวน ชูตู๋ก็ต้องการร่วมงานกับทั้งคู่

อย่างไรก็ตามสถานะในปัจจุบันของชูตู๋แตกต่างจากก่อนหน้า

ตอนนี้เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของเผ่าชู เขามีผู้อมตะมากมายอยู่ภายใต้การปกครองและเผ่าชูก็เป็นสมาชิกของฝ่ายธรรมะ

หากเขายังร่วมมือกับฟางหยวนต่อไป ทันทีที่เรื่องนี้ถูกเปิดเผย ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ของเขาจะกลายเป็นความว่างเปล่า

การร่วมมือกับฟางหยวนมีความเสี่ยงสูงมาก

ชูตู๋วางแผนที่จะเปิดเผยและรักษาทัศนคติที่คลุมเครือเอาไว้ แต่ฟางหยวนไม่ให้โอกาสเขาและส่งจดหมายมาขอยืมหินวิญญาณอมตะจากเขาโดยตรง

แต่ในจดหมายไม่ได้ระบุจำนวนและกรอบเวลาที่แน่ชัด ความหมายก็คือเขาให้ชูตู๋เป็นผู้ตัดสินใจ

สิ่งนี้ทำให้ชูตู๋รู้สึกลำบากใจมากขึ้น

“สมเป็นฟางหยวนจริงๆ” ชูตู๋ถอนหายใจ


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท